เที่ยวเกียวโต คุยโวได้ว่า Unseen : เยี่ยมเมืองแห่งการประมง ที่ทั้งอิ่มใจและอิ่มท้อง!
เชื่อว่าผู้คนที่หลงรักในญี่ปุ่น จนเป็นขาประจำที่เดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นบ่อยๆ นั้น สถานที่แรกๆ ที่ได้ไปเยือนก็คงไม่พ้นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังหรือที่เรียกกันว่า แลนมาร์ค
อย่างที่เกียวโตเองก็มีย่านกิออน วัดวาอารามเก่าแก่ที่สวยงามชื่อดังมากมาย จนบางคนไปแล้วก็มีโอกาสแวะกลับไปอีกหลายต่อหลายครั้ง เรียกได้ว่า ติดใจในเสน่ห์ รสชาติของความเป็นเกียวโต
แต่แน่นอนว่ารสชาตินั้นก็ไม่ได้มีเพียงรสเดียว และหากทานอาหารรสชาติเดิมๆ นานๆ เข้าก็คงไม่พ้นเบื่อขึ้นมาสักวัน สถานที่แลนมาร์คยอดฮิตในเกียวโต ถ้าให้พวกเราเปรียบง่ายๆ ก็เหมือนรสชาติอาหารในภัตตาคารในห้างสรรพสินค้า จริงอยู่ว่ามันอร่อยและมีเสน่ห์เอามากๆ ในแบบของมัน แต่หากมีโอกาสได้ลิ้มลองอาหารรสชาติใหม่ๆ รสชาติที่เป็นธรรมชาติ ดีต่อสุขภาพ และความอร่อยก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ซึ่งอาจจะต้องเดินทางขับรถไปไกลอีกสักนิด แต่ก็ได้เปิดโลกและบรรยากาศใหม่ๆ คำถามคือสนใจกันไหม สำหรับพวกเราคำตอบมันเเน่นอนอยู่แล้วว่า สนใจสิ!!
แล้วสถานที่ที่เปรียบดังรสชาติแปลกใหม่ ที่พวกเราได้ไปลิ้มลองกันมาแล้วก็คือ หมู่บ้านอิเนะ พวกเราขับรถไปร่วมประมาณ 130 กิโลเมตรตรงขึ้นไปทางเหนือจากตัวเมืองเกียวโต ถามว่าคุ้มไหม ขอตอบเองอีกว่า โคตรคุ้มอะ!!
“อิเนะ” เป็นหมู่บ้านชาวประมง ดังนั้นแน่นอนว่าที่ตั้งนั้นติดกับทะเล แถมยังได้รับการอนุรักษ์รักษาทางวัฒนธรรมรวมถึงสถาปัตยกรรม เอกลักษณ์ที่โดดเด่น เหตุผลข้อแรกที่ทำไมต้องมาที่อิเนะให้ได้สำหรับพวกเรานั้นก็คือ บ้านโบราณคลาสสิกแบบฟุนะยะ (Funaya)
ซึ่งมีสองชั้น ชั้นแรกไว้สำหรับจอดเรือประมง เตรียมอุปกรณ์หาปลา ส่วนชั้นสองคือที่อยู่อาศัยของชาวประมง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอาชีพหลักของผู้คนในหมู่บ้านอิเนะก็คือการทำประมงที่เฟื่องฟูเอามากๆ การสร้างบ้านแบบนี้จึงเอื้อต่อการออกเรือจากตัวบ้านไปหาปลาได้อย่างสะดวก
ที่พีคคือการตั้งอยู่ของบ้านกว่า 230 หลังนี้ ตั้งรายล้อมอ่าวอิเนะ แถมยังเป็นรูปตัว U นั่นหมายถึง ไม่ว่าเดินไปทางทิศไหนของอ่าวก็จะเจอกับบรรดาบ้านแบบฟุนะยะที่เรียงรายงดงาม แถมเดินเท่าไรก็ไม่เบื่อ ขอยอมรับว่าพวกเราใช้เวลาในการเดินอยู่ตรงนี้นานมากๆ เพราะยิ่งเดินไปในทิศที่ต่างกัน ก็จะได้มุมมอง ทัศนียภาพของหมู่บ้านที่แตกต่างกันไป และมันก็มีเสน่ห์สุดๆ! แถมอากาศก็สดชื่น ลมพัดโกรกเย็นสบายจนหนึ่งในทีมงานของเราเกือบที่จะทำหมวกเก๋ๆ ของเธอปลิวตกทะเลไปตอนที่โพสต์ท่าถ่ายรูป
พวกเราเดินเล่นทอดน่อง ลิ้มรสชาติแสนสดชื่นนี้ไปแชะรูปไปอยู่นานจนลืมเวลา รู้ตัวอีกทีว่าเกือบเที่ยงก็เพราะถูกเพื่อนสายมูคนหนึ่งทักว่าหิวแล้ว พวกเราเลยได้สอบถามกับคนในท้องถิ่นว่าร้านไหนที่ดัง ร้านไหนที่มาเเล้วต้องทานให้ได้ ถามไปสามคนชาวบ้านก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องร้านฟุนายะ โชกุโด (Funaya Shokudou) ซึ่งก็ตั้งอยู่ใน Ine Tourist Information ใกล้ๆ กับจุดที่พวกเราอยู่พอดี ด้วยเสียงที่เป็นเอกฉันท์ขนาดนี้ ก็ต้องแวะทานแล้วล่ะ!!


ในร้านก็แน่นอนว่าต้องขายชาบู ชาบู เอ๊ย ผิด ต้องอาหารทะเลสิ นี่อยู่ที่หมู่บ้านชาวประมงนะ! แล้วด้วยเหตุผลนี้ด้วยละมั้ง ที่ทำให้อาหารทะเลของร้านนี้อร่อย อูมามิ สดประหนึ่งว่าเพิ่งไปตกปลามาให้พวกเราทาน (ซึ่งก็อาจจะเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็ได้ ย้ำอีกครั้งว่า นี่หมู่บ้านชาวประมง) ราคาอาหารก็ไม่แพง คุ้มสุด นี่ขอแนะนำนิดหนึ่งเผื่อใครตามรอยไปนะ ให้สั่งชุด Fisherman แปลเป็นไทยก็ชุดชาวประมง! รับรองเลยว่าคุ้ม ให้เยอะมาก และยังจะได้ลิ้มรสปลาในทุกรูปแบบไม่ว่าจะ ปลาดิบ นึ่ง ทอด ย่าง ไปจนถึงปลาชาบู!! แต่ถ้าใครกลัวว่าจะอิ่มไป เดี๋ยวหนักท้องเกินก็ให้สั่งชุด Kaisen Don เป็นข้าวหน้าปลาดิบ ที่เสิร์ฟพร้อมซุปและเครื่องเคียง อร่อยไม่แพ้กัน ราคาอยู่ที่ประมาณ 500 บาทเท่านั้น!!



หลังจากอิ่มหมีพีมัน พวกเรารีบทำเวลาออกจากร้าน ไปเดินย่อยกันภายในตรอกซอกซอยของหมู่บ้าน ซึ่งก็ตามภาพอะ สงบ สวยงาม มีเอกลักษณ์ พวกเราเดินกันไปจนสุดขอบก็เจอประภาคารสีแดงตั้งอยู่แบบน่ารักๆ พร้อมด้วยจักรยานจอดอยู่หลายคัน (อ๋อ ลืมบอกไปที่อิเนะสามารถเช่าจักรยานเพื่อขี่กินลมชมวิวได้) ดูจากรูปก็จะเห็นภาพถ่ายที่เต็มไปด้วยบรรยากาศสงบ มีความเรโทรย้อนยุค พวกเราก็ยืนถ่ายรูปอยู่นาน แล้วนางสายมูก็ให้ถ่ายจนกว่านางจะสวย ซึ่งก็เกือบสวยล่ะ สวยจนเกือบตกเรือ ใช่เเล้วล่ะ พวกเราได้นั่งเรือชมอ่าวอิเนะกันด้วย!






กิจกรรมยอดฮิตบนเรือเลยก็คงไม่พ้นการชมวิว สูดอากาศ แต่ถ้ายังเร้าใจไม่พอก็ต้องให้อาหารนกไงล่ะ แล้วให้อาหารนกมันจะเร้าใจยังไง ก็แบบเพียงแค่วางข้าวเกรียบไว้บนมือ นกก็จะโฉบบินสวยๆ ลงมากิน แต่พอเอาเข้าใจฝูงนกนางนาวที่ควรจะเป็นคู่ต่อกรของเรานั้น กลับแทนที่ด้วยฝูงนกเหยี่ยวซะงั้น การให้อาหารจากมือเลยต้องเป็นเรื่องที่ฝันไป เพราะกลัวว่านกเหยี่ยวจะแยกแยะข้าวเกรียบกับนิ้วของเราไม่ออก แต่แค่โยนให้นกเหยี่ยวมาโฉบข้าวเกรียบจากบนอากาศนี่ก็ให้ความรู้สึกยังกับเป็นผู้มีพลังวิเศษที่ควบคุมสัตว์ได้เลย






การให้อาหารนกนี่แหละที่พวกเรายกให้เป็นไฮไลท์อีกอย่างเลย เพราะมีนกตัวเล็กตัวใหญ่บินกันรายล้อมไปหมด เรียกว่าใกล้ชิดสุดๆ ใกล้กว่านี้ไม่มีอีกเเล้วว่ะเฮ้ย





หลังจากลงเรือ หนึ่งในพวกเราอีกคนที่อินกับที่นี่มากๆ ก็อยากได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไป ก็เลยลองถามชาวบ้านแถวนั้น พอเดินทางไปร้านขายของฝากสิ่งเเรกที่ตกใจเลยก็คือ อ่าว มันอยู่ชั้นล่างของร้านอาหารฟุนายะ โชกุโดนี่หว่า ทำไมมารอบแรกเเล้วไม่ทันสังเกต พวกเราก็เลยเดินเข้าไปชมของที่ระลึกโดยลากนางสายมูแกมบังคับเข้าไป เพราะนางบอกว่า อยากทานอาหารทะเลที่ร้านฟุนายะ โชกุโดที่ตั้งอยู่ชั้นสองอีก ขอแยกตัวได้ไหม แหม มาด้วยกันจะแยกกันไปได้ยังไง ช่วยมีความเป็นทีมเวิร์กหน่อย!
ในร้านก็มีของที่ระลึกหลากหลายไม่ว่าจะโปสการ์ด พวงกุญแจ ขนม แต่ที่ต้องตาต้องใจต่อหนึ่งในพวกเรา (คนที่อินมากๆ) ก็คือ ガラス浮き球 (อุคิดามะ) หรืออุปกรณ์หาปลาจำลองประหนึ่งย่อส่วนมาชิ้นนี้…สรุปจะเหลือเหรอ ก็เสียตังค์ไป ตอนจ่ายเงินหันไปเห็นกลุ่มเวิร์คช็อปที่กำลังทำวิธีสานอุคิดามะอยู่ เวลาเหลือแถมไหนๆมาแล้ว เราก็เลยไปลองทำมันซะเลย ได้ยินว่าเจ้าอุคิดามะนี้มีหลายขนาด และเป็นอุปกรณ์ตกปลาจริงๆตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่อันที่เรากำลังทำและมีขายในร้านนี้เป็นแบบขนาดเล็กสำหรับของฝากนะ




เขาก็ให้เหตุผลที่ไม่ต้องการเหตุผล (ฟังเหมือนชื่อเพลงวง Getsunova อย่างไรอย่างนั้น) ว่าที่ซื้อมานี่ก็เพื่อเป็นที่ระลึกยามมองจะได้ เออ เหมือนได้กลับมาที่หมู่บ้านอิเนะนี้อีกครั้งนะ เพราะมันเป็นความทรงจำที่ไม่อยากลืมเลย ประทับใจมากๆ คือไม่ใช่เเค่เขาคนเดียว พวกเราทุกคนเองก็ประทับใจที่นี่จริงๆ เอาจริงๆ พวกเราก็เคยมาเกียวโตกัน เเต่ก็เคยไปแต่ที่สถานที่ท่องเที่ยวดังๆ
การมายังหมู่บ้านอิเนะครั้งนี้ จึงถือเป็นรสชาติใหม่ รสชาติที่แตกต่าง รสชาติที่คุ้มค่าในการตามหา และแน่นอนว่าเป็นรสชาติที่สัมผัสได้ด้วยลิ้นจริงๆ ก็ได้ทานของทะเลสดแสนอร่อยจริงๆ นี่นา ไม่ได้โม้!
– เที่ยวเกียวโต คุยโวได้ว่า Unseen : เยือนหมู่บ้านสุขสงบ หิมะ แสงไฟ และเรื่องเซอร์ไพรส์!?
– เที่ยวเกียวโต คุยโวได้ว่า Unseen : ดื่มด่ำความเข้มข้นของเมืองแห่งชาเขียว!
– เที่ยวเกียวโต คุยโวได้ว่า Unseen : ท่องป่าไผ่ลับรสชาติเผ็ดร้อน!
– บินตรงโอซาก้า ขับรถเที่ยวเกียวโต โอ้โห!! ที่แบบนี้ก็มีด้วย ตอนที่ 1
– บินตรงโอซาก้า ขับรถเที่ยวเกียวโต โอ้โห!! ที่แบบนี้ก็มีด้วย ตอนที่ 2
#เที่ยวเกียวโต