Marumura Travel : วางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง :
  • Home
  • Kyoto
  • Tohoku
Marumura Travel : วางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง :
Marumura Travel : วางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง :
  • Home
  • Kyoto
  • Tohoku
  • เที่ยวมิยางิ Miyagi

เที่ยวมิยางิ ตอนที่ 2 : เรียนรู้จากอดีต ก้าวไปสู่ข้างหน้า

  • 28/03/2019
  • 1 minute read
  • marumura

เป็นที่รู้กันว่าเมื่อปี 11 มี.ค. 2011 มิยางิเป็น 1 ในจังหวัดของภูมิภาค Tohoku ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติสึนามีที่สร้างความเสียหาย โดยเฉพาะการเที่ยวมิยางิ…

บทความโดย : ทีมงาน www.marumura.com

เป็นที่รู้กันว่าเมื่อปี 11 มีนาคม 2011 จังหวัดมิยางิ (Miyagi) เป็น 1 ในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติสึนามีที่สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ในแถบชายฝั่งของภูมิภาคโทโฮขุเป็นอย่างมาก

ถึงแม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะสร้างความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง แต่ด้วยกำลังใจอันแข็งแกร่งของคนที่ในพื้นที่ ผ่านจากวันนั้นมาเป็นเวลา 8 ปีเต็ม จังหวัดมิยางิในวันนี้ได้รับการฟื้นฟูจนแทบจะเรียกได้ว่าเกือบจะสมบูรณ์ พื้นที่ส่วนใหญ่ได้ถูกบูรณะให้กลับคืนสู่สภาพเดิม บางพื้นที่ก็เก็บรักษาไว้เป็นอนุสรณ์ให้เป็นที่เตือนใจและให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และร่วมรับรู้กับมหันตภัยธรรมชาติที่เคยเกิดขึ้น เพื่อคอยระแวดระวังหากในอนาคตเกิดภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงขึ้นอีก จะได้เตรียมตัวป้องกันให้เกิดความสูญเสียให้น้อยที่สุด

เรามาตามไปดูกันต่อว่ามิยางิในวันนี้ วันที่ฟื้นคืนกลับมาแล้ว เป็นอย่างไรกันบ้าง

ที่เมือง Ishinomaki ในจังหวัดมิยางิ เป็นบ้านเกิดของอาจารย์โชทาโร่ อิชิโนะโมริ (Shotaro Ishinomori) นักเขียนการ์ตูนแนวแอ็กชั่นปนวิทยาศาสตร์ผู้ให้กำเนิดสร้างสรรค์เหล่าฮีโร่แปลงร่าง ผลงานเด่นๆ อาทิเช่น มังงะอันโด่งดังเรื่อง Cyborg 009, ซีรี่ย์โทคุซัทสึ ไอ้มดแดงคาเมนไรเดอร์ ที่พัฒนามาจากมังงะ Skullman, Ganbare Robocon, และขบวนการห้าสีซูปเปอร์เซนไตเรื่องแรกๆ อย่าง Himitsu Sentai Goranger หรือ ขบวนการ 5 จอมพิฆาต โกเรนเจอร์

เที่ยวมิยางิ ตอนที่ 2 : เรียนรู้จากอดีต ก้าวไปสู่ข้างหน้า ณ ภูมิภาค Tohoku

ที่นี่จึงเป็นสถานที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์การ์ตูนอิชิโนโมริ (Ishinomaki Mangattan Museum) สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานเพื่อรำลึกถึงอาจารย์โชทาโร่ อิชิโนะโมริ ปรมารจารย์แห่งวงการการ์ตูนญี่ปุ่น

Ishinomaki Mangattan Museum ได้เปิดตัวขึ้นครั้งแรกในวันที่ 23 กรกฏาคม ปี 2001 ด้วยอาคารรูปทรงไข่คล้ายจานบินยูเอฟโอ ในตัวอาคารมีทั้งส่วนผลงานต้นฉบับมังงะและส่วนแสดงนิทรรศการ

แต่แล้วเมื่อปี 2011 เมืองอิชิโนะมากิ เป็น 1 ในสถานที่ที่ถูกภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิโหมกระหน่ำเข้ามาอย่างหนัก บ้านเมืองเสียหายไปก็มาก แต่พิพิธภัณฑ์ยังคงตั้งตะหง่านต่อสู้กับภัยธรรมชาติจนรอดมาได้

ภายในตัวอาคารมีทั้งหมดสามชั้นแล้วน้ำได้ท่วมถึงชั้นที่สอง มีผู้ประสบภัยส่วนหนึ่งหนีขึ้นอยู่บนชั้นสามแล้วก็รอดปลอดภัย สมกับเป็นอาคารที่เต็มไปด้วยฮีโร่จริงๆ เมื่อมีส่วนที่เสียหายไปอยู่ไม่น้อย Ishinomaki Mangattan Museum ในวันนี้ได้รับการปรับปรุงบูรณะจนกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง โดยไม่ได้ท้ิงร่องรอยของความเสียหายไว้เลย

สำหรับใครที่เป็นแฟนหุ่นกระป๋อง Robocon หรือ Kanmen Rider ถ้ามา Miyagi แล้วคงต้องบอกว่า Ishinomaki Mangattan Museum เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ห้ามพลาด

การเดินทาง : เดินจากสถานี JR Ishinomaki ตรงไปบนถนน Manga Road ประมาณ 12 นาที (1 กม.)

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ราคา 800 เยน, นักเรียนมัธยมราคา 500 เยน, นักเรียนประถมราคา 200 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีไม่เสียค่าใช้จ่าย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> http://www.mangattan.jp/manga/en/open/

จาก Ishinomaki เราข้ามไปยังเมือง Kesennuma ที่เป็นที่ตั้งของ Rias Ark Museum of Art พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และศิลปะร่วมสมัย

ด้วยความที่ตัวพิพิธภัณฑ์ตั้ง อยู่บนเนินเขาจึงทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิในปี 2011 จึงได้ใช้เป็นศูนย์ลี้ภัย และศูนย์กระจายของบรรเทาทุกข์สำหรับประชาชน ทำให้ปัจจุบันมีการจัดนิทรรศการ Documentary of The Great East Japan Earthquake and History of the Tsunami ที่บอกเล่าเรื่องราวของภัยพิบัติที่เกิดขึ้น มีการเก็บรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ที่เสียหายรวมถึงพร้อมภาพถ่ายจากสถานที่จริงเป็นจำนวนมาก

พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมได้วันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 09.30-17.00 น.
ค่าเข้าชมคนละ 500 เยน

การเดินทาง : นั่งรถบัสจาก Kesennuma Station มาลงที่ Rias Ark Museum mae ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> http://rias-ark.sakura.ne.jp/2/

เมือง Kesennuma นี้ตั้งอยู่ริมทะเลและอยู่ใกล้กับบริเวณกระน้ำอุ่นและน้ำเย็นไหลมาบรรจบกัน ทำให้มีปลาชุกชุมเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นปลาทูน่า ปลาดาบ หรือกระทั่งปลาฉลาม

ตลาดปลา Kesennuma (Kesennuma Fish Market) จึงถือได้ว่าเป็นตลาดประมูลปลาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัด Miyagi และยังอนุญาตให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมการประมูลปลาอีกด้วย เวลาที่เหมาะสมของการมาชมประมูลปลาคือช่วงเวลา 06.00 น.- 08.00 น.

แวะพักตาถ่ายภาพวิวทิวทัศน์สวยๆ ที่จุดชมวิวแหลม Karakuwa

การมาเที่ยวญี่ปุ่นนอกเหนือจากการพักโรงแรมหรือเรียวกังแล้ว ยังมีที่พักอีกรูปแบบหนึ่งที่จะพบได้ในย่านชนบทของญี่ปุ่นเท่านั้น เป็นลักษณะกึ่งๆ โรงแรม กึ่งๆ บ้านของคนญี่ปุ่น ซึ่งคนญี่ปุ่นจะเรียกที่พักแบบนี้ว่า Minshuku

Minshuku จะเป็นที่พักที่บริหารจัดการโดยครอบครัวคนญี่ปุ่น แต่ละแห่งมีห้องพักไม่มาก ให้อารมณ์เหมือนเราไปพักบ้านญาติในต่างจังหวัด

คืนนี้เราได้มีโอกาสมาพัก Minshuku แห่งหนึ่งในเมือง Kessenuma บรรยากาศก็เป็นอย่างที่บอกไปข้างต้น เจ้าบ้านต้อนรับดูแลเราเหมือนญาติคนหนึ่ง เข้าบ้านมาก็ชวนพูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ ตกเย็นก็เข้าครัวทำอาหารค่ำมาทานร่วมกัน อาหารที่เจ้าบ้านภูมิใจเสนอเป็นอย่างมากคือ สาหร่ายวากาเมะ เนื่องจากในบริเวณนี้มีการเพาะปลูกสาหร่ายวากาเมะเป็นจำนวนมาก และตัวเจ้าของบ้านเองนอกจากจะเปิดที่พักให้บริการแล้วก็ยังมีการปลูกสาหร่ายวากาเมะเป็นอาชีพหลักอีกด้วย

อาหารค่ำฝีมือเจ้าของบ้าน

สาหร่ายวากาเมะสดจะเป็นสีน้ำตาล

แต่เมื่อนำมาผ่านความร้อนจะกลายเป็นสีเขียว

ชุดอาหารเช้าฝีมือเจ้าบ้านเช่นกัน

เจ้าบ้านผู้ใจดีและอารมณ์ดีตลอดเวลา

สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> http://moriyasuisan.com

ตื่นเช้ามาพร้อมบอกลาเมือง Kessenuma มุ่งหน้าสู่เมือง Minamisanriku

ที่นี่มีตลาดท้องถิ่นที่มีชื่อว่า Minamisanriku Sun Sun Shopping Village (南三陸さんさん商店街) ถูกสร้างขึ้นโดยการรวบรวมชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สีนามิใหญ่ มาร่วมกันพัฒนาให้เป็นแหล่งซื้อขายอาหารทะเลสดๆ และของฝากของที่ระลึก

ที่ตลาดท้องถิ่นแห่งนี้ มีของฝากมากมายที่ผลิตในเมือง และแน่นอนที่สุดคือร้านอาหารทะเลที่ใช้วัตถุดิบสดๆ จากในท้องถิ่น เป็นหนึ่งจุดดึงดูดของที่นี่ทำให้ตลาดแห่งนี้มีผู้มาเยือนมากมายทั้งนักท่องเที่ยวรวมถึงคนญี่ปุ่นด้วยกันเอง

การเดินทาง : หากไปด้วยนั่งรถไฟสาย JR Kesennuma Line ลงที่สถานี Yanaizu แล้วเดินทางต่อรถบัสด่วน BRT ไปลงที่ป้าย BRT Shizugawa Station บริเวณหน้าตลาด หากมาจากเซนได้ สามารถนั่งรถบัสคันที่มุ่งไปยัง Minami-Sanriku และไปลงที่ป้าย BRT Shizugawa Station ได้โดยตรงเช่นกัน

เวลาเปิด-ปิด : 9:00 น.- 17:00 น.

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> https://www.m-kankou.jp/english/project/minamisanriku-sun-sun-shopping-village/

ใครที่มายัง Minamisanriku คงจะได้เห็นภาพของโมอาย (Moai) รูปปั้นหินแกะสลักที่ปรากฏเป็นรูปปั้นหรือแม้แต่ไปปรากฏภาพอยู่ในของที่ระลึกต่างๆ ของเมือง Minamisanriku

แล้วเมือง Minamisanriku เกี่ยวข้องอะไรกับโมอาย?

โมอาย (Moai) เป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพระหว่างชาวเมือง Minamisanriku และประเทศชิลี เนื่องจากในปีค.ศ.1960 ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศชิลีส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามีพัดข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกมาถึงเมือง Minamisanriku ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง ชาวเมือง Minamisanriku จึงได้ร้องขอรูปปั้นโมอายจากทางชิลีเพื่อเก็บไว้ระลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่แล้วเมื่อปี 2011 สึนามิได้พัดเข้าสู่เมือง Minamisanriku อีกครั้งทำให้รูปปั้นโมอายทั้งหมดได้รับความเสียหาย จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ชาวชิลีได้รับทราบข่าวที่เกิดขึ้นจึงได้ส่งรูปปั้นโมอายมาให้กับทางเมืองอีกครั้ง รูปปั้นโมอายแห่ง Minimisanriku จึงเปรียบเสมือนตัวแทนแห่งความทรงจำและมิตรภาพของชาวเมือง

โมอายสัญลักษณ์และมิตรภาพของชาวเมือง Minamisanriku และชาวชิลี

อย่างที่เล่าไปว่าชายทะเลแถบนี้เป็นแหล่งเพาะปลูกสำคัญของสาหร่ายวากาเมะ แวะตลาดเสร็จเราเลยหาโอกาสไปล่องเรือดูจุดที่ปลูกสาหร่ายวากาเมะกันดีกว่า

เรือที่ล่องก็เป็นเรือของชาวประมงในพื้นที่ ในท้องทะเลบริเวณนี้นอกเหนือจากปลูกสาหร่ายวากาเมะแล้วยังเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงหอยนางรมอีกด้วย โดยจะสลับหมุนเวียนกันไปตามฤดูกาล

เรือประมงที่จะใช้ไปดูจุดที่ปลูกสาหร่ายกัน

ชาวบ้านอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มต้อนรับนักท่องเที่ยว

ทุ่นปลูกสาหร่ายวากาเมะ ลอยอยู่เต็มอ่าว

สาหร่ายวากาเมะสดๆ

ตัดขึ้นมาจะเป็นแบบนี้

ล่องเรือเสร็จก็ถึงเวลากลับเข้าสู่เมืองเซนได ระหว่างทางได้มีโอกาสแวะเยี่ยมชม Arahama Elementary School (โรงเรียนประถมศึกษาอะระฮะมะ) ซึ่งเป็นอีกสถานที่ที่ถูกคลื่นสึนามิบุกเข้าทำร้าย

ในวันเกิดเหตุโรงเรียนประถมศึกษาอะระฮะมะนี้สามารถช่วยเหลือเป็นที่หลบภัยให้กับเด็ก ครูและประชาชนกว่า 320 คน จนทีมกู้ภัยได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือนำออกจากพื้นที่ได้อย่างปลอดภัยทุกคน

ทุกวันนี้จึงได้มีการเปิดอาคารโรงเรียนให้ชมซากโครงสร้างของอาคารที่ได้รับความเสียหาย เพื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับสีนามิให้กับคนรุ่นต่อไป

Arahama Elementary School

ระดับน้ำท่วมจนถึงชั้น 2 ของอาคาร

ห้องเรียนในชั้น 1 ถูกน้ำท่วมจนมิด

บริเวณชั้น 2 ของอาคารเรียน สังเกตรอยคราบน้ำที่ยังคงอยู่บนตู้

ผ้าที่นักเรียนใช้จัดนิทรรศการก่อนเกิดเหตุสึนามิ ได้ถูกช่วยสร้างความอบอุ่นระหว่างรอรับความช่วยเหลือ

ดาดฟ้าอาคารจุดที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำเฮลิคอปเตอร์มารับผู้ประสบภัย

ภาพของคลื่นสึนามิที่พัดเข้าสู่สนามบินเซนไดคงเป็นภาพที่อยู่ในความทรงจำของหลายคน ในบริเวณไม่ห่างจากสนามบินเซนได ได้มีการสร้างอนุสรณ์สถาน Millennium Hope Hills เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกับพัฒนาให้เป็นศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับสึนามิโดยความร่วมมือจากภาครัฐและประชาชนทั่วไป นอกจากสร้างเป็นอนุสรณ์แล้วยังมีการสร้างจุดหลบภัยสึนามิที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในภายภาคหน้า

วันนี้มิยางิได้ตื่นขึ้นจากฝันร้าย และก้าวเดินต่อไปข้างหน้าด้วยพลังใจที่เต็มเปี่ยม พร้อมเปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือนอีกครั้ง

ติดตามข่าวสารเรื่องการท่องเที่ยวในจังหวัดมิยางิ เพิ่มเติมได้ที่ >> https://bosaikanko.jp/

บทความโดย : ทีมงาน www.marumura.com

เรื่องแนะนำ :
– เที่ยวมิยางิ ตอนที่ 1 : เที่ยววัดพันปี ล่องอ่าว Matsushima

#เที่ยวมิยางิ #Tohoku

Tags :
  • Arahama Elementary School
  • Around Tohoku
  • Documentary of The Great East Japan Earthquake and History of the Tsunami
  • Ishinomaki
  • Ishinomaki Mangattan Museum
  • Karakuwa
  • Kesennuma
  • Kesennuma Fish Market
  • Millennium Hope Hills
  • Minamisanriku Sun Sun Shopping Village
  • Rias Ark Museum of Art
  • ข้อมูลเที่ยวญี่ปุ่น
  • รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น
  • วางแผนเที่ยวญี่ปุ่น
  • สาหร่ายญี่ปุ่น
  • สาหร่ายวากาเมะ Wakame
  • เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
  • เที่ยวมิยางิ Miyagi
  • เที่ยวเซนได Sendai
  • เที่ยวโทโฮขุ Tohoku
marumura

Previous Article
  • เที่ยวคานางาวะ Kanagawa

สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น – อเมริกาที่โยโกสุกะ (Yokosuka)

  • 27/03/2019
  • marumura
View Post
Next Article
  • เที่ยวเฮียวโงะ Hyogo

“Himeji Tourist Pass” พาสรถไฟสุดคุ้ม!

  • 29/03/2019
  • marumura
View Post
Trending Post
  • ประกาศแล้ว Rally Japan 2023! สนุกสนานไปกับการแข่งขันสุดเร้าใจ พร้อมเพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยว
  • 3 จุดชมดอกไม้ ในฤดูใบไม้ผลิของจังหวัดไอจิ (Aichi)
  • โรงแรมสัญชาติไทยเตรียมเปิดตัวที่โอซาก้า
  • 5 พิพิธภัณฑ์ที่สายแฟชั่นต้องห้ามพลาด!
  • ญี่ปุ่นเริ่มประกาศพยากรณ์ซากุระบาน​ 2023
Recent Posts
  • ญี่ปุ่นวางขายเบาะรองนั่งแบบ 2 in 1 เป็นได้ทั้งเบาะและชุดเดรส !
    ญี่ปุ่นวางขายเบาะรองนั่งแบบ 2 in 1 เป็นได้ทั้งเบาะและชุดเดรส !
    • 29.01.23
  • มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (52) คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ): สี่ สิ่งที่เรียกว่ากดหัวนอน
    มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (52) คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ): สี่ สิ่งที่เรียกว่ากดหัวนอน
    • 28.01.23
  • ชาวญี่ปุ่นยังอยากใส่หน้ากากต่อไปแม้โควิดจะถูกลดระดับลงแล้วก็ตาม
    ชาวญี่ปุ่นยังอยากใส่หน้ากากต่อไปแม้โควิดจะถูกลดระดับลงแล้วก็ตาม
    • 28.01.23
  • กิจกรรมร่วมสนุกกับ 4 เมืองในคิวชู (Fukuoka, Kitakyushu, Hita, Sasebo)
    กิจกรรมร่วมสนุกกับ 4 เมืองในคิวชู (Fukuoka, Kitakyushu, Hita, Sasebo)
    • 27.01.23
  • แบบสำรวจพบว่าชาวต่างชาติที่อาศัยในญี่ปุ่นรู้สึกไม่ดีกับกลิ่นปากของคนญี่ปุ่น
    แบบสำรวจพบว่าชาวต่างชาติที่อาศัยในญี่ปุ่นรู้สึกไม่ดีกับกลิ่นปากของคนญี่ปุ่น
    • 27.01.23
Pick up
  • เที่ยวจังหวัดชิงะ (Shiga) ดินแดนแห่งเมืองปราสาท
  • Hotel New Otani เปิดห้องพักธีม Kimetsu no Yaiba
  • ขับรถเหนือใต้ออกตก Mission Shin-Kamigoto ตอนที่ 5 : รูปปั้นเรียวมะภาวนา
  • มองมรดกโลกญี่ปุ่น
  • The Ancient Orient Museum ผจญภัยไปในโลกอารยธรรมโบราณที่พิพิธภัณฑ์สำหรับเด็กที่โตเกียว

⭕ คูปองส่วนลดร้านดองกิ

⭕ ดูดวงรายปี 2566

⭕ วันหยุดราชการญี่ปุ่น ประจำปี 2023

Social Links
Facebook
Twitter
Instagram
YouTube

Copyright © 2020 Marumura Co.,Ltd. All Rights Reserved

Input your search keywords and press Enter.