Kanazawa เมืองแห่งศิลปหัตถกรรมและมรดกวัฒนธรรมโดย UNESCO… (City of Crafts and Folk Art)
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบศิลปะ งานฝีมือ และวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น Kanazawa (คานาซาวะ) คือจุดหมายที่คุควรค่าแก่การไปเยือน เนื่องจากเมืองนี้มีความโดดเด่นในเรื่องเหล่านี้เป็นพิเศษจนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น “City of Crafts and Folk Art” โดยองค์การ UNESCO ในปี 2009 ถือว่าเป็นเครื่องการันตีได้อย่างดีเลยทีเดียว
Kanazawa (คานาซาวะ)
เมืองนี้ที่เต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมและงานศิลปะดั้งเดิมที่ได้รับการสืบทอดมาหลายร้อยปี โดยเป็นแหล่งกำเนิดงานฝีมือชั้นสูงของญี่ปุ่นหลายแขนง อาทิ เครื่องเคลือบคุทานิ (Kutani Ware), ทองคำเปลว Kanazawa (Kanazawa Gold Leaf), ผ้าไหมคากะ (Kaga Yuzen Silk Dyeing) และงานไม้คานาซาวะ (Kanazawa Lacquerware) เป็นต้น ซึ่งแต่ละอย่างล้วนมีเอกลักษณ์และความประณีตที่หาตัวจับได้ยาก ถือเป็นของฝากชั้นสูงประจำเมืองที่นักท่องเที่ยวจะมองหา
นอกจากนี้การอนุรักษ์ศิลปะแบบดั้งเดิมควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์สไตล์ใหม่ ๆ ไม่ได้ยึดติดกับรูปแบบคร่ำครึ ยังทำให้คานาซาวะกลายเป็นศูนย์กลางของงานหัตถกรรมที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และนี่ก็เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เมืองนี้ได้รับการยกย่องจาก UNESCO
ลักษณะเฉพาะตัวของเมืองคานาซาวะ
“คานาซาวะ” คือเมืองหลวง (เมืองหลักอันดับหนึ่ง) ของจังหวัด Ishikawa (อิชิคาวะ) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนบนของเกาะฮอนชู (Honshu) เป็นภูมิภาคย่อยที่ได้รับการขนานนามว่า Hokuriku (โฮคุริขุ) หมายถึง “แผ่นดินทางเหนือ” ที่อยู่ติดกับทะเลญี่ปุ่น (Sea of Japan) อันเป็นชื่อเขตปกครองในสมัยโบราณของที่นี่ด้วย ปัจจุบันประกอบด้วย 3 จังหวัด ได้แก่จังหวัด Toyama (โทยามะ), Fukui (ฟุคุอิ), และ Ishikawa (อิชิคาวะ)
ดินแดนแถบนี้มีลักษณะเฉพาะตัวค่อนข้างสูง ด้วยความที่ด้านเหนือติดทะเลและด้านใต้คือเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (หิมะที่นี่คุณภาพสูง และทิวทัศน์ก็งดงาม … ใช้คำว่า “ธรรมชาติ” ได้เปลืองสุดๆ)
ผู้คนในอดีตจึงมุ่งมั่นตั้งใจอยู่กับการรังสรรค์การใช้งานทรัพยากรในพื้นที่แวดล้อมของตัวเอง เพื่อการดำเนินชีวิตโดยใส่จิตวิญญาณของช่างฝีมือเข้าไปอย่างเต็มที่ ฟูมฟักจนเกิดความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ มีชื่อเสียง ในที่สุดก็ได้รับการยอมรับจากคนภายนอก จนทำให้ศิลปะ วัฒนธรรม และงานหัตกรรมของที่นี่ เฟื่องฟูมาอย่างยาวนาน เรียกได้ว่าค่าตัว “นายช่าง” ในแต่ละแขนงจากเมืองนี้ มีค่ามาก แถมยังหาตัวจับได้อยาก ไม่สามารถเชิญไปทำงานให้ได้อย่างง่ายดายนัก
- คานาซาวะ เมืองที่ยังคงกลิ่นอายยุคซามูไร – ที่นี่เคยเป็นเมืองปราสาทของตระกูลมาเอดะ หนึ่งในตระกูลผู้ปกครองที่ทรงอำนาจที่สุดของญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ ทำให้ยังคงกลิ่นอายความเฟื่องฟูทางวัฒนธรรม เช่น ปราสาท เมืองปราสาท ย่านการค้าเก่าแก่ ฯลฯ อันเป็นบรรยากาศแบบญี่ปุ่นโบราณอยู่มากมาย ให้พวกเราได้ชื่นชม
- คานาซาวะ เมืองแห่งทองคำเปลว – ทองคำเปลวจาก Kanazawa มีชื่อเสียงระดับโลก และถูกนำไปใช้ตกแต่งในงานศิลปะและสถาปัตยกรรมมากมาย รวมไปถึงที่วัดคินคะคุจิ (วัดทอง) ที่เกียวโต ที่นี่คุณสามารถมาลองทำงานศิลป์ที่ปิดทองคำเปลวได้ด้วยตัวเอง หรือแม้แต่ชิมไอศกรีมทองคำเปลวสุดหรูหรากันก็ยังได้ เพราะงานทองคำเปลวของที่นี่หาชมได้แทบทุกมุมเมือง ตั้งแต่ชิ้นงานธรรมดาๆ ไปจนถึงงานประณีตขั้นสูงที่นำทองคำเปลวซึ่งผ่านการรีดคุณภาพระดับเทพมาใช้
- คานาซาวะ เมืองแห่งสถาปัตยกรรมผสมผสาน – เมืองนี้มีทั้งอาคารโบราณแบบญี่ปุ่น สวนแบบเซน และอาคารสไตล์โมเดิร์นที่ผสานกันอย่างลงตัว เนื่องจากในยุคเปิดประเทศใหม่ๆ ภูมิภาคนี้ก็เป็นหนึ่งในเมืองท่าที่เปิดรับชาวต่างชาติเข้ามา
ประตูสู่เมืองศิลปะ ชมไฮไลท์สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองคานาซาวะ
ปัจจุบัน เมืองคานาซาวะมีสถานีรถไฟหลักคือสถานีคานาซาวะ (Kanazawa Station) ที่เป็นเสมือนประตูแห่งจุดเริ่มต้นของการเดินทางเข้าสู่เมือง (สมัยก่อนต้องฟันฝ่าอุปสรรคด้านการเดินทางจากเมืองหลวงผ่านเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นที่อยู่ทางใต้ของจังหวัดเข้ามาอย่างยากลำบาก)
สถานีแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานีรถไฟที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น มีจุดเด่นคือ ประตูไม้ทสึซึมิ (Tsuzumi-mon Gate) ที่ออกแบบให้คล้ายกลองญี่ปุ่นดั้งเดิม และโดมกระจกโมเตนาชิ (Motenashi Dome) ที่เป็นสัญลักษณ์ของการต้อนรับขับสู้ของเมืองนี้ และหากหันมองด้านหน้าสถานีในจุดที่ไกลออกไปสักหน่อย คุณจะได้เห็นภาพรวมของอาคารสถานีคานาซาวะแห่งนี้ประกอบกัน กลายเป็นหมวกนักรบญี่ปุ่น ซึ่งเป็นภาพที่เท่มากๆ แนะนำว่าหากมีโอกาสได้มาเยือนสถานีคานาซาวะ จะต้องหามุมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันเอาไว้เลย ถือเป็นไฮไลท์ของการมาเยือนที่นี่จริงๆ
หลังจากมาถึงเมืองคานาซาวะกันแล้ว ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งอยากจะแนะนำที่หลากหลาย อาทิ
1. สวนเค็นโรคุเอ็น (Kenrokuen Garden) – 1 ใน 3 สวนที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ด้วยการจัดสวนที่ลงตัวในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงฤดูซากุระบานและฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
2. ตลาดโอมิโช (Omicho Market) – ตลาดอาหารทะเลสดที่ขึ้นชื่อของเมืองคานาซาวะ ซึ่งมีของทะเลสดๆ คุณภาพดีและอาหารท้องถิ่นที่ห้ามพลาดมากมาย
3. ย่านซามูไร นากามาจิ (Nagamachi Samurai District) – สถานที่เดินเล่นในบรรยากาศย้อนยุคเอโดะ ชมบ้านซามูไรเก่าแก่ และสัมผัสวิถีชีวิตของนักรบญี่ปุ่น
4. ย่านเกอิชา ฮิกาชิชายะ (Higashi Chaya District) – กิจกรรมถ่ายรูปในย่านการค้าเก่าแก่ ที่มีบ้านเก่าแบบดั้งเดิมเรียงราย และการดื่มชาเขียวในโรงน้ำชาโบราณ คือไฮไลท์ของที่นี่
5. พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยศตวรรษที่ 21 (21st Century Museum of Contemporary Art) – สำหรับคนที่ชอบงานศิลปะแบบโมเดิร์น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีงานจัดแสดงที่น่าสนใจและแปลกใหม่ตลอดเวลา
และทั้งหมดนี้ เป็นเพียงแค่สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำบางส่วนของเมืองนี้เท่านั้น ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอื่นๆ รวมทั้งเทศกาลอีกมากมาย
“คานาซาวะ” เมืองที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งงานศิลปะหัตถกรรม วัฒนธรรมญี่ปุ่นโบราณ และความงดงามทางธรรมชาติ ไม่ว่าคุณจะมาเติมเต็มความหลงใหลในศิลปะ ซึมซับประวัติศาสตร์ หรือแค่ต้องการมาเดินเล่นในเมืองที่สวยงามและเงียบสงบ… คานาซาวะจะเป็นจุดหมายที่ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน
เรื่องแนะนำ :
– ปราสาทมัตสึโมโตะ: มรดกทางประวัติศาสตร์ที่ยังมีลมหายใจ
– วัดโทไดจิ: หัวใจของมรดกโลกแห่งนารา
– ปราสาทอินุยามะ: สมบัติแห่งยุคซามูไร สัมผัสเสน่ห์ญี่ปุ่นโบราณ
– มรดกโลกญี่ปุ่น อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Genbaku Dome)
– สวนสันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park)
ขอบคุณข้อมูล:
https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000183832
https://visitkanazawa.jp/en/
https://www.ishikawatravel.jp/en/destinations/kanazawa/
https://www.city.kanazawa.ishikawa.jp/index_e.html
https://www.kanazawastation.com/the-history-of-kanazawa-station/
#Kanazawa เมืองแห่งศิลปหัตถกรรมและมรดกวัฒนธรรมโดย UNESCO… (City of Crafts and Folk Art) #คานาซาวะ #Ishikawa #เที่ยวคานาซาว่า #Hokuriku #Chubu