ฤดูใบไม้ผลิปีหน้า อยากจะชวนไปเที่ยวเซนได ที่ใครๆ ก็เรียกว่า “Morinomiyako”
เมื่อซากุระผลิบาน กลีบดอกล่องลอยไปกับสายลม ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิ
เมืองเซนได จังหวัดมิยางิ เป็นเมืองที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ แม้แต่ในตัวเมืองก็ชุ่มฉ่ำไปด้วยต้นไม้เขียวขจี จนได้รับการขนานนามว่า “โมริ โนะ มิยาโกะ” (Morinomiyako) หมายถึง เมืองแห่งต้นไม้ ช่วงฤดูใบไม้ผลิ เมืองเซนไดทั้งเมืองก็ถูกแต่งแต้มย้อมสีกลายเป็นสีชมพูด้วยดอกซากุระบานสะพรั่ง ผู้มาเยือนต่างเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพที่สวยงามราวกับภาพวาดสีน้ำที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ความพิเศษของซากุระ ดอกไม้ที่สามารถชื่นชมได้แค่ช่วงเวลาสั้นๆ ในฤดูใบไม้ผลิ คงเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเราต่างหลงใหลในความงามที่คงอยู่เพียงชั่วครู่ ก่อนจะร่วงหล่นไป ไว้สถานการณ์โควิดดีขึ้น สงกรานต์ปีหน้าก็อย่าลืมมาชมซากุระที่เมืองเซนได จังหวัดมิยางิ กันให้ได้นะ
ช่วงเวลาซากุระบานที่เมืองเซนได จังหวัดมิยางิ
เมืองเซนไดอยู่ในภูมิภาคโทโฮคุ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อากาศหนาวจัดในฤดูหนาว แต่เมื่อเข้าสู่เดือนมีนาคม อากาศจะค่อยๆ อบอุ่นขึ้น ฤดูกาลชมซากุระที่โทโฮคุ คือ ช่วงต้นเดือนถึงกลางเดือนเมษายน สำหรับเซนได ซากุระจะบาน ประมาณวันที่ 10 เมษายน ซึ่งตรงกับช่วงสงกรานต์พอดี
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่ซากุระจะบานเร็วช้านั้นขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและสภาพอากาศในแต่ละปี ก่อนมาชมซากุระที่เซนได สามารถเช็คข้อมูลได้ทาง Facebook และ Instagram ของเมืองเซนได
● Instagram เมืองเซนได ●
https://www.instagram.com/discover_sendai/
● Facebook เมืองเซนได ●
Travel to Sendai
https://www.facebook.com/traveltoSendai.Japan
จุดชมซากุระในเมืองเซนไดและรอบๆ
● ปราสาทเซนได (เมืองเซนได)
เซนไดมีสถานที่ชมซากุระขึ้นชื่ออยู่หลายแห่ง หนึ่งในสถานที่แนะนำที่ไม่ควรพลาด คือ การไปชมซากุระที่ปราสาทเซนได สถานที่ท่องเที่ยวอันดับ 1 ของเซนได
เมืองเซนไดมีต้นกำเนิดตั้งแต่เมื่อราว 400 ปีก่อน โดยแม่ทัพนามว่า ดาเตะ มาซามูเนะ เป็นผู้ก่อตั้งเมือง ปราสาทของดาเตะ มาซามูเนะ ก็ตั้งอยู่ในพื้นที่ของปราสาทเซนไดแห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นสวนอาโอบะยามะ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังและแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง
จากตัวปราสาทหลักฮนมารุ จะมองลงมาเห็นเมืองเซนไดทั้งเมือง มองเห็นวิวมุมสูงทอดยาวไปถึงมหาสมุทรแปซิฟิก นอกจากนี้ ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์แบบพาโนรามา 360 องศา ซึ่งเป็นการจำลองภาพของเมืองเซนไดเมื่อ 400 ปีที่แล้ว ด้วยเทคโนโลยี VR
Photo Credit :(公財)仙台観光国際協会
สถานที่แห่งประวัติศาสตร์นี้ ยังมีรูปปั้นขี่ม้าของดาเตะ มาซามูเนะ ซึ่งเป็นรูปปั้นที่มีชื่อเสียงขนาดที่ว่า จะปรากฏอยู่บนโปสเตอร์แผ่นพับของเซนไดทุกครั้ง จนกลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของเซนได

©City of Sendai
ปัจจุบันสวนอาโอบะยามะ เป็นสถานที่ขึ้นชื่อในการมาชมซากุระ ต้นซากุระสีชมพูเรียงราย ความอ่อนโยนของซากุระตัดกับความทรงพลังของรูปปั้นดาเตะ มาซามูเนะ ที่ดูน่าเกรงขาม หากได้ไปเยือน ลองยืนอยู่ท่ามกลางกลีบซากุระสีหวานโปรยปราย ไปพร้อมกับหวนรำลึกถึงประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่
_เวลาทำการ : สวนเปิดตลอดเวลา
_พิพิธภัณฑ์ปราสาทอาโอบะเปิด 9:00-17:00 น. (4 พ.ย. – 31 มี.ค. เปิดถึง 16:00 น.)
_ไม่มีวันหยุด
_ค่าเข้า : พิพิธภัณฑ์ปราสาทอาโอบะ ผู้ใหญ่ 700 เยน นักเรียนมัธยม 500 เยน นักเรียนประถม 300 บาท
_การเดินทาง : นั่งรถบัส Loople Sendai ขึ้นที่สถานีรถไฟ JR Sendai ทางออก Nishiguchi ป้ายรถบัสหมายเลข 16 นั่งไปลงที่ป้าย Site of Sendai Castle
ข้อมูลเพิ่มเติม
https://sendai-travel.jp
เสน่ห์ของเมืองแห่งต้นไม้ “โมริ โนะ มิยาโกะ” คือ มีสถานที่ชมซากุระอยู่ใจกลางเมือง ให้เดินทอดน่องชมเมือง ทอดสายตาไปยังซากุระเรียงราย
● สวนนิชิ (เมืองเซนได)
สวนนิชิ นับเป็นหนึ่งในสถานที่ชมซากุระที่ขึ้นชื่ออันดับต้นๆ ของเมืองเซนได ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟใต้ดิน เดินทางมาได้อย่างง่ายดาย หรือจากสถานีเซนได ก็สามารถเดินมาได้ โดยผ่านทางถนนช้อปปิ้งที่เชื่อมกับสถานีเซนได

©City of Sendai
พอเข้าสู่ช่วงฤดูซากุระบาน ทางสวนจะมีการเปิดโคมไฟในตอนกลางคืน ได้บรรยากาศชมซากุระยามค่ำแสนโรแมนติก และยังมีร้านค้าขายอาหารมากมาย
_การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสายโทไซ สถานี Omachi Nishi-koen
_ข้อมูลเพิ่มเติม : https://sendai-travel.jp/
● สวนทสึทสึจิงะโอคะ Tsutsujigaoka Park (เมืองเซนได)
©City of Sendai
สวนทสึทสึจิงะโอคะ อยู่ในตัวเมืองเซนได ทางฝั่งตะวันออก ภายในสวนมีซากุระหลากหลายสายพันธุ์ ทั้ง โซเมอิโยชิโนะ (Somei Yoshino), ยาเอะซากุระ (Yaezakura) และสายพันธุ์อื่นๆ ซึ่งจุดเด่นของสวนทสึทสึจิงะโอคะ คือ ชิดาเระซากุระ (Shidarezakure) หรือต้นซากุระย้อย ดอกซากุระห้อยระย้าจากกิ่งก้าน เรียงรายสวยงามตลอดสองข้างทาง ช่วงเวลาที่สามารถมาชมซากุระค่อนข้างยาวนานกว่าที่อื่น เพราะซากุระแต่ละสายพันธุ์มีช่วงเวลาบานต่างกัน ทำให้มาแล้วไม่พลาดชมซากุระแน่นอน
มีการเปิดโคมไฟตอนกลางคืน สามารถชมซากุระได้จนถึง 3 ทุ่ม สวนทสึทสึจิงะโอคะอยู่ห่างจากสถานีเซนไดเพียง 10 นาที จึงมีบรรยากาศที่คึกคักไปด้วยผู้คนที่แวะมาซมซากุระระหว่างทางกลับบ้าน
_การเดินทาง : รถไฟ JR สายเซนได สถานี Tsutsujigaoka เดิน 3 นาที
ข้อมูลเพิ่มเติม https://sendai-travel.jp/
● สวนไซเกียวโมโดชิ โนะ มัตสึ Saigyo Modoshi no Matsu Park (เมืองมัตสึชิมะ)
Photo Credit : 宮城県観光課
สวนไซเกียวโมโดชิ โนะ มัตสึ อยู่ไม่ห่างจากเซนได นั่งรถไฟจากสถานีเซนได ใช้เวลาราว 40 นาที จากสวนมองลงมาจะเห็นอ่าวมัตสึชิมะ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 วิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น อ่าวมัตสึชิมะสีฟ้าครามกว้างไกล แต่งแต้มสีสันด้วยซากุระสีชมพูอย่างกลมกลืน เป็นวิวซากุระที่หาชมที่อื่นไม่ได้
ภายในสวนยังมีคาเฟ่บรรยากาศดี ตัวร้านออกแบบด้วยกระจกล้อมรอบ มองออกไปเห็นวิวอ่าวมัตสึชิมะ ไปพร้อมกับดื่มด่ำกาแฟ ระหว่างทางไปสวน เป็นทางลาดชันต้องเดินขึ้นเนิน ถ้าใครคิดว่าเดินไม่ไหว ก็สามารถเลือกนั่งแท็กซี่จากสถานีรถไฟไปได้
_การเดินทาง : รถไฟ JR สายเซนได สถานี Matsushimakaigan เดิน 20 นาที หรือนั่งรถ 5 นาที
ข้อมูลเพิ่มเติม https://sendai-travel.jp
อาหารเซนไดต้องลองในฤดูใบไม้ผลิ
หลังจากชมซากุระสวยๆ จนจุใจ ก็ถึงเวลาหาของอร่อยๆ รับประทาน เรามีอาหารที่เป็นเสน่ห์ของเซนได เหมาะกับรับประทานช่วงฤดูใบไม้ผลิ มาแนะนำให้ไปลิ้มลองกัน
● ผลไม้
เซนไดมีผลไม้อร่อยมากมาย ถ้าอยากอิ่มอร่อยกับผลไม้เซนได ห้ามพลาดสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ สวนผลไม้ “JR Fruit Park Sendai Arahama” เพิ่งเปิดเมื่อ 18 มี.ค. 2564 นี้ ผลไม้กว่า 8 ชนิด รวมกว่า 156 สายพันธุ์ ที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี พร้อมให้ทุกคนเก็บเกี่ยวและลิ้มรสชาติ ไม่ว่าจะสตรอว์เบอร์รี่ องุ่น แอปเปิล และอีกมากมาย ทำให้สามารถมาเก็บเกี่ยวผลไม้ได้ตลอดทั้งปี มีผลไม้อร่อยๆ ผลัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาล
ภายในสวนมีร้านอาหารคาเฟ่ โดยเชฟจากโรงแรม Hotel Metropolitan Sendai นำผักผลไม้ตามฤดูกาล วัตถุดิบท้องถิ่นสดใหม่ มาปรุงเป็นเมนูคาวหวานและเครื่องดื่ม
JR Fruit Park Sendai Arahama
_เวลาทำการ : 10:00-17:00 น. (เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
_คาเฟ่ ร้านอาหาร เปิดเวลา 11:00-15:00 น.
_วันหยุด : หยุดทุกวันอังคาร
_การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน สถานี Arai ต่อรถบัส Sendai Shiei Bus ลงที่ป้ายสุดท้าย Ruins of the Great East Japan Earthquake Sendai Arahama Elementary School แล้วเดิน 5 นาที
● ลิ้นวัว
พูดถึงอาหารขึ้นชื่อของเซนได ก็ต้องยกให้ “ลิ้นวัว” ลิ้นวัวชิ้นหนาชุ่มฉ่ำ รสอร่อย มีให้ทานที่เซนไดตลอดปี เรียกว่า มาถึงเซนไดแล้วต้องลองให้ได้ ปัจจุบันในตัวเมืองเซนไดมีร้านที่ขึ้นชื่อเมนูลิ้นวัวมากกว่า 30 ร้าน รับรองว่าได้ลิ้มรสลิ้นวัวแบบแท้ๆ รสอร่อยเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่เคยทานที่อื่นแน่นอน
● ซุนดะ (ถั่วแระญี่ปุ่นบด)
ซุนดะ หนึ่งในอาหารขึ้นชื่อของเซนได ทำจากถั่วแระญี่ปุ่น บดแล้วใส่น้ำตาลและเกลือ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของถั่วแระญี่ปุ่น และรสหวานละมุน เป็นรสชาติเฉพาะตัว วิธีรับประทานแบบดั้งเดิม คือ ทานคู่กับโมจิ แต่ปัจจุบัน ได้มีการนำมาทำเค้ก ทำเป็นน้ำซุนดะปั่น
น้ำซุนดะปั่น กำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นที่ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะสนามบินเซนได หรือในสถานีรถไฟเซนได ก็มีร้านขายเมนูซุนดะ ลองซื้อทานระหว่างเดินทางไปชมซากุระ สีเขียวอ่อนสดใสของซุนดะ ตัดกับสีชมพูของซากุระได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่าเป็นสีสันที่เหมาะเจาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ดูข้อมูลอาหารเซนไดเพิ่มเติม https://sendai-travel.jp/
สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำที่เซนได
เมืองเซนไดและเมืองรอบๆ มีกิจกรรมมากมายหลากสไตล์ให้สร้างความทรงจำดีๆ ในการมาท่องเที่ยว
ขอแนะนำกิจกรรมสุดพิเศษที่เหมาะกับช่วงฤดูใบไม้ผลิ
● เวิร์กชอประบำนกกระจอก (Suzume Odori Workshop)
ทุกปี ช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคม เมืองเซนไดจะมีการจัดงานเทศกาล Sendai Aoba ระบำท้องถิ่นที่เรียกว่าเป็นไฮไลต์ของงาน ก็คือ “ระบำนกกระจอก” ซึ่งมีท่วงท่าที่เป็นเอกลักษณ์เหมือนนกกระจอกกำลังโบยบิน
ผู้ร่วมเวิร์กชอปจะได้เรียนการแสดงระบำนกกระจอกอันร่าเริง แบบเดียวกับที่แสดงในงานเทศกาล หลังจากเรียนระบำเสร็จ จะมีการรับประทานอาหารท้องถิ่นที่ร้านอิซากายะอีกด้วย
_วันจัดเวิร์กชอป : วันอังคาร – วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) *ต้องจองล่วงหน้า
_ค่าใช้จ่าย : 14,800 เยน (รวมค่าเวิร์กชอป 1 ชั่วโมง และรับประทานอาหารอิซากายะ)
_ระยะเวลากิจกรรม : 2 – 3 ชั่วโมง
_การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสายนัมโบกุ สถานี Kotodaikoen เดิน 2 นาที
● พาย SUP Board ชมวิวทิวทัศน์อ่าวมัตสึชิมะ
การเล่น SUP Board เป็นกิจกรรมทางน้ำรูปแบบใหม่ โดยยืนบนบอร์ด แล้วใช้ไม้พาย เพื่อเคลื่อนตัวไปบนผิวน้ำ จากเซนได นั่งรถไฟ 40 นาที ก็สามารถสัมผัสประสบการณ์แสนพิเศษไม่เหมือนใคร ยืนอยู่กลางน้ำ พร้อมมองดูวิวทิวทัศน์ของอ่าวมัตสึชิมะ วิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น ที่นี่มีเจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว
Photo Credit : YAYU
_เปิดทำการ : เมษายน – ธันวาคม *ต้องจองล่วงหน้า
_ค่าใช้จ่าย : 7,000 เยน
_ระยะเวลากิจกรรม : 2.5 – 3 ชั่วโมง
_การเดินทาง : รถไฟ JR สายเซนได สถานี Matsushimakaigan เดิน 5 นาที
ยังมีกิจกรรมอีกเพียบในเมืองเซนได ใครเป็นสายกิจกรรมลองเข้าไปดูกิจกรรมอื่นๆ ได้ในเว็บไซต์
● Must INSTAGRAM Experiences in Sendai ●
https://sendai-experience.com/en/fe/14
รายละเอียดการท่องเที่ยวเมืองเซนได ดูเพิ่มเติมได้ที่
● เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองเซนได ภาษาไทย ●
Discover Sendai : https://sendai-travel.jp/?lang=th
● Instagram ●
https://www.instagram.com/discover_sendai
● Facebook ภาษาไทย ●
Travel to Sendai
https://www.facebook.com/traveltoSendai.Japan
#ฤดูใบไม้ผลิปีหน้า อยากจะชวนไปเที่ยวเซนได ที่ใครๆ ก็เรียกว่า “Morinomiyako”