Marumura Travel : วางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง :
  • Home
  • Kyoto
  • Tohoku
Marumura Travel : วางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง :
Marumura Travel : วางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง :
  • Home
  • Kyoto
  • Tohoku
  • เที่ยวฮอกไกโด Hokkaido

เส้นทางเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีฮอกไกโดตะวันตก (โอตารุและโจซังเค)

  • 08/01/2023
  • 4 minute read
  • marumura

คิดถึงญี่ปุ่นมากมาย… และพอสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ก็แอบดีใจที่ได้มีโอกาสไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ฮอกไกโดทันในปี 2022 และเส้นทางเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ฮอกไกโดในครั้งนี้ ก็เดินทางมาถึงตอนที่สามแล้ว เราจะไปเที่ยวกันที่เมืองโอตารุ และเมืองออนเซ็นชื่อดังที่ไม่ควรพลาดอย่างโจซังเค มาติดตามกันเลย…

บทความโดย : ทีมงาน www.marumura.com

เส้นทางเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ฮอกไกโดในครั้งนี้ ก็เดินทางมาถึงตอนที่สามแล้ว เราจะไปเที่ยวกันที่เมืองโอตารุ และเมืองออนเซ็นชื่อดังที่ไม่ควรพลาดอย่างโจซังเค มาติดตามกันเลย…

Mt. Tengu (Tenguyama Observatory)

เส้นทางเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีฮอกไกโดตะวันตก (โอตารุและโจซังเค)

จากทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด เราจะวกกลับขึ้นมาทางตอนกลางนิดหน่อย (ถ้าขับรถจาก Onuma Quasi-National Park มา ก็ราวๆ 4 ชั่วโมง) ไปเที่ยวกันต่อที่เมืองโอตารุ (Otaru) อดีตเมืองท่าที่มีชื่อเสียงและอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองซัปโปโรนัก ซึ่งปัจจุบันก็กลายเป็นจุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

Otaru Tenguyama Ropeway

และโอตารุ ก็เป็นอีกหนึ่งเมืองบนเกาะฮอกไกโดที่มีจุดชมวิวเมืองสวยๆ อยู่หลายแห่ง ซึ่งครั้งนี้เราจะขอแนะนำ Tenguyama Observatory หรือจุดชมวิวเป็นภูเขาเทงงุ (ความสูง 532 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) ที่เราสามารถใช้บริการ Otaru Tenguyama Ropeway ขึ้นไปชมวิวยามค่ำคืนสุดแสนโรแมนติกกันได้สบายๆ เลย ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่ไม่พลุกพล่านมากนัก เหมาะอย่างยิ่งกับการมานั่งชมวิวชิลๆ ยิ่งถ้ามาเป็นคู่นะ… จะดีมาก

ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่ก็มี light-up เบาๆ

นอกจากที่นี่จะเป็นจุดชมวิวเมืองโอตารุแล้ว ยังมีศาลเจ้า (Tenguyama Shrine) พิพิธภัณฑ์เทพเจ้าเทงงุ (Tengu Exhibition Room) รวมถึงพิพิธภัณฑ์สกีอยู่ด้วย แล้วยังมีเส้นทางเดินชมธรรมชาติ แถมยังมีกิจกรรม adventure เบาๆ แบบ zipline แล้วก็ slider กลางป่าอยู่ด้วย หรือถ้าใครต้องการแค่มุมพักผ่อนสบายๆ ในส่วนของอาคารติดกับสถานีโรปเวย์ ก็มีร้านจำหน่ายของที่ระลึกและ Tenguu Café ให้เราได้นั่งจิบเครื่องดื่ม พร้อมๆ ไปกับการนั่งชิลชมวิวดีๆ ผ่านกระจกบานใหญ่ยาวถึง 20 เมตรอีกด้วยนะ และถ้าเป็นตอนกลางวันก็สามารถออกไปนั่งเล่นชมวิวที่ Tenguu Terrace รับแสงรับลมกันได้

ใครมาแล้วไม่ได้สั่งชูครีม ที่ TENGUU Cafe คือพลาดมาก อร่อยจริง!

Mt. Tengu (Tenguyama Observatory)
ที่ตั้ง: 16-16-2 chome, Mogami, Otaru, Hokkaido 047-0023
เวลาทำการ (โรปเวย์): 11.00 – 20.00 น. (เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)
ค่าบริการ (โรปเวย์): ผู้ใหญ่ 1,400 เยน / เด็ก 700 เยน (ไป-กลับ)
การเดินทาง: จากสถานี JR Otaru นั่งรถบัส Chuo Bus มาลงที่ป้ายสุดท้าย Tenguyama ได้ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที (มีตัว BUS+Ropeway ที่ใช้ได้จากซัปโปโรถึงโอตารุอยู่ด้วยนะ เป็น combo ticket ผู้ใหญ่ราคา 2,680 เยน / เด็ก 1,350 เยน แบบไป-กลับ ก็สะดวกดีนะ)
MAPCODE: 164 596 835*66
เว็บไซต์: https://tenguyama.ckk.chuo-bus.co.jp/guide/


Otaru Sushiden

อีกหนึ่งเรื่องขึ้นชื่อของเมืองโอตารุ ก็คือซูชิ ส่วนใหญ่คนที่มาพักที่โอตารุ จึงมักจะหาโอกาสลิ้มลองซูชิของที่นี่กันด้วย โดยในครั้งนี้ เรามาลองเซ็ตซูชิของร้าน Otaru Sushi Den ซึ่งอยู่บนถนนสาย Hokkaido Otaru Sushiyadori เลยทีเดียว

ร้านนี้เปิดมาเกือบ 10 ปีแล้ว แล้วเชฟก็ค่อนข้างจะใส่ใจในรายละเอียดมากๆ ทีเดียว โดยทางร้าน จะใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลเป็นหลัก เป็นของคุณภาพสดใหม่ที่เหมาะกับการลิ้มลองในฤดูกาลต่างๆ แล้วจะอัพเดตวัตถุดิบให้ดูทางเว็บไซต์ด้วย ว่าช่วงนี้มีอะไรน่าสนใจเข้ามาที่ร้าน ทำให้ลูกค้าที่สนใจ ตัดสินใจมาได้ในช่วงเวลาที่ถูกต้อง

Otaru Sushiden
ที่ตั้ง: 2-3 Sakaimachi, Otaru-shi, Hokkaido 047-0027
เวลาทำการ: 09.30 – 21.30 น. (วันหยุดไม่แน่นอน ควรเช็คประกาศบนเว็บไซต์ล่วงหน้า)
การเดินทาง: เดินจากสถานี JR Otaru มาประมาณ 15 นาที หรือเดินจากบริเวณคลองโอตารุมาประมาณ 3 นาที
MAPCODE: 493 690 170*41
เว็บไซต์: https://otarusushiden.com/.th/


OMO5 Otaru by Hoshino Resort

ที่พักในเมืองโอตารุแห่งนี้ ‘OMO5 Otaru’ บอกเลยว่า ถ้าใครไม่เลือกพักก็คือ พลาด! เป็นโรงแรมในเครือ Hoshino Resort ที่มีสไตล์มากๆ มีทั้งบริการที่ดี มีความเอาใจใส่ลูกค้า ความอาร์ต+ครีเอทีพ+อนุรักษ์นิยม มาเต็ม!! เป็นโรงแรมที่รู้สึกได้เลยว่ามีนู่นนิด นี่หน่อย ให้ได้ว้าว อยู่เต็มไปหมด แม้แทบทุกส่วนจะมีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่พอประกอบรวมกันเป็นโรงแรมแห่งนี้แล้ว …กลมกลืนและมีเสน่ห์มาก

ชอบที่นี่ ตรงที่เขานำเอาอาคารเก่าแก่ มาปรับปรุงใหม่ให้กลายเป็นที่พักที่มีสไตล์ คือได้ทั้งการบูรณะและอนุรักษ์อาคาร แถมยังเพิ่มมูลค่าออกมาได้ดีมากๆ เลยด้วย (ที่นี่มีทั้งตึกรูปแบบใหม่และตึกรูปแบบเก่า) ใครที่ชอบสถาปัตยกรรมร่วมสมัย ต้องชอบแน่ๆ ส่วนการออกแบบภายในห้องพัก ก็ดูดี มีสไตล์มาก มีให้เลือกพักหลายแบบเลย  ฟังก์ชั่นการใช้สอยเยอะมาก แต่ห้องกลับดูกว้างมากๆ ในส่วนของห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ก็ดีมากๆ มีการแยกส่วนเปียก ส่วนแห้ง แบบขั้นสุด

แล้วที่นี่ยังมีกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ อยู่อีกหลายจุด ทั้งขวดน้ำรีฟิล ที่เราสามารถเอาไปเติมน้ำดื่มเองได้ด้านนอก มีห้องแช่น้ำร้อนรวมเก๋ๆ มีชุดนอนสำหรับใส่ในโรงแรมที่เป็นเอกลักษณ์ (ต้องเช่านะ แต่ไม่แพง เก๋ดี) มีกล่องดนตรีเล็กๆ น้อยๆ ให้เราหมุนเล่นหลายจุด ก็สนุกดีนะ

นอกจากนั้นห้องอาหารที่นี่ ก็คือดีมากๆ จัดมาในสไตล์สเปน หลังมื้อค่ำ… จะปรับสไตล์ที่เหมาะกับการมานั่งดื่มด้วย (ตัวเราไม่ได้นั่งนะ) ส่วนมื้อเช้าอาหารแต่ละจานก็น่ากินสุดๆ แถมยังรสชาติดี อร่อย กินง่าย เป็นทั้งอาหารตาและอาหารปากที่ดีมากๆ เลยล่ะ

 

OMO5 Otaru by Hoshino Resort
ที่ตั้ง: 1-6-31 Iruonai, Otaru, Hokkaido 047-0031
การเดินทาง: เดินจากสถานี JR Otaru มาได้ เพียงประมาณ 9 นาที
MAPCODE: 493 690 464*65
เว็บไซต์: https://hoshinoresorts.com/en/hotels/omo5otaru/


Otaru Music Box Museum

อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของเมืองโอตารุ ที่เรียกว่ามาเมืองนี้ แต่ไม่ได้มาที่นี่ ก็คือมาไม่ถึง… ก็ว่าได้ นั่นก็คือ ‘Otaru Music Box Museum’ หรือพิพิธภัณฑ์โอรุโกรุ (Orgel) ที่ชาวญี่ปุ่นใช้เรียกกล่องดนตรีนั้น เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมืองนี้ และนอกจากที่นี่จะมีการจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับกล่องดนตรี และรวบรวมกล่องดนตรีล้ำค่าไว้มากมายแล้ว ยังจำหน่ายกล่องดนตรีในรูปแบบต่างๆ ที่ทั้งน่ารัก สวย และเสียงไพเราะ น่าซื้อเก็บ และซื้อเป็นของฝากของที่ระลึกมากๆ (เรามาทีไร… จะต้องได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านทุกที)

ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ มีด้วยกัน 2 อาคาร อาคารหลักจะอยู่บริเวณแยก ซึ่งมีนาฬิกาไอน้ำตั้งอยู่ด้านหน้า ส่วนอาคารที่สอง ตั้งอยู่ในซอยด้านหน้าเยื้องเข้าไปทางซ้ายมื้อของอาคารแรก อยู่ไม่ไกลกันเลย… นอกจากนี้ยังมีช็อปอื่นๆ กระจายอยู่อีกหลายแห่ง

เกี่ยวกับนาฬิกาไอน้ำที่ตั้งอยู่ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์… กล่าวกันว่าเป็นนาฬิกาไอน้ำเรือนที่สองที่สร้างขึ้นโดย Mr. Raymond Saunders ช่างทำนาฬิกาคนดังชาวแคนาดา และถูกนำมาตั้งไว้ตรงจุดนี้ (Fairy Tale Crossroads) ที่เปรียบเสมือนจุดศูนย์กลางหรือหลักเมืองโอตารุ เมื่อปี 1994 เพื่อเพิ่มบรรยากาศความอบอุ่นให้กับเมือง โดยเจ้านาฬิกาไอน้ำเรือนนี้มีความสูงถึง 5.5 เมตร หนัก 1.5 ตัน ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก แต่ใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมเครื่องต้มสร้างไอน้ำ และทุกๆ 15 นาที จะสร้างเสียงเป็นเมโลดี้ไพเราะๆ เพื่อเป็นการบอกเวลา นี่จึงเป็น photo spot ที่นักท่องเที่ยวนิยมมากัน

ดังนั้นเมื่อได้มาเยือนโอตารุครั้งหน้า อย่าลืมแวะมาช้อปกล่องดนตรีเก๋ๆ ของที่นี่ แล้วก็มาฟังเสียงนาฬิกาไอน้ำแสนสำคัญเรือนนี้กันนะ

Otaru Music Box Museum
ที่ตั้ง: 4-1 Sumiyoshi-cho, Otaru-shi, Hokkaido 047-0015
เวลาทำการ: 09.00 – 18.00 น. (ไม่มีวันหยุด)
การเดินทาง: เดินจากสถานี Minami Otaru (JR Hakodate Main Line) มาประมาณ 7 นาที
MAPCODE: 493 661 521*07
เว็บไซต์: https://www.otaru-orgel.co.jp/en


Otaru Canal Cruise

จากด้านหน้า Otaru Music Box Museum เราสามารถข้ามถนนแล้วเดินเล่นตรงไปเรื่อยๆ เพื่อไปยังคลองโอตารุได้อย่างสะดวกสบาย ระหว่างทางจะแวะซื้อของฝากของที่ระลึก หรือหาขนมของกินเล่นชิมตามสองข้างทางก็ได้ มีร้านรวงมากมายทีเดียว

และเมื่อถึงคลองโอตารุ ที่ในอดีตเป็นคลองที่สำคัญประจำเมืองเพื่อใช้ในการขนถ่ายสินค้าเข้าออกโกดังนั่นเอง แต่ปัจจุบันเป็นจุดถ่ายรูปเช็คอินไฮไลท์ของเมืองนี้ไปแล้ว และจากนั้นเราก็สามารถเดินเลาะเลียบคลองไปยังจุดล่องเรือชมเส้นทางที่ในอดีตเคยใช้ในการขนส่งสินค้าของเมืองนี้กัน

โดย Otaru Canal Cruise นี้ จะช่วยให้นักท่องเที่ยวอย่างเรา ได้สัมผัสถึงบรรยากาศจริงๆ ยามที่มีการใช้เส้นทางทางเรือขนส่งสินค้าไปมาในบริเวณนี้ได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น เราจะได้เห็นทั้งบรรยากาศของอ่าวโอตารุ แล้วก็บรรยากาศของสองฝั่งคลอง รวมไปถึงโกดังสินค้าเก่าๆ หรือโกดังสินค้าที่ได้รับการบูรณะให้เป็นร้านค้า ร้านอาหาร ในปัจจุบัน ซึ่งการนั่งเรือนี้ก็เป็นการชมวิวเพลินๆ ที่เปิดโอกาสให้เราได้ทักทาย โบกไม้โบกมือกับผู้คนและนักท่องเที่ยวสองฝั่งน้ำด้วย นั่งชมวิวเพลินๆ ไปประมาณ 40 นาทีจ้า แต่คราวนี้… เราได้เห็นวิวใบไม้เปลี่ยนสีด้วยจ้า ทั้งจากต้นไม้ตามอาคารบ้านเรือน และต้นไม้บนภูเขาเลย นั่งเรือชมใบไม้ และบรรยากาศสองฝั่งคลอง ก็เพลินไปอีกแบบนะ

และที่เห็นว่านั่งสบายตัวปลิวๆ เหมือนไม่มีชูชีพนั้น ไม่เป็นความจริงนะจ้ะ… เพราะเขาแจกอุปกรณ์ชูชีพให้ตั้งแต่ก่อนลงเรือแล้วจ้า เราแค่คาดมันเอาไว้ที่เอว สะดวกดีนะ

Otaru Canal Cruise
ที่ตั้ง: สะพาน Chuobashi Bridge ใกล้กับ Asakusabashi Bridge จุด photo spot ของนักท่องเที่ยว
เวลาทำการ: น.
ค่าบริการ: ผู้ใหญ่ 1,500 เยน / เด็ก 500 เยน (กลางวัน), ผู้ใหญ่ 1,800 เยน / เด็ก 500 เยน (กลางคืน) *กรุณาซื้อตั๋วล่วงหน้าอย่างน้อย 15 นาที
การเดินทาง: เดินจากสถานี JR Otaru มาได้ ประมาณ 10 นาที
MAPCODE: 493 690 649*74
เว็บไซต์: https://otaru.cc/en/


Minshuku Aotsuka Shokudo

ไปหาของอร่อยๆ กินกันที่ Minshuku Aotsuka Shokudo ซึ่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เน้นอาหารทะเลปิ้งย่าง สไตล์แบบที่ชาวประมงพื้นบ้านทำกินกัน ที่นี่มีเมนูเด่นเป็นปลาเฮอริ่งย่าง แล้วถ้าใครชอบหอย หอยนางรมกับเป๋าฮื้อย่างของที่นี่สดเด้งสู้ฟันสุดๆ

ใครชอบบรรยากาศแบบกันเองคึกคักๆ จะเลือกที่นั่งด้านล่างก็ได้ แต่ต้องเตรียมใจเรื่องควันกันสักหน่อย เพราะอาหารเขามีทั้งแบบที่ย่างภายในร้านและด้านหน้าร้าน ควันก็จะเยอะหน่อย นอกจากนี้เขายังมีโซนที่นั่งชั้นบนเป็นห้องส่วนตัวแบบญี่ปุ่นๆ อยู่ด้วย นั่งสบาย ไร้ควัน กลิ่น หรือเสียงรบกวน แต่ก็อาจจะเรียกพนักงานได้ยากอยู่สักหน่อยด้วย

และแม้จะอยู่ออกมานอกตัวเมืองโอตารุเล็กน้อย แต่ลูกค้าแน่นตลอดนะจ้ะขอบอก เพราะเดินทางมาเองก็ไม่ได้ยากเลย เนื่องจากอยู่ใกล้กับ Shukutsu Marine Land และ Otaru Aquarium สามารถนั่งรถบัสมาลงที่ป้ายปลายทางซึ่งก็คือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเลยก็ได้

Minshuku Aotsuka Shokudo
ที่ตั้ง: 3 Chome-210 Shukutsu, Otaru, Hokkaido 047-0047
เวลาทำการ: 10.00 – 20.00 น.
การเดินทาง: นั่ง Hokkaido Chuo Bus จากหน้าสถานี JR Otaru มุ่งหน้า Shukutsu Aquarium ประมาณ 20 นาที ลงป้ายปลายทาง Shizokukan-mae
MAPCODE: 493 842 096*75
เว็บไซต์: http://www.aotsuka.com/


Futami Tsuribashi Suspension Bridge

และเพราะมาเที่ยวฮอกไกโดในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เราก็จะเปลี่ยนบรรยากาศจาก Otaru ไปแหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีอีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองซัปโปโรเช่นเดียวกัน นั่นก็คือที่เมืองออนเซ็นโจซังเค (Jozankei) ซึ่งจุดแรกที่เราจะไปกันก็คือ photo spot จุดหนึ่งของโจซังเคในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ‘Futami Tsuribashi Suspension Bridge’ หรือสะพานแขวนฟุตามิ ทสึริบาชิ

ด้วยความที่สะพานความยาวเพียง 23 เมตรแห่งนี้เป็นสีแดง แล้วยังแทรกตัวอยู่ท่ามกลางแมกไม้ พาดผ่านลำธารใส จึงมีความโดดเด่นมากๆ ท่ามกลางธรรมชาติโดยรอบในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี… ที่ใบไม้มีสีสันจัดจ้าน พอไปยืนอยู่บนสะพานแห่งนี้ ก็จะได้ภาพที่กลมกลืนกันแต่แฝงไปด้วยความสดใส ดังนั้น ใครๆ อยากจะมาถ่ายรูป ณ จุดนี้ในช่วงฤดูกาลต่างๆ กันมาก

นอกจากนี้ เรายังสามารถเดินชมสะพานจากด้านล่าง ผ่านเส้นทางเดินชมธรรมชาติ Futami Jozan Road ซึ่งจะหามุมถ่ายรูปสวยๆ ของสะพานแห่งนี้ได้อีกหลายจุดเลย ยิ่งถ้าได้ภาพของลำธารใสด้านล่าง (Toyohira River) ติดมาด้วย ก็ยิ่งจะทำให้สะพานนี้ดูเด่นขึ้นไปอีก

Futami Tsuribashi Suspension Bridge
ที่ตั้ง: 4-Chome, Jozankeionsennishi, Minami Ward, Sapporo-shi, Hokkaido 061-2303
เวลาทำการ: เปิดตลอด (อาจจะปิดในช่วงฤดูหนาว)
การเดินทาง: เดินประมาณ 10 นาที จากบริเวณ Jozansei Onsen
MAPCODE: 708 754 342*78
เว็บไซต์: https://jozankei.jp/en/tourist/futamibridge/


Jozankei Farm

Jozankei Onsen นอกจากจะมีชื่อเสียงในเรื่องสถานที่ตากอากาศในแหล่งแช่น้ำแร่ออนเซ็น รวมถึงเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อของเมืองซัปโปโรแล้ว ยังเป็นแหล่งผลไม้รสชาติดีอีกด้วย ดังนั้นครั้งนี้เราจึงแวะไปที่ Jozankei Farm กันด้วย

Jozankei Farm ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองออนเซนโจซังเคออกไปสักเล็กน้อย มีพื้นที่กว้างขวาง จึงสามารถปลูกผลไม้ได้หลากหลายชนิด อาทิ แอปเปิ้ล ลูกพรุน ลูกพลัม องุ่น เชอร์รี่ และสตรอเบอรี่ เป็นต้น และที่นี่ยังสามารถรองรับนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมฟาร์ม รวมถึงทำกิจกรรม Fruit Picking ได้ในทุกฤดูกาลอีกด้วย

นอกจากกิจกรรมเก็บผลไม้สดๆ จากต้นแล้ว ยังมีกิจกรรมกลางแจ้ง จำพวกปีนป่าย และกิจกรรมในร่ม เช่น การเรียนทำอาหารง่ายๆ อีกด้วย

Jozankei Farm
ที่ตั้ง: 832 Jozankei, Minami-ku, Sapporo-shi, Hokkaido 061-2301
เวลาทำการ: 09.00 – 16.00 น. (เมษายน – ตุลาคม ไม่มีวันหยุด) / 10.00 – 15.00 น. (พฤศจิกายน – มีนาคม หยุดวันจันทร์)
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 600 เยน / เด็ก 500 เยน / เด็กต่ำกว่า 4 ขวบ เข้าฟรี (ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ถ้ามี… ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่เลือก)
การเดินทาง: นั่งแท็กซี่มาจาก Jozankei Onsen ประมาณ 5 นาที (มี Shuttle Car จาก Jozenkei Shrine แต่ต้องจองกับทางฟาร์มล่วงหน้า)
MAPCODE: 708 633 723*43
เว็บไซต์: http://jozankei-farm.com/


Jozankei Tsuruga Resort Spa MORI NO UTA

มาถึงเมืองออนเซนชื่อดังอย่าง Jozankei Onsen ก็ต้องพักที่นี่อย่างน้อยหนึ่งคืน และครั้งนี้เราขอแนะนำ Jozankei Tsuruga Resort Span MORI NO UTA ซึ่งเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แล้วก็จัดเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นห้องพักกว้างขวาง หลากรูปแบบ ทั้งแบบญี่ปุ่นและแบบตะวัน มีห้องแช่ออนเซ็นรวมขนาดใหญ่ ห้องอาหารที่มีอาหารให้เลือกหลากหลาย ถ้าจะกินให้ครบทุกเมนู คงต้องหลายมื้อหน่อย

 

เราเคยมาที่นี่แล้วครั้งนึง เคยได้ชมการเล่นเครื่องดนตรีฮาร์ปที่บริเวณล็อบบี้ในตอนกลางวัน… ครั้งนี้ เราแช่ออนเซ็นเสร็จแล้ว (ห้องออนเซ็นอยู่ติดกับล็อบบี้) ก็มานั่งกลิ้งชมโชว์เล่นฮาร์ปอยู่ที่ล็อบบี้ต่อ ได้บรรยากาศที่ชิลกว่าครั้งก่อนมากๆ อีกครึ่งชั่วโมง แล้วก็ได้เวลานอนพอดี ถือเป็นมินิคอนเสิร์ตกล่อมให้เข้านอนได้ดีจริง เพราะเสียงของเครื่องดนตรีชนิดนี้ มีความกังวาล และละมุนละไม ฟังเพลินสุดๆ ชอบความที่ทางโรงแรมจัดโชว์แบบนี้ให้แขกที่เข้าพักได้ชมกันฟรีๆ จริงๆ

 


Jozankei Tsuruga Resort Spa MORI NO UTA
ที่ตั้ง: 3 Chome-192 Jozankeionsenhigashi, Minami Ward, Sapporo, Hokkaido 061-2302
การเดินทาง: ถ้าเดินทางมาจากสถานีซัปโปโร ด้วยรถบัส “KAPPA Liner” ลงที่ป้าย Jozankei Onsen Higathi 2 Chome หรือป้าย Shiraito no Taki แล้วเดินจากป้ายมาประมาณ 2 นาที ก็ถึงโรงแรมแล้ว
MAPCODE: 708 755 624*16
เว็บไซต์: https://www.morino-uta.com/en/

เอาล่ะ! เที่ยวทั้งเมืองน่ารักอย่างโอตารุ และชมใบไม้เปลี่ยนแบบเต็มๆ ที่โจซังเคกันไปแล้ว ในตอนหน้าก็จะเป็นตอนสุดท้ายของเส้นทางท่องเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ฮอกไกโดในครั้งนี้กันแล้ว เราจะเที่ยวจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีไฮไลท์กันอีกสัก 2 – 3 แห่งในเมืองซัปโปโร อย่าลืมติดตามกันน๊า

เรื่องโดย : ทีมงาน www.marumura.com

เรื่องแนะนำ :
– เส้นทางเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีฮอกไกโดตะวันตก (ซัปโปโร)
– เส้นทางเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีฮอกไกโดตะวันตก (ฮาโกดาเตะ)
– เส้นทางเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีฮอกไกโดตะวันตก (ทะเลสาบโทยะ)
– เที่ยวฮอกไกโด : เช็คอินจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดป๊อบแห่งเกาะฮอกไกโด ตอนที่ 2
– เที่ยวฮอกไกโด : เช็คอินจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดป๊อบแห่งเกาะฮอกไกโด ตอนที่ 1

#เส้นทางเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีฮอกไกโดตะวันตก (โอตารุและโจซังเค) #Hokkaido #เที่ยวฮอกไกโด #Otaru #Jozankei

Tags :
  • Hokkaido Autumn
  • ข้อมูลเที่ยวญี่ปุ่น
  • วางแผนเที่ยวญี่ปุ่น
  • เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
  • เที่ยวฮอกไกโด Hokkaido
  • ใบไม้เปลี่ยนสีที่ฮอกไกโด
marumura

Previous Article
  • เที่ยวโตเกียว Tokyo

5 ร้านคาเฟ่น่าแวะในโตเกียว

  • 30/12/2022
  • AUMAUM
View Post
Next Article
  • เที่ยวฮอกไกโด Hokkaido

เส้นทางเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีฮอกไกโดตะวันตก (ซัปโปโร)

  • 12/01/2023
  • marumura
View Post
Trending Post
  • Bandai Namco เตรียมเปิดศูนย์รวมความบันเทิงยามราตรีในย่านคาบุกิโจ
  • Harry Potter Studio Tour Tokyo เผยรายละเอียดก่อนเปิดให้เข้าชมมิถุนายนนี้
  • ญี่ปุ่นจัดงานประดับไฟชมซากุระยามค่ำคืนที่สวน Shinjuku Gyoen โตเกียว
  • ที่พักใหม่สุดชิค…ธีมซูโม่!!
  • โตเกียวอนุญาตให้จัดงานชมดอกซากุระอีกครั้งในรอบ 3 ปี
Recent Posts
  • ญี่ปุ่นจัดอันดับ “จังหวัดที่ผู้คนนิยมไปคาราโอเกะมากที่สุด”
    ญี่ปุ่นจัดอันดับ “จังหวัดที่ผู้คนนิยมไปคาราโอเกะมากที่สุด”
    • 26.03.23
  • ญี่ปุ่นวางขายเครื่องดื่มสุดแปลก “รสซุปบะหมี่เย็น”
    ญี่ปุ่นวางขายเครื่องดื่มสุดแปลก “รสซุปบะหมี่เย็น”
    • 25.03.23
  • มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (60) คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ): สิบสอง สิ่งที่เรียกว่าการกดเงา
    มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (60) คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ): สิบสอง สิ่งที่เรียกว่าการกดเงา
    • 24.03.23
  • Bio c’ Bon ซูเปอร์มาร์เก็ตรัก(ษ์)โลก
    Bio c’ Bon ซูเปอร์มาร์เก็ตรัก(ษ์)โลก
    • 24.03.23
  • ญี่ปุ่นคว้าแชมป์เบสบอล WBC ครั้งแรกในรอบ 14 ปี
    ญี่ปุ่นคว้าแชมป์เบสบอล WBC ครั้งแรกในรอบ 14 ปี
    • 24.03.23
Pick up
  • แวะเช็กอิน คาเฟ่เปิดใหม่ที่เมืองทตโตริ Takahama Cafe
  • ไฮกิ้งชมดอกหญ้าซูซูกิ ต้อนรับฤดูใหม่ ณ โซนิโคเก็ง จ.นารา
  • รถไฟโดราเอมอน “DORAEMON GO!” เตรียมเดินรถ 8 ตุลาฯ นี้
  • Hop Step Inn โฮสเทลมุ้งมิ้งไม่ไกลนิปโปริ (Nippori)
  • 7 กิจกรรมสนุกๆ ในเขต Taito มาแถว Asakusa-Ueno แล้วไม่อยากให้พลาด

⭕ คูปองส่วนลดร้านดองกิ

⭕ ดูดวงรายปี 2566

⭕ วันหยุดราชการญี่ปุ่น ประจำปี 2023

Social Links
Facebook
Twitter
Instagram
YouTube

Copyright © 2020 Marumura Co.,Ltd. All Rights Reserved

Input your search keywords and press Enter.