“โตเกียวโดม” สถานที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักอย่างมากในระดับโลก ไม่ใช่เฉพาะแค่กีฬาต่อสู้เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการจัดคอนเสิร์ตระดับโลกและอีเวนท์ขนาดใหญ่ ดังนั้นสถานที่แห่งนี้จึงถูกเรียกว่าเป็น “ดินแดนแห่งความฝัน” (Dreamland) ของทั้งศิลปินและคนดูอย่างแท้จริง
หลังจากที่สัปดาห์ก่อนเราไปเที่ยวโคราคุ เอน ฮอลล์กันมาแล้ว วันนี้ผมจะขอพูดถึงเรื่องของ “โตเกียวโดม” กันบ้าง ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักอย่างมากในระดับโลก ไม่ใช่เฉพาะแค่กีฬาต่อสู้เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการจัดคอนเสิร์ตชั้นนำระดับโลก และอีเวนท์ขนาดใหญ่ที่น่าสนใจอีกมากมาย ดังนั้นสถานที่แห่งนี้จึงถูกเรียกว่าเป็น “ดินแดนแห่งความฝัน” (Dreamland) ของทั้งศิลปินและคนดูอย่างแท้จริง
โตเกียวโดม ตั้งอยู่ที่สถานี Suidobashi เดินทางไปง่ายๆ โดยออกมาจากฝั่ง WEST EXIT เดินเลี้ยวขวาข้ามสะพานมา ก็จะเห็นโตเกียวโดม ตั้งตระหง่านอยู่ไม่ไกล โดยตั้งอยู่ติดกับตึกน้ำเงิน ที่มีโคราคุเอน ฮอลล์ สามารถเดินไปได้นิดเดียว เพราะอยู่ในโซนของ Tokyo Dome City เช่นเดียวกัน
สถานที่แห่งนี้เรียกว่าแทบจะไม่เคยหลับ เพราะนอกจากจะมีอีเวนท์บ่อยครั้งแล้ว โตเกียวโดม ยังเป็นสนามเหย้าของทีมเบสบอล Yomiuri Giants ทำให้รอบๆสนามจะมีสินค้าเกี่ยวกับเบสบอลขายค่อนข้างเยอะ
นอกจากนี้ภายในตัวอาคารของโตเกียวโดม ยังมีพิพิธภัณฑ์เบสบอล “JAPANESE BASEBALL HALL OF FAME” ตั้งอยู่อีกด้วยครับ
โตเกียวโดม มีความจุเต็มที่ทั้งหมด 55,000 คน แต่การจัดงานอีเวนท์บ่อยครั้งก็เปิดพื้นที่เพียงแค่ไม่กี่ส่วน
ทราบมาว่าการเช่าพื้นที่ในโตเกียวโดมมีราคาที่สูงมาก ดังนั้นหากไม่แน่ใจว่าจะทำยอดขายได้ดีจริงๆ กรุณาเลี่ยงการจัดงานที่นี่อย่างเด็ดขาด เพราะไม่ใช่แค่ค่าเช่าที่ที่มีราคาสูง แต่เรื่องของการขายสินค้า ก็จะถูกหักเปอร์เซ็นต์ที่สูงมากเช่นกัน
ดังนั้นเราจึงไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่ายอดขายสินค้า จะนำมาหักลบถัวเฉลี่ยกับยอดขายตั๋วได้อย่างเห็นผลชัดเจนจริงๆรึเปล่า
เหตุนี้จากที่ผมคุยกับคนจัดอีเวนท์ในวงการกีฬาและวงการบันเทิงในญี่ปุ่น เขาบอกว่าถ้าเกิดความไม่แน่ใจขึ้น ก็จะพยายามเลี่ยงโตเกียวโดมไปก่อน และหันไปใช้สนามอื่นๆ อย่างเช่น Sumo Hall ใน Ryogoku หรือ Nippon Budokan แทน
เพราะนอกจากจะมีราคาถูกแล้ว การเลือกสถานที่ให้เหมาะกับยอดคนดูของอีเวนท์ตนเอง ยังจะยิ่งทำให้งานมีบรรยากาศที่ดีขึ้นอีกด้วย
ผมไปอยู่ญี่ปุ่นทั้งหมด 15 วันในช่วงปลายปีที่ผ่านมา พบว่าโตเกียวโดม ถูกใช้งานแทบจะทุกวัน
ทั้งจากคอนเสิร์ตวง Perfume และงาน Johnny’s Countdown ที่เล่นเอาคนถล่มทลาย หาทางไปต่อให้กับชีวิต ณ Suidobashi ไม่ถูกเลยทีเดียว
คือเหมือนเรากลายเป็นคนตัวเล็กๆ ที่ปล่อยตัวเองให้ไหลไปตามกระแสคน แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือ ระบบการจัดการของ Tokyo Dome ดีมาก ไม่ใช่เพราะว่ามีพนักงานเยอะ แต่ด้วยระบบจัดการตัวอาคารเป็นไปอย่างมีระบบมาก ตลอดจนป้ายบอกทางที่ละเอียดจนไม่จำเป็นต้องไปเดินถามพนักงานเลยด้วยซ้ำ
ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดที่น่าสนใจนะครับ เพราะในเมืองไทย โดยส่วนตัว (ผมอาจจะอ่อนเองก็ได้ 555) เอาแค่เดินในอาคารแถวๆ เมืองทอง ผมก็หลง หาเกทไม่ค่อยถูกแล้วเหมือนกัน
และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คนญี่ปุ่นมารยาทดีมาก ไม่มีการแซงคิว ดังนั้นทุกสิ่งอย่างจะดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบและรวดเร็วมากครับ
สาเหตุที่ผมไปโตเกียวโดม ก็เพราะไปดูมวยปล้ำรายการ Wrestle Kingdom 8 ครับ บรรยากาศอาจจะต่างกับคนที่ไปดูคอนเสิร์ตพอสมควร
ภาพด้านบนคือร้านอาหารที่สามารถซื้อเข้าไปข้างในได้ อันนี้ก็จะไม่ต่างอะไรกับพวกโรงภาพยนตร์ครับ แต่มันก็จะมีส่วนที่เป็นร้านอาหารจริงๆ แบบขายอาหารหนักเลยอยู่ติดๆกันเป็นช่วงๆ ก็สามารถนำเข้าไปทานข้างในได้เช่นกัน
แต่ใครที่เอาเบียร์กระป๋องหรือขวดมา เขาจะขอร้องให้เทใส่แก้วกระดาษที่มีบริการไว้ด้านหน้านะครับ ซึ่งบางส่วนอาจจะไม่ให้ความร่วมมือ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนบางคนที่ขี้เกียจต่อคิว ระหว่างการแข่งขันหรือระหว่างโชว์ ก็จะมีสาวๆ แต่งตัวน่ารักๆ มาตะโกนขายของอยู่เหมือนกัน (คือถ้าเกิดหน้าตาไม่น่ารักนี่มีเคืองแล้ว เพราะแกตะโกนไปตะโกนมา โบกไม้โบกมือตลอดเวลา เสียอรรถรสในการรับชมงานพอสมควร)
อนึ่งใครที่ซื้อข้าวข้างนอกกินจนกลับเข้าไปข้างในไม่ทัน ข้างนอกเขามีจอทีวีอยู่นะครับ เอาไว้ฉายเหตุการณ์ข้างในนั่นแหละ อย่างผมบางคู่มวยปล้ำที่ไม่สนุก ผมก็เดินมาหาอะไรกินก่อน พอเห็นในจอว่าจบแล้ว ผมก็ค่อยกลับเข้าไปใหม่ เป็นต้น
ภาพด้านบนนี้คือจากมุมมองที่ได้ไปดูนะครับ คือไกลมว๊ากกกกกกกกกกกกกก วันที่ผมไปดู เขาแจ้งว่ามียอดผู้ซื้อบัตร 35,000 คน
แต่รวมๆในสนามแล้วอยู่ที่ประมาณ 38,000 และพูดตรงๆว่าสำหรับผมแล้วมันคือการดูเพื่อเอาบรรยากาศจริงๆครับ เพราะมันไกลมาก และวิสัยทัศน์ในการมองก็ไม่ค่อยโอเคเลย มันจะบังคับเราให้หันไปดูจอมอนิเตอร์โดยปริยาย
คือผมเองก็พยายามสะกิดบอกตัวเองว่า มาถึงที่แล้วจะไปดูจอทำไม ดูของจริงเด้ ! แต่ปัญหาคือตรงจุดที่ผมนั่ง มันถูกบังโดยเสาที่มุมเวทีพอดี ก็เลยมองอะไรไม่คอ่ยเห็นครับ ยิ่งตอนไหนที่นักมวยปล้ำใส่กางเกงเหมือนกันนี่แยกไม่ออกจริงๆ
ปัญหาที่สำคัญอีกอย่างสำหรับคนนั่งบนๆ (ผมนั่งในโซนสูงสุด และนับขึ้นไปข้างบนอีก 21 แถว) ก็คือปัญหาเรื่องเสียงสะท้อนครับ
เสียงจะ ECHO ตลอดเวลาจนเราฟังอะไรไม่รู้เรื่องเลย แม้กระทั่งเสียงโฆษกประกาศ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีและน่าจะไปสัมผัสดูสักครั้งครับ หลังจากนี้ขอแถมด้วยภาพบรรยากาศจากงานสักนิดนะครับ
เพิ่มเติม : อย่างไรก็ตามการเดินทางไปโตเกียวโดม ผมขอแนะนำให้ไปตั้งแต่เนิ่นๆ นะครับ เพราะรอบๆ มีสถานที่ที่น่าสนใจเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุก รวมถึงห้างสรรพสินค้า คาเฟ่น่ารักๆ ร้านของสตูดิโอ จิบลิ และสวรรค์สำหรับคอการ์ตูนหลากหลายประเภทครับ
ในส่วนนั้นจะมีเหมือนดินแดนของอุลตร้าแมน คือจริงจังมาก มีหุ่นอุลตร้าแมน และมีห้องห้องหนึ่งเหมือนจะเป็นพิพิธภัณฑ์ ซึ่งใครเดินผ่านต้องไปสอดส่องดูให้ได้นะครับ
และที่ประทับใจที่สุดก็คือ Shonen Shop ที่เต็มไปด้วยการ์ตูนทั้งเก่าและใหม่ในเครือ Shonen ทั้งเรื่องที่ปรากฏให้เห็นในภาพ รวมถึงเรื่องเก่าๆอย่าง Slam Dunk หรือ Prince of Tennis ด้วยครับ ภายในนั้นก็จะมี One Piece Café เล็กๆ ให้แฟนการ์ตูนไปนั่งเล่น ไปนั่งพูดคุยกัน
ถือว่าบริเวณโตเกียวโดม คือสถานที่ที่คุ้มค่าในการไปเที่ยวจริงๆ
พบกันใหม่สัปดาห์หน้า และติดต่อพูดคุย สอบถามเรื่องญี่ปุ่นหรือเรื่องอื่นๆได้ตลอดเวลาทางทวิตเตอร์ @pumiiiiiiiiii ครับ สวัสดีครับ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 8 ร่ำลา Delay และประทับใจ
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 7 หมดเวลาสนุกแล้วสิ
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 6 Minoh ภูเขาและธารน้ำตกใน Osaka
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 5 Tsutenkaku-Rinku Town-Nipponbashi
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 4 รักจัง Arashiyama