Unseen Ojika & Nozaki ตอนที่ 2 : ว่าด้วยเกาะโอะจิกะ
สวัสดีค่ะ…คราวที่แล้วป้าหมวยยยได้แนะนำเกี่ยวกับเกาะโอะจิกะไป เป็นอย่างไรบ้างคะ จากนี้ป้าหมวยยยจะมาเล่าถึงประสบการณ์ท่องเที่ยวบนเกาะโอะจิกะในทริปของป้าบ้าง
ย้อนถึงซีรีส์ก่อนหน้านี้ “ขับรถเหนือใต้ออกตก Mission Shin-Kamigoto” ที่ป้าหมวยยยเล่าถึงการขับรถเป็นเวลา 4 วันเต็ม เพื่อสักการะโบสถ์ทั้ง 29 แห่งและสถานที่สำคัญต่าง ๆ ทั่วตำบลชินคามิโกโต้ แล้วจบซีรีส์ด้วยการพาชม Arikawa Port Terminal ที่มีโครงกระดูกวาฬและวาฬจำลองแขวนอยู่ด้านบน
Arikawa Port Terminal ที่ท่าเรืออาริคาวะ ตำบลชินคามิโกโต้
ป้าหมวยยยเดินทางไปเกาะโอะจิกะจากท่าเรือแห่งนี้ด้วยเรือ Highspeed boat “Big Earth 2” (びっくあーす2号) ที่แล่นระหว่าง Sasebo – Ukutaira – Ojika – Arikawa
เส้นทางเดินเรือ Sasebo-Kamigoto ของเรือ Big Earth 2
เรือนี้เป็นของบริษัทคิวชูโชเซ็น เป็นเรือใหม่ที่เพิ่งให้บริการเมื่อปลายปี 2018 นี่เอง ทำความเร็วได้ 28 น็อต (ความเร็วอยู่ระดับกลาง ๆ เมื่อเทียบกับเรือเจ็ตฟอยล์ที่ทำความเร็วได้ 43 น็อต และเรือเฟอร์รี่ธรรมดาที่ 18 น็อต) มีที่นั่งทั้งหมด 300 ที่ แบ่งเป็น 4 x 4 แถว เบาะกว้างนั่งสบายเหมือนเรือเจ็ตฟอยล์แต่ไม่มีเข็มขัดรัดและโต๊ะพับ มีที่วางกระเป๋าเป็นสัดส่วน เวลาออกเดินทางจะมีเชือกกั้นเรียบร้อยไม่ให้กระเป๋าเลื่อนออกนอกพื้นที่ เรือ Big Earth 2 ออกเดินทางจากท่าเรืออาริคาวะเวลา 10:15 น. ใช้เวลาเพียง 35 นาทีก็ถึงเกาะโอะจิกะ ค่าเดินทาง ณ เวลานั้น 2,010 เยน
เรือ Big Earth 2 ขณะเทียบท่า
แถวที่นั่งภายในเรือ Big Earth 2
เก้าอี้ของเรือ Big Earth 2 มีที่วางแก้วน้ำ ปรับเอนได้ มีเสื้อชูชีพอยู่ใต้เบาะ
จุดวางกระเป๋าอยู่ใกล้ทางขึ้นลง กระเป๋าใบไหนเป็นของป้าเอ่ย?
ป้าหมวยยยมาถึง Ojika Port Terminal (小値賀港ターミナル) เวลาประมาณ 10:50 น. ที่นั่นคุณไทโยที่เป็นเจ้าของ Shimayado Goen Guesthouse ขับรถมารับป้าถึงที่ท่าเรือพาไปยังเกสต์เฮาส์ พอดีช่วงนั้นแขกไม่เยอะนัก แม้ยังไม่ถึงเวลาเช็คอินตามกำหนด แต่คุณไทโยก็ใจดีเปิดห้องให้ป้าเข้าไปเก็บกระเป๋าก่อน
Shimayado Goen Guesthouse ที่ป้าหมวยยยถ่ายซูมจาก
จุดชมวิว Tsuwazaki Lighthouse จากอีกเกาะหนึ่ง
ป้าเก็บของเสร็จก็เช่าจักรยานของเกสต์เฮาส์ไปขี่เที่ยวในตัวเมืองโอะจิกะค่ะ กะว่าจะไปกินข้าวกลางวันก่อน แล้วค่อยขี่ไปแถวโซนในเมืองและทางตะวันออกของเกาะ
จักรยานเช่าที่ว่าเป็นจักรยานไฟฟ้า Pedal-assist E-bike ที่เมื่อเปิดสวิตช์แล้วมอเตอร์จะช่วยหมุนแป้นบันได ช่วยเบาแรงได้มากเวลาปั่นขึ้นเนิน ค่าเช่าวันละ 1,000 เยน ออกจะแพงกว่าจักรยานธรรมดาอยู่สักหน่อย เวลาใช้งานต้องคอยดูระดับแบตเตอรี่ เปิดใช้เฉพาะเมื่อจำเป็นเพราะถ้าแบตหมดแล้วต้องขึ้นเนินจะลำบาก เพราะรถหนักกว่ารถจักรยานธรรมดา
แผนที่สถานที่ต่าง ๆ และระยะการเดินทางด้วยจักรยานบนเกาะโอะจิกะ
ป้าได้แผนที่มา เห็นได้ว่าถนนหนทางบนเกาะไม่ซับซ้อนนัก รถราก็ไม่มาก ร้านค้าส่วนใหญ่อยู่บนถนนเส้นหลัก โดยทั้งเกาะมีสัญญาณไฟจราจรอยู่แค่สองจุดบนถนนเส้นนี้
ร้านค้าและสถานที่สำคัญบนถนนเส้นหลัก ป้ายสีแดงเป็นร้านอาหาร
น้องแมวที่พบระหว่างทาง
ร้านฟุรุซาโตะ
ร้านอาหารสำหรับมื้อกลางวันที่คุณไทโยแนะนำคือร้านฟุรุซาโตะ (ふるさと Furusato) ที่อยู่ในตรอกเล็ก ๆ ค่ะ พอจะจอดจักรยานที่หน้าร้านได้ ตัวร้านไม่ใหญ่นักแต่พอดีมีแขกท่านอื่นอยู่เลยไม่ถ่ายในร้านให้เป็นการรบกวน
ร้านอาหารฟุรุซาโตะ
ลองดูเมนู อาหารก็ไม่แพง มีทั้งอาหารชุด อุด้ง ข้าวราดหน้าต่าง ๆ อาหารชุดเบ็งโตะ ป้าเลยลองอาหารชุด Furusato Teishoku (ふるさと定食) ราคา 750 เยนมาลอง ชุดนี้สามารถเลือกได้ระหว่างปลาย่างหรือปลาดิบซาชิมิ ปลาสด ปริมาณอิ่มกำลังพอดี ส่วนอีกชุดคือ Furusato Special ราคา 1,000 เยน จะมีให้ทั้งสองอย่างเลยค่ะ
อาหารชุด Furusato Teishoku แบบปลาดิบซาชิมิ ราคา 700 เยน
Ojika Port Terminal
หลังจากนั้น ป้าหมวยยยปั่นจักรยานไปที่ Ojika Port Terminal อีกครั้ง เพราะตอนที่มาถึงเกาะ คุณไทโยมารับก็เลยรีบไป ไม่มีเวลาเดินดู
Ojika Port Terminal
ด้านในอาคาร Ojika Port Terminal
ภายใน Ojika Port Terminal มีเคาท์เตอร์ซื้อตั๋วเรือ Highspeed boat ของบริษัทคิวชูโชเซ็น เพื่อไปยังเกาะอุคุ, เมืองซาเซโบะหรือท่าเรืออาริคาวะที่ตำบลชินคามิโกโต้ และเรือ Ferry “Taiko” ของบริษัทโนโมะโชเซ็น สำหรับเดินทางไปยังเมืองฟุกุโอกะหรือท่าเรือฟุคุเอะที่เมืองโกโต้
สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่ไทโกะเที่ยวดึกจากเมืองฟุกุโอกะ และมาถึงเกาะโอะจิกะในช่วงเช้ามืดเวลา 4:40 น. สามารถพักในห้องหรือพื้นที่พักผ่อนสำหรับผู้โดยสารแยกชายหญิง โดยใช้ห้องได้ตั้งแต่เรือเทียบท่าถึงเวลาประมาณ 9 โมงเช้าตามเวลาทำการ แต่ไม่แน่ใจว่าพอสว่างแล้วจะออกไปจากอาคารได้เลยรึเปล่านะคะ
ผู้โดยสารชายจะมีพื้นที่พักผ่อนให้อยู่ตรงมุมหนึ่งของ Terminal แต่ผู้โดยสารหญิงจะมีห้องแยกให้ต่างหาก ภายในห้องมียกพื้นปูเสื่อทาทามิสำหรับนอนงีบ ตู้เคาท์เตอร์ล้างมือพร้อมกระจก
ห้องพักผ่อนสำหรับผู้โดยสารหญิงสำหรับเรือเฟอร์รี่ที่มาถึงตอนเช้ามืด
ป้ายโฆษณาและเบอร์ติดต่อร้านค้าบนเกาะโอจิกะ
เช่น เรียวคัง รถเช่า ร้านขายปลา ร้านซูชิ
เกาะโอะจิกะก็ไม่ต่างจากสถานที่อื่น ๆ ในญี่ปุ่นที่มีตัวมาสคอตประจำเมือง โดยตัวมาสคอตของที่นี่เป็นกวางตากลมแป๋ว ตัวผู้ชื่อ จิกะมารุ (ちかまる Chikamaru) และตัวเมียชื่อ ฮานะจัง (はなちゃん Hanachan) โดยทั้งสองมาจากสัตว์ประจำเมืองคือ กวางคิวชูจิกะ (九州鹿 Kyūshūjika) ซึ่งอาศัยกันตามธรรมชาติหลายร้อยตัวบนเกาะโนซากิจิม่าที่อยู่ข้าง ๆ กัน
มาสคอตประจำเมืองโอะจิกะ: จิกะมารุ และ ฮานะจัง
กวางคิวชูจิกะสตัฟฟ์ที่จัดแสดงอยู่ที่ Ojika Port Terminal
ตอนนั้นเวลาประมาณบ่ายโมงค่ะ เป็นเวลาที่เรือเฟอร์รี่ไทโกะที่แล่นจากท่าเรือฟุคุเอะกลับไปยังเมืองฟุกุโอกะกำลังเทียบท่าเรือโอะจิกะ ป้าหมวยยยออกไปดูเรือ เห็นกลุ่มหนุ่มสาวชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นที่ทำงานที่ Shimayado Goen Guesthouse กำลังโบกมืออำลาเพื่อนที่ขึ้นเรือไทโกะ ดูน่าประทับใจในมิตรภาพเลยถ่ายรูปพวกเขาจากด้านหลังไว้ แล้วส่งให้คุณไทโยเพื่อส่งต่อให้ทุกคน
กลุ่มหนุ่มสาวหลายเชื้อชาติที่ยืนโบกมืออำลาเพื่อนที่ขึ้นเรือ
กลับเข้ามาในอาคาร Ojika Port Terminal ค่ะ บริเวณใกล้ประตูเข้าออกไปท่าเรือ เป็นที่ตั้งของสำนักงานการท่องเที่ยวของเกาะโอะจิกะ Ojika Island Tourism ที่นักท่องเที่ยว สามารถสอบถามข้อมูล ขอแผนที่ ติดต่อจองบริการ เช่ารถจักรยาน รวมทั้งซื้อสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกได้ที่นี่
สินค้าพื้นเมืองประจำเกาะ ได้แก่ ขนมคังโคโระโมจิ สินค้าการเกษตรและประมงแปรรูป รวมทั้ง ผลิตภัณฑ์ถั่วลิสง เช่น ถั่วลิสงอบ ผงแกงกะหรี่ถั่วลิสง ซึ่งมีรสชาติดีและคุณค่าทางอาหารเข้มข้นจากดินที่อุดมไปด้วยแร่ธาตภูเขาไฟ
ถึงจะเป็นฤดูหนาวแต่ก็อยากลองชิมไอศครีมถั่วลิสง รสชาติมัน ๆ อร่อยดี
ส่วนของที่ระลึกที่วางจำหน่าย ได้แก่ กระเป๋า โปสการ์ด พวงกุญแจ ตุ๊กตา เป็นรูปโบสถ์โนซากิและมาสค็อตกวางจิกะมารุ นอกจากนี้ของที่ระลึกน่าสนใจของเกาะโอะจิกะอย่างหนึ่งคือ สินค้าที่มีรูปป้าย “ระวังวัว” (牛に注意 Ushi ni chui) ที่ดูโดดเด่นเก๋ไก๋ไม่เหมือนที่ไหน ลายนี้จำลองมาจากป้ายของจริงที่มีอยู่หลายจุดทางทิศตะวันตกของเกาะที่เป็นทุ่งเลี้ยงวัว มีทั้งเข็มกลัด แม็กเน็ต สติ๊กเกอร์ เสื้อยืด
สินค้ารูปป้ายระวังวัว ของดีประจำเกาะโอะจิกะ
สมควรแก่เวลาเริ่มปั่นจักรยานออกเที่ยวต่อค่ะ
ถนนเส้นหลักบนเกาะโอะจิกะ เป็นหนึ่งในสองแยกที่มีสัญญาณไฟจราจรบนเกาะ
ศาลอุชิโนะโท
สถานที่ถัดไปที่ป้าหมวยยยแวะก็คือ ศาลอุชิโนะโท (牛の塔 Ushi no Tō) ที่ตั้งอยู่ตรงแหลมริมทะเล ติดกับหาดฟุนาเสะ (船瀬海水浴場 Funase Kaisuiyokujō) ศาลนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแก่วิญญาณของวัวที่ตายไปในการถมทะเลให้เชื่อมติดกันเมื่อราว 700 ปีก่อน
แต่เดิมเกาะโอะจิกะแบ่งเป็น 2 เกาะและมีที่ราบอยู่ไม่มากนัก จึงมีคำสั่งให้ถมทะเลกินพื้นที่ถึง 200,000 ตารางเมตร ทำให้ได้พื้นที่ราบสำหรับทำการเพาะปลูก แต่เพื่อการนั้นทำให้วัวที่ใช้เป็นแรงงานขนดินหินทรายตายไปมากมาย ชาวเกาะจึงสลักพระสูตรลงบนก้อนหินเล็ก ๆ ราว 7 หมื่นก้อนฝังไว้แล้วตั้งศาลขึ้นครอบ เพื่ออุทิศแก่วิญญาณวัวทั้งหลาย และจัดให้มีพิธีบวงสรวงขึ้นทุกปี
ตลอดช่วงระยะเวลา 700 ปี มีการบูรณะศาลขึ้นหลายครั้ง ครั้งล่าสุดคือเมื่อปี 1912 มีการทำทางเดินด้วยหินจากหมู่เกาะโกโต้ โดยค่าใช้จ่ายได้มาจากการบริจาคของคนบนเกาะและลูกหลานตระกูลมัตสึระที่เคยปกครองเกาะนี้
ทางเดินสู่ศาลอุชิโนะโท
บันไดขึ้นศาลอุชิโนะโท ด้านข้างบันไดกองแท่งซีเมนต์เป็นกำแพงกันคลื่น
ภายในศาลอุชิโนะโท มีเสาสักการะอยู่ตรงกลาง
ภาพ 360 องศาบริเวณรอบศาลอุชิโนะโท ข้าง ๆ ศาลเป็นหาดฟุนาเสะสำหรับเล่นน้ำ
อันนี้แถม ภาพซูมเรือ Highspeed boat “Sea Queen” กำลังแล่นเข้าอ่าวโอะจิกะ
สวนสาธารณะอาคาฮามะไคกัง
ป้าหมวยยยปั่นจักรยานไปตามถนน Green Road ที่จะสิ้นสุดที่สนามบินโอะจิกะ ระหว่างทางแวะสวนสาธารณะอาคาฮามะไคกัง (赤浜海岸公園 Akahama Kaigan Kōen) ที่นี่เป็นทุ่งหญ้าเขียว ๆ โล่งกว้าง มีจุดชมวิว ซุ้มนั่งพัก บริเวณนี้เหมาะกับครอบครัวพาเด็ก ๆ มาทำกิจกรรมวิ่งเล่นช่วงฤดูร้อน
สวนสาธารณะอาคาฮามะไคกัง หลังรั้วเป็นเนินลาดที่มีอีกลานหนึ่งให้ลงไปได้อีก
หลังรั้วเป็นเนินลาด มีบันไดให้เดินลงไปได้จะเป็นลานที่ดูเหมือนว่าในระหว่างปีจะมีการปรับสภาพพื้นที่ โดยกั้นรั้วแล้วปล่อยฝูงแพะไว้ให้เล็มหญ้าตามสบาย แพะได้กินหญ้าอิ่ม คนก็ไม่ต้องเหนื่อยแรง เป็นวิธีที่ง่ายแต่ได้ผลดีจริง ๆ
บริเวณเนินลาดที่มีลานอยู่ข้างล่าง
ภาพ 360 องศาบริเวณสวนสาธารณะอาคาฮามะไคกัง
บริเวณนี้บางช่วงจะมีการปล่อยแพะให้มากินหญ้าเพื่อปรับสภาพพื้นที่
ก๊อกล้างมือรูปกบสำหรับเด็กที่สวนสาธารณะอาคาฮามะไคกัง
มีเรื่องจะเล่านิดหน่อยค่ะ คือทางเข้าสวนสาธารณะเป็นถนนเล็ก ๆ ที่แยกจากถนนใหญ่ มีลักษณะเป็นเนินเล็กน้อย ตอนที่ปั่นจักรยานออกมาจากสวน พอดีสับสนกับแผนที่ในหัวนิดหน่อยว่าจะไปสนามบินโอะจิกะต้องเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา แต่กว่าจะตัดสินใจได้ว่าต้องเลี้ยวขวาก็ลงเนินมาเร็วจนเบรกไม่อยู่ แหกโค้งไปลงข้างทางฝั่งตรงข้ามจนได้ – -“
ทางเข้าสวนสาธารณะที่เกิดเหตุจักรยานป้าหมวยแหกโค้ง
จักรยานแหกโค้งไปลงตรงหญ้าใกล้ ๆ กับรถที่พยุงขึ้นตั้งไว้แล้ว
ตรงนั้นเป็นทางระบายน้ำกับเนินดินเล็ก ๆ ค่ะ จักรยานป้าพุ่งข้ามทางระบายน้ำก่อนสะดุดเนินดินจนล้มกลิ้งลงไปนอน พอลุกขึ้นมาได้ก็รู้สึกเจ็บตามตัวนิดหน่อย โชคดีที่ลงตรงหญ้าก็เลยไม่มีแผลถลอกและไม่ได้ฟาดโดนแท่งรังวัดที่อยู่แถวนั้น ส่วนกระเป๋าของส่วนตัวก็ยังปลอดภัยดี
ทางระบายน้ำและเนินดินที่รถจักรยานป้าแหกโค้งไปล้มวัดพื้น
รถจักรยานสภาพยังโอเค ไม่มีชิ้นส่วนแตกหักเสียหาย ยางก็ไม่แบน แต่ว่าพอพยุงรถขึ้นมาจะขี่ต่อ ป้ารู้สึกแปลก ๆ ที่แท้แฮนด์รถกับล้อมันบิดไปคนละทางจากแรงล้ม ตายละ ขี่ต่อก็ไม่ได้ ออกมาจากเมืองระยะไกลพอควรแล้วด้วย ขืนพยุงรถกลับคงมืดพอดี
จักรยานที่แฮนด์เบี้ยวจากแรงล้ม
ป้านึกขึ้นได้ เลยเขียนข้อความและส่งภาพรถจักรยานไปทาง Facebook Messenger ที่เคยติดต่อกับคุณไทโยแต่ดูเหมือนจะยังไม่ได้อ่าน เลยใช้โทรศัพท์ไปหาคุณไทโยที่เกสต์เฮาส์โดยตรง บอกว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานล้ม แฮนด์รถเบี้ยวตามรูปที่ส่งไปในแอป ขาดไม่ได้คือต้องแจ้งตำแหน่งและถ่ายรูปจุดสังเกตใกล้ ๆ ให้รู้ว่าอยู่ตรงไหน
แชทแจ้งเหตุกับคุณไทโย
หลังจากติดต่อคุณไทโยไปแล้ว สักพักใหญ่คุณไทโยก็มาถึงด้วยรถกะบะเล็กพร้อมกับผู้ชายอีกคนที่น่าจะเป็นช่างจักรยาน ป้าหมวยยยนึกว่าจะต้องสิ้นสุดทริปจักรยานแต่เพียงเท่านี้แล้ว แต่เมื่อคนที่มาด้วยตรวจสภาพรถแล้วลองใช้ประแจและออกแรงบิด แฮนด์รถก็กลับมาตรง ขี่ได้เหมือนเดิมแต่ป้าต้องระมัดระวังในการขี่มากขึ้น นับว่าคุณไทโยให้ความช่วยเหลือป้าดีมากจริง ๆ ค่ะ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ป้าหมวยยยจึงแนะนำว่า นอกเหนือจากอินเตอรเน็ตมือถือที่จำเป็นต้องใช้อยู่แล้ว การมีโทรศัพท์มือถือที่เปิดบริการ roaming และพกเบอร์โทรศัพท์ที่พัก ศูนย์บริการท่องเที่ยวไว้ขณะเดินทางบ้างจะมีประโยชน์ในกรณีจำเป็นค่ะ ถ้ามีวิธีติดต่ออื่นเช่น Line หรือ Facebook Messenger ก็ยิ่งดีในกรณีต้องส่งภาพสถานการณ์หรือตำแหน่งปัจจุบัน ทำให้ผู้ที่จะมาช่วยเหลือวิเคราะห์สถานการณ์และตระเตรียมอุปกรณ์ได้ง่ายขึ้น
สนามบินโอะจิกะ
จบเรื่องแล้วป้าขี่จักรยานต่อ ไปดูสนามบินโอะจิกะ (小値賀空港 Ojika Kuko / Ojika Airport) ที่อยู่สุดถนนกรีนโรดทางตะวันออก สนามบินนี้ไม่มีรหัส IATA (International Air Transport Association หรือสมาคมขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างประเทศ) แต่มีรหัส ICAO (International Civil Aviation Organization หรือองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ) คือ RJDO เปิดทำการในราวปลายปี 1985 เคยมีเครื่องบินพาณิชย์จากฟุคุโอกะกับนางาซากิมาขึ้นลงที่นี่ แต่ยกเลิกไปตั้งแต่ปี 2006 แล้ว
ป้าไม่ได้เดินเข้าไปด้านในอาคารผู้โดยสาร ยืนมองดูเพียงด้านนอกเท่านั้น ตัวอาคารผู้โดยสารน่าจะได้รับแรงบันดาลใจจากโบสถ์คริสต์โนคุบิ ตัวอาคารเป็นสีน้ำตาลอิฐ ด้านบนทางเข้าออกตกแต่งคล้ายโค้งประตู ปีกข้างของอาคารทำให้ดูคล้ายยอดเสาตกแต่งของโบสถ์
อาคารผู้โดยสารสนามบินโอะจิกะ
ต้นไม้ตกแต่งตรงลานจอดรถสนามบิน เขียนว่า よこそおぢかへ
(Yokoso Ojika e) หรือ “ยินดีต้อนรับสู่โอะจิกะ”
หลังรั้วไปเป็นรันเวย์สนามบินโอะจิกะ
ปัจจุบันสนามบินนี้ใช้สำหรับเป็นจุดขึ้นลงเครื่องบินส่วนบุคคลและเฮลิคอปเตอร์กรณีฉุกเฉินเท่านั้น ไม่กี่ปีที่ผ่านมามีแต่เฮลิคอปเตอร์ขึ้นลงเพียงไม่ถึง 150 เที่ยว ทางจังหวัดนางาซากิกำลังพิจารณายกเลิกสนามบิน แล้วบำรุงรักษารันเวย์ไว้เพื่อใช้ในกรณีบรรเทาสาธารณภัยเท่านั้น
สรุปเส้นทางขี่จักรยานและจุดแวะพักในตอนนี้
สำหรับตอนนี้ป้าหมวยยยขอพักไว้เพียงเท่านี้ก่อน ตอนหน้าไปชมสถานที่น่าสนใจเล็ก ๆ บนเกาะโอะจิกะกันต่อนะคะ
เรื่องแนะนำ :
– Unseen Ojika & Nozaki ตอนที่ 1 : ว่าด้วยเกาะโอะจิกะ
– ขับรถเหนือใต้ออกตก Mission Shin Kamigoto ตอนที่ 12 : เก็บตก (ภาคปลาย) คามิโกโต้กับวาฬ
– ขับรถเหนือใต้ออกตก Mission Shin Kamigoto ตอนที่ 11 : เก็บตก (2)
– ขับรถเหนือใต้ออกตก Mission Shin Kamigoto ตอนที่ 10 : เก็บตก (1) โกโต้อุด้ง
– ขับรถเหนือใต้ออกตก Mission Shin Kamigoto ตอนที่ 9 : Unseen ถ้ำคริสตังแห่งโกโต้
ข้อมูลจาก
– https://ojikajima.jp
– http://www.kyusho.co.jp
#Unseen Ojika & Nozaki ตอนที่ 2 : ปั่นเรื่อยเอื่อยชมเกาะโอะจิกะ