ขับรถเหนือใต้ออกตก Mission Shin-Kamigoto ตอนที่ 8 : โบสถ์คาชิระงาชิม่า (ภาคปลาย)
สวัสดีค่ะ หลังจากที่ป้าหมวยยยได้แนะนำประวัติการสร้างโบสถ์และสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจของโบสถ์คาชิระงาชิม่า (頭ヶ島天主堂 Kashiragashima Tenshūdō) ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในฐานะ 1 ใน 12 สถานที่ที่เกี่ยวข้องกับคริสตังลับในพื้นที่นางาซากิและอามาคุสะ (Hidden Christian Sites in the Nagasaki Region) เมื่อปี 2018 ในตอนแรกกันไปแล้ว สำหรับตอนนี้ป้าจะพามาเดินชมรอบ ๆ พื้นที่กันค่ะ
ภาพ 360 องศาบริเวณหน้าโบสถ์คาชิระงาชิม่า
จากภาพหน้าโบสถ์ จะเห็นได้ทางฝั่งซ้ายจะเป็นรั้วเตี้ย ๆ ปลูกต้นไม้เป็นระยะเท่า ๆ กันและมีการตัดแต่งเป็นระเบียบ ส่วนฝั่งขวามือของโบสถ์ติดกับเนินเขาและมีกำแพงหินก่อไว้ เรามาชมทางขวามือกันก่อนนะคะว่ามีอะไรบ้าง
ลึกเข้าไปด้านในสุดเป็นที่ประดิษฐานพระรูปพระแม่มารีย์
พระรูปพระแม่มารีย์ภายในซุ้มหินทรายและต้นคาเมลเลียที่ออกดอกสะพรั่ง
ถัดมาบนกำแพงหินมีอนุสรณ์ที่น่าสนใจหลายชิ้น ได้แก่ อนุสรณ์รำลึกถึงคุณพ่อบูเรลและคริสตชนผู้ติดตาม, อนุสรณ์หินทัณฑ์ทรมาน และอนุสรณ์ฟื้นฟูความเชื่อคริสตังแห่งโกโต้
อนุสรณ์รำลึกถึงคุณพ่อบูเรลและคริสตชนผู้ติดตาม
อนุสรณ์รำลึกถึงคุณพ่อบูเรลและคริสตชนผู้ติดตาม
อนุสรณ์นี้มีชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า ブレル師同伴信徒殉教者記念之塔 Bureru-shi Douhan Shinto Junkyōsha Kinen no tō) เป็นอนุสรณ์รำลึกถึงคุณพ่อบูเรลและคริสตชน 12 คนแห่งไทโนะอุระ
คนที่เคยอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับโบสถ์ไทโนะอุระ (鯛ノ浦教会 Tainoura Kyōkai) ที่เคยกล่าวถึงในตอนที่ 6 อาจจะคุ้น ๆ ชื่อของคุณพ่อท่านนี้ เพราะมีรูปปั้นครึ่งตัวของท่านตั้งอยู่บริเวณหน้าถ้ำแม่พระที่โบสถ์ไทโนะอุระ
กลางเดือนเมษายน 1885 คุณพ่อบูเรล (Auguste Florentin Bourelle / ออกิวสต์ ฟลอเรนแตง บูเรล) ที่ทำงานอภิบาลอยู่ที่โบสถ์ไทโนอุระ ได้ขึ้นเรือเดินทางข้ามทะเลไปยังเมืองชิทสึ (出津 Shitsu) เพื่อรับเงินค่าสร้างโบสถ์และศูนย์รับเลี้ยงเด็กจากคุณพ่อเดอโรต์ซ (Marc Marie de Rotz / มัลค์ มารี เดอ โรต์ซ)
ต่อมาที่หมู่บ้านมีผู้ป่วยหนักที่ปรารถนารับศีลเจิมคนไข้ คริสตชน 12 คนจึงออกเรือไปรับคุณพ่อ ขากลับเจอพายุเรือล่มจนทุกคนจมน้ำเสียชีวิต แต่มีอีกหนึ่งเรื่องเล่าว่า มีเรือล่าวาฬที่ผ่านมาช่วยเหลือทุกคนไว้ได้ แต่เมื่อคนบนเรือสังเกตเห็นเงินจำนวนมากที่ติดตัวคุณพ่อและบังเกิดความโลภ จึงทุบตีทั้ง 13 คนด้วยไม้พายถึงแก่ความตายแล้วโยนศพลงทะเล
บนแผ่นหินอนุสรณ์ด้านบนสุดเขียนว่า 1885 4.16P หมายถึงวันที่ 16 เมษายน 1885 ถัดลงมาสลักชื่อล้างบาป, ชื่อและนามสกุล, บ้านเกิด, และอายุของผู้เสียชีวิตทั้ง 13 คนไว้ในแนวตั้ง เริ่มจากคุณพ่อบูเรลทางด้านขวา ตามบันทึกบนแผ่นหินคุณพ่อบูเรลมีอายุเพียง 38 ปีเท่านั้น คริสตชนคนอื่น ๆ มีอายุตั้งแต่ 20 ต้น ๆ ไปจนถึง 60 กว่าปีจากสี่หมู่บ้าน
อนุสรณ์คุณพ่อบูเรลที่โบสถ์ไทโนะอุระ
อนุสรณ์หินทัณฑ์ทรมาน
อนุสรณ์หินทัณฑ์ทรมานประกอบขึ้นจากแท่งหินที่เคยในการลงทัณฑ์
อนุสรณ์หินทัณฑ์ทรมาน (キリシタン拷問五六石之塔 Kirishitan Gōmon Gorokuseki no tō) เป็นกองแท่งหินที่เคยใช้วางบนตักนักโทษในทัณฑ์ “ซังงิเซเมะ” (算木責め Sangizeme) หรือรู้จักในในชื่อ “อิชิดะคิ” (石抱 Ishidaki) “อิชิเซเมะ” (石責め Ishizeme) “อิชิดะคิเซเมะ” (石抱責Ishidakizeme) ในสมัยที่ยังมีการทรมานคริสตังลับให้ละทิ้งศาสนา
ทัณฑ์ซังงิเซเมะ ภาพจาก Jiji.com
แผ่นหินแต่ละก้อนที่หนักราว 45 – 50 กิโลกรัม จะถูกนำมาวางบนตักนักโทษที่ถูกจับมัดนั่งพับขาบนแท่นไม้ที่เต็มไปด้วยแถวหยักสามเหลี่ยม หน้าแข้งที่ถูกกดทับบนคมสามเหลี่ยมสร้างความเจ็บปวดยากจะทานทน หากวางแผ่นหินมากแผ่นอาจถึงขั้นกระดูกหักหรือปล่อยนานไปอาจถึงขั้นเลือดไปเลี้ยงอวัยวะไม่พอ
อนุสรณ์ฟื้นฟูความเชื่อคริสตังแห่งโกโต้
อนุสรณ์ฟื้นฟูความเชื่อคริสตังแห่งโกโต้
อนุสรณ์ฟื้นฟูความเชื่อคริสตังแห่งโกโต้ (五島キリシタン信仰復活記念碑 Gotō Kirishitan Shinkō Fukkatsu Kinenhi) เป็นภาพนูนต่ำสลักภาพ โดมิงโก โมริ มัตสึจิโร่ (ドミンゴ森松次郎 Dominic Mori Matsujirō) กับคริสตังบนเกาะโกโต้และบาทหลวงฝรั่งเศส
ท่านโมริเกิดในครอบครัวหัวหน้าคริสตังลับที่เขตโอมูระ ต่อมาย้ายตามครอบครัวมาที่หมู่เกาะโกโต้ โดยอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านไทโนะอุระแล้วย้ายมาที่เกาะคาชิระงาชิม่าในภายหลัง
หลังจากคริสตังแห่งอุราคามิแสดงตัวต่อคุณพ่อบาทหลวงฝรั่งเศส เบอร์นาร์ด ธาดี เปอตีต์ฌอง (Fr. Bernard Thádée Petitjean) ณ โบสถ์โออุระในเมืองนางาซากิ ท่านโมริได้เดินทางข้ามทะเลไปยังนางาซากิเพื่อเข้ารับศีลล้างบาป ในปี 1867 ท่านได้เชิญคุณพ่อคูซัน (ฌูล อัลฟอนส์ คูซัน / Jules Alphonse Cousin) ที่ประจำ ณ โบสถ์โออุระเดินทางมายังหมู่เกาะโกโต้และทำพิธีมิสซาอย่างลับ ๆ ยังความยินดีให้แก่คริสตังในพื้นที่เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ท่านยังสละใช้เรือนพักเป็นสถานที่อบรมผู้แพร่ธรรมา จึงนับเป็นผู้ที่ได้ทำคุณประโยชน์อย่างยิ่งในการฟื้นฟูความเชื่อและวางรากฐานชุมชนคริสตังบนหมู่เกาะโกโต้
ในภาพสลักป้าหมวยยยไม่แน่ใจว่า เป็นคุณพ่อเปอตีต์ฌองหรือคุณพ่อคูซัน เพราะบาทหลวงฝรั่งเศสสมัยก่อนมักไว้เคราคล้าย ๆ กันหมด ยอดโบสถ์ที่อยู่ตรงฉากหลังอาจจะเป็นยอดโบสถ์โออุระที่ทั้งสองท่านเคยพำนักอยู่
ถัดจากนี้จะมีป้ายหินสลักประวัติของโบสถ์คาชิระงาชิม่าที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 1977 อยู่ตรงข้างบันไดหินที่นำไปสู่บ้านพักบาทหลวง (司祭館 Shisaikan) ที่สร้างขึ้นจากหินทรายและมีเฉลียง
ป้ายสลักประวัติโบสถ์คาชิระงาชิม่า ตั้งขึ้นเมื่อปี 1977
ด้านหน้ามีเสาประตูทางเข้าสร้างจากหินทรายและหอระฆังที่ติดป้ายห้ามสั่นเล่น
อาคารทางซ้ายมือเหนือบันไดหินคือบ้านพักบาทหลวง
เรามาดูทางฝั่งซ้ายมือกัน ถ้าเดินลึกเข้าไปด้านในสุดจะเห็นป้ายสลักหินล้อมรอบด้วยต้นปรงและต้นคาเมลเลียอันเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโกโต้ ผลิดอกสีชมพูในช่วงฤดูหนาว บริเวณนี้คือตำแหน่งบ้านของหัวหน้าคริสตังลับและโบสถ์คาชิระงาชิม่าหลังแรกค่ะ
อนุสรณ์แสดงตำแหน่งบ้านของหัวหน้าคริสตังลับและโบสถ์คาชิระงาชิม่าหลังแรก
ตำแหน่งบ้านหัวหน้าคริสตังลับตั้งอยู่ลึกเข้าไปทางด้านซ้ายมือของโบสถ์
อนุสรณ์แสดงตำแหน่งบ้านของหัวหน้าคริสตังลับ และโบสถ์คาชิระงาชิม่าหลังแรก (潜伏キリシタンの指導者屋敷跡・初代頭ヶ島教会堂跡 Sempuku Kirishitan no Shidosha Yashiki-ato / Shōdai Kashiragashima Kyoukaido-ato)
บนแท่งหินสลักว่า ドミンゴ森松次郎翁居館跡 (Domingo Mori Matsujirō-ō kyokan-ato) หรือซากบ้านของโดมิงโก โมริ มัตสึจิโร่
ครั้งหนึ่งโดมิงโก โมริ มัตสึจิโร่ (ドミンゴ森松次郎 Dominic Mori Matsujirō) หัวหน้าคริสตังลับบนเกาะนี้ เคยใช้บ้านที่ตั้งอยู่ตำแหน่งนี้ให้เป็นสถานที่ทำพิธีมิสซาอย่างลับ ๆ โดยเชิญคุณพ่อชาวฝรั่งเศสจากนางาซากิมาทำพิธีมิสซาอย่างลับ ๆ ก่อนที่จะมีการสร้างโบสถ์ไม้หลังแรกติดกับบ้านหลังนี้ แล้วภายหลังจึงมีการสร้างโบสถ์ใหม่ด้วยหินทรายอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
เมื่อชมโบสถ์คาชิระงาชิม่าแล้ว จากนี้เดินไปตามทางเดิมแล้วไปทางขวา ผ่านสุสานคาทอลิกและชายหาด เพื่อไปยังที่จอดรถชัตเติลบัสริมทะเล รวมเวลาเดินชมปกติได้ประมาณ 30 นาที
เส้นทางเดินชมโบสถ์คาชิระงาชิม่า ภาพจาก Shinkamigoto.com
เรือนพักผ่อน ชิมะโนะฟุเระไอคัง
น่าเสียดายที่ป้ามีเวลาเหลืออยู่ไม่มาก ไม่ได้แวะเข้าชม เรือนพักผ่อน ชิมะโนะฟุเระไอคัง (島のふれあい館Shima no Fureai-kan) อยู่ตรงทางเดินไปโบสถ์ค่ะ แต่เท่าที่ทราบจะมีพื้นที่พักผ่อน กับพื้นที่จัดแสดงบ้านแบบท้องถิ่นย้อนประมาณเกือบ 70 ปีก่อน เช่น ห้องที่มีเตาตั้งตรงกลาง ห้องเก็บมันหวานใต้พื้นบ้าน หิ้งบูชาแบบญี่ปุ่นที่ตั้งศาสนภัณฑ์คาทอลิก รูปภาพคุณพ่อบาทหลวงยุคแรก ๆ เป็นต้น
เรือนพักผ่อน ชิมะ โนะ ฟุเระไอคัง
สุสานคาทอลิกคาชิระงาชิม่า
สุสานคาทอลิกริมทะเลคาชิระงาชิม่าที่ตั้งอยู่ริมทะเล
ห่างจากโบสถ์ไม่ไกลนักเป็นที่ตั้งของสุสานคาทอลิกคาชิระงาชิม่า (頭ヶ島カトリック共同墓地 Kashiragashima Kyōdōbochi) ที่ตั้งอยู่ริมหาดชิราฮามะ (白浜 shirahama) ในราวเดือนห้าจะมีดอก Ice plant (マツバギク Matsubagiku) สีม่วงสดใสเบ่งบานทั่วสุสาน
สมัยเอโดะเกาะคาชิระงาชิม่าเคยเป็นเกาะร้าง ต่อมาราวคริสศวรรษที่ 19 มีการตั้งสถานพยาบาลตรงบริเวณหาดชิราฮามะ และเมื่อมีผู้เสียชีวิตก็ฝังศพในบริเวณเดียวกัน จึงไม่ค่อยมีคนเข้าใกล้ที่นี่นัก จนกระทั่งคริสตังตังลับย้ายมาที่เกาะและเริ่มตั้งบ้านเรือนตรงจุดที่ไม่ไกลจากหาด โดยให้บ้านของผู้นำคนสำคัญตั้งอยู่ลึกที่สุดเพื่อความปลอดภัย
จนเมื่อพวกเขาสามารถนับถือศาสนาคริสต์และสร้างโบสถ์ของตัวเองได้แล้ว จึงจัดพื้นที่ทางตะวันออกของหาดให้เป็นสุสานคาทอลิกในปี 1905
บริเวณนี้ถือเป็นพื้นที่เฉพาะ บุคคลภายนอกไม่ควรเข้าไปเดินชมภายในสุสาน ป้าจึงยืนถ่ายรูปซูมระยะไกลจากประตูทางเข้าค่ะ
ทางเข้าสุสานคาทอลิกคาชิระงาชิม่า
ป้ายสุสานคาทอลิกที่ถ่ายซูมจากบริเวณทางเข้า มีทั้งสุสานเก่าและสุสานใหม่
อนึ่ง ญี่ปุ่นปัจจุบันไม่อนุญาตให้ฝังศพยกเว้นในบางพื้นที่ ดังนั้นเมื่อเสร็จสิ้นพิธีกรรมทางศาสนา ร่างผู้เสียชีวิตจะได้รับการฌาปนกิจ ครอบครัวจะเก็บอัฐิลงภาชนะแล้วบรรจุไว้ในสุสานประจำครอบครัว
ชุมชนคาทอลิกตามชนบทอาจยังพอมีพื้นที่สำหรับสร้างสุสานบ้าง แต่ในเมืองใหญ่ที่มีพื้นที่จำกัด โบสถ์หลายแห่งจึงสร้างอาคารหรือห้องเฉพาะเพื่อบรรจุอัฐิผู้วายชนม์แทนสุสานเรียกว่า โนคตสึโด (納骨堂 Nōkotsudō / Columnbarium) ภายในจะมีตู้เรียงเป็นแถว แต่ละตู้บรรจุอัฐิได้ตั้งแต่ 1 โถขึ้นไป รูปแบบ ขนาดและราคาแตกต่างกันไปตามโบสถ์
ภาพข้างล่างเป็นตัวอย่างโนคตสึโดของโบสถ์ฟุคาโฮริ (深堀教会 Fukahori Kyōkai) ในเมืองนางาซากิ ในเว็บไซท์ระบุว่าค่าธรรมเนียมฝากเก็บอัฐิอยู่ที่ตู้ละ 550,000 เยน บรรจุได้ 4 โถ มีค่าบำรุงเหมาจ่ายเป็นระยะเวลา 50 ปี 200,000 เยน
ห้องเก็บอัฐิของโบสถ์ฟุคาโฮริในเมืองนางาซากิ (ภาพจากเว็บไซท์ของโบสถ์)
ไม่เฉพาะโบสถ์คาทอลิกแต่ยังมีวัดพุธหลายแห่งที่มีอาคารหรือห้องบรรจุอัฐิ อย่างไรก็ตาม คนไทยอย่างเรา ๆ อาจไม่ค่อยคุ้นเคยกับห้องอย่างนี้ในฉากรำลึกถึงผู้ตายตามสื่อญี่ปุ่นเช่น ละคร การ์ตูน เท่าไรนัก ถ้ามีก็มักเป็นฉากในสุสาน แต่น่าจะได้ผ่านตาในซีรีส์เกาหลีมากกว่าค่ะ
ตอนนั้นรถกะบะกลุ่มหนึ่งมาที่บริเวณสุสาน ดูเหมือนจะมาบำรุงรักษาป้ายสุสาน บริเวณใกล้ ๆ มีป้ายหนึ่งมีข้อความน่าสนใจเกี่ยวกับ แหล่งโบราณคดีชิราฮามะ (白浜遺跡 Shirahama-iseki)
เนื้อหาป้ายมีว่า แหล่งโบราณคดีแห่งนี้เริ่มต้นจากการค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ 20 ร่างขณะเก็บตัวอย่างทรายที่หาดนี้เมื่อเดือนเมษายน 1942 โดยขณะมีการขุดค้นเพิ่มเติมเพื่อยืนยันในอีกสามเดือนถัดมา ได้พบโครงกระดูกมนุษย์ยุคโจมอน (縄文 Jōmon) เป็นผู้หญิงและเด็ก 2 คน หลังจากนั้นยังขุดพบขวานหิน ช้อนหิน เครื่องปั้นดินเผารูปแบบต่าง ๆ แสดงให้เห็นว่า เคยมีมนุษย์ในยุคโจมอนช่วงต้น (ราว 6,000 ปีก่อน) จนถึงช่วงปลาย (ราว 2,500 ปีก่อน) อาศัยอยู่บริเวณนี้มานานราว 3,500 ปีแล้ว และยังมีการขุดพบเครื่องใช้สมัยโคฟุน (古墳 Kofun ราว ค.ศ. 250 – 700) ในบริเวณนี้อีกด้วย
ป้ายระบุถึงแหล่งโบราณคดีชิราฮามะ
ตอนนี้ใกล้จะได้เวลาขึ้นรถชัตเติลบัสกลับแล้วค่ะ เรามาดูวิวหาดชิราฮามะกันสักนิด หาดนี้น้ำทะเลใสหาดทรายขาวก็จริงแต่ไม่ใช่หาดสำหรับลงเล่นน้ำค่ะ อย่างไรก็ตาม ในตำบลชินคามิโกโต้มีหาดลงเล่นน้ำพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่หลายแห่งที่จะคึกคักมากในช่วงฤดูร้อน
ภาพ 360 องศาบริเวณหาดชิราฮามะ
ซุ้มระแนงริมหาดชิราฮามะ
เกาะที่เห็นเบื้องหน้าเกาะโรคุโระชิม่า (轆轤島 Rokuroshima)
เมื่อได้เวลาขึ้นรถชัตเติลบัสกลับ ป้าหมวยยยขึ้นไปนั่งทางฝั่งซ้ายมือของรถ ขับผ่านเส้นทางคดเคี้ยวไปได้ไม่กี่นาทีคุณคนขับรถเรียกให้ย้ายมานั่งทางด้านขวามือ แล้วหยุดรถให้ชมโบสถ์คาชิระงาชิม่าจากมุมสูงห่างไปประมาณ 200 เมตรครู่หนึ่ง ตรงจุดนี้ใครมีกล้องดี ๆ กำลังขยายเยอะ ๆ จะได้เปรียบมากค่ะ กล้องป้าซูมได้เยอะก็จริง แต่เป็นกล้องคอมแพ็คเน้นพกพาง่ายเลยไม่ได้ภาพสวยชัดเท่าไร
จุดที่มองเห็นโบสถ์คาชิระงาชิม่าจากมุมสูง (ภาพจาก Google Street View)
ภาพโบสถ์คาชิระงาชิม่าจากมุมสูงถ่ายผ่านกระจกรถบัส
เก็บซูมได้สูงสุดเท่านี้
รถชัตเติลบัสใช้เวลา 7 นาทีก็เดินทางกลับมาถึงสนามบินคามิโกโต้ (上五島空港 Kamigotō Kūkō) ที่เป็น Tourist Information Center สามารถแวะชมประวัติโบสถ์คาชิระงาชิม่า ภาพเก่า ๆ ที่ถ่ายบนเกาะ เครื่องมือที่ใช้สร้างโบสถ์ และภาพโบสถ์อื่น ๆ ทั่วตำบลชินคามิโกโต้ได้ที่นี่
สิ่ว, หัวค้อน และลิ่ม ที่ใช้ในงานสกัดหินสมัยนั้น
บันไดหินในหมู่บ้านทาชิริ (田尻 Tashiri)
ทางตอนกลางของเกาะ ถ่ายราว ๆ ปี 1962
ภาพกราฟฟิคโบสถ์ทั้ง 29 แห่งในตำบลชินคามิโกโต้ ที่ป้าหมวยยยไปมาครบแล้ว
นอกจากนี้ จากสนามบินสามารถมองเห็นสะพานคาชิระงาชิม่าโอฮาชิ (頭ヶ島大橋 Kashiragashim Ōhashi) สีแดงสดในระยะไกล สะพานนี้มีความยาว 300 เมตร เชื่อมเกาะคาชิระงาชิม่ากับเกาะนาคาโดริ สร้างเสร็จในปี 1981
สะพานคาชิระงาชิม่าโอฮาชิ
สำหรับตอนหน้าป้าหมวยยยจะพาไปชมสถานที่ unseen อันลึกลับอีกที่หนึ่งของตำบลชินคามิโกโต้ รอติดตามกันนะคะ
เรื่องแนะนำ :
– ขับรถเหนือใต้ออกตก Mission Shin-Kamigoto ตอนที่ 7 : โบสถ์คาชิระงาชิม่า (ภาคต้น)
– ขับรถเหนือใต้ออกตก Mission Shin-Kamigoto ตอนที่ 6
– ขับรถเหนือใต้ออกตก Mission Shin-Kamigoto ตอนที่ 1
-ขับรถเหนือใต้ออกตก Mission Shin-Kamigoto ตอนที่ 4
– ขับรถเหนือใต้ออกตก Mission Shin-Kamigoto ตอนที่ 3
ข้อมูลจาก
– ป้ายข้อมูลสถานที่
– http://www.shinkamigoto.com
– http://fukahori.ec-net.jp/noukotudou2.htm
#ขับรถเหนือใต้ออกตก Mission Shin-Kamigoto ตอนที่ 8 : โบสถ์คาชิระงาชิม่า (ภาคปลาย)