ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสนามบินในโตเกียวให้ได้ลองทำความเข้าใจกัน สำหรับการเดินทางมายังกรุงโตเกียวมี 2 สนามบินให้เลือกกันคือ สนามบินนาริตะ และสนามบินฮาเนดะ
จะไปเที่ยวโตเกียวลงเครื่องที่ไหนดี คงเป็นคำถามในใจสำหรับคนที่จะวางแผนแบบเที่ยวเอง จะสะพายแบกเป้หรือลากกระเป๋าก็แล้วแต่ เพราะการเก็บเกี่ยวข้อมูลเบื้องต้นในเรื่องการเดินทาง และประเภทของยวดยานพาหนะที่จะต้องใช้ในการเดินทางท่องเที่ยวนั้นสำคัญมาก
ซึ่งถ้าวางแผนดีๆ แล้วสามารถประหยัดทั้งเวลาและเงินในกระเป๋า เอาไปกินราเมนได้หลายชามเลยทีเดียว ดังนั้นขอนำเสนอข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสนามบินในโตเกียวให้ได้ลองทำความเข้าใจกัน สำหรับการเดินทางมายังกรุงโตเกียวมี 2 สนามบินให้เลือกกันคือ สนามบินนาริตะ และสนามบินฮาเนดะ
โดยถ้าจะเปรียบเทียบกันแบบให้เห็นภาพกันง่าย ๆ ก็คือ สนามบินนาริตะเปรียบเสมือน สนามบินสุวรรณภูมิของบ้านเรานี่เอง เป็นประเภทสนามบินระหว่างประเทศ (International Airport)
โดยที่ตั้งของสนามบินไม่ได้อยู่ในโตเกียว แต่ตั้งอยู่ในจังหวัดใกล้เคียงคือจังหวัดชิบะ เมืองนาริตะ (ที่มาของชื่อสนามบิน) ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางกรุงโตเกียวออกไปถึง 65 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถประมาณ 90 นาที
มีสายการบินที่บินตรงจากกรุงเทพฯ เยอะสุดในบรรดาสนามบินทั่วประเทศญี่ปุ่น คือทั้งหมด 5 สายการบิน คือ การบินไทย เจแปนแอร์ไลน์ ออลนิปปอนแอร์เวย์ ยูไนเต็ลแอร์ไลน์ และเดลต้าแอร์ไลน์
ส่วนสนามบินฮาเนดะก็เปรียบเสมือน สนามบินดอนเมือง โดยแรกเริ่มเดิมทีเป็นสนามบินที่บริการเที่ยวบินเฉพาะภายในประเทศ (Domestic Airport) ต่อมาได้มีขยายพื้นที่ สร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มเติมขึ้นมา เพื่อรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ และได้เริ่มเปิดบริการเที่ยวบินระหว่างประเทศตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม ปี 2011 เป็นต้นมา
ซึ่งตัวสนามบินตั้งอยู่ในโตเกียว ใช้เวลาในการเดินทางจากใจกลางเมืองแค่ 40 นาทีเท่านั้นเอง จึงนับว่าเป็นทางเลือกใหม่ในการเดินทางมายังโตเกียวโดยเครื่องบิน มีสายการบินที่บินตรงจากกรุงเทพฯ เพียง 3 สายการบิน คือ การบินไทย เจแปนแอร์ไลน์ และออลนิปปอนแอร์เวย์
ส่วนรูปแบบการเดินทางเข้าเมือง Access from Airport ของทั้ง 2 สนามบิน ก็สะดวกสบายพอๆ กัน มากมายไปด้วยพาหนะให้เลือกประกอบการเดินทาง ทั้งรถบัส (Airport Limousine Bus) และรถไฟทั้งสายธรรมดา และสายด่วนพิเศษ แล้วแต่จะเลือกกัน
แต่จะต่างกันแค่ 2 จุดที่เป็นประเด็นหลักในการตัดสินใจเลือกของใครหลายๆ คน คือ
อย่างแรก ช่วงเวลาของเที่ยวบิน สำหรับเส้นทางขาไป กรุงเทพฯ – โตเกียว ของทั้ง 2 สนามบินมีช่วงเวลาใกล้เคียงคล้ายคลึงกัน จะต่างกันแค่เที่ยวบินขากลับเท่านั้น เพราะที่นาริตะจะมีสองช่วงเวลา คือ ใกล้ตอนเที่ยงวันและตอนช่วงเย็น
ส่วนฮาเนดะเที่ยวบินทั้งหมดจะออกตอนหลังเที่ยงคืนของอีกวัน และจะกลับมาถึงกรุงเทพฯตอนประมาณตีสี่ ตีห้า แล้วจะกลับบ้านพักผ่อน หรือขยันไปทำงานต่อก็ได้ไม่ว่ากัน
ดังนั้นวันสุดท้ายที่จะเดินทางกลับ ถ้าต้องการเที่ยวอีกทั้งวันแบบเต็ม ๆ เพื่อเก็บตกส่วนที่เหลือทั้งสถานที่เที่ยว ช้อปปิ้งต่อตามออเดอร์ฝากซื้อของจากเมืองไทยแล้วยังไม่มีเวลาเดินไปดู อยากชิมร้านอร่อยๆ ขั้นเทพที่ไปอ่านเจอในหนังสือท่องเที่ยว หรืออยากเดินทอดน่องซึมซับบรรยากาศวันสุดท้ายในโตเกียวในแบบไม่รีบร้อน ก็ขอแนะนำให้เลือกเดินทางกลับจากสนามบินฮาเนดะน่าจะเหมาะกับตัวคุณที่สุด (ติดข้อแม้นิดเดียวคือ คุณต้องมีร่างกายที่กำยำแข็งแรงอย่างกับม้าศึก เพราะวันสุดท้ายคุณคงจะได้นอนอีกทีก็ตอนเครื่องขึ้นเลย เตรียมให้พร้อมซ้อมให้ดีก็แล้วกัน)
รายละเอียดตารางเวลาเที่ยวบินของทั้ง 2 สนามบิน ตามตารางด้านล่าง
หมายเหตุ : ตารางการบินอาจมีการเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาได้
อย่างที่สอง อัตราค่าโดยสาร เนื่องจากสนามบินฮาเนดะอยู่ใกล้กรุงโตเกียวมากกว่าสนามบินนาริตะแบบครึ่งต่อครึ่ง จึงใช้เวลาในการเดินทางน้อยกว่ามาก และอัตราค่าโดยสารก็จึงต่างกันแบบครึ่งต่อครึ่งเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น เดินทางโดยรถบัสเข้าเมือง ถ้าเป็นจากสนามบินนาริตะ 2,700 – 3,000 เยน / คน ใช้เวลาประมาณ 90 นาที ส่วนจากสนามบินฮาเนดะประมาณ 900 – 1,200 เยน / คน ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
ข้อมูลจำเพาะของทั้ง 2 สนามบิน ในส่วนของการเดินทางโดยพาหนะต่าง ๆ เข้าเมือง พร้อมอัตราค่าโดยสาร
Narita Airport http://access.jal.co.jp/en/inter/japan/nrt/nrt_00.html
Haneda Airport http://access.jal.co.jp/en/dom/japan/hnd/hnd_00.html
ในการตัดสินใจเลือกไม่ว่าจะเป็นสนามบินนาริตะหรือสนามบินฮาเนดะ สุดท้ายแล้วก็ต้องขึ้นอยู่กับเหตุผลส่วนตัวของแต่ละคนว่าจะสะดวกช่วงเวลาไหน จุดหมายต่อไปจะไปที่ไหน หรือจะประหยัดกันยังไง
แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ทั้ง 2 สนามบินมีเหมือนกันและขาดไม่ได้สำหรับคนที่มาใช้บริการคือ ร้านขนมของฝาก ที่เป็นชอตสุดท้ายในการช้อปปิ้งซื้อของกัน ดังนั้นจัดไปให้ครบ ถ้าไม่อยากมีอาการนอนไม่หลับกระสับกระส่าย แล้วบ่นในใจว่ารู้งี้ซื้อมาก็หมดเรื่องแล้ว ไม่ว่าจะเป็นชอคโกแลตสด ROYCE, TOKYO BANANA, คุกกี้สอดใส่ชอคโกแลตจากฮอกไกโด SHIROIKOIBITO หรือจะเป็นเทพแห่งมันฝรั่งทอด JAGAPOKKURU, ฯลฯ แบบนี้ถึงจะเรียกว่าเป็นปิดทริปการเดินทางโดยสมบูรณ์จริงๆ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– Shimane (จังหวัดชิมาเนะ)
– 10 อันดับสถานที่สยองขวัญในญี่ปุ่น
– Aokigahara 青木ヶ原 : อะโอกิกะฮะระ ป่าแห่งความตาย…
– App iPhone/iPad ตัวช่วยสำหรับคนเที่ยวญี่ปุ่นเอง Part 1
– การแข่งขันปาหิมะนานาชาติอันดับหนึ่งบนเกาะฮอกไกโด (Yukigassen)
#สนามบินในโตเกียว