ขับรถเหนือใต้ออกตก Mission Shin-Kamigoto ตอนที่ 2 วันนี้เรามาต่อกันที่สถานที่สวย ๆ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวในตำบลชินคามิโกโต้ มีภาพ 360 องศาเพิ่มบรรยากาศในการอ่านหลายภาพเลยนะคะ
สวัสดีค่ะ คราวที่แล้วป้าหมวยยยพาชมสถานที่อย่างโบสถ์ที่สวยงามแปลกตาบนหมู่เกาะแห่งความศรัทธาของจังหวัดนางาซากิ
วันนี้เรามาต่อกันที่สถานที่สวย ๆ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวในตำบลชินคามิโกโต้ มีภาพ 360 องศาเพิ่มบรรยากาศในการอ่านหลายภาพเลยนะคะ
วัดเก็งไคจิ
หน้าวัดเก็งไคจิ
วัดเก็งไคจิ (元海寺 Genkai-ji / Genkaiji Temple) เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในตำบลคามิโกโต้ค่ะ เดิมมีอารามที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1674 ก่อนจะย้ายมาสร้างอยู่ ณ ที่นี้เมื่อปี 1797 เป็นวัดนิกายโจโดชินชูที่พระจากภูมิภาคชิโกกุมาเผยแพร่เป็นครั้งแรกบนหมู่เกาะโกโต้
ประตูวัดเก็งไคจิสร้างด้วยอิฐแดง
วัดนี้มีชื่อเสียงเกี่ยวกับประตูวัดที่สร้างด้วยอิฐแดงอันหาดูได้ยากในบรรดาวัดพุทธทั่วไป และเป็นฝีมือของคุณเท็ตสึคาวะ โยสึเกะ (鉄川与助 Tetsukawa Yosuke) นายช่างและสถาปนิกผู้สร้างโบสถ์คาทอลิกที่มีผลงานในพื้นที่นางาซากิมากมายกว่า 30 แห่ง
บริเวณวัดเก็งไคจิ
โดยหลวงพ่อจาคุซุย เจ้าอาวาสวัดรุ่นที่ 11 ได้ขอให้เท็ตสึคาวะในวัย 45 ปี ช่วยบูรณะประตูวัดที่เสื่อมโทรมตามกาลเวลาในปี 1924
คุณเท็ตสึคาวะ โยสึเกะเกิดที่ตำบลชินคามิโกโต้แห่งนี้นี่เองค่ะ ไม่ไกลจากวัดนี้มีจุดที่เคยเป็นบ้านของท่านตั้งอยู่ แม้เป็นนายช่างผู้ชำนาญการออกแบบสร้างโบสถ์คริสต์คาทอลิก จริง ๆ แล้วท่านเป็นพุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสในนิกายโจโดะชินชูตราบจนสิ้นชีวิต นอกจากนี้วัดเก็งไคจินี้เป็นวัดประจำตระกูลท่านด้วย
บ้านเดิมของคุณเท็ตสึคาวะ โยสึเกะ
กำแพงอิฐและช่องประตูเข้าบ้านเดิมของคุณเท็ตสึคาวะ
บ้านเดิมของคุณเท็ตสึคาวะ โยสึเกะ (鉄川与助の旧居宅跡 Tetsukawa Yosuke no Kyūkyotaku-ato / Former Residence of Yosuke Tetsukawa) บิดาแห่งการสร้างโบสถ์คาทอลิกในนางาซากิ อยู่ในบริเวณหมู่บ้านมารุโอะ ตั้งอยู่ด้านหลังศาลเจ้าที่อยู่ติดท่าเรืออ่าวมารุโ สามารถจอดรถตรงท่าเรือแล้วเดินไปได้
ภาพ 360 องศารอบ ๆ พื้นที่บ้านเดิมของคุณเท็ตสึคาวะ
ปัจจุบันเหลือแต่กำแพงอิฐ ทางตำบลได้ปรับปรุงพื้นที่เป็นสวนสาธารณะเล็ก ๆ มีทางเดิน ป้ายข้อมูล ที่นั่งหิน และเศษซากชิ้นส่วนอิฐของตัวบ้านเล็กน้อย
มีความน่าสนใจอย่างหนึ่งตรงประตูเข้าบ้าน กำแพงทางซ้ายมือจะไม่ได้เป็นมุมฉากแต่จะป้านออกนิดหน่อย และหน้ากว้างของบันไดฝั่งซ้ายขวาจะไม่เท่ากันเหมือนพัด
สังเกตกำแพงฝั่งซ้ายที่ป้านออกและหน้ากว้างของบันไดที่ไม่เท่ากัน
ขอเล่าเกี่ยวกับประวัติคุณเท็ตสึคาวะ โยสึเกะสักหน่อยค่ะ
คุณเท็ตสึคาวะ โยสึเกะในวัยหนุ่มและวัยเข้าชรา
คุณเท็ตสึคาวะเกิดในตระกูลช่างไม้ที่บนเกาะนาคาโดริแห่งนี้ในปี 1879 หลังจบการศึกษาที่โรงเรียนประถม ก็ไปเป็นลูกมือให้นายช่างโนฮาระ ( 野原与吉 Nohara Yokichi) ที่สร้างโบสถ์บนเกาะฟุคุเอะ
ในช่วงวัย 20 ปีได้พบกับคุณพ่อเปลู บาทหลวงฝรั่งเศสที่จะสร้างโบสถ์โซเนะ และได้เรียนรู้การสร้างเพดาน Rib vault จากคุณพ่อ จากนั้นอีก 5 ปีถัดมาได้มีส่วนร่วมในการสร้างโบสถ์ไทโนะอุระบนเกาะนาคาโดริ และได้แยกตัวตั้งกลุ่มเท็ตสึคาวะที่มีลูกมือ 10 คน ในวัย 28 ปี
ในปี 1907 โบสถ์หลังแรกที่คุณเท็ตสึคาวะออกแบบ คือ โบสถ์ฮิยามิซึ (冷水教会Hiyamizu Kyōkai) ที่สร้างด้วยไม้ ปีถัดมาเริ่มสร้างโบสถ์อิฐแดงคือโบสถ์โนคุบิ (野首教会 Nokubi Kyōkai) และมีผลงานสร้างโบสถ์ต่าง ๆ อีกมากมาย ในจำนวนนี้มีหลายแห่งที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของจังหวัดหรือของชาติ
ป้ายแสดงผลงานโบสถ์ส่วนหนึ่งของคุณเท็ตสึคาวะที่ขึ้นทะเบียนสถานที่สำคัญ
คุณเท็ตสึคาวะแม้ไม่ได้ร่ำเรียนสูง แต่เป็นผู้ที่ใฝ่หาความรู้ใหม่ ๆ เสมอ ทั้งมีโอกาสได้เรียนรู้วิชาสถาปัตยกรรมและการก่อสร้างจากบาทหลวงฝรั่งเศสผู้มีความสามารถถึง 3 คน
ท่านได้เรียนรู้การสร้างเพดาน Rib vault และวิชาพีชคณิตจากคุณพ่อเปลู (อัลแบร์ต ชาร์เลส์ อาร์เซน เปลู / Albert Charles Arsene Pelu)
เรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคการก่อสร้างโบสถ์และโครงสร้างที่คงทนจากคุณพ่อเดอโรต์ซ (มัลค์ มารี เดอ โรต์ซ / Marc Marie de Rotz) ที่มักเรียกชื่อท่านมาสอนงานอย่างเป็นกันเองว่า “เท็ตสึ ๆ”
นอกจากนี้ยังได้รับอิทธิพลจากคุณพ่อเฟรโน (ปิแอร์ ธีโอเดร เฟรโน / Pierre-Théodre Fraineau) ที่นับเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งเพราะสามารถสร้างอาคารโบสถ์ออกมาได้โดยคิดและคำนวณอยู่ในหัวไม่ต้องวาดผังออกมา
นอกจากแบบแผนดั้งเดิมแล้วคุณเท็ตสึคาวะยังคิดออกแบบโบสถ์ รวมทั้งสร้างอาคารต่าง ๆ อีกมากมาย ด้วยสถาปัตยกรรม วิธีการก่อสร้าง และวัสดุใหม่ ๆ ที่ได้เรียนรู้ จึงได้รับการเชิดชูเกียรติจากผู้ว่าราชการจังหวัด ไปจนถึงได้รับพระราชทานเหรียญตราและเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ช่วงบั้นปลายชีวิต คุณเท็ตสึคาวะอาศัยอยู่กับครอบครัวที่โยโกฮาม่า มีสุขภาพแข็งแรง ความจำดี ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยฟัง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 1976 ในวัย 97 ปี
โบสถ์นาคาโนะอุระ
โบสถ์นาคาโนะอุระกับเงาสะท้อนผืนน้ำราวกับกระจก
สถานที่ถัดไปคือ โบสถ์นาคาโนะอุระ (中ノ浦教会 Nakanoura Kyōkai / Nakanoura Church) ที่ตั้งอยู่ริมอ่าวเล็ก ๆ ที่มีชื่อเสียงในความสวยงามของโบสถ์เมื่อสะท้อนกับท้องน้ำค่ะ
ถ้าตั้งใจจะไปโบสถ์นี้ ป้าแนะนำให้เช็คเวลาน้ำขึ้นลงให้ดีก่อนเดินทางไปค่ะ เพราะถ้าไปเจอช่วงน้ำลงอาจจะไม่ได้เห็นความสวยงามตรงนี้
ขอแนะนำเว็บนี้ค่ะ https://www.surf-life.blue/tide_level/福江 (เช็คเวลาน้ำขึ้นลงบริเวณเกาะฟุคุเอะของหมู่เกาะโกโต้) สามารถเลือกดูตามวันในปฏิทิน และแสดงช่วงเวลาน้ำขึ้นลงเป็นกราฟด้วยค่ะ สำหรับวันนั้น ป้ามีเวลาค่อนข้างจำกัด พอจัดเวลาได้ช่วงน้ำขึ้นยังไม่เต็มที่
โบสถ์นาคาโนะอุระ
ประวัติของโบสถ์นาคาโนะอุระมีอยู่ว่า ในอดีตคริสตังลับจากเขตคุโรซากิทางฝั่งโซโตเมะได้ข้ามทะเลมาอาศัยอยู่บริเวณนี้ ต่อมาในปี 1868 คริสตังลับทั่วหมู่เกาะโกโต้ถูกราชการจับกุมและนำตัวไปทรมาน เรียกว่า เหตุการณ์โกโต้คุซุเระ (五島崩れ) โดยเฉพาะพื้นที่คิริโนะอุระและนาคาโนะอุระที่เป็นสถานที่เกิดของกัสปาร์ โยซากุ ที่เป็นเหมือนผู้นำกลุ่มคริสตังนี้จะถูกเบียดเบียนรุนแรงเป็นพิเศษ (กัสปาร์ ชิโมมุระ โยซากุ เคยพูดถึงตอนชมโบสถ์คิริในตอนที่แล้ว ว่าเป็นผู้นำความหวังที่จะได้พบคุณพ่อบาทหลวงครั้งแรกมาสู่คริสตังลับแห่งเกาะโกโต้)
เมื่อเหตการณ์เบียดเบียนสิ้นสุดลงและประชาชนได้รับอิสรภาพในการนับถือศาสนา เหล่าคริสตังแห่งนาคาโนะอุระผู้เคยรับโทษทรมานจึงตั้งใจสร้างโบสถ์ที่สวยงามไม่ยิ่งหย่อนกว่าแห่งใดบนเกาะโกโต้ขึ้น ณ ที่แห่งนี้
กล่าวกันว่าโบสถ์นาคาโนะอุระได้ใช้โบสถ์ซาซาเระ (細石流教会 Sazare Kyōkai) ที่สร้างโดยคุณเท็ตสึคาวะ โยสึเกะบนเกาะฮิซากะที่ชิโมะโกโต้ในปี 1920 เป็นต้นแบบ (แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันโบสถ์นี้ถูกรื้อไปแล้ว)
หน้าโบสถ์นาคาโนะอุระ
ใต้โบสถ์มีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่เพื่อระบายความชื้นเนื่องจากตั้งอยู่ใกล้อ่าว
ปัจจุบัน โบสถ์นาคาโนะอุระอยู่ภายใต้การดูแลของเขตวัดคิริที่อยู่ห่างไปประมาณ 8 กิโลเมตร ตัวโบสถ์ทำด้วยไม้ทาสีขาว ลักษณะดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความสวยงาม สร้างเสร็จและเสกขึ้นอย่างสง่าเมื่อปี 1925 หอสูงด้านหน้ามีการต่อเติมขึ้นในปี 1966
โบสถ์วาคามัตสึโออุระ
โบสถ์วาคามัตสึโออุระ
ด้านหลังโบสถ์วาคามัตสึโออุระมองจากที่จอดรถ
โบสถ์วาคามัตสึโออุระ (若松大浦教会 Wakamatsu Ōura Kyōkai / Wakamatsu Oura Church) เป็นโบสถ์เล็ก ๆ อยู่ในซอยห่างจากถนนประมาณ 100 เมตร เมื่อมองจากลานจอดรถมีลักษณะคล้ายบ้านเรือนทั่วไป ยกเว้นแต่มีไม้กางเขนประดับอยู่บนยอดหลังคาและสัญลักษณ์กางเขนตรงทางเข้าด้านหน้า ตามประวัติโบสถ์นี้ตั้งขึ้นเมื่อ 5 สิงหาคม 1926 โดยยืมบ้านมาตั้งเป็นโบสถ์ ปัจจุบันมีสถานะเป็นโบสถ์เวียนของเขตวัดคิริ
แม่พระภายในโบสถ์ที่มีลักษณะแบบญี่ปุ่น ภาพจาก Shinkamigoto.Nagasaki-tabinet
ภายในโบสถ์ตรงด้านในสุดเหนือพระแท่นประดิษฐานพระรูปพระแม่เมืองลูร์ดที่ชาวบ้านคริสตชนสลักขึ้นเองเพราะเงินทุนไม่เพียงพอ พระแม่จึงมีหน้าตาลักษณะแบบญี่ปุ่น ตรงฐานวาดเป็นรูปดอกกุหลาบ
สะพานวาคามัตสึโอฮาชิ
สะพานวาคามัตสึโอฮาชิ
สะพานวาคามัตสึโอฮาชิ (若松大橋 Wakamatsu Ōhashi / Wakamatsu Ohashi Bridge) เป็นสะพานเชื่อมต่อช่องแคบวาคามัตสึ (若松瀬戸 Wakamatsu-seto) ระหว่างเกาะใหญ่สองเกาะของตำบลชินคามิโกโต้ คือเกาะนาคาโดริและเกาะวาคามัตสึ
สะพานนี้เป็นสะพานโครงถัก (Truss Bridge) ยาว 522 เมตร สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 26 เมตร เปิดใช้ในปี 1991 แม้ฝั่งเกาะวาคามัตสึจะมีคนอาศัยน้อยมาก เพียงหลักพันต้น ๆ เท่านั้น แต่การสร้างสะพานนี้ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชากรได้มากจากแต่เดิมที่ต้องอาศัยเรือเล็กข้ามฟากเท่านั้น
นอกจากแวะชมสะพานวาคามัตสึตรงสวนสาธารณะใกล้เชิงสะพานแล้ว ยังสามารถชมสะพานได้จากบนเรือเฟอร์รี่ไทโกะ (Taiko) ที่วิ่งระหว่างฮาคาตะ – โกโต้ – ฮาคาตะที่ลอดผ่านสะพานนี้ในช่วงเช้าตรู่และบ่ายทุกวัน
ขณะที่เรือลอดผ่านสะพานวาคามัตสึตอนเช้าตรู่ ถ่ายจากบนเรือเฟอร์รี่ไทโกะเมื่อปี 2018
โบสถ์อาริฟุคุ
โบสถ์อาริฟุคุ
โบสถ์อาริฟุคุ (有福教会 Arifuku Kyōkai / Arifuku Church) ตั้งอยู่บนเกาะอาริฟุคุที่อยู่ทางตะวันตกสุดของตำบลชินคามิโกโต้ ห่างจากสะพานวาคามัตสึประมาณ 13 กิโลเมตร
โบสถ์หลังนี้มีขนาดเล็กน่ารัก ทาสีเทาอ่อน-ขาว หลังคาโบสถ์มีลักษณะซ้อนสองชั้น ติดตั้งพระรูปแม่พระดาราสมุทรอยู่ด้านหน้า โบสถ์หันหน้าไปทางทะเล
ภาพ 360 องศาของโบสถ์อาริฟุคุที่ตั้งอยู่บนเนิน
ภาพ 360 องศาหน้าโบสถ์อาริฟุคุ
พระรูปพระแม่ดาราสมุทรหันหน้าไปทางทะเลกว้าง
ประวัติโบสถ์มีว่าคริสตังหลบหนีสายตาราชการจากโซโตเมะมาถึงที่นี่ ลงปักหลักปักฐานและเลี้ยงชีพด้วยการทำการประมง โบสถ์หลังนี้สร้างเสร็จและเสกขึ้นในปี 1927 และปรับปรุงอีกครั้งในปี 1947 สมัยก่อนเคยสังกัดเป็นโบสถ์เวียนในเขตวัดของเกาะนารุที่อยู่ใกล้เคียง แต่ปัจจุบันมีสถานะเป็นโบสถ์เวียนของเขตวัดโดอิโนะอุระ
ภาพ 360 องศาหน้าทางเข้าโบสถ์อาริฟุคุ มีบ้านร้างและลานจอดรถเล็ก ๆ
ฝั่งตรงข้ามโบสถ์เป็นเหมือนหาดที่มีแผ่นกันคลื่น (water breaker) มองเห็นทะเลและเกาะต่าง ๆ สวยดีค่ะ
โบสถ์โดอิโนะอุระ
โบสถ์โดอิโนะอุระตั้งอยู่บนเนิน
โบสถ์โดอิโนะอุระ (土井ノ浦教会 Doinoura Kyōkai / Doinoura Church) ตั้งอยู่บนเนินเขามองเห็นทะเลและท่าเรือเล็ก ๆ
ประวัติว่า โบสถ์โดอิโนะอุระหลังแรกสร้างขึ้นด้วยไม้ในปี 1892 ต่อมาโบสถ์โอโซะที่สร้างขึ้นด้วยไม้ในปี 1879 และมีความเก่าแก่รองจากโบสถ์โออุระได้มีการสร้างขึ้นใหม่ด้วยอิฐ จึงมีการย้ายโบสถ์โอโซะหลังเก่าที่ทำด้วยไม้มาประกอบขึ้นในช่วงปี 1917 – 1918
โบสถ์หลังปัจจุบันมีการขยายและปรับปรุงในปี 1960 และในปี 1997 เดิมเป็นโบสถ์สังกัดเขตวัดคิริ แต่ภายหลังได้รวมกับโบสถ์โดอิโนะอุระ โบสถ์โอบิระ และโบสถ์อาริฟุคุตั้งขึ้นเป็นเขตวัตโดอิโนะอุระ
ภาพ 360 องศาหน้าโบสถ์โดอิโนะอุระ
กล่าวกันว่าคริสตังราว 180 ครอบครัวที่เคยอยู่ที่นี่เมื่อราว 400 ปีก่อนไปเข้าร่วมกบฏชิมาบาระ (島原の乱 Shimabara no ran) ปี 1637 และไม่มีใครกลับมาอีกเลย ส่วนบรรพบุรุษของคริสตชนในบริเวณนี้เป็นคริสตังลับที่ย้ายมาจากเขตโอมุระฝั่งแผ่นดินใหญ่
ถึงด้านนอกโบสถ์โดอิโนะอุระจะดูเป็นทรงเรขาคณิตทันสมัย แต่ภายในยังคงลักษณะโบสถ์แบบดั้งเดิมคือ ใช้วัสดุไม้และมีเพดานแบบ Rib vault และมีสเตนกลาสลวดลายสีสันงดงาม และหน้าต่างกุหลาบ (หน้าต่างประดับกระจกสีทางด้านหน้าของโบสถ์) เป็นรูปพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ (รูปหัวใจพระคริสต์มีหนามล้อม) ที่สวยงามมาก
หน้าโบสถ์มีอนุสาวรีย์ระลึกถึงมรณสักขีคาลิสโต (カリスト殉教顕彰碑 Callisto Junkyō Kenshōhi) ตั้งขึ้นเมื่อกันยายน 2001
อนุสาวรีย์ระลึกถึงมรณสักขีคาลิสโต
คาลิสโตคุเอมอน (カリスト九衛門 Callisto Kuemon) เกิดที่ฮิวงะ (ปัจจุบันอยู่ในจังหวัดมิยาซากิ) เข้ารับการศึกษาที่บุงโกะและอาริมะ แล้วข้ามทะเลมาที่อยู่ที่เกาะวาคามัตสึ แพร่ธรรมในเกาะโกโต้เป็นเวลากว่า 27 ปี ต่อมาถูกทางราชการจับตัวได้ คาลิสโตถูกประหารด้วยการตัดศีรษะในปี 1624
ภายในพิพิธภัณฑ์คาลิสโต
ในซอกเล็ก ๆ ข้างโบสถ์มีพิพิธภัณฑ์คาลิสโต (カリスト資料館 Callisto Shiryōkan) เก็บรักษาวัตถุโบราณของคริสตังลับ เช่น พระรูปมาเรียคันนง รูปเคารพแทนพระคริสต์ กางเขน เหรียญบูชา สมุดบันทึกบทสวดโอราโช เปลือกหอยเป๋าฮื้อที่ใช้ในพิธีล้างบาปของคริสตังลับ รวมทั้งเชิงเทียนรูปดอกไม้และระฆังที่เคยใช้ในโบสถ์ เป็นต้น
โบสถ์โอบิระ
โบสถ์โอบิระ
โบสถ์โอบิระ (大平教会 Ōbira Kyōkai / Obira Church) เป็นโบสถ์ที่อยู่ไกลอยู่เกือบเหนือสุดของเกาะวาคามัตสึค่ะ ขับรถบางจุดเหมือนเข้าป่าเข้าดงถนนลาดยางหยาบ ๆ นาน ๆ ถึงจะมีรถสวนทางมาสักคัน
จริง ๆ ป้าเคยเห็นโบสถ์โอบิระนี้จากบนเรือไทโกะตอนมาที่เกาะโกโต้ครั้งแรกเมื่อปีก่อนเพราะอยู่ในเส้นทางเดินเรือ เลยรีบคว้ากล้องมาซูมถ่ายไว้
โบสถ์โอบิระซูมถ่ายจากบนเรือไทโกะเมื่อปี 2018 อาคารสีเหลืองคือโรงเรียนประถมเก่า
เป็นโบสถ์ที่รู้สึกว่ามีสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์มาก หน้าโบสถ์ทรงป้าน ๆ หอสูงดูคล้ายหอระฆังแต่ก็ไม่มีระฆังด้านหน้ามีพระรูปพระแม่มารีย์เสด็จขึ้นสวรรค์ (被昇天の聖母 Hishōten no Seibo / Our Lady of the Assumption) ประดิษฐาน ถัดมาเป็นหอระฆังเตี้ย ๆ
โบสถ์โอบิระหลังแรกสร้างขึ้นในปี 1892 มีสภาพเก่าแก่จึงได้สร้างโบสถ์หลังนี้ขึ้นใหม่ในปี 1958
ภาพ 360 องศาหน้าโบสถ์โอบิระ
ฝั่งตรงข้ามโบสถ์เป็นโรงเรียนประถมโอบิระ (大平小学校 Ōbira Shōgakkō ) ที่ปิดตัวไปเมื่อมีนาคม 2003 เนื่องจากจำนวนประชากรในชุมชนลดน้อยลง ยังคงเหลือประตูทางเข้า ป้ายชื่อโรงเรียน รูปปั้นทำเอง อาคารเรียนสูง 3 ชั้น จินตนาการได้ถึงความมีชีวิตชีวาของชุมชนในอดีตค่ะ
ป้ายโรงเรียนประถมโอบิระที่ปิดตัวไปเมื่อปี 2003
ทางเข้าโรงเรียนประถมโอบิระ มองเห็นภูเขาอยู่ไกล ๆ
อาคารเรียนเก่าโรงเรียนประถมโอบิระ
เวลามีไม่มากเพราะฤดูหนาวมืดเร็วเลยไม่ได้เดินสำรวจตรงลานหน้าโรงเรียนสักเท่าไร
จากโบสถ์โอบิระขับรถกลับมาทางเดิมประมาณ 7 กิโลเมตร สามารถแวะชมจุดชมวิวริวคังซัน (龍観山展望所 Ryūkanzan Tenbōsho) ที่สามารถมองเห็นช่องแคบและสะพานวาคามัตสึโอฮาชิ และท่าเรือวาคามัตสึ
ทิวทัศน์ฝั่งช่องแคบวาคามัตสึจากจุดชมวิวริวกังซัน
ภาพ 360 องศาบนจุดชมวิวริวกังซัน
Kamigoto Night Tour
ตอนค่ำป้าหมวยยยเข้าร่วม Kamigoto Night Tour ที่ซื้อไว้ล่วงหน้า ทัวร์นี้ราคา 3,000 เยน ซื้อจองผ่านเว็บ JTB Japan เป็นทัวร์ที่จะพาชมท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวของคามิโกโต้ที่สวนสาธารณะคุโรซากิ (黒崎公園 Kurosaki Kōen) ป้าเองมาไกลถึงนี่ก็อยากลองดูว่าทัวร์นี้เป็นอย่างไร
รอรถบัสมารับที่โรงแรมตอน 2 ทุ่ม ปรากฏว่ารถมาถึงก่อนเวลานัดเสียอีก พอขึ้นรถถึงรู้ว่า ทั้งคันเป็นคณะนักท่องเที่ยวจากโอซาก้า พักที่รีสอร์ท Magherita แล้วแวะมารับป้าที่เป็นคนนอกคณะและเป็นต่างด้าวคนเดียว 555+ ก็เลยมีคนมาชวนคุยว่ามาจากไหน มาคนเดียวเหรอ มาทำอะไร บางคนก็ลองใช้ Google Translate มาคุยด้วย
รถบัสใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงที่สวนสาธารณะคุโรซากิ เจ้าหน้าที่แจกไฟฉายเล็ก ๆ ให้ทุกคน ค่อย ๆ เดินไปตามทางบันไดที่มีไฟสลัว ๆ จนถึงบริเวณลานกว้างที่มีการวางเก้าอี้เอน วางเสื้อแจ๊คเก็ตหนาเตรียมไว้ให้ห่ม
เก้าอี้เอนสำหรับชมทัวร์ชมท้องฟ้าของชินคามิโกโต้
ทุกคนเลือกที่นั่ง นอนเอนใช้เสื้อแจ๊กเก็ตคลุมกันหนาวไปพลางฟังเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์ใช้เลเซอร์พลังสูงชี้ไปบนท้องฟ้า อธิบายหมู่ดาวต่าง ๆ เช่น Pegasus, Cygnus, Orion (ดาวนายพราน), Pleiades (กระจุกดาวลูกไก่), Cassiopeia, Northern Cross (กางเขนเหนือ), หมู่ดาวจักรราศี, กาแล็คซี่ Andromeda และดวงดาวที่สุกสว่างต่าง ๆ บางช่วงก็มีการส่งต่อกล้องส่องทางไกลกำลังสูงให้ส่องดูกระจุกดาวด้วยค่ะ
การบรรยายเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน ป้าฟังออกบ้างไม่ออกบ้างเพราะด้อยภาษา แถมบางทีชื่อหมู่ดาวท้องถิ่น ญี่ปุ่นก็เรียกไม่เหมือนกับบ้านเรา แต่อย่างน้อยป้าก็พอจะคุ้นชื่อหมู่ดาวสากลบ้างเพราะตอนเด็ก ๆ ชอบดูเซ็นต์เซย่า (อุ๊ย บ่งวัยมาก 555) นับเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ได้มาลองทัวร์ชมท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่ดาวที่ญี่ปุ่นค่ะ
สถานที่อื่น ๆ ในชินคามิโกโต้ยังมีอีกหลายแห่งที่น่าไปชม พบกันตอนหน้านะคะ
เรื่องแนะนำ :
– ขับรถเหนือใต้ออกตก Mission Shin-Kamigoto ตอนที่ 1
– ขึ้นชมวิวบนยอดเขาอินาสะที่นางาซากิด้วย Inasayama Slope Car เปิดใหม่กันดีกว่า
-เรื่องเล่าของป้าหมวยยย : ทำไงดี ขับรถเช่าแล้วเกิดอุบัติเหตุ!?
– เล่าเรื่องเมื่อป้าหมวยยยป่วยที่ญี่ปุ่น
– เหงื่อโชกชมโบสถ์มรดกโลกนางาซากิ ตอนที่ 6 : อนุสาวรีย์และพิพิธภัณฑ์ 26 นักบุญมรณสักขีแห่งญี่ปุ่น (ภาคปลาย)
ข้อมูลจาก
– https://shinkamigoto.nagasaki-tabinet.com/junrei/10266
– http://www.shinkami-syakai.sakura.ne.jp/08/tiiki_tetukawa.php
– ป้ายข้อมูลสถานที่ต่าง ๆ
#Shin-Kamigoto