เราจะพาทุกคนไปเที่ยวทตโทริ พร้อมกับการตามล่าสัตว์ที่ซ่อนอยู่ทั้ง 6 ชนิด ที่จะทำให้คุณรู้จัก Tottori แบบทุกซอกทุกมุม !
ใครที่เคยไปเที่ยวหรือเคยได้ยินเกี่ยวกับจังหวัด “ทตโทริ” จะรู้ดีว่าทตโทริเป็นจังหวัดที่เที่ยวได้หลากสไตล์มาก เพราะมีความงดงามทางธรรมชาติอันหลากหลายทั้งภูเขา ทะเล ไปจนทะเลทราย อาหารทะเลก็สดอร่อย และยังมีกิจกรรมหลายแนวที่ตอบโจทย์คนทุกวัย เหมาะเป็นสถานที่ที่จะมาเที่ยวพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ แต่…มีที่เที่ยวเยอะแบบนี้จะเที่ยวครบไหมเนี่ย?
ไม่ต้องกังวลไป เราจะพาทุกคนไปเที่ยวทตโทริ พร้อมกับการตามล่าสัตว์ที่ซ่อนอยู่ทั้ง 6 ชนิด ที่จะทำให้คุณรู้จัก “ทตโทริ” แบบทุกซอกทุกมุม !
อูฐแห่งเนินทรายสีทอง
ไม่ต้องไปไกลถึงทะเลทรายซาฮาร่า หรืออียิปต์แดนพีระมิด ที่ “เนินทรายทตโทริ” แห่งนี้มีเหล่าน้องอูฐตาพริ้ม นอนรอนักท่องเที่ยวทุกคน ให้มาชื่นชมความงามของเนินทรายสีเหลืองทองอันกว้างใหญ่ตัดกับทะเลระยิบระยับและท้องฟ้าสีคราม เรียกว่าเป็นภาพที่ต้องมาเห็นด้วยตาตัวเอง
เนินทรายทตโทริ เป็นเนินทรายที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น แม้จะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางทะเลทราย แต่สภาพอากาศที่นี่ไม่ได้ร้อนแห้งแล้งแต่อย่างใด นอกจากหน้าร้อนแล้ว อากาศเย็นสบายมากๆ และเมื่อหิมะโปรยปรายลงมาปกคลุมในช่วงฤดูหนาว เราจะได้เห็นความสวยงามอีกแบบ เนินทรายจะถูกย้อมกลายเป็นสีขาวโพลนสะอาดตา
อีกเอกลักษณ์ของเนินทรายทตโทริ คือ รอยริ้วคลื่นบนผืนทรายที่พลิ้วไหวตามกระแสลมราวกับมีชีวิต ลวดลายแปรเปลี่ยนไปทุกครั้งที่ลมพัดผ่าน จนคนญี่ปุ่นเรียกกันว่า “ศิลปะแห่งทราย”
สำหรับการมาเที่ยว สามารถมาได้ทั้งวัน จะเดินเล่นช่วงเช้า ทำกิจกรรมช่วงบ่าย หรือชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นก็ได้หมด
ที่นี่มีบริการให้ยืมรถเข็นฟรีด้วยนะ เป็นรถเข็นมีล้อขนาดใหญ่เคลื่อนที่บนพื้นทรายได้ มาเที่ยวกันได้ทั้งครอบครัวเลย
กิจกรรมที่ห้ามพลาด : ขี่อูฐ, แซนด์บอร์ด, พาราไกลเดอร์, ขี่จักรยานล้อใหญ่บนเนินทราย
การเดินทาง : นั่งรสบัสจากสถานี JR Tottori มาลงป้าย Suna no Bijutsukan ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
ปูเจ้าถิ่นแห่งท่าเรือซาไกมินาโตะ
เมื่อนึกถึงปู หลายคนอาจจะนึกถึงฮอกไกโด แต่รู้หรือไม่ว่าทตโทริเป็นจังหวัดที่จับปูได้เยอะที่สุดในญี่ปุ่น!!!
ปูจึงเป็น “สุดยอดอาหารแห่งทตโทริ” เวลาคนญี่ปุ่นอยากกินปูสดเนื้อแน่นหวานอร่อย ก็จะมากันที่ทตโทรินี่แหละ
แหล่งจับปูของทตโทริอยู่ที่ซาไกมินาโตะ (Sakai minato) ท่าเรือที่มีการประมูลซื้อขายกันอย่างคึกคักในช่วงฤดูปู ติดกับท่าเรือจะมี “ตลาดซีฟู้ดซาไกมินาโตะ” ตลาดสดที่ขายอาหารทะเลและปู ราคาถูกมาก ปูที่เพิ่งจับมาสดๆ ขึ้นจากท่าเรือปั๊บ ก็ส่งตรงมาที่ตลาดทันที
จะซื้อแบบสดๆ กินเลยก็ได้ หรือแวะไปนั่งทานให้อิ่มหน่ำในร้านอาหารข้างตลาดที่ใช้ของสดๆ จาก “ตลาดซีฟู้ดซาไกมินาโตะ” ทั้งนั้น ราคาไม่แพง อย่างข้าวหน้าปูสนนราคาเริ่มต้นที่ 1000 เยนเท่านั้น บุฟเฟต์เริ่มต้นที่ 2000 เยน
ฤดูในการกินปู : พ.ย. – ก.พ. ช่วงฤดูหนาวเป็นฤดูตกปู ทำให้ราคาถูกเป็นพิเศษ และมีปูหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือกทาน แต่ทั้งนี้สามารถมาทานปูที่นี่ได้ตลอดทั้งปี
การเดินทาง : จากสถานี JR Sakaiminato ขึ้นรถบัส 15 นาที
วัวในทุ่งหญ้าเขียวขจีแห่งไดเซ็น
“มอออออ” นุ้งวัวววว วัวที่นี่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูมาก เพราะ…มันอารมณ์ดีไงล่ะ เดินสวยๆ อยู่ในทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่มของภูเขาไดเซ็น (ภูเขาที่ได้ชื่อว่าเป็นฟูจิแห่งฝั่งตะวันตก)
ใครที่อยากใกล้ชิดน้องวัวแสนน่ารัก เราขอแนะนำ “ฟาร์ม Milk no sato” ที่นี่จะได้ใกล้ชิดกับน้องวัว ได้ทดลองรีดนมวัว ไปจนถึงลองทำเนย ทำไอศกรีมด้วยตัวเอง วัวที่นี่เลี้ยงในฟาร์มเปิด เดินทอดน่องชมวิว แทะเล็มต้นหญ้าอย่างอิสระ พอวัวมีสุขภาพจิตดี ผลผลิตที่ได้อย่างน้ำนมจึงอร่อยเป็นพิเศษ ที่นี่ยังมีขนมและของหวานที่ผลิตจากนมวัวอีกด้วย ของหวานที่ขึ้นชื่อที่สุดและห้ามพลาดเลยคือ “ซอฟต์ครีม” กล้ารับประกันความอร่อยเลย เพราะเคยไปลิ้มลองมาแล้ว นมสดหอมมันอร่อยมากจริงๆ
ส่วนภูเขาไดเซ็นที่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างๆ บอกเลยว่าสวยไม่แพ้ภูเขาฟูจิ เขียวขจีในฤดูร้อน ผลัดใบเปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และขาวโพลนในฤดูหนาว เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มาฤดูไหนก็สวยประทับใจ ไม่ได้มีดีแค่ธรรมชาติ แต่มียังกิจกรรมให้ฟินกันได้ตลอดทั้งปี ตั้งแต่กิจกรรมสุดผ่อนคลายไปจนกิจกรรมสุดท้าทาย
กิจกรรมที่ห้ามพลาด : ปีนเขา ตั้งแคมป์ เล่นสกี แช่ออนเซ็น กินปู
การเดินทาง : จากสถานี JR Yonago ขึ้นรถบัสมาลงป้าย Daisenji ใช้เวลา 50 นาที จากนั้นเดินต่ออีก 15 นาที
ผีเสื้อในหมู่ดอกไม้กว่า 2 ล้านต้น
ผีเสื้ออาจจะต้องหาหน่อย แต่ดอกไม้สวยๆ หันไปทางไหนก็เจอแน่นอน
“สวนดอกไม้ฮานะไคโระ (Tottori Hanakairo Flower Park)” สวนดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีดอกไม้มากกว่า 400 สายพันธุ์ รวมกว่า 2 ล้านต้น ให้ผีเสื้อมากมายมาบินวนตอมดอกไม้กันอย่างเพลิดเพลิน
ในสวนเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสันนานาพรรณที่จัดอย่างสวยงาม โพสท่ามุมไหนก็ได้รูปสวยเป๊ะ แถมดอกไม้ที่ปลูกในสวนจะมีการผลัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ไปเยือนกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ นอกจากถ่ายภาพดอกไม้แล้ว อีกจุดถ่ายภาพที่สวยที่สุด คือ สวนดอกไม้ฮานะไคโระที่มีภูเขาไดเซ็นเป็นฉากหลัง และหากมาท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว ก็จะได้ชมสวนดอกไม้ที่ประดับไฟตระการตา ท่ามกลางอากาศหนาวๆ โรแมนติกสุดๆ
การเดินทาง : นั่งรถชัทเทิลบัสฟรี จากสถานีรถไฟ JR โยนะโงะ ใช้เวลาประมาณ 25 นาที
กบประจำบ่อออนเซ็น
เมืองมิซาสะ ที่ทตโทริ เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็น ใครที่ได้มาเยือนจึงไม่ควรพลาดที่จะไปนอนแช่ตัวที่ “มิซาสะออนเซ็น”
ที่มิซาสะออนเซ็น เราพบว่ามาสค็อตของที่นี่ คือ กบคะจิกะ เมื่อเดินเล่นในเมืองก็ยังเจอรูปปั้นกบตามที่ต่างๆ มีร้านขายของโลคอลที่ขายเซรามิค ไม้แกะสลักเป็นรูปกบ และสินค้ามากมายที่เป็นรูปกบ เราลองสืบดูจนพบว่า กบคะจิกะเป็นเหมือนตัวแทนของน้ำที่ใสสะอาดของเมืองนี้ เนื่องจากกบคะจิกะเป็นกบล้ำค่าที่สามารถอาศัยอยู่ได้ในน้ำสะอาดเท่านั้น
นอกจากเรื่องความใสสะอาดของน้ำ มิซาสะออนเซ็นมีความแตกต่างจากออนเซ็นอื่นในญี่ปุ่น เพราะ เป็นออนเซ็นไม่กี่แห่งในญี่ปุ่นที่มีปริมาณของแร่ธาตุเรเดียมมากเป็นอันดับต้นๆของโลก ซึ่งแร่ธาตุเรเดียมมีสรรพคุณช่วยรักษาโรค เช่น โรคระบบทางเดินอาหาร โรคระบบไหลเวียนโลหิต โรคความดันโลหิตสูง โรคไขข้อ
มิซาสะออนเซ็น จึงเป็นออนเซ็นที่มีชื่อเสียงยาวนานกว่า 850 ปี ผู้คนทั้งในและนอกญี่ปุ่นต่างเดินทางมาเยือน มิซาสะออนเซ็นยังดังไปถึงโลกการ์ตูน โดยปรากฏในมังงะชื่อดัง Thermae Romae หรือ สู้ต่อไป ลูเซียส
การเดินทาง : ขึ้นรถบัสจากสถานี JR Kurayoshi 20 นาที
กระต่ายประทานพรให้ไม่นกอีกต่อไป
“ศาลเจ้าฮาคุโตะ” ศาลเจ้าที่มีรูปปั้นกระต่ายน่ารักอยู่เต็มไปหมด ทำไมต้องเป็นกระต่ายกันนะ ?
เมื่อนานมาแล้ว กระต่ายตัวหนึ่งถูกจระเข้ตะครุบจนบาดเจ็บสาหัส ถึงอย่างนั้นก็ยังถูกเทพเจ้าที่ผ่านมาเห็นกลั่นแกล้ง หลอกให้กระต่ายลงทะเล แล้วขึ้นมาตากลมให้แห้ง เพื่อจะรักษาแผล เมื่อกระต่ายทำตาม บาดแผลก็ยิ่งเจ็บปวดมากกว่าเดิม จนกระทั่ง “เทพเจ้าโอคุนินุชิ” เดินทางผ่านมาพบ จึงบอกให้กระต่ายล้างตัวในบ่อน้ำสะอาด แล้วทาด้วยพืชสมุนไพร กระต่ายทำตามดังนั้น แล้วบาดแผลก็หายดี กระต่ายให้พรแก่เทพเจ้าโอคุนินุชิ ให้สมหวังเรื่องความรักกับหญิงงามนามว่า “ยางามิฮิเมะ” ไม่นานเทพเจ้าโอคุนินุชิก็ได้แต่งงานกับยางามิฮิเมะ…ส่วนเจ้ากระต่ายก็กลายเป็นเทพเจ้าแห่ง “ศาลเจ้าฮาคุโตะ”
ด้วยเหตุนี้ “ศาลเจ้าฮาคุโตะ” จึงกลายเป็นศาลเจ้าแห่งความรักที่สมปรารถนา ทั้งคู่รักและคนโสดเดินทางมายังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งทตโทรินี้ เพื่อขอพรให้สมหวังในความรัก คนมีคู่ก็ขอให้ความรักนั้นยั่งยืนยาวนาน ไม่โดนเท หลังจากขอพรเสร็จ ยังมีเครื่องรางความรักที่เป็นรูปกระต่ายน่ารักหลากหลายแบบให้เลือกซื้อ น่ารักทุกอันจนเลือกไม่ถูก อยากจะเหมามาให้หมด จะได้สมหวังเรื่องความรักกับเขาสักที
การเดินทาง : จากสถานี JR Tottori นั่งรถ Hinomaru Bus ไป Shikano 40 นาที ลงที่ป้าย Hakuto Jinja-mae
อูฐที่นอนบนเนินทราย วัวที่วิ่งเล่นในทุ่งหญ้า หรือกระต่ายขาวแห่งความรัก และสัตว์อื่นๆ ทั้ง 6 ชนิด รอคอยให้ทุกคนมาค้นพบอยู่เสมอที่ “ทตโทริ”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– รีวิวทริปสนุกสุดแสนแดนชูโกกุ : เที่ยวทตโทริ…หลบหน่อยพระเอกมา
– เที่ยวจังหวัดทตโทริ (Tottori)
– เที่ยว SETOUCHI : เที่ยวทะเลทราย Tottori
– เที่ยว SETOUCHI : ท่องโลกแห่งตัวการ์ตูนในจังหวัด Tottori
– เที่ยว SETOUCHI : อำลา Tottori ได้เวลาล่องนาวาทะเลในเซโตะ
#Tottori #ทตโทริ