พูดถึงวัดเซนโซจิแล้วเพื่อนๆ นึกถึงอะไรกัน เครื่องราง การขอพร หรือประตูโคมแดง? วัดนี้มีอีกชื่อที่พอได้ยินแล้วต้องร้องอ๋อ นั่นก็คือ “วัดอาซากุสะ” วัดชื่อดังในโตเกียวนั่นเอง
พูดถึงวัดเซนโซจิแล้วเพื่อนๆ นึกถึงอะไรกัน เครื่องราง การขอพร หรือประตูโคมแดง ? แล้วรู้หรือไม่ว่าวัดนี้มีอีกชื่อที่พอได้ยินแล้วต้องร้องอ๋อเลยก็คือ “วัดอาซากุสะ” วัดชื่อดังในโตเกียวนั่นเอง
นักท่องเที่ยวส่วนมากชอบมาที่วัดแห่งนี้ เพราะถือว่าเป็นสถานที่ที่มีครบจบในที่เดียวเลย วันนี้เลยจะมาแนะนำประวัติคร่าวๆ จุดเด่น ไฮไลท์สำคัญที่ไม่ควรพลาดแม้แต่นิดเดียว
เอาล่ะ พร้อมแล้วก็ไปรู้จักวัดเซนโซจิกันได้เลย ~
Cr. Photo: https://www.senso-ji.jp/images/guide/images/guide01_img01.jpg
ทางเข้าวัดจะมีโคมสีแดงขนาดใหญ่ที่มีคำว่า “คามินาริมง” เขียนอยู่ ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของอาซากุสะเลยก็ว่าได้ ชื่อของคามินาริมงนั้นได้มาจากเทพเจ้าแห่งสายลมและสายฟ้า ที่ถูกประดิษฐานอยู่ทางด้านซ้ายและด้านขวาของประตู
ทางด้านขวา คือ ฟูจิน เจ้าแห่งสายลม และทางด้านซ้าย ไรจิน เจ้าแห่งฟ้าแลบและฟ้าผ่า ทำให้ซุ้มประตูแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ประตูสายฟ้า” นั้นเอง ก่อนที่จะเข้าไปตัววัด นักท่องเที่ยวต้องหยุดถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันแทบทุกครั้งเลย
Cr. Photo: https://www.senso-ji.jp/images/guide/images/guide02_img01.jpg
เมื่อเดินผ่านซุ้มประตูทางเข้ามาแล้ว จะได้พบกับ ถนนนากามิเสะ (Nakamise dori) ถนนแห่งการค้าขาย ตลอดสองข้างทางจะมีร้านค้าที่ถูกทาด้วยสีแดงทอดยาวไปจนถึงตัววัด ถือว่า เป็นถนนช้อปปิ้งที่เก่าแก่ที่สุดสายหนึ่งในญี่ปุ่น
และที่ถนนแห่งนี้มีกฏเหล็กที่ว่า นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะซื้อขนมแล้วกินเลยนั้น จะต้องยืนกินอยู่ที่หน้าร้านเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นถนนเกิดความสกปรก ถือว่าเป็นกฏที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ
Cr. Photo: https://www.senso-ji.jp/images/guide/images/guide03_img01.jpg
เพลิดเพลินไปกับถนนแห่งการค้าแล้ว ถัดมาเพื่อนๆ จะได้พบกับประตูหอคอยที่ทาด้วยสีแดงเด่น มีชื่อเรียกว่า โฮโซมง หรือ นิโอมง เป็นประตูสมบัติของวัดเลยทีเดียว
ด้านหน้ามีรูปปั้นคู่ของนิโอ สองท้าวทวารบาลประดิษฐานอยู่ ส่วนด้านหลังนั้นมี วาราจิ ที่เป็นรองเท้าฟางสานขนาดใหญ่ มีความเชื่อกันว่าจะคอยช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไป
Cr. Photo: https://www.senso-ji.jp/images/guide/images/guide04_img01.jpg
และเมื่อผ่านโฮโซมงมาแล้วทีนี้เราก็จะเจอกับ กระถางธูปใหญ่ ที่มีความเชื่อกันอีกว่า ควันธูปนั้นจะช่วยปัดเป่าอาการเจ็บปวดให้หายไป และนำพาสิ่งดีๆ เข้ามา
ทางด้านขวามือของกระถางธูปนั้นมีรูปปั้นของเทพเจ้ามังกรสุมิเอะ ที่อยู่บนหินแกรนิตสนิมแปดเหลี่ยม มีกระบวยสำหรับตักน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายให้สะอาด ก่อนที่จะเข้าไปสู่ คันนงโด อุโบสถหลักของวัดเซนโซจิ ที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์คันโซเอ็นอันศักดิ์สิทธิ์อยู่
Cr. Photo: https://www.senso-ji.jp/images/guide/images/guide11_img01.jpg
ทางด้านขวาของอุโบสถนั้นมีประตูสีแดงสดเดิมเรียกว่าประตูซุยจิน ปัจจุบันเรียกประตูนี้ว่า นิเท็นมง และถูกกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ
Cr. Photo: https://www.senso-ji.jp/images/guide/images/guide06_img01.jpg
ทางด้านซ้ายมือก่อนถึงตัววัดจะมองเห็นเจดีย์ห้าชั้น ซึ่งมีสีแดงสดสว่างเช่นกัน มีความสูง 53 เมตร ถือเป็นเจดีย์ที่สูงเป็นอันดับสองของญี่ปุ่น จากภายนอก เจดีย์ห้าชั้นดูเหมือนจะสร้างจากพื้นดิน แต่จริงๆ แล้วสร้างบนอาคารรูปทรงแท่น มีต้นกำเนิดมาจากเจดีย์อินเดียที่ประดิษฐานในวัดทางพุทธศาสนา
ที่ด้านบนสุดของเจดีย์ห้าชั้นมีศาลเจ้าพุทธที่อุทิศในปี 1966 จากวัด Isurumuniya ในศรีลังกา ประดิษฐานอยู่
พูดถึงประวัติคร่าวๆ ของวัดกันไปแล้วต่อไปมาพูดถึงกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมมากๆ เวลามาที่วัดแห่งนี้กันบ้าง อย่างแรกเลยก็คือการเสี่ยงเซียมซีเจ้าแม่กวนอิม จะมีลักษณะเป็นไม้ให้เสี่ยงทาย 100 แท่ง
คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าการเสี่ยงเซียมซีที่วัดนี้ ถ้าได้โชคร้ายถือว่าเป็นเรื่องปกติมากๆ เพราะไม้ 100 แท่ง มีโชคร้ายอยู่ถึง 30% แนะนำให้เอาใบเซียมซีไปฝากเอาไว้เพื่อความสบายใจ เหมือนที่คนไทยชอบเอาไปฝากไว้ที่พระนั่นเอง
Cr. Photo: https://senso-ji.online/
ต่อมาเป็นเครื่องราง อย่างที่ใครหลายๆ คนรู้ว่าที่วัดเซนโซจิหรือวัดอาซากุสะนั้นได้รับความนิยมอย่างมาก ใครที่มาที่นี่ก็ต้องซื้อกลับไปกันทั้งนั้น เครื่องรางที่จำหน่ายก็มีแตกต่างกันไปหลากหลายประเภท หลากหลายราคา ทั้งด้านความรัก การเรียน การทำงาน หรือแม้กระทั่งการเงิน ราคาเริ่มต้นเพียง 500 เยนเท่านั้น
Sensoji Temple
ที่อยู่: 2-3-1 Asakusa, Taito, Tokyo 111-0032
วิธีเดินทาง: ขึ้นรถไฟจากสถานี Oshigami สาย Toei Asakusa ไปลงสถานี Asakusa
เวลาทำการ: 06.00 – 17.00 น. / 06.00 – 16.30 น. (ตุลาคม – มีนาคม)
เว็บไซต์: https://www.senso-ji.jp/
จบไปแล้วกับการแนะนำวัดเซนโซจิ วัดชื่อดังของโตเกียว น่าสนใจมากใช่ไหม ~ อ่านแล้วเพลินมากๆ ยิ่งเพิ่มความน่าไปมากขึ้นไปอีก ไปญี่ปุ่นก็อย่าลิมไปเช็คอินที่นี่กันนะ แล้วซื้อเครื่องรางกลับมาฝากกันด้วยเด้อ 🙂
เรื่องแนะนำ :
– 5 พิกัดชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ประทับใจไม่รู้ลืม
– ‘เที่ยวเมืองฮามามัตสึ’ 2 วัน กับสารพันที่เที่ยวทุกแบบทุกสไตล์
– Lightscape in Rokko งานแสดงแสงไฟ LED เวอร์ชั่นฤดูร้อน (Summer is night)
– เที่ยวฮอกไกโด : เช็คอินจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดป๊อบแห่งเกาะฮอกไกโด ตอนที่ 3
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 4 รักจัง Arashiyama
#วัดเซนโซจิ