Kin No Kura…ตอนนี้ผมจะมาแนะนำร้านอาหาร หรือบาร์ย่อมๆ สำหรับผู้ที่งบน้อย หรืองบเยอะแต่อย่างลองบรรยากาศของร้านแนวนี้ดู ร้านนี้ผมขอเรียกง่ายๆ ตามประสาคนไทยว่า 270 Izakaya ครับ จุดเด่นของที่นี่คือ (เกือบ) ทุกอย่างขายที่ 270 เยน!!!
ไหนๆ ก็ไหนๆ ผมขอย้อนกลับมาถึงเรื่องการไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกสักหน่อยดีกว่าครับ หลังจากผมโยงไปเรื่องมวยปล้ำ เรื่องการ์ตูน แล้วก็เรื่องสารคดีอยู่พักใหญ่ๆ ต้องพูดตามตรงว่าผมเองไปโตเกียวแต่ละครั้งก็ไม่ได้ไปร้านหรูๆ อะไรหรอกครับ ทั้งด้วยเรื่องงบประมาณและก็เรื่องบรรยากาศด้วย รู้สึกว่าเราถูกชะตากับร้านเล็กๆ ถูกๆ ง่ายๆ มากกว่า
โดยส่วนตัวผมคิดว่าร้านเล็กๆ จะมีบรรยากาศเป็นกันเองกว่าน่ะครับ และพอเราเห็นราคาพอไปวัดไปวาได้กับปริมาณเงินในกระเป๋า เราก็มีความสุขในการสั่งและมีความสุขในการกินมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นวันนี้ผมจะพาทุกท่านไปรู้จักกับร้านอาหารที่แพร่หลายมากๆ ในโตเกียวซึ่งรับรองว่าทุกท่านจะได้สั่งจนอิ่มและไม่รู้สึกกังวลใจแต่อย่างใด
ที่แรกขอบอกเลยว่าตนเองไปญี่ปุ่นแบบเป็นเทพข้อมูลครับ หาข้อมูลอย่างเยอะ วางแผนการเงินอย่างละเอียด ทำให้การเที่ยวมันค่อนข้างไม่สนุก หลังๆ เลยเปลี่ยนเป็นเลิกใช้รถไฟแล้วอาศัยเดินหลงกลางเมืองเอา
อันนี้สำคัญเช่นกันนะครับ คือมันจะมีร้านหลายๆ ร้านที่อยู่ห่างจากการเดินทางโดยรถไฟหลายๆ นาทีที่ราคาถูก ยกตัวอย่างหน้าบ้านผมมีมินิมาร์ท maruetsu อยู่ ราคาก็ถือว่าไม่แพงเท่าไหร่ แต่ถ้าเราเดินไปทางสถานี อิดะบะชิ (Iidabashi) เลียบตามเส้นทางไปประมาณ 10 นาที ก็จะเจอร้านที่ขายของราคาถูกลงมา เรียกว่ายอมเดินหน่อยแต่ได้ของลดราคาก็คุ้มค่านะครับ
นอกจากนี้ส่วนตัวแล้วผมเองเป็นคนไม่ชอบอะไรmassๆ (คือรู้ว่าราคามันต้องโหดตามความดังแน่ๆ) เลยชอบเดินหาร้านแปลกๆ ครับ มันสนุกมากเลยนะครับ บางร้านเข้าไปแบบงงๆ เห็นมันเขียนป้ายราคา 150 เยน ด้วยความตื่นตากับป้ายเราเลยพุ่งทะยานเข้าไป
ในร้านบรรยากาศเงียบๆ แล้วมีคุณลุงหน้าตาใจดีมารับออร์เดอร์ คือ150 นี่เป็นราคาน้ำชาถ้วยเล็ก (คือโคตรแพง แก้วเท่าที่บางร้านให้กดฟรี) แต่ราคาข้าวจะถูกลงมาหน่อย ประมาณว่าต้องกินคู่กัน แล้วพอเฉลี่ยมันจะถูก หรือถ้าเราจะทำตัวเองให้ลำบากโดยการสั่งข้าวอย่างเดียว แล้วออกมาหาตู้กดน้ำหลังกินเสร็จก็ได้ แต่จะดูขี้งกไปนะฮะ (ฮ่าๆ)
คือที่ยกมาพูดนี่ไม่ใช่อะไรครับ ผมคิดว่าต่อให้ราคาเท่ากัน แต่ได้อะไรที่ไม่แมส ได้คุณลุงใจดีมาพยายามคุยด้วย มีมิตรภาพ อะไรแบบนี้มันเป็นญี่ปุ่นมากกว่าไปร้านดังแล้วถ่ายรูปลงเฟสบุ๊คเยอะเลยครับ
ย้ำอีกครั้งว่าไปญี่ปุ่น คิดแค่คร่าวๆ ครับ เราอยากทำอะไร เราจะติดต่อขอความช่วยเหลืออย่างไร แต่อย่าลงดีเทลเยอะมากครับ ด้วยสัญชาตญาณ เราบริหารจัดการเงินกันจนไม่หมดในญี่ปุ่นได้แน่ๆ อยู่แล้ว ไปเที่ยวให้สนุกครับ อย่ากังวลไปเลย
เกริ่นมาซะยืดยาว ไม่รู้ว่านอกเรื่องรึเปล่านะครับ 555 โอเค ตอนนี้ผมจะมาแนะนำร้านอาหาร หรือบาร์ย่อมๆ สำหรับผู้ที่งบน้อย หรืองบเยอะแต่อย่างลองบรรยากาศของร้านแนวนี้ดู ร้านนี้ผมขอเรียกง่ายๆ ตามประสาคนไทยว่า 270 Izakaya ครับ
จุดเด่นของที่นี่คือ (เกือบ) ทุกอย่างขายที่ 270 เยน!!! คือมีเบียร์ (คือบางยี่ห้อจะ 270 เยน แต่ยี่ห้อแพงๆ หน่อยก็จะแพงขึ้นไป อย่างช่วงที่ผมไปล่าสุดเป็น Asahi Super Dry)
พวกอาหารก็หลากหลายครับ ถ้าไม่ซีเรียสอะไรมาก 1,000 เยน นี้เอาอยู่เลย เทียบกะฟีลลิ่งและสไตล์อาหารถือว่าดูดีกว่าการไปหาอาหารคอมบินิมาบวกกับน้ำตู้กดแล้วนั่งกินในโรงแรมเยอะเลยในราคาพอๆ กันครับ น่าสนใจใช่มั๊ยล่ะ !
บรรยากาศก็จะครึ้มๆ หน่อยครับ ข้อเสียคือทุกโต๊ะสูบบุหรี่ได้ ดังนั้นมันจะรมควันนิดหนึ่งนะครับ (แต่ยังน้อยกว่าจุดสูบบุหรี่ข้างๆ ฮาจิโกะในชิบูย่า อันนั้นเคยพาตัวเองเข้าไปพิสูจน์แบบงงๆ ยืนเฉยๆ นะฮะ สูบไม่เป็น ต้องบอกเลยว่าโคตรทรมาน พี่ๆ ที่อยู่ในห้องสูบบุหรี่นั้นจิตใจทำด้วยอะไร!!!)
สังเกตเมนูจากภาพด้านบนครับ อาหารหน้าตาดีทีเดียว ผมเองมักกินถั่วแระกับเบียร์ 555 สำหรับร้านนี้นั้น ทางเว็บแนะนำร้านอาหารของญี่ปุ่นได้ตั้งราคาเฉลี่ยสำหรับการกินอิ่มไว้ที่ 2,000 เยน (หกร้อยบาท) เปรียบกับการกินราเม็งห้องสอบ 2 ชามแหละ แต่เราไม่ต้องมาแข่งกับเวลา ไม่มีคนคอยต่อคิว คือชิลมากกก
จากภาพนี้ เราจะเห็นแทปเล็ตนะฮะ นั่นคือที่ที่เราจะสั่งอาหาร เปรียบไปก็คล้ายๆ MK ปัจจุบันในบ้านเรานั่นเอง สะดวกสบายไม่เบาครับ ที่โอเคอย่างนึงคือพนักงานเ เป็นกันเองและใจดีมากกก บางคนหน้าตาน่ารักด้วยล่ะ (บอกทำไม)
บางทีคนเยอะแกจะเข้ามาขอโทษอย่างหนักหน่วง ประมาณว่า “ขอโทษนะค๊าาาาาา ถั่วแระยังไม่พร้อม รออีกนิดนะคะะะะะ กินตอนหิวๆ พร้อมเบียร์อาจจะอร่อยขึ้นนะ” (ยิ้มหวาน) จากนั้นเราเลยสั่งเบียร์เพิ่มทันที อืม…
ดูเมนูกันดีกว่า จะเห็นว่ามีราคาหลากหลายครับ แต่ลองดูแต่ละวันละกัน เพราะมักมีโปรโมชั่นให้เราได้สิทธิประโยชน์อยู่เสมอครับ ย้ำอีกครั้งว่ารสชาติอาหารไม่เลวเลย ใช้เป็นที่นัดพบของผองเพื่อนได้เลยนะครับ
สำหรับที่ตั้งของร้าน Kin No Kura 270 เยนนั้น จะมีอยู่ทั่วทุกหนแห่งกลางใจเมืองครับ สถานที่อย่าง อากิบะ ชิบูย่า ฮาราจุกุ ฯลฯ เรียกว่าลงสถานีไหนก็หาเจอได้ไม่ยาก ให้สังเกตดูตามป้ายตึกครับ ร้านนี้ชอบอยู่ในซอกๆ ชั้นบนๆ บางทีลองแหงนหน้าดูก็จะเจอร้านอยู่ กดลิฟต์ขึ้นไปได้เลย
สังเกตป้ายแบบนี้นะครับ เจอที่ไหนก็พุ่งไปได้เลย ร้านเขาจะใช้แบบฟอร์มเดียวกันทั้งหมด พนักงานจะพาท่านไปยังโต๊ะเอง รับรองไม่ผิดหวังครับ
จริงๆแล้ว 270 เยน ยังไม่รวมภาษีนะครับ แต่ก็ไม่ได้แพงอะไรมาก นอกจากนี้ยังมีร้านในเครืออย่าง 280, 290 เยนอีก ซึ่งอาหารก็จะแตกต่างกันไปไม่มาก ถ้าเจอป้ายลักษณะนี้ก็มั่นใจได้ว่าเจ้าเดียวกันครับ
นี้ก็เป็นอีกทางเลือกนึงสำหรับคนที่หาของกินถูกและดีในโตเกียวครับ หากใครเคยลองแล้วก็มาแลกเปลี่ยนความรู้สึกกันได้นะครับ ชอบไม่ชอบอย่างไร ผู้ที่ยังไม่เคยสัมผัสจะได้มีข้อมูลไว้ตัดสินใจครับ
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าหรือทางทวิตเตอร์ @pumiiiiiiiiii ครับ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– สุดยอดเรียวกังที่ออนเซ็นมองเห็นฟูจิตัวเป้งๆ ในคาวากูชิโกะ (ตอนที่ 2)
– โตเกียวที่รัก ② สเก็ตน้ำแข็ง
– ความสุดยอดของคิทแคทญี่ปุ่นที่คุณยังไม่รู้
– เที่ยวญี่ปุ่นชิลๆ เส้นทางใหม่ Gunma – Niigata – Saitama ตอนที่ 1
– Ito Yokado ห้างที่มีแต่ของถูก ขนมอร่อย แบรนด์ร้านสะดวกซื้อเซเว่นฯ