ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ (Fushimi Inari) ซึ่งถือเป็นที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อแห่งหนึ่งในเกียวโตเลยล่ะค่ะ จุดขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือ “โทรี่” หรือ “โทริอิ” เสาแดงที่เชื่อกันว่าเป็นประตูที่แบ่งเขตมนุษย์กับเทพเจ้าที่มีมากมายเรียงรายยาวขึ้นไปบนภูเขาค่ะ ที่นี่นอกจากจะสวยแล้วยังไม่เสียค่าเข้าชมด้วยค่ะ เยี่ยมเลยใช่มั้ยคะ ^^v♪
วันนี้เป็นวันเริ่มงานพาเที่ยวจริงจังครั้งแรกในชีวิตของ AME.dama ค่ะ! xD ตื่นเต้นจัด นั่งหาข้อมูลทำการบ้านทั้งคืน ว่าแล้วก็พาลูกค้าออกเดินทางไปเที่ยวที่แรกในเกียวโตกันเลย!
เช้าวันนี้เราเริ่มจาก ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ซึ่งถือเป็นที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อแห่งหนึ่งในเกียวโตเลยล่ะค่ะ จุดขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือ “โทรี่” หรือ “โทริอิ” เสาแดงที่เชื่อกันว่าเป็นประตูที่แบ่งเขตมนุษย์กับเทพเจ้าที่มีมากมายเรียงรายยาวขึ้นไปบนภูเขาค่ะ
ที่นี่นอกจากจะสวยแล้วยังไม่เสียค่าเข้าชมด้วยค่ะ เยี่ยมเลยใช่มั้ยคะ ^^v♪
การเดินทางคือให้นั่งรถไฟสาย JR หรือ Keihan มาลงสถานีชื่อ Fushimi inari (伏見稲荷) ตามที่เราจะไปเลยค่ะ ไม่ยากๆ เสาตรงชานชาลาที่เป็นสีแดงมีรูปจิ้งจอกตรงสถานีก็เป็นจุดที่น่าถ่ายรูปนะคะ ไม่ควรพลาดค่ะชาวไทยทุกท่าน ;D


ใช้กระบวยรองน้ำแล้วเทล้างมือทีละข้างจนครบเสร็จแล้วรองน้ำบ้วนปากเล็กน้อย (ตรงนี้ใครไม่อยากทำไม่ต้องก็ได้ค่ะ ต่างชาติ อิอิ) ท้ายสุดรองน้ำแล้วยกกระบวยตั้งให้น้ำไหลลงมาราดกระบวยที่เราจับทั้งด้ามเพื่อทำความสะอาดแล้วจึงวางที่เดิมค่ะ
ตั้งแต่ทางเข้าจนถึงภายในเราจะพบรูปปั้นจิ้งจอกเยอะมาก เพราะจิ้งจอกถือเป็นสัตว์เทพเกี่ยวกับพืชพันธุ์ค่ะ อย่างที่มักพบบ่อยๆ ในการ์ตูนญี่ปุ่น เช่นเรื่อง Spicy and Wolf ที่ตัวละครหลักเป็นเทพจิ้งจอกที่มีหน้าที่ดูแลเรื่องกสิกรรม

เดินเข้ามาภายในศาลเจ้าก็จะเจอกับลานประกอบพิธีหลายจุด และโซนขายแผ่นไม้รูปโทรี่ที่ให้เขียนคำอธิษฐานลงไปเพื่อขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธ์ นอกจากนี้ยังมีขายเครื่องรางและใบเซียมซีอีกด้วย แอบเห็นภาษาไทยอยู่หลายอันเลย อิอิ

จุดที่วงกลมสีม่วงคือบริเวณตรงทางเข้าและส่วนที่ประกอบพิธี ขายเครื่องรางที่ผ่านมาสักครู่ค่ะ
จุดต่อไปที่เราจะไปซึ่งเป็นไฮไลท์ของวันนี้ก็คือจุดที่วงกลมสีแดงค่ะ เดินขึ้นไปอีกหน่อยก็จะเจอกับเสาโทริอิสีแดงเรียงกันเป็นตับเลย งานนี้ต้องถ่ายรูปกันค่ะ อย่าพลาด!
คนเยอะมากค่ะ กว่าจะถ่ายภาพเสาแบบไม่มีคนมาได้ต้องลุ้นหาจังหวะน่าดู
ด้านหลังของแต่ละเสาจะเห็นว่ามีตัวอักษรสลักอยู่ มีทั้งที่เป็นชื่อคนและชื่อองค์กรบริษัทต่างๆ ทั้งหลายเหล่านี้คือต้องซื้อเสากับทางศาลเจ้าค่ะ ราคาก็ต่างกันไปตามขนาด เสายิ่งใหญ่ยิ่งแพง
AME.dama แอบไปดูราคามา ลองเดาดูสิคะราคาเริ่มต้นถูกสุดเท่าไหร่เอ่ย?..…เฉลยคือ…..175,000 เยนค่ะ!! คุณพระ!!!
เม้าท์มอยเรื่องราคาเสาโทริอิจบไป ก็เดินมาจนถึงจุดศาลเจ้าโอะคุฉะ (奥社奉拝所) ที่มีแผ่นป้ายให้เขียนขอพรเป็นรูปหน้าจิ้งจอก ทำซะกุ๊กกิ๊กน่ารักเชียว
แต่พอเดินมาเห็นแผ่นป้ายที่คนเขียนขอพรเท่านั้นขำพรืดเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ สมเป็นเจ้าแห่งการ์ตูน ญี่ปุ่นไม่แพ้ชาติใดในโลกค่ะ ป้ายแต่ละอันโดนวาดซะไม่เหลือเค้าเดิมเลยค่ะ ดูแล้วทั้งเพลินทั้งฮา

ตรงจุดศาลเจ้านี้ที่ต้องขอแนะนำให้ลองเลยก็คือ “การเสี่ยงทายยกหินหนักเบา” (おもかる石)
เพียงแค่โยนเงินลงกล่องตามศรัทธา (แต่โดยปกติจะใส่ 5 เยน) เสร็จแล้วพนมมือไหว้ตั้งจิตอธิษฐานถึงสิ่งที่อยากรู้ เสร็จแล้วให้ใช้สองมือลองยกหินดู ถ้าหากยกหินขึ้นแล้วรู้สึกเบากว่าที่คิด จะแปลว่าสิ่งที่คิดอธิษฐานไว้จะสมหวัง
แต่หากรู้สึกหนักกว่าที่คิดและยกไม่ค่อยขึ้นก็จะแปลว่าสิ่งที่คิดไว้ยากที่จะสมหวัง AME.dama ลองมาแล้วค่ะ ตรงอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะตอนยกหินนั้นลองถามเรื่องงานพิเศษที่ไปสัมภาษณ์มาว่าจะได้รับการติดต่อมั้ย แล้วยกหินดูปรากฏว่ารู้สึกหนักมากค่ะ ยกไม่ค่อยขึ้นเลย ในขณะที่เพื่อนยกกันสบายๆ และผลสุดท้ายงานนั้นก็แห้วจริงๆ ค่ะ ไม่ได้รับการติดต่อมาเลย
ขอยืนยันหนึ่งเสียงว่าตรงค่ะ ใครมีโอกาสลองมาเสี่ยงทายดูนะคะ ;))


เดินจากศาลเจ้านี้ขึ้นไปก็จะมีโทริอิเรียงรายต่อไปยังศาลเจ้าอีกหลายจุดค่ะ แต่อาจจะเดินกันเหนื่อยหน่อย และส่วนใหญ่ก็ให้อารมณ์คล้ายๆ กัน ดังนั้นหลายคนเลยเดินมาถึงแค่จุดนี้แล้วเดินกลับค่ะ AME.dama ก็ต้องทำเวลาพาลูกค้าไปทานข้าวกลางวันแล้วค่ะ
ตอนต่อไปจะขอแนะนำร้านโปรดของ AME.dama ในย่านฟุชิมิอินาริให้ทุกท่านได้ชมค่ะ เตรียมน้ำลายสอกันได้เลย ฮี่ๆ ;d
ทักทายพูดคุยกับ AME.dama ได้ที่ >>> Facebook AME.dama
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– รีวิวทริปเดียวเที่ยวทั้งโอซาก้า-นารา-โอกินาว่า : Ishigaki
– ดื่มด่ำร้านกาแฟ..หาที่นั่งชิลที่เกียวโต
– จุดชมวิวยามค่ำคืนที่สถานีเกียวโต กับมือถือที่หายไป
– ตะลุยเกียวโต ย่านกิอง
– it’s a small world “เราต่างรอคอยความเยาว์วัย แต่กลับคลาดจากกัน”