ตะลุยเมืองออนเซ็นที่ เบปปุ!
Cr. Photo: https://onsenbu.net/wp-content/uploads/2018/08/shutterstock_1007716918_Sean-Pavone-728×486.jpg
เมืองเบปปุ (Beppu) ตั้งอยู่ในจังหวัดโออิตะ (Oita) ซึ่งอยู่ระหว่างทะเลและภูเขา ทำให้มีต้นกำเนิดของน้ำพุร้อนมากมายจนกลายเป็นเมืองที่มีบ่อน้ำพุร้อนมากที่สุดในญี่ปุ่น ถึงกับได้ฉายาว่า “แปดขุมนรกแห่งเบปปุ” ซึ่งก็มาจากการมีบ่อน้ำพุร้อนที่แบ่งออกเป็นทั้งหมด 8 แห่ง ได้แก่ Hamawaki Onsen, Beppu Onsen, Kankaiji Onsen, Horita Onsen, Myoban Onsen, Kannawa Onsen, Shibaseki Onsen และ Kamegawa Onsen
Cr. Photo: https://onsendo.beppu-navi.jp/wp-content/uploads/2021/03/beppu_map.png
เป็นเมืองที่มีน้ำพุร้อนมากที่สุดไม่พอ ยังเป็นเมืองที่น้ำพุร้อนนั้นมีคุณสมบัติครบถ้วน เช่น น้ำพุร้อนธรรมดา น้ำพุเกลือ น้ำพุไบคาร์บอเนต และเอิร์ธสปริงไบคาร์บอเนต ดีเลิศอย่าบอกใครเลย เพราะแหล่งของน้ำส่วนใหญ่ก็มาจากธรรมชาติอย่างภูเขาแล้วก็ทะเล ทำให้ไม่ผ่านการเจือปนสิ่งต่างๆ ทำให้คนที่มาแช่ออนเซ็นที่นี่ได้รับประโยชน์เข้าสู่ร่างกายเต็มๆ ไปเลย
1. Hamawaki Onsen (浜脇温泉)
Cr. Photo: https://i1.wp.com/www.onsen-history.com/
Hamawaki Onsen เป็นการรวมกันของ Hamawaki Higashi Onsen กับ Nishi Onsen เพื่อสร้างออนเซ็นแห่งนี้ขึ้นมา ซึ่ง Hamawaki นั้นเป็นบ่อน้ำพุร้อนแบบในร่ม มีแหล่งน้ำพุร้อนที่มีต้นกำเนิดมากจากน้ำพุร้อนที่ผุดขึ้นมาจากชายหาด ว่ากันว่าเป็นแหล่งกำเนิดของเบปปุออนเซ็นเลยนะ
2. Beppu Onsen (別府温泉)
บ่อ Beppu Onsen แห่งนี้อยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวกมาก เพียงแค่นั่งรถไฟ JR มีแหล่งที่พักให้เลือกสรรมากมาย ทั้งแบบเรียงกังและโรงแรม มีบ่อน้ำพุร้อนที่สามารถแช่ได้ฟรีแบบไม่เสียเงิน เรียกว่าเป็นบ่อออนเซ็นสาธารณะเลย ซึ่งเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่อยากลองแช่เพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินเที่ยวสุดๆ
3. Kankaiji Onsen (観海寺温泉)
Cr. Photo: https://realonsen.com/wp-content/uploads/2021/06/ichinoide5.jpg
ที่ Kankaiji Onsen ตัวน้ำพุร้อนนั้นมีกรดเมตาซิลิซิกจำนวนมากทำให้น้ำเป็นสีน้ำเงิน คุณภาพของน้ำพุร้อน เป็นน้ำพุร้อนธรรมดาหรือน้ำพุร้อนคลอไรด์ ซึ่งมีประสิทธิภาพเหมาะสำหรับโรคเกี่ยวกับประสาท โรคไขข้อ โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน ช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียอีกด้วย
4. Horita Onsen (堀田温泉)
Cr. Photo: http://www.beppu-navi.jp/photo/site/photo/spa/067-10horitaonsen.jpg
Horita Onsen เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ในช่วงสมัยเอโดะนั้นได้รับความนิยมอย่างมาก ปัจจุบันก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่อย่างล้นหลาม เพราะมีทั้งบ่อที่อยู่ในร่มและบ่อแบบกลางแจ้ง แช่ออนเซ็นท่ามกลางธรรมชาติรับลมเย็นสบาย น้ำพุร้อนของที่นี่มีคุณสมบัติที่ช่วยให้ร่างกายกลับมาฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นแผลฟกช้ำ ปวดตามข้อกระดูก ถ้าได้ลองมาที่นี่ความเจ็บปวดเหล่านั้นก็จะถูกเยียวยาเพราะคุณสมบัติของน้ำพุร้อน เยี่ยมยอดไปเลย
5. Myoban Onsen (明礬温泉)
Cr. Photo: https://rimage.gnst.jp/gurutabi.gnavi.co.jp/
Myoban Onsen เป็นพื้นที่ที่มีพลังงานความร้อนใต้ดิน บนเนินเขาของภูเขาซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเบปปุเพียงเล็กน้อย คุณสมบัติของน้ำพุร้อนนั้นเนื่องจากมีกรดไฮโดรเจนซัลไฟด์ทำให้จะเด่นในเรื่องของการรักษาและบรรเทาโรคประสาท โรคไขข้อกระดูก โรงผิวหนัง บอกได้เลยว่าเป็นการขึ้นเขาเพื่อมาแช่น้ำพุร้อนแบบไม่เสียเปล่าแน่นอน เพราะนอกจากการแช่นน้ำพุร้อนแล้วยังสามารถเที่ยวชมวิวธรรมชาติบนภูเขา นอกจากนี้ที่นี่ยังได้รับเลือกให้เป็นภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วยนะ
6. Kannawa Onsen (鉄輪温泉)
Cr. Photo: https://kannawaonsen.com/
Kannawa Onsen ตั้งอยู่ระหว่างเบปปุและเมียวบันออนเซ็น (Myoban Onsen
) ได้รับเลือกให้เป็นภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศพร้อมกับ Myoban Onsen คุณภาพของน้ำพุร้อนมีความหลากหลายแตกต่างกันไป และยังสามารถเลือกได้อีกด้วยว่าต้องการแช่บ่อขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ จะแช่แบบอ่างหินในร่มหรือแบบบ่อกลางแจ้ง แถมที่นี่ยังมีการจัดเทศกาล Kannawa Yuami ที่จะจัดขึ้นทุกเดือนกันยายนด้วยล่ะ ใครอยากมาให้ตรงตามเทศกาลก็ต้องวางแผนดีๆ นะ
7. Shibaseki Onsen (柴石温泉)
Cr. Photo: https://gokuraku-jigoku-beppu-s3-001.s3.amazonaws.com/
Shibaseki Onsen เป็นบ่อน้ำพุร้อนในหุบเขาริมแม่น้ำชิบาเซกิ เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีความสวยงามในเรื่องของธรรมชาติ เนื่องจากอยู่ในป่าและติดกับริมแม่น้ำ ใครที่มาที่นี่ถือว่าเป็นการพักผ่อนจริงๆ เพราะนอกจากแช่ออนเซ็นเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าแล้ว ยังสามารถชื่นชมความสวยงาม และยังเป็นสถานที่ที่มีความเงียบสงบมากๆ อีกด้วย
ว่ากันว่าน้ำพุร้อนของที่นี่ช่วยรักษาจักรพรรดิให้หายจากโรคภัยในปี 895 ทำให้เป็นที่รู้จักกันในนามน้ำพุร้อนสมานแผล
8. Kamegawa Onsen (亀川温泉)
Cr. Photo: https://static.yukoyuko.net/images/onsen/onsen_0297_0001.jpg
มาถึงแหล่งออนเซ็นที่สุดท้าย Kamegawa Onsen เป็นแหล่งออนเซ็นที่มีความเป็นชนบท มีความญี่ปุ่นแบบสมัยก่อน และยังอยู่ติดกับทะเล ทำให้น้ำพุร้อนมีส่วนผสมของเกลือ แช่ออนเซ็นไปชมวิวท้องทะเลไปก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
Cr. Photo: https://www.img-ikyu.com/
ครบ 8 แห่งแหล่งน้ำพุร้อนของเมืองเบปปุ ใครชอบแบบไหนสามารถเลือกไปได้ตามใจชอบเลย แต่ว่าถ้าไปถึงเมืองเบปปุแล้วก็ไม่อยากให้พลาดกับ “บ่อนรก” ซึ่งเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีให้ชมอย่างเดียวไม่สามารถลงไปแช่ได้ เนื่องจากมีอุณหภูมิน้ำที่ร้อนจัด มีสีสันแตกต่างกันออกไป ทั้งสีแดง สีฟ้า ใครไปถึงคิวชูก็อย่าลืมไปเช็คอินกันนะ
เรื่องแนะนำ :
– ฤดูหนาวที่ Niseko Village Ski Resort มีอะไรให้ทำบ้าง
– ขึ้นกระเช้าชม Snow Monster ที่ภูเขาซาโอะ
– หนาวแล้ว ไปชิราคาวาโกะ กันไหม
– ส่งท้ายฤดูใบไม้ร่วงกับความงามของต้นแปะก๊วยริมถนน Ginkgo Avenue
– 3 สะพานแขวนของญี่ปุ่นที่น่าไปเช็คอิน !
#ตะลุยเมืองออนเซ็นที่ เบปปุ! #Beppu