Marumura Travel : วางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง :
  • Home
  • Kyoto
  • Tohoku
Marumura Travel : วางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง :
Marumura Travel : วางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง :
  • Home
  • Kyoto
  • Tohoku
  • เที่ยวชิงะ Shiga
  • เที่ยวนารา Nara
  • เที่ยววาคายามะ Wakayama
  • เที่ยวเกียวโต Kyoto
  • เที่ยวเฮียวโงะ Hyogo
  • เที่ยวโอซาก้า Osaka

10 ที่เที่ยวยอดฮิตในคันไซ 2023

  • 30/01/2023
  • 3 minute read
  • marumura

อยากเที่ยวคันไซ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกไปที่ไหนดี!? ไม่เป็นไรค่ะ เรามี 10 ที่เที่ยวยอดฮิตในคันไซ สำหรับปี 2023 มาแนะนำให้กับทุกคน!

เรียบเรียงโดย : ทีมงาน www.marumura.com

อยากเที่ยวคันไซ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกไปที่ไหนดี!?

ไม่เป็นไรค่ะ เรามี 10 ที่เที่ยวยอดฮิตในคันไซ สำหรับปี 2023 มาแนะนำให้กับทุกคน!

ก่อนอื่นเราจะมาแนะนำภูมิภาคคันไซให้ทุกคนรู้จักกันก่อน “ภูมิภาคคันไซ” (Kansai) ตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ประกอบไปด้วย 7 จังหวัด คือ โอซาก้า เกียวโต เฮียวโกะ นารา มิเอะ ชิกะ และวาคายามะ ในสมัยก่อนภูมิภาคคันไซเคยเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงเก่าอย่างเกียวโตและนารา ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ความเป็นเมืองญี่ปุ่นในยุคโบราณ
ปัจจุบันนี้ภูมิภาคคันไซมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆเพิ่มขึ้นอีกมากมาย จนพื้นที่นี้กลายเป็นภูมิภาคยอดฮิตสำหรับการท่องเที่ยวอันดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่น

ในบทความนี้เราจะมาแนะนำ “10 ที่เที่ยวยอดฮิตในคันไซ 2023” มาดูกันเลยดีกว่าว่าคันไซจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง!

สารบัญ (Index)

1. ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)
2. ภูเขาโยชิโนะ (Yoshino Mountain)
3. ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine)
4. วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu Temple)
5. Universal Studios Japan
6. ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)
7. วัดเอ็นเรียคุจิ (Enryaku-ji Temple)
8. หอคอยกลางน้ำอุคิมิโดะ (Ukimido Floating Hall)
9. ภูเขาโคยะ (Mount Koya/Koyasan)
10. น้ำตกนาชิ (Nachi Falls)


1. ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) เป็นปราสาทเก่าแก่อายุมากกว่า 400 ปี ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโกะ ในปี 1993 ปราสาทฮิเมจิได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก

จุดเด่นของปราสาทฮิเมจิคือ อาคารปราสาทเป็นสีขาวบริสุทธิ์เกือบทั้งหลัง หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงต้องทาสีขาวด้วย คำตอบก็คือการใช้หินผสมกับปูนขาวฉาบผนังนั้นเป็นการป้องกันอัคคีภัยนั่นเอง หรืออีกนัยหนึ่งคือสีขาวเป็นสีที่แสดงถึงอำนาจของเจ้าของปราสาท

นอกจากนี้ปราสาทฮิเมจิจะงดงามเป็นประกายมากที่สุดในช่วงที่แสงแดดส่องกระทบลงบนผนังสีขาว ทัศนียภาพที่ปรากฏแก่สายตาจึงงดงามราวกับภาพวาดชิ้นเอก ปราสาทแห่งนี้จึงได้รับการขนานนามว่า “ปราสาทนกกระสาขาว”

ยิ่งไปกว่านั้น บริเวณใกล้ปราสาทฮิเมจิจะมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ภายในสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นซากุระที่ปลูกเรียงรายกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ในปัจจุบันปราสาทฮิเมจิได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 จุดชมซากุระที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น

ช่วงฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงที่ผู้คนนิยมเดินทางมาที่ปราสาทแห่งนี้ เพื่อชมทิวทัศน์อันงดงามของปราสาทนกกระสาขาวที่รายล้อมไปด้วยดอกซากุระสีชมพู เป็นทัศนียภาพที่หาชมได้ยากยิ่งหากไม่ใช่ที่ “ปราสาทฮิเมจิ” แห่งนี้

• อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความนี้ >> ชมซากุระฟูลบลูมที่ ‘ปราสาทฮิเมจิ’ ปราสาทดั้งเดิมสุดอลังการ https://fromjapan.info


2. ภูเขาโยชิโนะ (Yoshino Mountain)

ภูเขาโยชิโนะ (Yoshino Mountain) ภูเขาที่ได้รับฉายานามว่า “ภูเขาแห่งซากุระ” ภูเขาโยชิโนะนั้นตั้งอยู่ในจังหวัดนารา ที่นี่เป็นจุดชมวิวซากุระอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น ทุกๆปีจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาชมความงดงามของทุ่งดอกซากุระกันบนภูเขาแห่งนี้

ย้อนกลับไปในสมัยก่อน ผู้คนเริ่มปลูกต้นซากุระบนภูเขาโยชิโนะด้วยความเชื่อทางศาสนา นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันความเชื่อดังกล่าวมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 1,300 ปี

ในปัจจุบันภูเขาโยชิโนะมีต้นซากุระมากกว่า 30,000 ต้น โดยกระจายอยู่รวมกันหลากหลายสายพันธุ์ ดอกซากุระที่นี่จะเริ่มผลิบานตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนเป็นต้นไป

นอกจากภูเขาโยชิโนะจะมีชื่อเสียงเรื่องการเป็นจุดชมวิวดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิแล้ว หากเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงธรรมชาติที่นี่ก็งดงามไม่แพ้กัน นั่นก็เพราะว่าซากุระบางต้นเป็นสายพันธุ์ที่สามารถเปลี่ยนเป็นสีแดงอมส้มในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีได้

ที่มา : NavinTar / Shutterstock

นอกจากทัศนียภาพของธรรมชาติอันสวยงามเหล่านี้แล้ว ภูเขาโยชิโนะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมเยือน ไม่ว่าจะเป็นวัดคินปุเซ็นจิ (Kinpusenji Temple) วัดพุทธที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น หรือศาลเจ้าโยชิโนะ (Yoshino-Jingu Shrine) เป็นต้น

• อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความนี้ >> พลาดไม่ได้กับการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ “ภูเขาโยชิโนะ” จุดชมธรรมชาติชื่อดังไม่ไกลจากโอซาก้า https://fromjapan.info


3. ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine)

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine) เป็นศาลเจ้าสายอินาริที่มีชื่อเสียงที่สุดในจังหวัดเกียวโต ศาลเจ้าแห่งนี้มีเสาโทริอิสีแดงและรูปปั้นจิ้งจอกขาวเป็นสัญลักษณ์ อีกทั้งยังมีชื่อเสียงเรื่องการเป็นจุดรับพลังศักดิ์สิทธิ์ด้านการงานและการเงินด้วย

หลังจากไหว้พระขอพรกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจะพาทุกคนไปชมจุดเด่นของศาลเจ้าฟูชิมิอินาริซึ่งทำให้ที่นี่พิเศษยิ่งกว่าที่ไหนๆ นั่นก็คือ ‘Senbon Torii’ หรือ ‘เสาโทริอิพันต้น’

ในสมัยก่อนผู้คนมีความเชื่อว่าการถวายเสาโทริอิเปรียบได้ดั่งคำอธิษฐาน ต่อมาผู้คนจึงเริ่มศรัทธาและถวายเสาโทริอิกันมากขึ้น จนกลายเป็นเสาโทริอิพันต้นที่เราเห็นกันในปัจจุบัน

ปัจจุบันศาลเจ้าฟูชิมิอินาริมีเสาโทริอิประมาณ 10,000 ต้น แม้ว่าเสาบางต้นจะผุพังเสียหายไปตามกาลเวลา แต่ทัศนียภาพของเสาโทริอิเหล่านี้ก็ยังคงงดงามและเป็นดั่งเอกลักษณ์ของเมืองเกียวโต ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริจึงเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนภูมิภาคคันไซ

• อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความนี้ >> ไหว้ท่านเทพจิ้งจอก&เทพแห่งน้ำที่ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ศาลเจ้าชิโมกาโมะ และศาลเจ้าคามิกาโมะ https://fromjapan.info


4. วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu Temple)

วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu Temple) เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงอย่างมากของจังหวัดเกียวโต วัดเก่าแก่แห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,200 ปี อีกทั้งยังได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก

วัดคิโยมิสึมีจุดเด่นคือห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีระเบียงยื่นออกไปให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมวิว เราเชื่อว่าหลายๆคนคงเคยเห็นภาพระเบียงของวัดนี้กันมาแล้ว เพราะนี่คือภาพที่สื่อถึงเสน่ห์ของวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้อย่างงดงามจริงๆ

นอกจากนี้วัดคิโยมิสึยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงอีกด้วย และไม่ใช่แค่ระเบียงของห้องโถงใหญ่เท่านั้น แต่บริเวณรอบๆวัดยังมีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีอีกมากมายหลายแห่ง เรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผสมผสานความงดงามของสถาปัตยกรรมเก่าแก่และธรรมชาติได้อย่างลงตัว

ที่มา : Cowardlion / Shutterstock

ส่วนบริเวณรอบๆ วัดคิโยมิสึก็มีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ‘เจดีย์สามชั้น’ เจดีย์ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นซึ่งได้รับเลือกให้เป็นสมบัติประจำชาติของประเทศญี่ปุ่น

หรือจะเป็น ‘ประตูนิโอมง’ (Nio-mon) จุดชมวิวเมืองเกียวโตอันยอดเยี่ยม รวมไปถึง ‘น้ำตกโอโตวะ’ แหล่งต้นน้ำอันแสนบริสุทธิ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ซึ่งยังคงไหลรินมอบความสดชื่นให้กับชาวเกียวโตมาเป็นเวลานานกว่าพันปี

• อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความนี้ >> Must See Place! ชมวัดน้ำใส ​ และพื้นที่โดยรอบ https://fromjapan.info


5. Universal Studios Japan

ที่มา : Universal Studios Japan / © Nintendo TM & © Universal Studios.

ที่มา : Jannoon028 / Shutterstock

Universal Studios Japan (ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน) หรือที่นิยมเรียกในชื่อย่อว่า USJ เป็นสวนสนุกยอดนิยมในจังหวัดโอซาก้า สวนสนุกแห่งนี้ได้รวบรวมเครื่องเล่นธีมภาพยนตร์ฮอลลีวูดเอาไว้มากมาย อีกทั้งยังเป็นสวนสนุกที่ออกแบบมาให้เหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย ด้วยจุดเด่นต่างๆเหล่านี้ Universal Studios Japan จึงเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กยอดฮิตที่ทุกคนจะต้องแวะเที่ยวทุกครั้งที่ได้มาเยือนโอซาก้า

ที่มา : Jannoon028 / Shutterstock

ภายในสวนสนุก Universal Studios Japan เต็มไปด้วยเครื่องเล่นสุดอลังการมากมาย แต่ละโซนจะถูกออกแบบให้มีบรรยากาศเหมือนกับภาพยนตร์หรือแอนิเมชั่นเรื่องนั้นๆ รวมถึงมีตัวละครต่างๆคอยโผล่ออกมาทักทายนักท่องเที่ยวเพื่อความสมจริงมากยิ่งขึ้น

The Wizarding World of Harry Potter

ที่มา : POM POM / Shutterstock

The Amazing Adventures of Spider-Man

ที่มา : gowithstock / Shutterstock

และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือโซนธีมพาร์คที่คนไทยน่าจะรู้จักกันดีอย่าง The Wizarding World of Harry Potter และ The Amazing Adventures of Spider-Man สองโซนยอดฮิตที่เต็มไปด้วยแฟนๆภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์และสไปเดอร์แมน นอกจากนี้ในแต่ละโซนยังรวบรวมความสนุกเอาไว้อย่างครบครัน ไม่ว่าเป็นความสมจริงของเครื่องเล่น ตึกอาคาร ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก เป็นต้น

ที่มา : Jannoon028 / Shutterstock

ภายในสวนสนุก Universal Studios Japan นั้นมีพื้นที่กว้างใหญ่มากๆและมีเครื่องเล่นหลากหลายโซน เราขอแนะนำให้ทุกคนวางแผนเที่ยวและจองตั๋วกันให้พร้อม เพื่อจะได้ไม่พลาดสิ่งที่น่าสนใจและได้ตามรอยภาพยนตร์แอนิเมชั่นกันอย่างจุใจ

• อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความนี้ >> Top 5 เครื่องเล่น & ร้านค้า ใน Universal Studios Japan™ ที่ควรไปโดน!!! https://fromjapan.info


6. ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)

ที่มา : Avigator Fortuner / Shutterstock

โดทงโบริ (Dotonbori) เป็นย่านท่องเที่ยวยามราตรียอดฮิตของโอซาก้า หากใครได้มาเที่ยวในภูมิคันไซก็มักจะต้องหาโอกาสแวะเวียนมาทานของอร่อยๆหรือเดินช้อปปิ้งชิลล์ๆกันที่ย่านนี้

ที่มา : Francesco Bonino / Shutterstock

บรรยากาศรอบๆ ย่านโดทงโบริเต็มไปด้วยป้ายโฆษณาร้านค้าหรือร้านอาหารสีสันฉูดฉาด เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ของเมืองกลางคืนที่ตื่นตาตื่นใจมากทีเดียว

จุดถ่ายรูปยอดฮิตของย่านโดทงโบริที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ สะพานเอบิสึบาชิ เมื่อยืนอยู่บนสะพานแห่งนี้เราจะมองเห็น ‘ป้ายไฟกูลิโกะยักษ์’ ซึ่งเป็นดั่งสัญลักษณ์ของจังหวัดโอซาก้าได้อย่างชัดเจน

ที่มา : MosayMay / Shutterstock

นอกจากนี้ภายในย่านโดทงโบริยังมีร้านอาหารเด็ดๆอยู่มากมาย เช่น ‘Kukuru’ ร้านทาโกยากิชื่อดังแสนอร่อยของโอซาก้า ความโดดเด่นของร้านนี้คือการตกแต่งหน้าร้านด้วยปลาหมึกยักษ์สีแดงที่แสนจะเป็นเอกลักษณ์ ชวนให้อยากถ่ายรูปด้านหน้าร้านเก็บไว้เป็นที่ระลึกและเข้าไปลิ้มลองปลาหมึกของจริงภายในร้าน

ที่มา : AlmostViralDesign / Shutterstock

อย่างไรก็ตาม นอกจากโดทงโบริจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งและแหล่งรวมร้านอาหารแสนอร่อยแล้ว บรรยากาศรอบๆย่านนี้ยังเหมาะจะเป็นจุดชมวิวเดินเล่นชมเมืองโอซาก้าในยามค่ำคืนเป็นที่สุด


7. วัดเอ็นเรียคุจิ (Enryaku-ji Temple)

ที่มา : beibaoke / Shutterstock

วัดเอ็นเรียคุจิ (Enryaku-ji Temple) เป็นวัดศูนย์กลางของศาสนาพุทธนิกายเทนไดในญี่ปุ่น วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาฮิเอ เมืองโอสึ จังหวัดชิกะ

หากทุกคนเดินทางมาถึงบริเวณด้านบนของวัดแห่งนี้แล้ว อย่าเพิ่งสับสนกับความใหญ่โตกว้างขวางของที่นี่ไปล่ะ เพราะวัดเอ็นเรียคุจิสามารถแบ่งแยกย่อยได้ทั้งหมด 3 โซน คือ โซนเจดีย์ฝั่งตะวันตก โซนเจดีย์ฝั่งตะวันออก และโซนริมแม่น้ำ โดยแต่ละโซนของวัดก็ล้วนมีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ ชวนให้นักท่องเที่ยวสายวัฒนธรรมใฝ่ฝันที่จะเดินทางมาสัมผัสสักครั้ง

หลังจากเดินชมรอบๆ วัดกันไปแล้ว เราจะพาทุกคนขึ้นไปชมทิวทัศน์บนภูเขาฮิเอและวัดเอ็นเรียคุจิกันค่ะ บริเวณนี้เป็นจุดที่เราจะสามารถมองเห็นวิว ‘ทะเลสาบบิวะ’ ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นได้ในมุมกว้าง

ที่มา : beeboys / Shutterstock

อย่างไรก็ตาม หากต้องการขึ้นไปเที่ยวบนภูเขาฮิเอ ทุกคนจะต้องใช้รถรางเคเบิลคาร์และกระเช้าโรปเวย์ในการเดินทาง ซึ่งในระหว่างทางเราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงต้นเมเปิลจะผลัดใบจนกลายเป็นสีแดงทั่วทั้งภูเขาฮิเอ ผู้คนจึงนิยมเดินทางมาชมความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสีกันในช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ทัศนียภาพดูงดงามและโรแมนติกมากเป็นพิเศษเลยค่ะ

• อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความนี้ >> ชมดอกซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีแสนงดงามที่ “เมืองโอสึ” แหล่งท่องเที่ยวใกล้เกียวโตที่เราอยากแนะนำ https://fromjapan.info


8. หอคอยกลางน้ำอุคิมิโดะ (Ukimido Floating Hall)

ที่มา : beeboys / Shutterstock

หอคอยกลางน้ำอุคิมิโดะ (Ukimido Floating Hall) เป็นส่วนหนึ่งของวัด Kaimonzan Mangetsu-ji Temple หอคอยแห่งนี้ถูกยกให้เป็นจุดชมวิวทะเลสาบบิวะที่สวยงามที่สุดของจังหวัดชิกะ ในสมัยก่อนหอคอยกลางน้ำอุคิมิโดะเป็นจุดชมวิวยอดฮิตของเหล่ากวีญี่ปุ่นหลายๆ ท่านด้วยค่ะ

ที่มา : beeboys / Shutterstock

ว่ากันว่าวัด Kaimonzan Mangetsu-ji Temple สร้างขึ้นในช่วงยุคสมัยเฮอัน นักบวชชั้นสูงของนิกายเทนไดสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นสำหรับใช้เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปอามิดะเนียวไรโซ 1,000 องค์เพื่ออธิษฐานขอให้ทะเลสาบบิวะปลอดภัย อีกทั้งที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจให้กับผู้คนในเมืองนี้ สำหรับอาคารของวัด Kaimonzan Mangetsu-ji Temple ในปัจจุบันนั้นเป็นอาคารที่สร้างขึ้นใหม่เมื่อปี 1937

ที่มา : beeboys / Shutterstock

หอคอยกลางน้ำอุคิมิโดะเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบบิวะที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลได้ตลอดทั้งปี หากยืนอยู่ฝั่งเดียวกับวัด เราสามารถชมทิวทัศน์ของหอคอยกลางน้ำโดยมีพื้นหลังเป็นภูเขาฮิเออันสวยงามได้ นอกจากนี้สะพานที่เชื่อมระหว่างหอคอยกับวัดยังเป็นมุมถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอีกด้วย


9. ภูเขาโคยะ (Mount Koya/Koyasan)

ที่มา : Marcel van den Bos / Shutterstock

“ภูเขาโคยะ” หรือ “โคยะซัง” (Mount Koya/Koyasan) เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,200 ปี โดยมีที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดวาคายามะ พื้นที่ด้านบนภูเขาโคยะนั้นอุดมไปด้วยธรรมชาติอันสดชื่นบริสุทธิ์ ล้อมรอบด้วยภูเขาลูกอื่นๆที่มีความสูงถึง 1,000 เมตร

ที่มา : beibaoke / Shutterstock

นอกจากนี้ ด้านบนภูเขาโคยะยังเป็นที่ตั้งของวัดวาอารามที่มีความสำคัญต่อศาสนาพุทธมากถึง 117 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น ‘วัดคงโกบุจิ’ (Kongobuji Tample) วัดประจำภูเขาโคยะและเป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของภูเขาแห่งนี้

จุดเด่นของวัดคงโกบุจิคือสถาปัตยกรรมที่เน้นการแกะสลักด้วยไม้เป็นหลัก ลวดลายการแกะสลักไม้ของวัดแห่งนี้ถูกคิดค้นมาตั้งแต่เมื่อครั้งโบราณกาล

วัดพุทธดันโจการัน (Danjo Garan)

วิหารโอคุโนะอิน (Okunoin Temple)

ที่มา : tipwam / Shutterstock

นอกจากนี้ภูเขาโคยะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย โดยแต่ละที่ล้วนมีอาคารสถาปัตยกรรมโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เช่น “วัดพุทธดันโจการัน” (Danjo Garan) วัดที่ได้รับการออกแบบอาคารให้คล้ายกับเจดีย์ หรือ “วิหารโอคุโนะอิน” (Okunoin Temple) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และจุดถ่ายรูปยอดฮิตของภูเขาโคยะ ทุกๆ ช่วงท้ายปีและต้นปี ภูเขาโคยะจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและผู้ศรัทธาที่เดินทางมาไหว้พระบนภูเขาแห่งนี้

ยิ่งไปกว่านั้น ภูเขาโคยะยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามของจังหวัดวาคายามะอีกด้วย

• อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความนี้ >> โคยะซัง ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่รวบรวมประวัติศาสตร์ของศาสนาพุทธไว้มากกว่า 1,200 ปี https://fromjapan.info


10. น้ำตกนาชิ (Nachi Falls)

น้ำตกนาชิ (Nachi Falls) เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้าฮิโร (Hiro Shrine) ซึ่งเป็นศาลเจ้าชินโตที่แยกออกมาจากศาลเจ้าคุมาโนะนาชิ น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขานาชิ เมืองนาจิคัตสึอุระ จังหวัดวาคายามะ

น้ำตกนาชิมีความสูงถึง 133 เมตร นับเป็น 1 ใน 3 น้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 2004 ด้วย

น้ำตกนาชิเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากผู้คนมาตั้งแต่สมัยโบราณ ปัจจุบันน้ำตกแห่งนี้ได้กลายเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ด้วยทัศนียภาพอันงดงามของน้ำตกอันยิ่งใหญ่เมื่ออยู่คู่กับเจดีย์สีแดงชาดของวัดเซกันโทจิ

ที่มา : chuck hsu / Shutterstock

นอกจากนี้บริเวณใกล้น้ำตกยังมีระเบียงยื่นออกไปให้ทุกคนได้ชมความงดงามของน้ำตกนาชิกันแบบใกล้ๆด้วย และในวันส่งท้ายปีเก่าของทุกๆปีจะมีการประดับไฟตกแต่งรอบน้ำตกนาชิ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามของน้ำตกนาชิในอีกมุมมองหนึ่ง

ที่มา : AndyLai / Shutterstock

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะไปชมน้ำตกนาชินั้น เราจะต้องเดินผ่านศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงของจังหวัดวาคายามะอย่าง “ศาลเจ้าคุมาโนะนาชิ” (Kumano Nachi Taisha) ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองอันเป็นที่ตั้งของจุดชมวิวชื่อดังอย่าง ‘เจดีย์สีแดงชาดที่ตั้งอยู่คู่กับน้ำตกนาชิ’

• เว็บไซต์ : https://kumanonachitaisha.or.jp/

และทั้งหมดนี้ก็คือ “10 ที่เที่ยวยอดฮิตในคันไซ 2023” ที่เราได้รวบรวมมาให้กับทุกคนค่ะ หวังว่าจะได้ไอเดียในการวางแผนท่องเที่ยวภูมิภาคคันไซสำหรับปีนี้กันนะคะ

เรียบเรียงโดย : ทีมงาน www.marumura.com
Tags :
  • ข้อมูลเที่ยวญี่ปุ่น
  • ขับรถเที่ยวคันไซ
  • ภูมิภาคคันไซ
  • เที่ยวคันไซ Kansai
  • เที่ยวชิงะ Shiga
  • เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
  • เที่ยวนาระ Nara
  • เที่ยววาคายามะ Wakayama
  • เที่ยวเกียวโต Kyoto
  • เที่ยวโอซาก้า Osaka
marumura

Previous Article
  • เที่ยวโคจิ Kochi

เที่ยวโคจิด้วยรถไฟกัน

  • 30/01/2023
  • marumura
View Post
Next Article
  • ข้อมูลเที่ยวญี่ปุ่น
  • อัพเดตข่าวญี่ปุ่น

JR West เปิดให้จองแพ็คเกจตั๋วรถไฟสุ่มปลายทางพร้อมโรงแรมที่พัก

  • 01/02/2023
  • marumura
View Post
Trending Post
  • Bandai Namco เตรียมเปิดศูนย์รวมความบันเทิงยามราตรีในย่านคาบุกิโจ
  • Harry Potter Studio Tour Tokyo เผยรายละเอียดก่อนเปิดให้เข้าชมมิถุนายนนี้
  • ญี่ปุ่นจัดงานประดับไฟชมซากุระยามค่ำคืนที่สวน Shinjuku Gyoen โตเกียว
  • ที่พักใหม่สุดชิค…ธีมซูโม่!!
  • โตเกียวอนุญาตให้จัดงานชมดอกซากุระอีกครั้งในรอบ 3 ปี
Recent Posts
  • 10 เหตุผลที่ชาวญี่ปุ่นเปลี่ยนงาน ประจำปี 2022
    10 เหตุผลที่ชาวญี่ปุ่นเปลี่ยนงาน ประจำปี 2022
    • 27.03.23
  • ซะกะโมะโตะ เรียวมะ ผู้อยู่เบื้องหลังการฟื้นฟูเมจิ
    ซะกะโมะโตะ เรียวมะ ผู้อยู่เบื้องหลังการฟื้นฟูเมจิ
    • 27.03.23
  • ญี่ปุ่นทำการบินสาธิต “รถบินได้” เพื่อรับมือภัยพิบัติในอนาคต
    ญี่ปุ่นทำการบินสาธิต “รถบินได้” เพื่อรับมือภัยพิบัติในอนาคต
    • 27.03.23
  • ญี่ปุ่นจัดอันดับ “จังหวัดที่ผู้คนนิยมไปคาราโอเกะมากที่สุด”
    ญี่ปุ่นจัดอันดับ “จังหวัดที่ผู้คนนิยมไปคาราโอเกะมากที่สุด”
    • 26.03.23
  • ญี่ปุ่นวางขายเครื่องดื่มสุดแปลก “รสซุปบะหมี่เย็น”
    ญี่ปุ่นวางขายเครื่องดื่มสุดแปลก “รสซุปบะหมี่เย็น”
    • 25.03.23
Pick up
  • ปั่นจักรยานเที่ยวเมืองโตเกียว…ดียังไง
  • ตะลุยเที่ยวที่ใหม่ๆ สโลว์ไลฟ์รอบเกาะคิวชู ตอนที่ 2
  • Hop Step Inn โฮสเทลมุ้งมิ้งไม่ไกลนิปโปริ (Nippori)
  • เที่ยวฮอกไกโด : ลาเวนเดอร์ญี่ปุ่น
  • ชาบู ชาบู อร่อยมาก ร้าน Waragamo เมนูเป็ดเซมมงเตงที่ Kichijoji

⭕ คูปองส่วนลดร้านดองกิ

⭕ ดูดวงรายปี 2566

⭕ วันหยุดราชการญี่ปุ่น ประจำปี 2023

Social Links
Facebook
Twitter
Instagram
YouTube

Copyright © 2020 Marumura Co.,Ltd. All Rights Reserved

Input your search keywords and press Enter.