Hokkaido แดนอัศจรรย์ที่ต้องไปสักครั้งในชีวิต
“คนฮอกไกโดกว่าครึ่งไม่เคยเห็นแมลงสาบ และอยากเห็นแมลงสาบสักครั้ง”
ทำไมต้องไปเยือนฮอกไกโดให้ได้สักครั้ง
“ฮอกไกโด” เกาะอันกว้างใหญ่แห่งนี้มีความอัศจรรย์มากมายให้เราได้สัมผัส เกาะฮอกไกโดตั้งอยู่เหนือสุดของญี่ปุ่น มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเกาะหลักของญี่ปุ่น หรือ เกาะฮอนชู ฮอกไกโดแบ่งเป็นพื้นที่โซนกลาง เหนือ ใต้ และตะวันออก แต่ละโซนใช้เวลาเที่ยวราว 2-4 วัน ถ้าจะเที่ยวฮอกไกโดให้รอบเก็บให้ครบจริงๆ น่าจะต้องใช้เวลาสักครึ่งเดือน เมืองหลักอันเป็นศูนย์กลางของฮอกไกโดก็คือ “เมืองซัปโปโร” ที่หลายคนคุ้นหูกันดี ทั้งเบียร์ซัปโปโรและเทศกาลหิมะซัปโปโร ไม่ใช่แค่ซัปโปโร แต่ทุกเมืองบนเกาะแห่งนี้ กลับมีเสน่ห์และความพิเศษ จนโด่งดังไม่แพ้ซัปโปโร ไม่ว่าจะโอตารุ เมืองน่ารักบรรยากาศริมคลองสุดโรแมนติกที่มีพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี หรือเมืองฮาโกดาเตะที่มีป้อมดาว 5 แฉก และยังไม่รวมถึงเมืองแถบทะเลฝั่งตะวันออก ที่สามารถชมธารน้ำแข็งในฤดูหนาว ทำให้เรารู้สึกราวได้ผจญภัยอยู่ขั้วโลก
ฮอกไกโดมีฤดูหนาวยาวนาน 4-5 เดือน ใครต่างใฝ่ฝันการมาเที่ยวฮอกไกโดท่ามกลางหิมะขาวโพลนอุณหภูมิติดลบ เล่นสกี ดูเพนกวิน และทิ้งตัวลงบนหิมะนุ่มฟู ที่เรียกว่า “Powder Snow” นอกจากฤดูหนาว ฮอกไกโดก็ยังมีความงดงามที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดู อย่างดอกพิงค์มอสในฤดูใบไม้ผลิ และทุ่งลาเวนเดอร์ในฤดูร้อน ส่วนเรื่องกินจะมาฤดูไหนก็เต็มอิ่มกับอาหารอร่อย ทั้งเจงกิสข่าน อาหารพื้นเมืองสุดขึ้นชื่อ เมนูจากนมและชีสสุดพรีเมียม ผลไม้หวานฉ่ำอย่างเมล่อนยูบาริ และที่ฟินสุดๆ ต้องยกให้ปูก้ามโตเนื้อแน่น เรียกว่าเป็นเกาะที่อุดมสมบูรณ์ทั้งธรรมชาติและของอร่อย
“คนพื้นที่อื่นในญี่ปุ่นไม่เข้าใจเวลาคนฮอกไกโดพูดว่า วันนี้หิมะตกอากาศอบอุ่น”
ฮอกไกโดเที่ยวได้ทุกฤดู
ฤดูหนาว
ฤดูสุดฮิตที่นักท่องเที่ยวใฝ่ฝัน ฤดูหนาวของฮอกไกโดเริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม หิมะตกตลอดฤดู ทิวทัศน์ทั่วทั้งเกาะปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนและการประดับไฟสวยงาม หน้าหนาวที่นี่หนาวมากๆ เสื้อผ้าจัดเต็มไปเลยหลายๆ ชั้น เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์จะเป็นช่วงที่หนาวที่สุด อุณหภูมิ 0 องศา ถึง -8 องศา กิจกรรมหน้าหนาวมีมากมาย นอกจากเล่นสกี ยังมีตกปลาบนน้ำแข็ง สุนัขลากเลื่อน นั่งเรือตัดน้ำแข็ง ดูเพนกวินแมวน้ำ และไฮไลท์คือ เทศกาลหิมะเมืองซัปโปโร ให้เดินชมน้ำแข็งแกะสลักรูปปั้นหิมะ และสนุกสนานกับลานหิมะที่มีกิจกรรมมากมาย
ฤดูใบไม้ผลิ
ซากุระที่ฮอกไกโดบานช้ากว่าแถบอื่นในญี่ปุ่น ชมได้ช่วงปลายเมษายน – ต้นพฤษภาคม สถานที่นิยม คือ ป้อมดาวโกเรียวคาคุ ที่ฮาโกดาเตะ ไปแล้วต้องลองกินเนื้อเจงกิสข่านใต้ต้นซากุระกันด้วยนะ นอกจากซากุระ ยังมีทุ่งดอกทิวลิป รวมถึงทุ่งดอกพิงค์มอสสีชมพูสดที่ปกคลุมไปทั้งเนินเขา เป็นเอกลักษณ์หนึ่งของฤดูใบไม้ผลิฮอกไกโด ชมได้ช่วงพฤษภาคม – มิถุนายน ที่เมืองมงเบตสึ ทางเหนือของฮอกไกโด อากาศช่วงฤดูใบไม้ผลิเย็นสบาย ราว 10-20 องศา เดินเที่ยวสบาย ชมวิวดอกไม้จุใจแน่นอน
ฤดูร้อน
ฮอกไกโดเข้าสู่หน้าร้อนช่วงปลายเดือนมิถุนายน – สิงหาคม แต่ถือว่าอากาศเย็นสบายทีเดียว อุณหภูมิไม่เกิน 30 องศา เป็นช่วงเวลาแห่งการสัมผัสธรรมชาติสีเขียวชอุ่ม อย่างภูเขา น้ำตก และทะเลสาบ บ่อน้ำสีฟ้า Blue Pond ที่เมืองบิเอะ ก็มีสีฟ้าสวยสดใสในฤดูนี้ และยังเป็นฤดูที่เหมาะมากๆ กับการนั่งเรือไปชมวาฬ ฤดูร้อนยังมีดอกไม้ให้ชมเหมือนกัน ทั้งสวนชิกิไซโนะโอกะ ที่มีดอกไม้หลากสี และฟาร์มโทมิตะ ให้ไปวิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์ กินซอฟต์ครีมคลายร้อน อีกอย่างที่ห้ามพลาดในฤดูร้อน คือ เมล่อนยูบาริ รสหวานฉ่ำ
ฤดูใบไม้ร่วง
เดือนกันยายน – ตุลาคม อากาศหนาวเย็นและใบไม้เปลี่ยนสีก่อนจังหวัดอื่นในญี่ปุ่น อากาศค่อนข้างหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 7 องศา สำหรับคนขี้หนาวช่วงปลายฤดูจะพกถุงมือ ผ้าพันคอ หรือโค้ทไปด้วยก็ได้ ช่วงนี้จะมีฝนตกด้วย แต่ก็ถือว่าเป็นจังหวัดที่ฝนตกน้อยมากและไม่มีช่วงพายุเข้า สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ทั่วเกาะ สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใบไม้จะเปลี่ยนสีเต็มที่ช่วงต้นตุลาคมเป็นต้นไป แนะนำการล่องเรือหรือนั่งโรปเวย์ เพื่อชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสี ฤดูนี้ไม่ควรพลาดอาหารทะเล โดยเฉพาะปลาซันมะ แซลมอน และหอยนางรมที่ขึ้นชื่อมากๆ
“ที่ฮอกไกโด ในฤดูหนาวพ่อแม่จะใช้ลากเลื่อนหิมะแทน การใช้รถเข็นเด็ก”
การเดินทางท่องเที่ยวในฮอกไกโด
ฮอกไกโดเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีสถานที่ท่องเที่ยวกระจายอยู่ทั่วทั้งจังหวัด ซึ่งรถสาธารณะในจังหวัดนั้นมีความหลากหลาย และค่อนข้างสะดวกครอบคลุมพื้นที่ ทำให้เราสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ทั่วโดยไม่ต้องเช่ารถ นอกจากคนที่อยากเที่ยวสบายๆ แวะถ่ายรูประหว่างทาง ไปกันหลายคน หรือมีผู้สูงวัย การเช่ารถก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี แต่ต้องระวังเรื่องการขับรถท่ามกลางหิมะ หากมาเที่ยวในฤดูหนาว
รถสาธารณะ
・การเดินทางข้ามเมือง
จากเมืองหลักซัปโปโร สามารถเดินทางข้ามเมือง ไปยังเมืองต่างๆ ได้ด้วยรถไฟ JR
นอกจากนี้ยังมี Chuo Bus รถบัสจากสถานี JR Sapporo ไปยังเมืองต่างๆ มีทั้งเที่ยวเดียวและไป-กลับ ลงที่สถานีใกล้สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ เช่น ฟาร์มโทมิตะที่เมืองฟุราโนะ สวนสัตว์อาซาฮิยามะที่เมืองอาซาฮิคาวะ เมืองโอตารุ เป็นต้น และยังมีไปถึงลานสกีต่างๆ ที่เมืองนิเซโกะ
・การเดินทางในตัวเมือง
สำหรับซัปโปโร มีทั้งรถไฟใต้ดิน รถไฟ รถบัส และรถราง เดินทางง่ายและสะดวกมาก ไปได้ทุกที่ ส่วนเมืองอื่นๆ จากสถานีรถไฟหลัก ก็จะมีรถราง รถบัส และ Shuttle Bus ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
ตั๋วแบบเหมา และบัตรต่างๆ
・เที่ยวทั่วฮอกไกโด
– JR Hokkaido Rail Pass : ตั๋วเหมาสำหรับนั่งรถไฟ JR และรถบัส JR ในฮอกไกโด ใช้ได้ไม่จำกัดครั้ง แบ่งเป็น
แบบใช้งานติดต่อกัน 3 วัน / 5 วัน / 7 วัน
แบบใช้งานไม่ติดต่อกัน 4 วัน ใช้ได้ภายในระยะเวลา 10 วัน
– (เช่ารถ) Hokkaido Expressway Pass : บัตรเหมาจ่ายค่าทางด่วนในฮอกไกโด ใช้ได้ไม่จำกัด มีแบบ 2 วัน จนถึง 14 วัน
・ซัปโปโร
– Subway One-Day Ticket : ตั๋วเหมาสำหรับนั่งรถไฟใต้ดินในซัปโปโร ใช้ได้ไม่จำกัดภายใน 1 วัน
– Donichika Ticket : ตั๋วเหมาสำหรับนั่งรถไฟใต้ดินในซัปโปโร ใช้ได้ไม่จำกัดภายใน 1 วัน เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และช่วงปีใหม่ (29 ธ.ค.-3 ม.ค.)
– Dosanko Pass : ตั๋วเหมาสำหรับนั่งรถรางในซัปโปโร ใช้ได้ไม่จำกัดภายใน 1 วัน เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และช่วงปีใหม่ (29 ธ.ค.-3 ม.ค.)
– บัตร Sapica : บัตรเติมเงิน สำหรับนั่งรถไฟใต้ดินและรถรางในซัปโปโร รถบัส JR Hokkaido Bus, Jotetsu Bus และ Hokkaido Chuo Bus
– บัตร Kitaca : บัตรเติมเงิน สำหรับนั่งรถไฟ JR ในซัปโปโร โอตารุ และสถานีรอบๆ ซัปโปโร รวมถึงรถไฟใต้ดิน รถราง และรถบัสในซัปโปโร
・ฮาโกดาเตะ
– Kanpass : ตั๋วเหมาสำหรับนั่งรถบัสในฮาโกดาเตะ ใช้ได้ไม่จำกัดภายใน 1 วัน
– Tram & Bus 1day/2day Pass : ตั๋วเหมาสำหรับนั่งรถรางและรถบัสในฮาโกดาเตะ ใช้ได้ไม่จำกัด มีแบบ 1 วัน / 2 วัน
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– 8 กิจกรรมท้าหนาวรอบฮอกไกโด
– ทริปตะลุยฮอกไกโด 6 วัน เก็บครบทุกที่เที่ยวห้ามพลาด
#Hokkaido แดนอัศจรรย์ที่ต้องไปสักครั้งในชีวิต