5 พิกัดชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ประทับใจไม่รู้ลืม …ไปตะลุยดินแดนใบไม้เปลี่ยนสีทั้ง 5 ที่ด้วยกันเถอะ!
ฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่น จะเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงพฤศจิกายน ซึ่งมีสภาพอากาศเย็นสบายเหมาะแก่การไปท่องเที่ยว
ฤดูนี้ถือว่าเป็นฤดูที่โรแมนติกมากๆ เพราะนอกจากอากาศที่เย็นสบายเหมาะแก่การออกมาเดินเล่นแล้ว ก็ยังได้เจอกับใบไม้หลากสีสัน ไม่ว่าจะเป็นสีแดง ส้ม หรือว่าเหลือง เป็นภาพที่มองแล้ววิเศษสุดๆ เลย วันนี้เลยถือโอกาสมาแนะนำ 5 พิกัดที่มีใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยสุดๆ มาฝากทุกคน
1. วัดคิโยะมิซุ (วัดน้ำใส) – Kiyomizu-dera
วัดคิโยะมิซุ หรือวัดน้ำใส แห่งเมืองเกียวโต เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากๆ ในประเทศญี่ปุ่น อายุมากกว่า 1,200 ปี มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ จนองค์กรยูเนสโกได้บันทึกให้วัดแห่งนี้ขึ้นเป็นมรดกโลก (UNESCO World Heritage Sites) เลยทีเดียว
Cr. Photo: https://www.kiyomizudera.or.jp/en/learn/
จุดที่ได้รับความสนใจของวัดแห่งนี้ก็คือ อาคารไม้ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปูใดๆ ทั้งสิ้น เป็นการสร้างแบบใช้ภูมิปัญญาของคนโบราณ เสามีความสูงถึง 13 เมตร มีการสร้างโถงอาคารให้ยื่นออกไปสำหรับชมวิวธรรมชาติ ยิ่งในฤดูใบไม้ร่วงนั้น จุดชมวิวนี้จะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เพราะจะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีทั่วทุกพื้นที่ งดงามมากๆ
Cr. Photo: https://www.kiyomizudera.or.jp/assets/img/map/grd_ph_09.jpg
นอกจากนี้ อีกหนึ่งจุดของวัดแห่งนี้ที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ น้ำตกโอโตวะ ซึ่งมีความเชื่อกันว่าหากได้ดื่มน้ำจากที่นี่ สิ่งที่หวังไว้จะสมหวังทุกประการ น้ำแบ่งออกเป็นสามสาย ได้แก่ อายุยืนยาว ประสบความสำเร็จในการเรียน และ ชีวิตคู่ ใครที่หวังเรื่องไหนไว้ ถ้ามีโอกาสได้ไป อย่าลืมไปดื่มกันนะ
Cr. Photo: https://www.kiyomizudera.or.jp/assets/img/season/autumn_ph_03.jpg
บรรยากาศตอนกลางคืน ก็สวยไม่แพ้ตอนกลางวันเลย อากาศดีมากๆ อีกด้วย
Cr. Photo: https://www.kiyomizudera.or.jp/assets/img/season/autumn_ph_01.jpg
Kiyomizu-dera
ที่อยู่: 1-294 Kiyomizu, Higashiyama-ku, Kyoto 605-0862
เวลาทำการ: 06.00 – 18.00 น. (เวลาทำการอ่านเปลี่ยนไปตามฤดู)
การเดินทาง: เดินประมาณ 20 นาที จากสถานีรถไฟ Kiyomizu-Gojo
เว็บไซต์: https://www.kiyomizudera.or.jp/
2. วัดไดโกจิ – Daigoji Temple
Cr. Photo: https://www.facebook.com/daigoji/photos/1293085437519823/
วัดไดโกจิ เป็นวัดขนาดใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยภูเขา มีอายุกว่า 1,200 ปี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นวัดมรดกโลกและสมบัติแห่งชาติ มีเจดีย์ 5 ชั้น สูงถึง 38 เมตร และยังเก่าแก่ที่สุดในเกียวโตด้วยล่ะ
Cr. Photo: https://www.facebook.com/daigoji/photos/1216838175144550/
ด้วยความที่เป็นวัดขนาดใหญ่ ทำให้มีพื้นที่ในการเดินเที่ยวชมความสวยงามของธรรมชาติได้อย่างสบาย โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้น ตลอดสองข้างทางมีทั้งต้นเมเปิ้ล ต้นแปะก๊วย สีสันสวยงาม ตัดกับตัวเจดีย์ เป็นภาพที่น่าจดจำมากๆ จากเดิมที่สวยมากอยู่แล้ว ก็ยิ่งทวีคูณความสวยงามมากขึ้นไปอีก
Cr. Photo: https://www.facebook.com/daigoji/photos/1598027967025567/
Cr. Photo: https://www.facebook.com/daigoji/photos/1622353211259709/
บรรยากาศตอนกลางคืนนั้น ทั่วทั้งวัดจะมีโคมไฟประดับไว้ตามจุดต่างๆ สีของไฟตัดกับสีของใบไม้ สวยงามมากๆ
Daigoji Temple
ที่อยู่: 22 Daigohigashioji-cho, Fushimi-ku, Kyoto 601-1325
การเดินทาง: เดินจากสถานีรถไฟใต้ดินไดโกะ (Daigo Station) ประมาณ 15 นาที
เว็บไซต์: https://www.tokyo-park.or.jp/park/format/index030.html
3. ภูเขาร็อคโค – Mount Rokko or Rokkosan
Cr. Photo: https://www.facebook.com/Mt.653/photos/1491627547701787/
มาต่อกันที่แหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีที่อยู่บนภูเขากันบ้าง ที่ภูเขาร็อคโคของจังหวัดเฮียวโกะนั้น เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสูงถึง 931 เมตร เป็นยอดเขาที่มีความสูงที่สุดในบรรดาเทือกเขาร็อคโค และมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองโกเบ ได้อย่างสวยงาม
Cr. Photo: https://www.facebook.com/Mt.653/photos/1500343566830185/
Cr. Photo: https://www.facebook.com/Mt.653/photos/1542727772591764/
บนภูเขานอกจากสามารถชมเมืองโกเบได้แล้ว ยังมีร้านอาหารที่สามารถดื่มด่ำบรรยากาศภายนอกได้ มีพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีและสวนพฤกษศาสตร์ให้เที่ยวชมอีกด้วย
Cr. Photo: https://www.rokkosan.com/en/images/modelcourse/autumn/au_spot_15.jpg
ไฮไลท์สำคัญของที่นี่เลยคือการนั่งกระเช้าลอยฟ้า Rokko-Arima Ropeway ในฤดูใบไม้ร่วง ชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีท่ามกลางหุบเขาแถมยังเห็นวิวข้างล่างอีก ถือว่าเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคคันไซมากๆ หรือจะนั่งรถเคเบิลร็อคโคก็สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้เหมือนกันนะ
Mount Rokko
ที่อยู่: 1-32 Ichigatani, Rokkosan-cho, Nada-ku, Kobe, Hyogo 657-0101
การเดินทาง: นั่งรถแท็กซี่จากสถานีรถไฟ Arimaonsen มายัง Mount Rokko ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
เว็บไซต์: https://www.rokkosan.com/top/
4. คามิโคจิ – Kamikochi
Cr. Photo: https://www.facebook.com/KamikochiOfficial/photos/5539225492770325/
ดินแดนแห่งสรวงสวรรค์ที่เต็มไปด้วยต้นไม้หลายสีของจังหวัดนากาโนะ ที่นี่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาใหญ่ มีแม่น้ำอาซุสะไหลผ่านตลอดเส้นทาง บรรยากาศเหมาะกับการมาพักผ่อนสุดๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิว Japan Alps ที่สวยที่สุดเลยก็ว่าได้
Cr. Photo: https://www.facebook.com/KamikochiOfficial/photos/5392708367422039/
ยิ่งมาช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีล่ะก็ จะได้พบกับต้นไม้สีแดง สีส้ม สีเหลือง เต็มทั่วทุกพื้นที่ โดยเฉพาะจุดไฮไลท์ที่คามิโคจิแห่งนี้ก็คือ สะพานกัปปะ ที่ถอดยาวระหว่างสองฝั่งแม่น้ำ ด้านหลังเป็นวิวภูเขา ใครมีโอกาสได้ไปลองไปยืนกลางสะพานแล้วถ่ายรูปกันนะ รับรองว่าภาพออกมาดูดีมากแน่ๆ
Cr. Photo: https://www.facebook.com/KamikochiOfficial/photos/5539225486103659/
Kamikochi
ที่อยู่: Kamikochi, Matsumoto, Nagano 390-1516
เวลาทำการ: 08.00 – 17.00 น. (เปิดปลายเดือนเมษายน – 15 พฤศจิกายน )
การเดินทาง: ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษ Azusa ที่สถานี Shinjuku มาลงที่สถานี Matsumoto และนั่งรถบัสไปยังคามิโคจิ
เว็บไซต์: https://www.kamikochi.or.jp/
5. หุบเขานารุโกะ – Naruko Gorge
Cr. Photo: https://www.tohokukanko.jp/lsc/upfile/spot/0000/1737/1737_1_l.jpg
Cr. Photo: https://www.tohokukanko.jp/lsc/upfile/spot/0000/1737/1737_3_l.jpg
ฝั่งโทโฮคุก็มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก อย่างหุบเขานารุโกะของจังหวัดมิยางิแห่งนี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นหุบเขาที่สวยงามที่สุดของโทโฮคุเลยก็ว่าได้
ที่นี่มีอุโมงค์สะพานโอฟุคาซาว่าทอดยาวสองฝั่งหุบเขา มีรถไฟวิ่งผ่านท่ามใบไม้เปลี่ยนสี เป็นภาพที่สวยงามมากๆ ใครที่อยากจะได้ภาพความประทับใจล่ะก็ ต้องขึ้นไปที่จุดชมวิวดาดฟ้า และเช็ครอบเวลาการวิ่งรถไฟให้ดีๆ จะได้ไม่พลาด
Cr. Photo: https://www.tohokukanko.jp/lsc/upfile/spot/0000/1737/1737_5_l.jpg
บนหุบเขามีทางเดินลาดยาวให้ได้ชมธรรมชาติกันอย่างจุใจเลย
Naruko Gorge
ที่อยู่: Osaki City, Miyagi
การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR Rikku-to Line จากสถานี Furukawa ไปลงที่สถานี Naruko Onsen ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
เว็บไซต์: https://www.tohokukanko.jp/en/attractions/detail_1737.html
จบไปแล้วกับ 5 สถานที่ที่เรานำมาแนะนำ หวังว่าคงจะถูกใจเพื่อนๆ กันนะ ถ้ามีโอกาสได้ไปญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ก็อย่าลืมเช็คอินตามสถานที่ต่างๆ แล้วถ่ายรูปมาอวดกันบ้างนะ หรือถ้าไปที่ใหม่ๆ แล้วประทับใจ อย่าลืมมาแชร์กันด้วยล่ะ ~
เรื่องแนะนำ :
– ‘เที่ยวเมืองฮามามัตสึ’ 2 วัน กับสารพันที่เที่ยวทุกแบบทุกสไตล์
– Lightscape in Rokko งานแสดงแสงไฟ LED เวอร์ชั่นฤดูร้อน (Summer is night)
– เที่ยวฮอกไกโด : เช็คอินจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดป๊อบแห่งเกาะฮอกไกโด ตอนที่ 3
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 4 รักจัง Arashiyama
– เที่ยวเกียวโต : ใบไม้เปลี่ยนสีที่เกียวโต
#5 พิกัดชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ประทับใจไม่รู้ลืม