คิดถึงญี่ปุ่นมากมาย… และพอสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ก็แอบดีใจที่ได้มีโอกาสไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ฮอกไกโดทันในปี 2022 และในตอนแรก เราก็ไปเที่ยวกันแถวๆ ทะเลสาบโทยะกันมาแล้ว ในตอนนี้เราล่องลงไปทางใต้ของเกาะฮอกไกโดอีกสักหน่อย ไปเที่ยวแถวเมืองฮาโกดาเตะกันจ้ะ
เส้นทางเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ฮอกไกโดในตอนที่แล้ว เราไปเที่ยวแถวๆ ทะเลสาบโทยะ แล้วเลาะลงใต้เพื่อจะมากันต่อที่เมืองฮาโกดาเตะ ถ้าอย่างนั้นมาเที่ยวกันต่อเลยนะ
Goryokaku Tower
เราล่องใต้ลงมาจนถึงเมืองใหญ่อันดับหนึ่งทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด ซึ่งเป็นเมืองท่าค้าขายกับต่างประเทศที่เฟื่องฟูมากมาตั้งแต่ครั้งอดีต นั่นก็คือ Hakodate และเมื่อมาถึงเมืองฮาโกดาเตะ จุดท่องเที่ยวไฮไลท์ของเมืองนี้ที่ทุกคนไม่ควรพลาดก็คือ Goryokaku หรือป้อมปราการโกะเรียวคาคุ ซึ่งถูกสร้างขึ้นในสมัยโชกุนตระกูล Tokugawa เพื่อเป็นป้อมปราการปกห้องศูนย์ราชการของเมืองฮาโกดาเตะที่อยู่ห่างจากท่าเรือ เข้ามาในเมือง…
ป้อมปราการโกะเรียวคาคุ ถูกออกแบบโดยใช้นวัตกรรมการออกแบบผสมผสานความสไตล์ยุโรป เป็นรูปทรงของดาวห้าแฉก มีคุณสมบัติที่ปกป้องพื้นที่ชั้นในได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ด้วยปืนหรือปืนใหญ่ ใช้เวลาก่อสร้างถึง 7 ปี แล้วเสร็จในปี 1864 และเป็นศูนย์กลางการปกครอง หน่วยงานป้องกันประเทศ (พื้นที่ตอนเหนือ) และสถานทูตต่างๆ ในสมัยนั้น
ด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และยังเป็นจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงของฮอกไกโด ปัจจุบันที่นี่… จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม และจุดชมวิวมุมสูงของป้อม Goryokaku ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือ Goryokaku Tower นั่นเอง
Goryokaku Tower เคยถูกสร้างไว้ที่ความสูง 60 เมตร ในปี 1964 เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 100 ปี ป้อม Goyokaku แต่ในปี 2006 หอคอยแห่งใหม่ก็ถูกเปิดให้บริการแทนที่ด้วยความสูง 107 เมตร สูงกว่า ทันสมัยกว่า เห็นวิวไกลกว่า มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะกว่ามาก เพราะนอกจากจะมีจุดชมวิว 2 ชั้นแล้ว ยังมีส่วนจัดแสดงเป็นนิทรรศการย่อมๆ มีพื้นกระจกให้ส่องพิสูจน์ความสูงด้วยตนเอง มีกิฟต์ช้อป คาเฟ่ และอีกมากมาย
Goryokaku Tower
ที่ตั้ง: 43-9 Gyoryokakucho, Hakodate, Hokkaido 040-001
เวลาทำการ: 09.00 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 800 เยน / เด็กมัธยม 680 เยน / เด็กมัธยม 450 เยน
การเดินทาง: นั่ง Hakodate City Tram จากหน้าสถานี Hakodate มาลงที่ป้ายหน้า Goryokaku Park แล้วเดินมาประมาณ 7 นาที หรือจะนั่งรถบัสมาก็ได้ มีบริการหลายสาย
MAPCODE: 86 165 057*03
เว็บไซต์: https://www.goryokaku-tower.co.jp/en/
Hakodate MOMI-G Festa
Kosetsuen Park (Miharashi Park) หรืออดีตสวนของตระกูล Iwafune ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ ภายในมีต้นเมเปิ้ลเป็นจำนวนมาก รวมทั้งต้นไม้เก่าแก่อีกมากมาย ดังนั้นในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี… ที่สวนแห่งนี้จึงมีสีสันละลานตา พื้นสวนก็จะเป็นพรมใบไม้สีสันสวยงาม ที่นี่จึงเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมแห่งหนึ่งของเมืองฮาโกดาเตะ
Hakodate MOMI-G Festa เป็นงานจัดแสดงแสงสีเสียงในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่สวน Kosetsuen Park แห่งนี้นั่นเอง จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในช่วงราวปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน โดยในปี 2022 จัดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม – 6 พฤศจิกายน นอกจากจะมีการจัดแสงสีแล้ว ก็มีกิจกรรมพิเศษขึ้นในบางช่วงเวลาด้วย เช่น การแสดงดนตรีสด เป็นต้น
งานนี้จัดอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมาก แต่ได้บรรยากาศที่หรูหราแบบสุดๆ ไม่ว่าจะมากับคุณแฟน ครอบครัว หรือแก๊งค์เพื่อน ก็จะได้เห็นมนต์เสน่ห์ของฤดูกาลในสวนแห่งนี้แบบเต็มๆ แน่นอน ถ้ามาฮาโกดาเตะในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ก็ไม่ควรพลาดกันนะ
Hakodate MOMI-G Festa (Kosetsuen Park)
ที่ตั้ง: 56 Miharashi-cho, Hokodate, Hokkaido 042-0956
เวลาทำการ: 16.00 – 21.00 น. (ปลายเดือนตุลาคม – กลางพฤศจิกายน)
ค่าเข้าชม: ฟรี
การเดินทาง: นั่งรถบัส Hakodate Bus Line 82 มุ่งหน้า ‘Takizawa cho senkai jo’ ลงที่ป้าย Kosetsuen ได้เลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที
MAPCODE: 86 141 654*82
เว็บไซต์: https://www.hakodate.travel/en/events/hakodate-momi-g-festa-autumn-leaves-festival
Mt. Hakodate Observatory
บริเวณยอดเขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate) มีชื่อเสียงว่าเป็นจุดชมวิวเลอค่าของญี่ปุ่นมาช้านาน ดังนั้นจึงถือว่าเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งในเมืองฮาโกดาเตะที่นักท่องเที่ยวแทบทุกคนจะต้องไปกัน
โดยการจะขึ้นไปยังยอดเขาฮาโกดาเตะนั้น ก็สามารถใช้บริการโรปเวย์ได้ ใช้เวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้นเอง ซึ่งด้านบนก็จะมีบริเวณให้ชมวิวหลายมุม พื้นที่กว้างขวาง ต่อให้มีนักท่องเที่ยวเยอะมาก ก็ยังสามารถหามุมที่เห็นวิวชัดๆ ได้ไม่ยาก
นอกจากบนยอดเขาฮาโกดาเตะจะเป็นจุดชมวิวที่สามารถชมวิวเมืองและอ่าวของฮาโกดาเตะได้ทั้งกลางวันและยามค่ำคืนแล้ว ที่นี่ยังมีร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก และร้านอาหารอยู่ด้วย ดังนั้นเราจึงสามารถมาดื่มด่ำกับวิว แล้วยังสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารอร่อยๆ ของที่นี่ได้ด้วย
Mt. Hakodate Observatory
ที่ตั้ง: Hakodateyama, Hakodate, Hokkaido 040-0000
เวลาทำการ (โรปเวย์) : 10.00 – 20.00 น. (ฤดูร้อน เปิดบริการถึง 22.00 น.)
ค่าบริการ (โรปเวย์) : ผู้ใหญ่ 1,500 เยน / เด็ก 700 เยน (ไป-กลับ)
การเดินทาง: ฤดูหนาวต้องนั่งโรปเวย์ไปเท่านั้น แต่นอกฤดูหนาว หลักๆ แล้ว เดินทางได้ 3 วิธี คือนั่งโรปเวย์ มากับรถบัสท่องเที่ยว หรือเดินเท้าขึ้นเขามา
MAPCODE: 86 009 748*37
เว็บไซต์: https://www.hakodate.travel/en/sightseeing_spots/view/mt-hakodate-observatory
Yunokawa Onsen Umi to Akari Hewitt Resort
Yunokawa Onsen Umi to Akari Hewitt Resort เป็นที่พักในแหล่งน้ำพุร้อนออนเซ็น ‘Yunokawa Onsen’ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองฮาโกดาเตะนัก มีห้องพักเป็นเตียงแบบตะวันตก ผสมผสานการออกแบบตกแต่งให้ดูอบอุ่นสไตล์ญี่ปุ่น ทำให้ดูทันสมัย สะอาดตา น่าพักมาก
นอกจากนี้ ในส่วนของห้องออนเซ็นบนชั้นที่ 12 ของที่นี่ ก็มีทั้งแบบ Public Bath ที่เห็นวิวมุมกว้างของช่องแคบ Tsugaru บรรยากาศสบายตา และแบบ Private Bath (ชั่วโมงละ 2,750 เยน) ที่ดูดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ มีความ Exclusive สุดๆ ไปเลยจ้า
สำหรับไลน์อาหาร ก็เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ทั้งมื้อเช้าและมื้อค่ำ เน้นไปที่วัตถุดิบสดๆ จากท้องทะเล เมนูข้าวหน้าอาหารทะเล ปูนึ่ง กุ้งนึ่ง หอยย่าง ฯลฯ เหล่านี้… เป็นตัวอย่างเมนูที่ไม่ควรพลาด
Yunokawa Onsen Umi to Akari Hewitt Resort
ที่ตั้ง: 3-9-20 Yunokawacho, Hakodate-shi, Hokkaido 042-0932
การเดินทาง: จากสถานี JR Hakodate นั่ง Hakodate City Tram มาประมาณ 30 นาที ลงที่สถานี Yunokawa Onsen แล้วเดินเท้าประมาณ 11 นาที ก็จะถึงโรงแรม หรือนั่ง Free Shuttlebus จากสถานี Hakodate (West Exit) มาได้ มีบริการวันละ 2 รอบ โดยต้องจองล่วงหน้า
MAPCODE: 86 080 639*08
เว็บไซต์: https://hewitt-resort.com/hakodate-yunokawa/en/
Hakodate Morning Market
กลับเข้าตัวเมืองฮาโกดาเตะกันมาพบกับตลาดเช้า Hakodate Morning Market (Hakodate-Asaichi) อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวยอดนิยม เพราะที่นี่เป็นตลาดขนาดใหญ่ มีร้านค้ากว่า 250 ร้าน ซึ่งนอกจากจะเป็นตลาดรวมอาหารสดมากมายของเมืองฮาโกดาเตะแล้ว ยังมีมุมที่เป็นร้านอาหารด้วย ดังนั้นเราก็จะสามารถเลือกเมนูที่ปรุงใหม่ๆ จากวัตถุดิบสดๆ ในร้านเหล่านี้ได้ตามใจชอบ แน่นอนว่าเราจะได้ลิ้มรสชาติของวัตถุดิบสดใหม่เหล่านี้ได้แบบเต็มๆ
ภายในตลาดแห่งนี้ ยังมีมุมกิจกรรมตกหมึก ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมกันมากๆ อยู่ด้วย ตกเสร็จแล้ว ก็ให้เขาปรุงให้ชิมกันตรงนั้นเลย… ก็ดีนะ
ใครเป็นสายกิน ชอบเดินเล่นตลาดท้องถิ่น ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ควรจะแวะกันมานะ
Hakodate Morning Market
ที่ตั้ง: 9-19 Wakamatsu-cho, Hakodate, Hokkaido 040-0063
เวลาทำการ: 05.00 – 14.00 น.
การเดินทาง: เดินจากหน้าสถานี JR Hakodate มาเพียงแค่ 1 นาที
MAPCODE: 86 072 344*02
เว็บไซต์: https://www.hakodate.travel/en/sightseeing_spots/shopping-spot/hakodate-morning-market
Onuma Quasi-National Park
อุทยานแห่งชาติโอนุมะ (Onuma Quasi-National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติที่อยู่ในความดูแลขององค์กรส่วนท้องถิ่น มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก นอกจากจะมีเส้นทางเดินชมธรรมชาติมากมายแล้ว ยังมีสามารถมาทำกิจกรรมล่องเรือชมรอบๆ อุทยานกันได้ด้วย (อันนี้แนะนำเลย)
อุทยานฯ โอนุมะแห่งนี้ สวยงามเป็นธรรมชาติในทุกฤดูกาล โดยในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ก็เป็นหนึ่งในฤดูกาลไฮไลท์ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนได้ปีละมากๆ พรมใบไม้หลากสี ที่อยู่บนพื้น กับฉากหลังของผืนน้ำ (Lake Onuma) และภูเขาไฟสูง (Mt. Komagatake) คือโดดเด่น เหมาะแก่การเก็บภาพสวยๆ มากเลยล่ะ
และภายในอุทยานฯ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านอาหาร ร้านของฝาก มากมาย แล้วยังมีในส่วนของที่พักและจุดตั้งแคมป์ มีกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการล่องเรือ พายแคนู ตกปลา ปั่นจักรยาน ขี่ม้า เดินป่า ขึ้นกระเช้า เล่น segway ฯลฯ ที่สำคัญคือเดินทางมาได้ด้วยรถไฟสะดวกมาก
ใครชอบเดินเที่ยวเล่น แบบใกล้ชิดธรรมชาติ โดยที่ยังรู้สึกปลอดภัยสบายใจ แนะนำว่าที่นี่คือดีมาก
Onuma Quasi-National Park
ที่ตั้ง: 85-15 Onuma-cho, Nanae, Kameda-gun, Hokkaido
เวลาทำการ: ขึ้นอยู่กับกิจกรรม
ค่าบริการ: ขึ้นอยู่กับกิจกรรม
การเดินทาง: นั่งรถไฟ Limited Express Hakuto จากสถานี JR Hakodate มาประมาณ 30 นาที ก็ลงที่ป้าย JR Onuma Koen ได้เลย
MAPCODE: 86 816 665*30
เว็บไซต์: http://onumakouen.com/en/
Table de Rivage
ร้านอาหารฝรั่งสไตล์ Café & Restaurant ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของ Onuma Quasi-National Park เดินจากสถานีรถไฟมาไม่ไกล บรรยากาศก็ดีมากๆ ตัวอาคารเป็นไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่น ส่วนอาหารก็ให้อารมณ์แบบ Homemade ไปซะทุกอย่างในเซ็ตอาหาร รวมไปถึงของหวาน และเครื่องดื่ม
ร้าน Table de Rivage นี้ เหมาะกับการมานั่งรับประทานอาหาร ชมวิวเพลินๆ หรือจิบเครื่องดื่ม (ชาที่นี่ก็รสดีมาก) แล้วนั่งชิลไปเรื่อยๆ… จะนั่งเล่นในร้านหรือนอกร้าน ก็ได้บรรยากาศดีทั้งคู่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี จะรู้สึกราวกับนั่งอยู่ในฉากของเทพนิยายที่รายล้อมไปด้วยสีสันของใบไม้ และผืนน้ำใสๆ ที่สะท้อนแสงสบายตา ถ้ามีเปลยวนกับหนังสือดีๆ สักเล่มนะ… อยู่เงียบๆ ฟังเสียงผู้คนและธรรมชาติไปเรื่อยๆ แค่นี้ก็ดีมากๆ แล้ว
Table de Rivage
ที่ตั้ง: 141 Onumacho, Nanae-cho, Kameda-gun, Hokkaido, 041-1354
เวลาทำการ: 11.00 – 16.00 น. (วันหยุดไม่แน่นอน ควรเช็คจากเว็บไซต์ล่วงหน้า)
การเดินทาง: เดินจากสถานี JR Onuma Koen ได้เลย มาประมาณ 10 นาที
MAPCODE: 86 845 171*85
เว็บไซต์: https://gengoro.jp/rivage/
ในตอนนี้… ขอหยุดไว้ที่ Onuma Quisi-National Park ก่อน เพราะจากนี้ เราจะนั่งรถยาวๆ 4 ชั่วโมงกว่าๆ ขึ้นไปทางตอนเหนือของเมืองซัปโปโรนิดหน่อย ก็ที่นั่นมีเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมที่ทริปนี้ เราอยากแวะเที่ยวกันสักหน่อย ‘เมืองโอตารุ’ นั่นเอง ตอนหน้ามาเที่ยวเมืองโอตารุกันต่อนะ อย่าลืมติดตามกันล่ะ (^^)/
เรื่องแนะนำ :
– เส้นทางเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีฮอกไกโดตะวันตก (ซัปโปโร)
– เส้นทางเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีฮอกไกโดตะวันตก (โอตารุและโจซังเค)
– เส้นทางเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีฮอกไกโดตะวันตก (ทะเลสาบโทยะ)
– เที่ยวฮอกไกโด : เช็คอินจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดป๊อบแห่งเกาะฮอกไกโด ตอนที่ 2
– เที่ยวฮอกไกโด : เช็คอินจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดป๊อบแห่งเกาะฮอกไกโด ตอนที่ 1
#เส้นทางเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีฮอกไกโดตะวันตก (ฮาโกดาเตะ) #Hokkaido #เที่ยวฮอกไกโด #Hakodate