เทศกาลกระดิ่งลมแห่งรัก (Enmusubi Furin) นั้นมีการจัดขึ้นในหลาย ๆ แห่งทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น แต่ที่จะแนะนำกันในวันนี้คือ Enmusubi Furin ที่ ศาลเจ้าคาวาโกเอะ ฮิคาวะ (Kawagoe Hikawa Shrine) จังหวัดไซตามะค่ะ
หน้าร้อนของประเทศญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นช่วงแห่งความสนุกสนาน เป็นช่วงแห่งการเฉลิมฉลองเพื่อต้อนรับกับความอบอุ่นที่กำลังจะมาเยือน ช่วงนี้ประเทศญี่ปุ่นจึงเต็มไปด้วยเทศกาลรื่นเริงมากมาย เทศกาลกระดิ่งลมแห่งรัก (Enmusubi Furin) ก็ถูกจัดขึ้นในช่วงหน้าร้อนเช่นกัน ด้วยเสียงกระดิ่งที่ดังก้องกังวาน ผสานกับสายลมอุ่นแห่งฤดูร้อน Enmusubi Furin จึงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่หลายคนรอคอย
เทศกาลกระดิ่งลมแห่งรัก (Enmusubi Furin) นั้นมีการจัดขึ้นในหลาย ๆ แห่งทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น แต่ที่จะแนะนำกันในวันนี้คือ Enmusubi Furin ที่ ศาลเจ้าคาวาโกเอะ ฮิคาวะ (Kawagoe Hikawa Shrine) จังหวัดไซตามะ
ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะเป็นศาลเจ้าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1500 ปี ถูกสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิ์คินเม และได้รับความศรัทธาจากชาวบ้านมาอย่างยาวนาน โดยศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่สักการะบูชาเทพเจ้าถึง 5 องค์ด้วยกัน ได้แก่
1. ซูซาโนะโอะ โนะ มิโคโตะ (Susanoo no Mikoto) เป็นเทพเจ้าแห่งทะเลและพายุ
2. คุชิอินาดาฮิเมะ โนะ มิโคโตะ (Kushiinada hime no Mikoto) เทพีแห่งข้าว และเป็นภรรยาของเทพซูซาโนโอะ โนะ มิโคโตะ
3. อาชินัตสึจิ โนะ มิโคโตะ (Ashinazuchi no Mikoto) และ เทนัตสึจิ โนะ มิโคโตะ (Tenazuchi no Mikoto) เทพสามีภรรยาซึ่งเป็นบิดา-มารดาของเทพีคุชิอินาดะฮิเมะ โนะ มิโคโตะ
4. โอนามูจิ โนะ มิโคโตะ (Oonamuchi no Mikoto) ลูกชายของเทพซูซาโนโอะ โนะ มิโคโตะ
ด้วยความที่เทพเจ้าทั้ง 5 ล้วนแต่เป็นคู่สามี-ภรรยา และครอบครัวเดียวกันทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก และความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว เทศกาลกระดิ่งลมที่ถูกจัดขึ้นที่ศาลเจ้าแห่งนี้จึงมีชื่อเสียงในด้านการขอพรเรื่องของความรักและความสัมพันธ์นั้นเองค่ะ เทศกาลกระดิ่งลมของศาลเจ้าแห่งนี้ถูกจัดขึ้นครั้งแรกในช่วงปี 2014 และมีผู้คนมาร่วมเทศกาลกว่าหนึ่งหมื่นคน
จุดเด่นของเทศกาลกระดิ่งลมแห่งรัก นี้คือทางเดินยาวที่เต็มไปด้วยกระดิ่งลมสีสันสดใส โดยกระดิ่งลมของศาลเจ้าแห่งนี้จะเป็นสไตล์เอโดะที่เรียกว่า “เอโดะฟูริน” (Edo Furin) และเป็นงานฝีมือที่ต้องอาศัยศิลปะการเป่าแก้วให้ขึ้นรูปทรงทีละชิ้น ดังนั้นทั้งสีสัน ลวดลาย และเสียงที่ออกมาก็จะมีความแตกต่างกัน ซึ่งทางเดินนี้มีกระดิ่งลมถูกผูกไว้มากกว่า 2000 อันเลยทีเดียวค่ะ ทางเดินกระดิ่งลมนี่จะเปิดในเข้าชมและขอพรกันได้ตั้งแต่เวลา 9.00 – 21.00 เท่านั้นนะคะ ซึ่งในช่วงเวลากลางคืนก็มีการประดับไฟเพิ่มความสวยงามและความโรแมนติกอีกด้วยค่ะ
หลังจากชื่นชมความสวยงามในช่วงกลางวันแล้ว เมื่อพระอาทิตย์ตกดินอีกสิ่งหนึ่งที่นับว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยก็คือสายน้ำแห่งทางช้างเผือก ที่มีการจำลองสายน้ำและประดับด้วยไฟดวงเล็ก ๆ ให้พวกเราได้ทำการขอพร ให้อารมณ์เหมือนว่าเราได้มาขอพรความรักกับเทพเจ้าที่ทางช้างเผือกนั้นเองค่ะ แค่คิดก็ทั้งสวยงามและโรแมนติกมาก ๆ เลยนะคะ โดยสายน้ำแห่งทางช้างเผือกจะเปิดให้เข้าชมและขอพรได้ระหว่างเวลา 19.00 – 21.00 เท่านั้นค่ะ
หลังจากเดินเที่ยวชมและขอพรจากทั้งกระดิ่งลมและทางช้างเผือกแล้ว ก็ยังสามารถมานั่งพักทานขนมกันที่คาเฟ่ของศาลเจ้าได้อีกด้วยค่ะ โดยคาเฟ่นี้มีชื่อว่า มุทซุบิคาเฟ่ (Musubicafe) ให้บริการทั้งอาหารคาว หวาน และเครื่องดื่ม ซึ่งแต่ละเมนูก็น่าทานทั้งนั้นเลย
เมื่อนึกถึงฤดูร้อนหลายคนก็จะนึกถึงการเที่ยวชมดอกซากุระ แต่ถ้าหากยังพอมีเวลาการเที่ยวชมงานเทศกาลต่าง ๆ ที่จัดขึ้นก็สามารถช่วยให้เราเข้าถึงเสน่ห์ของญี่ปุ่นได้ดียิ่งขึ้น และยังถือเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศให้การเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อนของเราไม่จำเจอีกด้วยค่ะ
เทศกาลกระดิ่งลมแห่งรัก (Enmusubi Furin) ที่ศาลเจ้าคาวาโกเอะ ฮิคาวะ จะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม – 8 กันยายน 2019 นี้เท่านั้นนะคะ หากใครมีแพลนที่มาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้ก็อย่าลืมแวะมากันนะ
เรื่องแนะนำ :
– LIPTON Fruits in Tea กลับมาอีกครั้งในธีม TEA MORE ที่ให้เราเลือกผสมชาได้เองมากกว่า 60,000 แบบ
– ข้าวปั้นกึ่งสำเร็จรูป มิติใหม่แห่งวงการข้าวปั้น
– ทำความรู้จัก 5 เครื่องดนตรีโบราณของประเทศญี่ปุ่น
– ญี่ปุ่นปิ๊งไอเดียใหม่ โชยุใส ที่ไม่ทำลายสีสันของอาหาร
– ทำความรู้จัก Omikuji เซียมซีในแบบฉบับของญี่ปุ่น
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก :
http://www.hikawa-fuurin.jp/
https://www.kawagoehikawa.jp/
https://musubicafe.com/enmusubi_fuurin
#Enmusubi Furin #เทศกาลกระดิ่งลมแห่งรัก #คาวาโกเอะ #ศาลเจ้าฮิคาวะ