ฝันไว้ว่า..อยากไปเห็นเทศกาลเจ๋งๆ ของญี่ปุ่น กะตาตัวเองสักครั้ง โดยเฉพาะ Takayama Matsuri ว่ากันว่างานนี้ดังมากกกกก ใครที่อยากชมงานเทศกาลในญี่ปุ่น แต่ไม่รู้จักเทศกาลนี้ ถือว่ายัง ‘เชย’ ไม่พอ
เป็นคนชอบวัฒนธรรมเก่าๆ แบบญี่ปุ่นๆ เคยบินไปดูมาด้วยตาตัวเองมาก็หลายครั้ง แต่ยังไม่เค้ย ไม่เคยได้ไปช่วงเทศกาลไหนๆ ของญี่ปุ่นเลยสักที (ขอไม่รวมเทศกาลชมดอกซากุระกับชมใบไม้เปลี่ยนสีก็แล้วกันนะ ฮะ ฮะ)
ฝันไว้ว่า..อยากไปเห็นเทศกาลเจ๋งๆ ของญี่ปุ่น กะตาตัวเองสักครั้ง โดยเฉพาะ Takayama Matsuri ว่ากันว่างานนี้ดังมากกกกก ใครที่อยากชมงานเทศกาลในญี่ปุ่น แต่ไม่รู้จักเทศกาลนี้ ถือว่ายัง ‘เชย’ ไม่พอ
เมืองทาคายาม่าเป็นเมืองขนาดกะทัดรัด ที่เก่าแก่และรุ่งเรืองมากในช่วงเดียวกับที่เกียวโตเจริญรุ่งเรือง ปัจจุบันตั้งอยู่ในจังหวัดกิฟุ ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งช่างศิลป์ โดยเฉพาะเป็นแหล่งช่างไม้ฝีมือชั้นยอด
สมัยก่อนนั้นงานก่อสร้างที่ต้องการงานประณีตศิลป์ก็ต้องใช้ช่างฝีมือดีจากที่นี่ทั้งนั้น ซึ่งมักจะต้องจำใจทำ เพราะสมัยก่อนหากไม่มีผลผลิตทางการเกษตรมาจ่ายเป็นภาษีเข้าหลวง ก็ต้องเอาตัวเข้าแลก หรือไปใช้แรงงานแทนนั่นเอง (มีฝีมือดี เหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน) ดังนั้นทั้งวังอิมพีเรียลที่เกียวโต หรือวัดวาอารามต่างๆ ทั้งในเกียวโตและนาราที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันนั้น ก็มีฝีมือของช่างชาวทาคายาม่าอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
เคยไปเยี่ยมเยือนเมืองนี้มา 2 – 3 ครั้ง ประทับใจทุกครั้งที่ได้ไป ได้บรรยากาศแบบต่างจังหวัด อากาศดี แวดล้อมด้วยภูเขา มีทั้งความสะดวกสบาย เช่น การคมนาคม หากใครอยากมาเที่ยวเมืองนี้ นั่งรถไฟ JR มาลงที่สถานีทาคายาม่าได้ ก็ชิวได้แล้ว เพราะออกมาก็เจอ Tourist Info. เคาน์เตอร์ที่มีทั้งพนักงาน เอกสาร และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์กับนักเดินทางกับอย่างเราๆ มากมาย
นอกจากนี้ยังมีส่วนเมืองเก่าที่อนุรักษ์เอาไว้ให้ชาวเมืองได้ภูมิใจ นักท่องเที่ยวก็ได้ชื่นชม เดินไปมุมไหน ซอกไหนก็น่าสนใจ ถึงจะเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็อยากรู้อยากเห็นได้ตลอด…
หลายคนอาจจะมองทาคายาม่า เป็นแค่เมืองทางผ่าน เพราะหากจะไปหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาว่า หรือเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น เส้นทางที่จะไป ส่วนใหญ่ก็มักจะผ่านเมืองนี้ก่อน แต่ยังไงซะทาคายาม่าก็มีดีพอที่จะทำให้นักเดินทางรู้สึกได้ว่า ถ้าไม่แวะมาแล้วจะเสียใจ T_T เพราะที่นี่ไม่ได้ควรค่าเพียงแค่การเดินชมเมืองเก่า เพลิดเพลินบรรยากาศเลียบฝั่งแม่น้ำที่ไหลผ่านตัวเมือง ชิมขนม หรือแวะซื้อของฝากเท่านั้น ยังมีเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ ติดอันดับ 1 ใน 3 งานเทศกาลสุดอลังการณ์ของชาวญี่ปุ่นเลยทีเดียว นั่นคือ Takayama Matsuri ซึ่งจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง ในฤดูใบไม้ผลิจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 15 เม.ย. ของทุกปี เรียกว่า Sanno Matsuri (Takayama Spring Festival) ส่วนในฤดูใบไม้ร่วงระหว่างวันที่ 9 – 10 ต.ค. ของทุกปี จะมีเทศกาลที่เรียกว่า Hachiman Matsuri (Takayama Autumn Festival)
ทั้งสองงานนี้มีความแตกต่างกันไม่มากนัก จุดเด่นของงานก็คือรถโบราณที่เข้าร่วมขบวนแห่ หรือที่เรียกว่า “Yatai” ซึ่งมีทั้งหมด 25 องค์ แต่ละองค์มีความเป็นมานับร้อยปี
ตอนเช้าวันแรกของงานเทศกาลก็จะมีพิธีกรรมทางศาสนาที่ศาลเจ้าก่อนที่จะเริ่มขบวนแห่ (ถ้าอากาศไม่ดี จะไม่เคลื่อน Yatai ออกจากโรงเก็บ)
นอกจากนี้ก็ยังมีขบวนแห่ตอนค่ำด้วยซึ่งจะประดับประดาไฟไว้อย่างสวยงามกลมกลืนไปกับ Yatai ส่วนวันที่สองก็จะมีการแห่ Mikoshi หรือศาลเจ้าเคลื่อนด้วย เพื่ออัญเชิญเทพประจำศาลเจ้าไปเยี่ยมเยือนบ้านเรือนของชาวบ้านให้เป็นศิริมงคลกับผู้อยู่อาศัย และงานเทศกาลจะจบลงหลังพิธีกรรมทางศาสนาที่ศาลเจ้าอีกครั้ง ซึ่งการกระทำทั้งหมดนี้ ก็เพื่อเป็นการบูชาเทพเจ้าทั้งสิ้น
Sanno Matsuri เป็นเสมือนสัญลักษณ์แห่งฤดูใบไม้ผลิของชาวทาคายาม่า ทำให้เกิดความกระตือรือร้น พร้อมสำหรับการเพาะปลูก งานนี้จัดที่ศาลเจ้า Hei Jinja ผู้ที่อาศัยอยู่ทางใต้ของเมืองเรียกได้ว่าเป็นเจ้าภาพหลัก ต่างก็จะพากันมารวมตัวกันที่ศาลเจ้า แต่งกายด้วยชุดโบราณ มาทำพิธีกรรมตามศาสนาชินโต และพร้อมที่จะมีส่วนร่วมในขบวนแห่
สำหรับ Yatai ใน Sanno Matsuri นั้น จะใช้ทั้งหมด 12 องค์ โดยต้องทำพิธีเลือก Yatai ไว้ก่อนวันงานเทศกาล
ส่วน Hachiman Matsuri นั้นบ่งบอกกาลมาถึงของฤดูใบไม้ร่วง และเตือนให้ชาวบ้านเตรียมตัวสำหรับความหนาวเย็นที่กำลังจะมาถึง คราวนี้ผู้ที่อยู่ทางเหนือของเมืองจะเป็นเจ้าถิ่น เพราะงานนี้จะจัดขึ้นที่ ศาลเจ้า Sakurayama Hachimangu ซึ่งถือเป็นศาลเจ้าประจำเมือง จะมีผู้มาเยี่ยมชมปีละไม่ต่ำกว่า 1 ล้าน 5 แสนคน
และอีกเหตุผลที่น่าจะทำให้มีคนเดินทางมาศาลเจ้าแห่งนี้กันมาก ก็คงเป็นเพราะที่นี่ได้รับอนุญาตให้จัดแสดง Yatai จำนวน 4 องค์จาก 11 องค์ที่ใช้ในงาน Hachiman Matsuri สลับสับเปลี่ยนกันไปตลอดทั้งปี
ชาวเมืองทาคายาม่าให้ความสำคัญกับ Yatai เป็นอย่างมาก ซึ่งทางการได้ประกาศให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งชาติไปแล้วด้วย เชื่อว่าในสมัยก่อน ขุนนางและพ่อค้าผู้ร่ำรวมมักจะแสวงหาความสุขด้วยของสวยๆ งามๆ และงานรื่นเริง ซึ่ง Takayama Matsuri ก็สะท้อนความจริงในแง่นี้ด้วย
เพราะ Yatai ที่อลังการณ์ วิจิตรตระการตา ประดับประดาอย่างละเอียดลออทั้งภายในและภายนอก ใช้ศิลปะหลายแขนง ทั้งงานแกะสลัก งานทอ งานฉลุ เครื่องเขิน งานไม้ รวมถึงการติดตั้ง Karakuri ningyo หรือตุ๊กตากลที่เคลื่อนไหวและเต้นรำได้ไว้ด้วย ก็ต้องใช้งบประมาณมหาศาล แต่ยังไงซะ คนทุกชนชั้นต่างก็ชอบงานเทศกาลอยู่แล้ว^^
เนื่องจาก Yatai แต่ละองค์มีขนาดใหญ่มาก นักท่องเที่ยวที่เดินเล่นชมเมืองอยู่ ก็อาจจะสังเกตเห็นอาคารสูงๆ ที่มีกำแพงสีขาว ที่ดูไม่ค่อยน่าจะเป็นที่พัก หรือบ้านเรือนของชาวบ้านชาวเมืองสักเท่าไร ก็สันนิษฐานได้ว่าอาจจะเป็น Yatai-gura หรือโรงเก็บ Yatai ซึ่งมีกระจายอยู่ทั่วเขตเมืองเก่าก็เป็นได้
ในอดีตทาคายาม่าเคยเกิดเพลิงไหม้รุนแรง Yatai เก่าแก่ได้รับความเสียหายมากมาย จึงทำให้เกิด Yatai-gura ขึ้นมาเป็นสถานที่เก็บอย่างดี เพราะมีโครงสร้างที่แข็งแรง ประตูสูงกว่า 6 เมตร (20 ฟุต) กว้างกว่า 1.3 เมตร (4.3 ฟุต) กำแพงหนากว่า 30 ซ.ม. (12 นิ้ว) เพื่อการันตีความแข็งแรงและความสะดวกในการเข้าออก ทั้งยังใช้ช่างฝีมือหลายแขนงร่วมกันสร้างขึ้นมา จึงมีความน่าสนใจในเชิงช่างอีกด้วย
ชาวทาคายาม่าส่วนใหญ่จะมีส่วนร่วมในงานเทศกาลด้วย ซึ่งเป็นมรดกตกทอดกันจากรุ่นสู่รุ่น ถือเป็นความภาคภูมิใจของตระกูลเลยทีเดียว ทุกปีแต่ละคนก็จะมีบทบาทของตนเอง
ระหว่างที่ขบวนแห่เคลื่อนผ่านแม่น้ำสายเล็กๆ ที่ไหลผ่านกลางใจเมือง มองเห็นแนวซากุระที่กำลังเบ่งบานต้อนรับฤดูใบไม้ผลิอยู่ริมฝั่งน้ำ หรือมองเห็นใบไม้หลากสีสันที่กำลังผลัดใบเตรียมเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง เป็นช่วงเวลาที่ชาวเมืองต่างภาคภูมิใจที่สุด
ในฐานะนักท่องเที่ยว ก็อยากจะไปมีส่วนร่วมใน Takayama Matsuri ดูสักครั้งจังเลย เผื่อจะเข้าถึงอารมณ์กับเขาบ้าง แต่พอไม่ได้ไปในช่วงเทศกาล ก็ต้องไปที่ Yatai Kaikan หรือ Takayama Festival Floats Exhibition Hall บริเวณศาลเจ้า Sakurayama Hachimangu เพื่อดู Yatai ที่นำมาโชว์ในห้องกระจกขนาดใหญ่
หรือไปที่ Art & Festa Forest in Takayama (Takayama Festival Museum) พิพิธภัณฑ์ในโดมใต้ดิน ซึ่งจัดแสดง Yatai 6 คัน ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัย Heisei และกลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ยังไงก็คงเทียบไม่ได้กับการได้ไปเห็นงานเทศกาล Takayama Matsuri ของจริงอยู่ดีนั่นแหล่ะ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– Japan Alps (เทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่น)
– โทโฮขุ (Tohoku) อีสานแห่งญี่ปุ่น
– ไปชมดอกซากุระ (Sakura) ที่ญี่ปุ่น
– วิถีแห่งซากุระญี่ปุ่น (Sakura)
– ชมดอกบ๊วยบานที่ญี่ปุ่น (Ume blossoms)
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก: – http://www.hidanet.ne.jp/e02/ematsuri/ekigen.htm
#Takayama Matsuri