ไปเที่ยวก็ได้ภาษา (ญี่ปุ่น) … อย่างภูเขาไฟฟูจิ คนญี่ปุ่นจะเรียกว่า ฟุจิซัง (Fuji san 富士山) อันนี้ฝรั่งชอบเรียกผิดบ่อยๆ เป็น “ฟุจิยามะ” อาจจะเพราะตัวอักษรคันจิที่ใช้สำหรับคำว่า “ภูเขา” นั้นเขียนเหมือนกันว่า “山” ละมั้ง
ด้วยความที่ชอบเที่ยวญี่ปุ่น แรกๆ เวลาหาข้อมูลท่องเที่ยวหรือเปิดรายการทัวร์ญี่ปุ่นก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย แต่พอเที่ยวไป เที่ยวมา ก็เพิ่งสังเกต..เออ เวลาที่เราไปเที่ยว เราก็ได้เรียนรู้คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวหลายคำเลยเนอะ วันนี้จึงขอนำเสนอคำศัพท์ที่เราพอจะจำได้ แถมบางคำยังมีประโยชน์ช่วยไม่ให้หลงทางมาหลายครั้งแล้วด้วย
เริ่มที่ถนนก่อนเลย..จำเป็นมาก จะหาโรงแรมที่เราจองไว้เจอหรือเปล่า? คำนี้ช่วยได้มากมาย
แต่ว่านะ ที่ญี่ปุ่นมีคำเรียก “ถนน” หลายคำเลย ส่วนตัวแล้วจะคุ้นกับสองคำนี้
ถนน = มะจิ (machi 町) / โทริ (Toori 通り)

2 คำนี้จะพบได้ทั่วไป เลยจำได้แม่นกว่าคำอื่นๆ
ยกตัวอย่างเช่น เวลาไปเที่ยวโอตารุ (Otaru) เมืองสวยในบรรยากาศโรแมนติกใกล้กับซัปโปโรบนเกาะฮอกไกโด ต้องไม่พลาดถนน ซาคาอิ มะจิ (Sakai-machi 堺町) เพราะมีร้านกล่องดนตรี (music box) ของฝากขึ้นชื่อของเมืองนี้ ส่วนคำว่า “โทริ” นั้น เวลาเอาชื่อถนนมาวางไว้ข้างหน้า มักจะออกเสียงว่า “โดริ” เช่น ถนนคนเดินสุดฮิตหน้าวัดเซนโซจิย่านอาซากุสะ ที่มีชื่อว่า นาคามิเสะโดริ (Nakamise-dori 仲見世通り) นั่นเอง
*คำว่า มะจิ บางทีก็แปลว่า “ย่าน” หรือ “ชุมชน” ก็ได้นะ
อ่ะ..แล้วโรงแรมน่ะ อยู่ใกล้สถานีรถไฟอะไรบ้างมั้ย
สถานีรถไฟ = เอคิ (Eki 駅)

อันนี้น่าจะคุ้นเคยกันเป็นที่สุด เพราะถ้าไปญี่ปุ่นแล้วไม่เคยนั่งรถไฟ เรา..ถือว่าไปไม่ถึง หึ หึ
เพราะรถไฟถือเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ดังนั้นจึงมี “เอคิ” อยู่เพียบไปหมด มาดูตัวอย่างในภูมิภาคคันไซกันบ้าง สถานีที่รองรับรถไฟความเร็วสูงชิงกันเซนเป็นหลักที่ชื่อว่า ชินโอซะกะเอคิ (Shin-Osaka Eki 新大阪駅) คงคุ้นหูใครหลายๆ คน
*ลองสังเกตกันดูนิดนึง ถ้าสถานีไหนถ้ามีคำว่า “Shin” หมายถึงสถานีที่สร้างขึ้นใหม่ อย่างที่เมืองโอซะกะนี่ก็มีสถานีเดิม (ซึ่งยังคงให้บริการอยู่) ชื่อว่า โอซะกะเอคิ (Osaka Eki 大阪駅) ด้วยนะ ระวังไปผิดสถานีล่ะ
พักผ่อนพอหายเหนื่อย ตื่นเช้ามาไปสถานที่สำคัญๆ กันซะหน่อย
ปราสาท = ชิโระ (shiro 城)
ปราสาทเก่าแก่แต่สวย ของญี่ปุ่น มีอยู่ทั่วประเทศ แต่ต้องขอยอมรับว่า ฮิเมจิโจ (Himeji-jo 姫路城) ในจังหวัดเฮียวโงะ จังหวัดเดียวกับโกเบ ซึ่งไม่ไกลจากโอซาก้าเท่าไหร่นั้น สวยจริง.. แม้ช่วงนี้จะอยู่ในช่วงบูรณะก็ตาม อ้อ! คำว่า “ชิโระ” พอใส่ชื่อปราสาทไว้ข้างหน้า มักจะกร่อนเหลือแค่ “โจ”
วัด = เทระ หรือ จิ (tera, ji 寺)
สำหรับคำว่า “เทระ” นั้น เวลามีชื่อวัดมาวางไว้ข้างหน้า ก็มักจะออกเสียงว่า “เดระ” อย่างเช่น วัดน้ำใสในจังหวัดเกียวโตที่คนไทยรู้จักกันมานาน มีชื่อญี่ปุ่นว่า คิโยมิซุเดระ (Kiyomizu-dera 清水寺) ส่วนวัดดังในจังหวัดนาระ ที่มีหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ภายในอาคารไม้และลานวัดก็มีกวางเยอะแยะ นั่นชื่อว่า โทไดจิ (Todai-ji 東大寺)
ศาลเจ้า = จินยะ (Jinja 神社) / จิงงู (Jingu 神宮)

อาจจะสับสนกันบ้าง เพราะบางที่ญี่ปุ่นก็เรียกจินจะ บางที่ก็เรียกจิงงู นักท่องเที่ยวอย่างเราก็ได้แต่ จดกับจำเท่านั้น อย่างถ้าเราไปช้อปปิ้งแถวๆ ย่านฮาราจูกุ (Harajuku) ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ JR นัก เราก็จะเห็นทางเข้าศาลเจ้าสำคัญของกรุงโตเกียวแห่งหนึ่งชื่อว่า เมจิ จิงงู (Meiji Jingu 明治神宮) แต่ถ้าใครฮาร์ดคอร์หน่อยอยากไปสักการะศาลเจ้าที่ระลึกวีรชนสงครามของญี่ปุ่นอย่าง ยาซุคุนิ (Yasukuni Jinja 靖国神社) ก็แล้วแต่ เพราะทั้งสองแห่ง เป็นศาลเจ้าเหมือนกัน
ใกล้วัดหรือศาลเจ้าอาจจะมีแม่น้ำ หรือ เกาะ
แม่น้ำ = คาวะ (kawa 川)

เวลาใส่ชื่อของแม่น้ำลงไปข้างหน้า ก็มักจะเพี้ยนเสียงจากคำว่า “คาวะ” เป็น “กาวะ” อย่างแม่น้ำสึมิดะ ที่ใหลผ่านย่านอะซะคึสะ ซึ่งตอนนี้ใกล้ๆ กันมี Tokyo Sky Tree ตั้งเด่นสง่าอยู่ด้วยนั้น จะเรียกกันว่า สึมิดะกาวะ (Sumidagawa 隅田川) หรือแม่น้ำอิซุซุที่ไหลผ่านบริเวณศาลเจ้าอิเสะ ศาลเจ้าสำคัญในจังหวัดมิเอะ ก็เรียกว่า อิซุซุกาวะ (Isuzugawa 五十鈴川) ลงท้ายว่า “กาวะ” เหมือนกันเลย
เกาะ = ชิมะ (shima 島)
เช่นเคย คำว่า “ชิมะ” มักจะเพี้ยนเป็น “จิมะ” เมื่อเอาชื่อของเกาะมาไว้ข้างหน้า และถ้าพูดถึงเกาะดังๆ ก็คงมีชื่อของ อิทซุคุชิมะ (Itsukushima 厳島) ของจังหวัดฮิโรชิมะแน่ๆ อยู่แล้ว เพราะรูปโทริอิสีแดงกลางน้ำ มันโดดเด่น โด่งดังไปทั่วโลกนี่นา
มาเข้าป่าชมภูเขากันมั่ง
ภูเขา = ยามะ หรือ ซัง (yama, san 山)

อย่างภูเขาไฟฟูจิ คนญี่ปุ่นจะเรียกว่า ฟุจิซัง (Fuji san 富士山) อันนี้ฝรั่งชอบเรียกผิดบ่อยๆ เป็น “ฟุจิยามะ” อาจจะเพราะตัวอักษรคันจิที่ใช้สำหรับคำว่า “ภูเขา” นั้นเขียนเหมือนกันว่า “山” ละมั้ง แต่ถ้าเป็นภูเขาทะเทะ ซึ่งอยู่ในจังหวัดโทะยะมะ (Toyama) เวลาใครไปเที่ยวเจแปนแอลป์ต้องได้เห็นเป็นแน่ ที่นั่นจะเรียกกันว่า ทะเทะยามะ (Tateyama 立山) คราวหน้าเวลาไปเที่ยวภูเขาที่ญี่ปุ่นก็ลองสังเกตคำที่เค้าใช้เรียกกันดูนะ^^
เอ้า! ขอส่งท้ายด้วยสนามบินก็แล้วกันนะ
สนามบิน = คูโค (Kuukou 空港)

ที่เก็บไว้รั้งท้าย ก็เพราะคำนี้มักได้ใช้ตอนขากลับ เที่ยวเสร็จจะกลับเมืองไทยแล้ว เวลาซื้อตั๋วรถไฟ หรือสอบถามเส้นทางที่เคาน์เตอร์ของโรงแรมก็มีใช้บ้าง ถึงจะใช้ไม่บ่อย แต่จำไว้ก็ไม่เสียหลาย เช่น สนามบินนาริตะ ก็เรียกกันว่า นาริตะ โคะคุไซ คูโค (Narita Kokusai Kuukou 成田国際空港) แอบใส่คำว่า “โคะคุไซ” นิดนึง มันแปลว่า “international” น่ะ รวมแล้วก็คือ Narita International Airport นั่นเอง
แค่ไม่กี่คำ แต่ร่ายซะยาวเชียว..
เป็นไงบ้าง ศัพท์ท่องเที่ยวเล็กๆ น้อยๆ คุ้นหูกันบ้างมั้ย?
นอกจากคำศัพท์เกี่ยวกับสถานที่พวกนี้จะช่วยเราไม่ให้หลงทางในญี่ปุ่นแล้ว การรวบรวม Collection คำที่ชาวญี่ปุ่นใช้เรียกชื่อสถานที่ต่างๆ นี่ สนุกเหมือนกันนะ
สำหรับเราแล้ว ตอนนี้..เวลาไปเที่ยวที่ไหนในญี่ปุ่น มักจะได้ศัพท์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ดีนะ นอกจากจะได้เที่ยว ได้เจอประสบการณ์ใหม่ๆ ได้ภาพถ่ายเป็นที่ระลึกแล้ว ยังได้เรียนภาษาซะด้วย
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– เที่ยวโตเกียว : Kichijoji & Inokashira Koen
– เที่ยวโตเกียว : AKB48 CAFÉ & SHOP AKIHABARA
– เกาะฮาชิมะ..เกาะเรือรบ อาถรรพ์เมืองบนเกาะร้าง
– โตเกียว สกายทรี (Tokyo Skytree) หอคอยที่สูงที่สุดในโลก
– เที่ยวโอซาก้า : HACOSTADIUM OSAKA
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
en.wikipedia.org/
www.jnto.go.jp
ensen.homes.co.jp
photozou.jp
haikugirl.me
plaza.rakuten.co.jp
#ไปเที่ยวก็ได้ภาษา (ญี่ปุ่น)