เที่ยวคาโกชิม่า : ลึกแต่ไม่ลับกับญี่ปุ่นแดนใต้ ตอนที่ 2…เมื่อมาถึงบริเวณน้ำตกก็นับว่าคุ้มค่ากับเหงื่อที่เสียไป น้ำตกแห่งนี้เพิ่งเริ่มเป็นที่รู้จักไม่นาน เพราะมีภาพไปปรากฏในฉากๆ หนึ่งของซีรีส์ญี่ปุ่น ด้วยความงามทำให้นักท่องเที่ยวต่างก็อยากได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง
เช้าวันสุดท้ายในคาโกชิม่า เราขอเปลี่ยนบรรยากาศไปนั่งเรือท้องกระจกดูชีวิตใต้ท้องทะเลกันบ้าง
เรือ Sata-Day Go พาเราออกนอกชายฝั่งไปยังแนวปะการังน้ำตื้น ซึ่งจะได้เห็นสิ่งมีชีวิตใต้น้ำทั้งปลาเล็กปลาน้อยหลากหลายชนิด รวมถึงเต่าทะเลที่โผล่มาทักทายเป็นระยะๆ
ที่นั่งในเรือเป็นแถวเรียงหนึ่ง ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ซีมซับกับบรรยากาศใต้ท้องทะเล
นอกจากทิวทัศน์ในโลกใต้น้ำจะน่าตื่นตาตื่นใจแล้ว ขึ้นมาด้านบนวิวทิศทัศน์ของท้องทะเลก็สวยงามไม่แพ้กัน
ขึ้นมาถ่ายวิวด้านบนของเรือบ้าง
ลงไปเที่ยวธรรมชาติใต้ทะเลแล้วมาขึ้นชมธรรมชาติบนเขาบ้างที่ Kirishima-Kinkowan National Park Cape Sata จุดหมายปลายทางคือจุดชมวิวของ Cape Sata ที่ถือว่าเป็นจุดใต้สุดของญี่ปุ่น
เมื่อเดินลอดใต้อุโมงค์ไปอีกด้านจะเหมือนกับหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่ง
ทางเดินบริเวณนี้ยังไม่ได้พัฒนามากทำให้ต้องเดินไปคอยระมัดระวังไป ทำให้ไม่ค่อยได้มีโอกาสเก็บภาพบรรยากาศโดยรอบนัก เดินไปสักพักจะพบกับศาลเจ้า Misaki Shrine ศาลเจ้าเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปีค.ศ. 708 เห็นแล้วก็ถึงในความสามารถของคนเมื่อพันกว่าปีก่อนที่สามารถขนอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือขึ้นมาสร้างศาลเจ้าบนนี้ได้ เพราะขนาดเราเดินตัวเปล่ายังเหนื่อยไม่ใช่เล่น
ดูจากลักษณะโครงสร้างของตัวศาลเจ้าถึงแม้จะดูเรียบง่ายแต่ก็บ่งบอกถึงความเก่าแก่และเมื่อมาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ยิ่งดูมีพลังและเพิ่มความขลังเป็นอย่างมาก
แวะกราบไหว้ขอพรเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินต่อจนถึงบริเวณ Cape Sata Observatory จุดชมวิวที่เราสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของ Cape Sata ได้โดยรอบ 360 องศา
จากบนนี้จะมองเห็นประภาคาร Satamizaki ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยเมจิ เมื่อปีค.ศ. 1871 เพื่อไว้สอดส่องป้องกันเรือจากต่างชาติที่อาจจะเข้ามารุกรานประเทศ
ประภาคาร Satamizaki
สำหรับคอปลาดิบมีร้านหนึ่งที่อยากแนะนำ เป็นร้านซูชิด้งท้องถิ่นชื่อดัง ที่เน้นความสดใหม่ของปลา แล่มาชิ้นโตๆ เต็มปากเต็มคำ แถมราคาไม่แรง ร้านนี้ชื่อว่า Tokimi ดูรายละเอียดได้ที่ >> http://satamisaki.com/p_foods/zikai (ภาษาญี่ปุ่น)
เนื้อปลามาชิ้นใหญ่และเยอะมาก วางจนมองไม่เห็นข้าวที่อยู่ด้านล่าง
เราไปปิดทริปนี้กันที่ น้ำตก Ogawa ส่วนตัวถือว่าเป็นสถานที่ที่ประทับใจมากที่สุดในการเดินทางครั้งนี้ การไปเที่ยวชมน้ำตกต้องเดินเท้าเข้าไปเป็นระยะ 1.2 กิโลเมตร ผ่านป่าธรรมชาติ ลำธาร ระหว่างทางเดินที่ค่อนข้างสร้างแบบรบกวนธรรมชาติให้น้อยที่สุด บางช่วงชันบ้างลาดบ้าง ทำให้ระยะทาง 1.2 กิโลเมตรถึงแม้พอจะเรียกเหงื่อได้บ้าง แต่ก็ดูไม่ไกลเลย เพราะมัวแต่สนใจธรรมชาติรอบข้างตลอดเส้นทาง
นกออกมาดักจับปลา บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ได้เป็นอย่างดี
น้ำในลำธารใสสะอาดมาก
และเมื่อมาถึงบริเวณน้ำตกก็นับว่าคุ้มค่ากับเหงื่อที่เสียไป น้ำตกแห่งนี้เพิ่งเริ่มเป็นที่รู้จักไม่นาน เพราะมีภาพไปปรากฏในฉากๆ หนึ่งของซีรีส์ญี่ปุ่น ด้วยความงามทำให้นักท่องเที่ยวต่างก็อยากได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง และตอนนี้กำลังได้รับการโปรโมทให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ฉะนั้นใครอยากมาชมความงามของน้ำตกในช่วงที่คนยังไม่พลุกพล่านมาก ก็ต้องรีบวางแผนกันได้แล้ว
ทริปนี้เราจะวนเวียนอยู่ทางใต้ของจังหวัดคาโกชิม่าเป็นหลัก ยังไม่ได้ข้ามไปส่วนอื่นๆ ของตัวจังหวัดเลย ไว้โอกาสหน้าถ้ามีโอกาสมาคาโกชิม่าอีกครั้ง จะเก็บบรรยากาศส่วนอื่นๆ ของคาโกชิม่ามาฝากกันใหม่นะครับ
เรื่องแนะนำ :
– เที่ยวคาโกชิม่า : เยือน Ibusuki ใต้สุดแดนญี่ปุ่น
– เที่ยวคาโกชิม่า : เยือน Ibusuki ใต้สุดแดนญี่ปุ่น ตอนที่ 2
– เที่ยวคาโกชิม่า : ลึกแต่ไม่ลับกับญี่ปุ่นแดนใต้ ตอนที่ 1
#Kagoshima #คาโกชิม่า #Kyushu