ทริปนี้ marumura จะพาทุก ๆ คนไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังของภูมิภาคโทโฮคุตอนใต้ 3 จังหวัด มิยากิ (Miyagi) ฟุคุชิมะ (Fukushima)และ ยามากาตะ (Yamagata) กันแบบครบรส ทั้งที่เที่ยว ที่กิน และที่พักเด็ด ๆ ตลอดทริปกันเลย…
เรารู้ว่าตอนนี้ทุก ๆ คนต้องคิดถึงประเทศญี่ปุ่น และตอนนี้คงมีคนที่คิดแพลนเพื่อเดินทางกันอยู่แน่ ๆ ก่อนจะมาเที่ยวกันครั้งหน้า เราจะขอเสนอแพลนเที่ยวญี่ปุ่นใหม่ ๆ ไว้ให้เก็บลงลิสต์การเดินทางกัน
หลาย ๆ คนน่าจะเคยมาเที่ยวที่ญี่ปุ่นกันหลายครั้งแล้ว อาจจะเป็นการเดินทางด้วยรถไฟเป็นหลักเพราะที่ญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องความสะดวกสบาย และตรงเวลาของการเดินทางแต่เราอยากจะกระซิบบอกดัง ๆ ว่า การเที่ยวโดยรถยนต์ไม่ว่าจะเช่ารถขับเองหรือเช่าแบบพร้อมคนขับ ก็สนุก และสบายไม่แพ้กันเลย และเรายังสามารถพบกับสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่อาจพบในการเดินทางด้วยรถไฟได้อีกด้วย
ทริปนี้ marumura จะพาทุก ๆ คนไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังของภูมิภาคโทโฮคุตอนใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดมิยากิ (Miyagi) จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) และจังหวัดยามากาตะ (Yamagata) กันแบบครบรส ทั้งที่เที่ยว ที่กิน และที่พักเด็ด ๆ ตลอดทริปกันเลย…
สนามบินเซนได (Sendai International Airport)
เริ่มต้นการเดินทาง จากสนามบินเซนได (Sendai International Airport) รับสัมภาระกันเรียบร้อย ขอถ่ายรูปกันสักนิดก่อนออกเดินทาง
และแน่นอน ว่ามาถึงเซนได (Sendai) ทั้งทีเราจะไม่พลาดกับเครื่องดื่มเย็น ๆ แสนอร่อยขึ้นชื่อซุนดะ เชค (Zunda Shake) ถั่วแระญี่ปุ่นที่นำมาทำเป็นเครื่องดื่มแบบเชค มีความครีมมี่ ละมุน ๆ ด้วยวนิลา รสหวานหน่อย ๆ ตัดกับความเค็มนิดลงตัวที่สุด และหอมถั่วบาง ๆ มีเกล็ดถั่วบดให้เคี้ยวกรุบ ๆ นิด ๆ
อ๊ะ ๆ ๆ …. ใครที่ทำหน้าตกใจกับเครื่องดื่มถั่ว ๆ อยู่เราขอบอกเลยว่า ไม่เหม็นเขียวเลยจ้า มาแล้วต้องลองเพราะอร่อยมาก
Zunda Shake
ราคา: ประมาณ แก้วละ 250 เยน
ข้อมูลเพิ่มเติม: http://zundasaryo.com/zundashake/
รับประทานอาหารสุดพิเศษที่ คฤหาสน์ของดาเตะ มะซะมุเนะ (Date masamune)
ภัตตาคารโชเคคาคุ (Shokeikaku)
จากสนามบินเซนไดมุ่งสู่ตัวจังหวัดมิยากิ (Miyagi) เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง ประเดิมจุดแรกที่จะพาไปคือ ชิมอาหารแสนอร่อยที่มีชื่อสุดเก๋ไก๋ว่า “เซนได ทันสุ เรียวริ” (Sendai Tansu Ryori) ขอบอกเลยค่ะว่า ร้านนี้ไม่ธรรมดา เพราะนอกจากรสชาติที่อร่อยเป็นที่ยอมรับกันแล้ว ร้านอาหารนี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นคฤหาสน์ของดาเตะ มะซะมุเนะ (Date masamune) อีกด้วย!!
ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมสมัยเมจิตอนปลาย เป็นทรัพย์สินอันมีค่าของประชาชน จึงได้มีการบูรณะซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ โดยยังคงรักษาสถาปัตยกรรมในแบบดั้งเดิมเอาไว้ เพื่อให้ทุกคนยังคงได้ใช้ประโยชน์ได้ตราบนานเท่านาน
เซนได ทันสุ เรียวริ (Sendai Tansu Ryori)
เป็นเซ็ทเมนูอาหารที่เสิร์ฟมาในตู้ลิ้นชักเซนได ทันสุ (Sendai Tansu) ขนาดจิ๋ว เป็นเมนูประจำร้านที่มีมานานกว่า 30 ปี ปัจจุบันคนญี่ปุ่นจากทั่วประเทศเดินทางมาถึงภัตตาคารโชเคคาคุ (Shokeikaku) เพราะต้องการที่จะมาทานเมนูเซนได ทันสุ เรียวริ (Sendai Tansu Ryori) นี้
เมนูแต่ละอย่างเป็นอาหารขึ้นชื่อเมืองเซนได (Sendai) ทั้งนั้น บรรจงปรุงจากวัตถุดิบตามฤดูกาล ใส่ลงมาในกล่องไม้ลิ้นชัก แต่ละจานอร่อยจนเลือกชิมไม่ถูกเลยทีเดียวค่ะ
อิ่มกันแล้วมาเดินเล่นย่อยอาหารกันบ้าง ภายในอาคารตกแต่งเรียบง่ายแต่ดูสง่าโอ่อ่ามาก ๆ ชั้น 2 ของอาคาร มีห้องจัดแสดงส่วนที่เคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิโชวะ ฮิโรฮิโตะ (Emperor Showa, Hirohito) ในช่วงที่เดินทางมาแสวงบุญในเขตโทโฮคุ (Tohoku)ในปีโชวะที่ 22 (ค.ศ. 1947) และในปีค.ศ. 1997 ถูกใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดิ และจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น ในระหว่างการเยือนวันจัดสวนไม้แห่งชาติครั้งที่ 48
อีกจุดที่อยากให้ชมของที่นี่คือต้นสนโชเคด้านหน้าอาคาร ต้นสนขนาดใหญ่อายุกว่า 300 ปี สูง 3 เมตร ที่แผ่กิ่งก้านยาว 16.5 เมตร เป็นต้นไม้สำคัญที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ จากกิ่งก้านที่แผ่ยาวจนมีรูปร่างมังกร จึงได้รับชื่อเรียกอีกอย่างว่า กะเรียวมัทสึ (Garyomatsu)「臥竜松」หรือต้นสนมังกร ใครที่ชอบไม้พันธุ์ต้นสนต่าง ๆ หรือบอนไซจะต้องประทับใจกับความงดงามแน่นอน…
เกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับตู้ลิ้นชักเซนได ทันสุ (Sendai Tansu)
ตู้ลิ้นชักเซนได ทันสุ (Sendai Tansu) เป็นงานหัตถกรรมพื้นบ้านที่ขึ้นชื่อของจังหวัดมิยากิ (Miyagi) ถูกสร้างขึ้นสำหรับใช้เก็บดาบ และเสื้อคลุมชุดกิโมโน หรือฮาโอริ (Haori) จุดเด่นอยู่ที่ความประณีตละเอียดอ่อนของการเคลือบสีงานไม้ และงานแกะสลักโลหะที่ประดับตกแต่งอยู่บนตู้ ปัจจุบันได้กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีราคาสูง
โชเคคาคุ (Shokeikaku) 伊達家の邸宅「鍾景閣」
ที่อยู่: 143-3 Hitokitanishi, Moniwa, Taihaku-ku, Sendai City, Miyagi
เวลาทำการ:
มื้อกลางวัน 11.30 – 14.00 น. (ออเดอร์สุดท้าย 13.30 น.)
มื้อค่ำ 17.00 – 20.00 น. (ออเดอร์สุดท้าย 19.30 น.)
*มื้อค่ำเป็นแบบต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น โดยเปิดรับจองถึงช่วงเช้าของวันนั้น
การเดินทาง:
・จากทางออก Sendai Minami I.C ทางด่วน Tohoku Expressway เดินทางโดยรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
・หรือจากสถานี Sendai ขึ้นรถบัสที่ประตูทางออกทิศตะวันตก จุดจอดรถหมายเลข 8 ของบริษัท Miyagi kotsu (มุ่งหน้า Akiu Onsen) ลงที่ป้าย Moniwasoiriguchi จากนั้นเดินประมาณ 15 นาที หรือโทรให้รถของทางร้านมารับ
เว็บไซต์: https://shoukeikaku.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
พิกัดของภัตตาคารโชเคคาคุ (Shokeikaku): https://goo.gl/maps/UJ1hE12vRaY7LzvY8
เที่ยวชมธรรมชาติและสัมผัสงานหัตถกรรมดั้งเดิม
หมู่บ้านศิลปหัตถกรรมอะคิอุ (Akiu Traditional Crafts Village)
อิ่มหนำสำราญกันแล้ว เตรียมตัวไปเที่ยวกันต่อค่ะ หมู่บ้านศิลปหัตถกรรมอะคิอุ (Akiu Traditional Crafts Village) เป็นหมู่บ้านหัตถกรรมที่มีช่างฝีมือ 9 ครอบครัวผลิตงานฝีมือพื้นบ้าน เช่น งานทอผ้า งานไม้ รวมไปถึงตุ๊กตาไม้โคเคชิ (Kokeshi) ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์อีกอย่างของภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ครั้งนี้เราจะลองทำตุ๊กตาไม้โคเคชิ (Kokeshi) กันค่ะ
เดินเที่ยวตามเมืองใหญ่ ๆ ซื้อของฝากแพง ๆ สักชิ้น มันก็ดีนะ แต่หากอยากเปลี่ยนบรรยากาศ เราขอชวนมาลองนั่งทำเวิร์กช็อปเพ้นท์ลวดลายตุ๊กตาโคเคชิ (Kokeshi) ด้วยตัวเองท่ามกลางบรรยากาศแสนสงบในหมู่บ้านของเหล่าผู้เชี่ยวชาญดูสักครั้ง ได้ทั้งความรู้ ความสนุก และเป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นไปในตัวแถมยังได้ของฝากเพียงชิ้นเดียวในโลกที่มีคุณค่าทางใจกลับบ้านอีกด้วยนะคะ
หมู่บ้านศิลปหัตถกรรมอะคิอุ (Akiu Traditional Crafts Village)
ข้อมูลเพิ่มเติม: https://sendai-travel.jp/places/akiu-traditional-craft-village/?lang=th
พิกัดหมู่บ้านศิลปหัตถกรรมอะคิอุ (Akiu Traditional Crafts Village): https://goo.gl/maps/YXWS3m5MjH9YBqRz5
เที่ยวน้ำตกอะคิอุ (Akiu Otaki Falls)
ไม่ไกลจากหมู่บ้านศิลปหัตถกรรมอะคิอุ (Akiu Traditional Crafts Village) มีน้ำตกสวย ๆ ชื่อดังของจังหวัดมิยากิ (Miyagi) ถ้าใครมาแล้วอย่าพลาดที่จะไปชมทีเดียวนะคะ
น้ำตกขนาดใหญ่นี้มีความกว้าง 6 เมตร ความสูงกว่า 55 เมตร จุดท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดมิยากิ (Miyagi) ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความงดงามของน้ำตกแห่งนี้อย่างล้นหลาม น้ำตกแห่งนี้ยังได้รับการขนานนามว่า เป็นหนึ่งในสุดยอดน้ำตกร้อยแห่งที่เป็นจุดชมวิวชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น และด้วยปริมาณน้ำและความสูงทำให้มีเสียงกึกก้องราวกับฟ้าคำรามอันน่าเกรงขาม จึงได้รับการขนานอีกนามว่า เป็น 1 ใน 3 “น้ำตกอันทรงพลังของญี่ปุ่น” อีกด้วย
วัดอะคิอุฟุโดซน (Akiu Otaki Fudoson) ที่เป็นทางเดินผ่านเข้าไปยังจุดชมน้ำตก มีบรรยากาศแสนสงบ ด้านในมีต้นแปะก๊วยขนาดยักษ์ซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นต้นไม้อนุรักษ์ของเมืองเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองทองงดงามยิ่งนัก
ก่อนกลับแวะซื้อดังโงะย่างกันสักหน่อย ตรงจุดใกล้กับลานจอดรถจะมีร้านค้าตั้งเรียงรายหลายร้าน มีทั้งขนม เครื่องดื่ม และ ของฝากพื้นเมืองให้เราได้แวะจับจ่ายกัน
น้ำตกอะคิอุ (Akiu Otaki Falls)
ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.tohokukanko.jp/en/attractions/detail_1374.html (ภาษาอังกฤษ)
พิกัดน้ำตกอะคิอุ (Akiu Otaki Falls): https://goo.gl/maps/UsSvZixkVJAgbYDR8
ไดกงโนะฮานะ (Daikon no Hana)
ส่งท้ายทริปเที่ยวโทโฮคุใต้ วันแรกของเรา ด้วยการไปกินหรู อยู่อย่างนางพญา กับที่พักสุดหรู Luxury เอาใจนักท่องเที่ยวผู้ที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุด และพักผ่อนอย่างเหนือระดับ ไดกงโนะฮานะ (Daikon no Hana) ที่พักที่ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่อีกโลกหนึ่งที่ห่างไกลจากความวุ่นวาย
ห้องพักแบบวิลล่าจำนวน 18 หลัง บนพื้นที่กว่า 8 เอเคอร์ ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ ป่า เขา ลำธาร ให้เราได้ใกล้ชิดธรรมชาติสุด ๆ ห้องพักทุกหลังตกแต่งด้วยอินทีเรียที่แตกต่าง สวยไม่แพ้กันทุกห้องเลย ที่สำคัญมีอนเซ็นส่วนตัวทุกหลัง บรรยากาศโดยรวม ที่โรงแรมนี้มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก ๆ เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนกับครอบครัวหรือคนรู้ใจ (เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีไม่สามารถเข้าพักได้)
ด้านหน้าทางเข้าโรงแรม ดูเรียบจนคาดไม่ถึงเลยว่าด้านในจะมีพื้นที่กว้างขวางขนาดนี้ จุดต้อนรับ ดีไซน์ทันสมัย ผสานความหรูหรา และเรียบง่ายแบบญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว ให้บรรยากาศที่ไฮเอนด์ และที่ประทับใจยิ่งขึ้นไปคือเครื่องพ่นแอลกอฮอล์ ทำความสะอาดมือก่อนเข้าโรงแรม ที่มีความใส่ใจ มีกิมมิคใช้อ่างตักน้ำแบบที่ใช้ในห้องอนเซ็นมาวาง ทำให้รู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่ก้าวแรกเลยทีเดียว…
ไปดูห้องพักของเรากันค่ะ ห้องพักชื่อ “ซูงิ” (Sugi) ห้องนอนกว้าง คุมโทนสี เตียงใหญ่นุ่มมมมมม พร้อมผ้าห่มอุ่น ๆ กับเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่ครบครันมีทุกอย่างที่จำเป็นต้องใช้ และมีบ่ออนเซ็นส่วนตัวขนาดใหญ่ด้านนอกให้นอนแช่ดูดาวกันแบบจุใจ แถมเครื่องดื่มต่าง ๆ ทั้งในห้องพัก และห้องอาหาร All Inclusive♡ ค่ะ….
ห้องน้ำกว้างมากกก เปิดโล่งทะลุแบบใช้ครบทุกพื้นที่ (กว้างซะจนรู้สึกว่า โถสุขาช่างอยู่ไกลเหลือเกิน55…. )
และนี่คือบ่ออนเซ็นส่วนตัวในห้องของเรา อากาศเย็นกำลังดี นอนแช่น้ำอุ่นดูดาว
เป็นอะไรที่ดี ดี๊ ดี เหมาะกับผู้ชื่นชอบความพิเศษแสน Luxury เสียจริง….
ความกว้างของห้องยังไม่จบแค่นี้ ด้านข้าง ๆ มีอีกห้องเล็ก ๆ ที่จัดไว้เป็นมุมเงียบ ๆ จะเอาหนังสือเล่มโปรดติดมือมา นั่งอ่านเงียบ ๆ พร้อมชมแมกไม้ที่เปลี่ยนสีด้านหน้าก็เหมาะเป็นอย่างยิ่งเลยแหละค่ะ…
เก็บข้าวของให้เข้าที่ และแช่น้ำอุ่น ๆ ให้สบายตัว รู้ตัวอีกทีก็ได้เวลาอาหารค่ำกันแล้วค่ะ เดินลัดเลาะไปตามทางเดินที่ทำจากไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลายมาก ๆ
ห้องอาหาร จัดอยู่ในพื้นที่เป็นสัดส่วน ให้ความเป็นส่วนตัวอย่างสุด ๆ เลยค่ะ มาดูเมนูอาหารค่ำของเรากันบ้าง จัดมาแบบผู้ดี๊ผู้ดี ไม่มาก ไม่น้อย เน้นความหรูและอร่อยเหมาะกับผู้ดีแบบเรามาก ๆ ค่ะ (55555 ขำตัวเองจนได้) …..
เริ่มเมนูแรกก็ เซอร์ไพรส์กันแล้ว กับซุปถ้วยเล็ก ๆ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรสชาติที่จัดมาล้นเปี่ยม พนักงานที่นำมาเสิร์ฟชักชวนเราด้วยใบหน้ายิ้มแย้มให้ค่อย ๆ ลิ้มรส และอธิบายด้วยใบหน้าแสนภูมิใจว่า ซุปถ้วยนี้คือรสชาติหลักของทุก ๆ เมนูที่จะนำมาเสิร์ฟในค่ำนี้……..
ว้าววววว …… พอฟังเช่นนี้หัวใจเราเต้นแรงอยากรู้ขึ้นมาทันที ว่าจะมีรสเช่นไร……..
ซุปสีใส มีหัวไชเท้าชิ้นเล็ก ๆ เพียง1ชิ้น ทันทีที่ยกขึ้นมาใกล้ปาก กลิ่นของ “ดาชิ” อันทรงพลังก็ได้แสดงถึงความลุ่มลึก และความพิถีพิถันในการปรุงของเชฟ จนเราต้องตะลึงกันเลยทีเดียว “ดาชิ” น้ำซุปที่เป็นหัวใจหลักของอาหารญี่ปุ่น หากมีน้ำซุปที่ดี แน่นอนว่าอาหารทุกเมนูจะอร่อยแน่นอน เรามารอจานต่อไปกันเลยค่ะ…
เมนูที่ 2 ออร์เดิร์ฟเบา ๆ กับขาปูทาราบะชิ้นโตเนื้อแน่น เสิร์ฟมาคู่กับ ซอสในสไตล์ฟองดูว์ ผักชุนงิคุ (Shungiku-春菊) กลิ่นหอมยั่วใจมากมาย ผักชุนงิคุ (Shungiku) ส่วนมากจะชินตากับเวลาที่อยู่ในอาหารหม้อไฟ เพิ่งจะรู้ว่าเอามาทำซอสแบบนี้ก็อร่อยจนสมาชิกในทริปต้องขอพนักงานให้เอาซอสที่ยังเหลือไว้คลุกข้าวสวยเลยทีเดียว (ไม่ได้ล้อเล่นนะคะ ขอไว้จริง ๆ 555)
ส่วนเมนูที่ 3 จะเป็นซุปปลาและเห็ดหอมแน่นอนว่าใช้ ดาชิ อันเข้มข้นปรุงเช่นกันค่ะ
เมนูที่ 4 เป็นหอย 3 ชนิดจากชายฝั่งซันริคุ (Sanriku Coast) และ เมนูที่ 5 เป็นซาชิมิ สดหวาน ละมุนลิ้นมาพร้อมกับซอส 3 ชนิด ไล่จากซ้ายคือซอสมิโซะผสมมัสตาร์ด กลาง ซอสชุนงิคุ ขวา จำไม่ได้ค่ะ555 คืออร่อยจนความจำเตลิดไปทุกจานจริง ๆ ค่ะ ^^;
เมนูที่ 6 เป็น เชอร์เบทสาลี่มารับประทานตัดรสก่อนจะเข้าสู่ เมนูที่ 7 ซึ่งเป็น Main Dish ในคืนนี้
เนื้ออบ โรสบีฟ (Roast Beef) Main Dish ค่ำนี้จัดมาในจานแสนสวย เมนูเป็นเนื้อวากิวแน่นอน เกรดพรีเมี่ยมค่ะ เนื้อชิ้นโตพอดีคำ อบมาพอดี๊พอดี เคียงข้างมาพร้อมกับผักอบนานาชนิด อร่อยจนผู้เขียนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาบรรยายให้ทุก ๆ ท่านได้รับรู้ถึงความพิเศษของค่ำคืนนี้ได้จริง ๆ ค่ะ…
และเมนูสุดท้าย ตามสไตล์ญี่ปุ่นจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นั่นคือข้าวสวยร้อน ๆ ที่มาพร้อมกับซุปมิโซะ และผักดอง
แต่อยากจะบอกว่า ที่นี่เค้าเซอร์ไพรส์จนแทบนาทีสุดท้ายจริง ๆ ผักดองที่นำมาเสิร์ฟมาในรูปแบบโถแก้วที่มีแก้วเป็นรูปร่างกระดิ่งทับมาด้านบน คือในเวลาเราทำผักดองเนี่ย จะต้องมีของหนัก ๆ มาวางทับ เพื่อให้น้ำหนักกดอัดผักไว้ และเค้าก็เอาแก้วอันนี้แหละวางมาทั้งโถเลย น่ารักมากมายค่ะ ^^
ความอร่อยยังไม่หยุดแค่นี้ เมื่อพนักงานมาบอกเราว่า เชิญทุก ๆ ท่าน รับของหวานที่บริเวณห้องโถงครับ…… โอ้ววววว เปลี่ยนที่ไปรับประทานของหวานหรือนี่………. ทุก ๆ คนตื่นเต้น ว่าจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์อีก และเดินตามพนักงานไป….
เมื่อมาถึงโซนของหวาน มีพนักงานยืนรอบริการอยู่แล้ว ทั้งขนมอบใหม่ ๆ และผลไม้ให้เลือกหลายชนิด จะรับพร้อมชาหรือกาแฟก็ตามแต่จะชอบกันได้เลย
ได้ของหวานแล้ว เราจะเลือกนั่งรับประทานตรงนั้นพร้อมอ่านหนังสือจากตู้ด้านในก็ได้ หรือจะเลือกเอาไปรับประทานต่อที่ห้องก็ได้เช่นกันค่ะ…
เริ่มเช้าวันใหม่ ด้วยการแช่อนเซ็นอุ่น ๆ ท่ามกลางบรรยากาศแสนสดชื่นก่อนออกเดินทางกัน แล้วไปรับประทานมื้อเช้ากันนะคะ แน่นอนว่าจัดในห้องส่วนตัวไม่มีปะปนกับแขกห้องอื่น ๆ เช่นกัน
อาหารเช้าของเราวันนี้เริ่มต้นด้วยสลัดผักสด ๆ ที่ปลูกเองในพื้นที่ของโรงแรม และน้ำผลไม้คั้นสดเช่น กีวี่ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับสลัดหวานฉ่ำสุด ๆ เลยค่ะ …
วิวจากโต๊ะอาหารเช้า
อิ่มแล้วก็ไปแช่อนเซ็นกันต่อค่ะ นอกจากบ่อส่วนตัวในห้องแล้ว ยังมีบ่ออนเซ็นไพรเวทของทางโรงแรมอีก 4 บ่อ และบ่อรวมใหญ่ (แยกชาย-หญิง) อีก 1 บ่อด้วย เรียกว่า แช่ได้อย่างจุใจจนกว่าจะถึงเวลาเช็คเอาท์กันเลยทีเดียว … และอย่างที่บอกแต่แรกค่ะ โรงแรมนี้มีพื้นที่กว้างมาก ๆ เวลาจะเดินไปจุดต่าง ๆ ของโรงแรมต้องดูแผนที่ให้ดี ๆ ไม่งั้นมีเดินหลงกันบ้างแน่นอนค่ะ55
Cr Photo: www.daikon-no-hana.com
ห้องอนเซ็นไพรเวทไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้านะคะ เวลาจะใช้บริการให้ดูตรงทางเข้าว่ามีไม้ไผ่มากันราวไว้หรือไม่ ถ้าไม่มีก็คือเข้าไปแช่ได้เลย
แต่อย่าลืมเอาไม้มากันไว้และกลับด้านป้ายตรงทางเข้าด้วยนะคะ เดี๋ยวมีคนมาแช่เป็นเพื่อนไม่รู้ด้วยนะ คริ คริ….
เดินเล่นหลังแช่อนเซ็นกันต่ออีกสักนิด หรือจะยืมจักรยานของโรงแรมปั่นออกกำลังกายก็ได้นะคะ โรงแรมนี้กว้างจริง ๆ ค่ะ ถ้าจะมาอยากแนะนำให้เผื่อเวลาเข้ามาเช็คอินเร็ว ๆ ใช้เวลาดื่มด่ำให้เต็มที่เลยนะคะ และถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นควรมาพักสัก 2 คืนค่ะ
จุดขายของที่ระลึกด้านหน้าฟร้อนท์มีของหลากหลายให้เลือกซื้อ ทั้งเครื่องใช้ประจำวันไปจนถึงจานชามแบบเดียวกับที่โรงแรมใช้เสิร์ฟ แต่ละชิ้น สีสันน่าใช้ และเป็นแบรนด์ยอดนิยมทั้งนั้นเลยค่ะ
เนื่องจากยังมีเวลาเหลือ (เพราะทริปเดินทางด้วยรถส่วนตัวของเราชิวมาก55) ก่อนเช็คเอาท์ ทางโรงแรมได้เชิญชวนให้เราไปชมห้องข้าง ๆ แน่นอนว่าไม่ปฏิเสธค่ะ อยากดูว่าห้องอื่น ๆ จะตกแต่งยังไง เดินผ่านสะพานไม้ตามเจ้าหน้าที่ไปสักพักก็ถึงห้องที่ชื่อว่า “โมมิจิ” (Momiji)
ห้องนอนโทนไม้เพดานโปร่งรับแสง ให้บรรยากาศดูอบอุ่นมาก ๆ มีอนเซ็นส่วนตัวเช่นกัน แต่ที่แตกต่างจนเราร้องว้าวไม่หยุดคือ ซันรูฟที่มีกระจกบานใหญ่มองเห็นวิวใบไม้แดง ด้านนอกสวยมาก ๆ และยังมีลานนั่งเล่นกว้าง ๆ ส่วนตัวด้านนอกอีกด้วย ไหน ๆ ก็มาแล้ว ขอนั่งจิบกาแฟต่ออีกสักนิดก็แล้วกัน…
ไดกงโนะฮานะ (Daikon no Hana)
เว็บไซต์: https://www.daikon-no-hana.com/en/ (ภาษาอังกฤษ)
พิกัดโรงแรมไดกงโนะฮานะ (Daikon no Hana): https://g.page/onsensansou_daikonnohana?share
รับกาแฟหอมละมุนท่ามกลางอากาศสดชื่น วิวสวย ๆ กันแล้วก็ถึงเวลาออกเที่ยวกันต่อค่ะ ใน Ep. ต่อไปเราจะพาไปเที่ยวกันที่จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) ซึ่งแน่นอนว่าอัดแน่นครบรสเช่นเคยอย่าลืมติดตามกันนะคะ….
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– Road Trip เที่ยวญี่ปุ่นแบบสวยๆ ไม่เร่งรีบ กินดีนอนหรู ที่โทโฮคุตอนใต้ 3 จังหวัด Ep.2
– เที่ยว 3 เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ แห่งภูมิภาค Tohoku ตอนใต้
– เที่ยวภูมิภาคโทโฮขุ ตอน สัมผัสมนต์เสน่ห์ฤดูหนาว
– เที่ยวภูมิภาคโทโฮขุ ตอน ธรรมชาติแสนงามกับเทศกาลฤดูร้อน
– เที่ยวภูมิภาคโทโฮขุ ตอน ใบไม้ผลิทั้งที มีดีที่ไหนบ้าง
– โทโฮขุ (Tohoku) อีสานแห่งญี่ปุ่น
#Road Trip เที่ยวญี่ปุ่นแบบสวยๆ ไม่เร่งรีบ กินดีนอนหรู ที่โทโฮคุตอนใต้ 3 จังหวัด Ep.1 #South Tohoku