เที่ยวฮอกไกโด : เช็คอินจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดป๊อบแห่งเกาะฮอกไกโด…ไหนๆ ก็มาถึงแหล่งออนเซ็นและสถานตากอากาศชื่อดังของฮอกไกโด อย่าง Lake Toya เรามาลองกิจกรรมแนวๆ เช่นพายเรือแคนูไป ‘Zero point’ ของทะเลสาบ Toya กันดีกว่า 😉
มาถึงบทส่งท้าย ปิดทริปจุดเช็คอินเด็ดๆ ของเกาะฮอกไกโด โดยเฉพาะจุดที่น่าสนใจมากๆ ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีกันแล้ว มาเที่ยวฮอกไกโดกันต่อเลย!
ไหนๆ ก็มาพักผ่อนกันที่แหล่งออนเซ็นและสถานตากอากาศชื่อดังของฮอกไกโด อย่างบริเวณทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) กันอยู่แล้ว งั้นเรามาลองกิจกรรมแนวๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมกันดีกว่า
มาพายเรือแคนูที่ทะเลสาบ Toya กันจ้า 😉
ทะเลสาบโทยะ เป็นทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของญี่ปุ่น ภายในทะเลสาบมีเกาะถึง 4 เกาะ น้ำใสมาก อีกทั้งยังมีทัศนียภาพที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัน ได้สัมผัสถึงอารมณ์ของทะเลสาบที่เปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ แล้วก็ยังคงมีเสน่ห์แม้ว่าจะเป็นวันที่มีฝนตกก็ตาม เลอค่าสมกับเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเกาะฮอกไกโด
และกิจกรรมดีงามในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ทะเลสาบโทยะก็คือ ‘การพายเรือแคนู’ ซึ่งได้รับความนิยมมาก ยิ่งถ้าได้ไปถ่ายรูปที่ ‘Zero point’ จุดที่เราสามารถไปยืนถ่ายรูปสวยๆ กลางน้ำได้ ยิ่งเท่! แถมยังได้อารมณ์เสมือนเราได้สัมผัสกับ ‘ทะเลสาบ’ อย่างใกล้ชิด แนบแน่นขึ้นอีกด้วย ลองไปดูกันนะ ^^
กิจกรรมพายเรือแคนูเที่ยวชมทะเลสาบโทยะนี้ เป็นของ Toya Guide Center ราคาอยู่ที่ผู้ใหญ่ 5,400 เยน และเด็ก 1,080 เยนเท่านั้น ซึ่งมีไกด์บริการ 2 ภาษา คืออังกฤษ หรือญี่ปุ่น (ผู้ใช้บริการต้องพูดภาษาญี่ปุ่นได้คล่อง มิฉะนั้นเขาจะไม่อนุญาตให้ร่วมทริปที่เป็นภาษาญี่ปุ่นเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง)
การเตรียมตัวไปพายเรือแคนูในทะเลสาบโทยะนี้ ก็ไม่มีอะไรมาก แค่เตรียมสุขภาพให้ดี ร่างกายต้องพร้อม เสื้อผ้าต้องเหมาะสมกับกิจกรรม (กางเกงผ้ายืดหน่อย เป็นต้น) รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าหุ้มข้อที่เปียกน้ำได้ กล้องถ่ายรูป น้ำดื่ม ครีมกันแดด ผ้าขนหนู เสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยน เตรียมใส่ถุงกันน้ำไปจะดีมาก
และในระหว่างทริปจะมีอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ บริการ เป็นชาและขนม ใครแพ้อาหารอะไร ก็อย่าลืมแจ้งทาง Toya Guide Center ล่วงหน้ากันด้วยนะ
*ทริปอาจถูกยกเลิก ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ โดยทาง Toya Guide Center จะแจ้งให้ทราบราวๆ 08.00 น. ของวันทำกิจกรรม โดยจะมีการ refund คืนให้ด้วย
Toya Guide Center
ที่ตั้ง : 193-8 Toyamachi, Toyako-cho, Abuta-gun, Hokkaido 049-5802
เปิดบริการ : วันละ 2 รอบ ในเดือนพ.ค. – ต.ค. รอบละ 2 ช.ม. เวลา 09.00 – 11.00 น. และ 14.00 – 16.00 น. (แต่ละฤดู ก็มีคอร์สที่ต่างกันนะ)
ค่าบริการ : ผู้ใหญ่และเด็กอายุตั้งแต่ 7 ขวบขึ้นไป คนละ 5,400 เยน / เด็ก 4 – 6 ขวบ 1,080 เยน ราคารวมค่าไกด์ อุปกรณ์ ประกันอุบัติเหตุ และภาษีแล้ว *และต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น (โทร. 0142-82-5002 หรือสมัครผ่านเว็บไซต์)
เว็บไซต์ : http://www.toya-guide.com/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ส่วนมื้อกลางวันวันนี้ เราแวะร้านพิซซ่ากันจ้า
ร้าน Namihei Pizza ตั้งอยู่ในเมือง Toyoura เป็นร้านอาหารตะวันตก (อิตาเลี่ยน) ที่ป๊อบปูล่าร์มากของเมืองนี้ ซึ่งให้บริการโดยคู่สามี-ภรรยาที่ต้อนรับลูกค้าอย่างเป็นมิตร
ที่นี่เสิร์ฟทั้งพิซซ่าอบร้อนๆ จากเตาหินสไตล์อิตาเลี่ยนแท้ๆ สปาเก็ตตี้ รวมไปถึงไวน์ต่างๆ เป็นต้น โดยใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเป็นหลัก
เมนูยอดนิยมของที่นี่ เป็นพิซซ่าหมู-เบคอน สูตรพิเศษ ราคา 1,300 เยน แต่ก็ยังมีพิซซ่าหน้าแปลกๆ ที่ปรับให้เข้ากับวัตถุดิบท้องถิ่น แต่อร่อยจนหยุดไม่อยู่อีกหลายเมนูนะ
ด้วยเหตุผลบางประการ ตอนนี้ทางร้านหยุดให้บริการชั่วคราว แต่จะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2020 ถ้ามีโอกาสก็ลองแวะไปพิสูจน์กันได้ ว่ารสชาติอาหารเป็นอย่างไร ทำไมถึงได้รับความนิยมมากจริงๆ
Namihei Pizza
ที่ตั้ง : 28-1 Shinonomecho, Toyoura, Abuta, Hokkaido 049-5411
เปิดทำการ : มื้อกลางวัน 11.30 – 15.00 น. / มื้อค่ำ 17.30 น.
(ขณะนี้หยุดให้บริการ ด้วยเหตุที่คุณ Hashimoto เจ้าของร้าน ต้องไปช่วยร้านที่กำลังจะเปิดใหม่ที่อินโดนีเซีย จึงต้องหยุดให้บริการชั่วคราว แต่ร้าน Namihei Pizza ที่ Toyoura นี้จะกลับมาเปิดตามปกติอีกครั้งในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2020 คุณเจ้าของร้านรับปากกับคุณลูกค้าที่เป็นแฟนตัวยงจำนวนมากของทางร้านไว้อย่างนั้น)
เว็บไซต์ : https://toyoura-feel.com/stay/namiheypizza/ (ภาษาญี่ปุ่น)
อิ่มหนำสำราญกันแล้ว ก็ไปเที่ยวกันต่อดีกว่า …
กินคาว ต้องกินหวาน การไปทัวร์สวนผลไม้ Ano Kanko Fruit Farm ดูจะเหมาะสมกับเวลาเป็นที่สุด 😉
ในช่วงที่เราไปนั้น เป็นช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งสวน Ano แห่งเมือง Sobetsu ก็จะมีผลไม้ให้เก็บหลากหลาย ทั้งองุ่น แอปเปิ้ล แล้วก็พรุน
ขอบอกเลยว่าพรุนฮอกไกโด รสชาติเลิศมากกกกก ต้องลอง!! จังหวัดนี้… ไม่รู้ทำบุญด้วยอะไร มีแต่ของอร่อย
ค่ากิจกรรมเก็บผลไม้ หรือ Fruit Picking ของที่นี่ ในฤดูใบไม้ร่วง (ต้นก.ย. – ปลายต.ค.) จะเรียกว่า Autumn Fruit Hunting ราคาเพียง 880 เยนเท่านั้น (เด็ก 680 เยน) ถูกเว่อร์วัง แถมไม่จำกัดเวลาอีกด้วย เก็บได้ทุกอย่าง (ทั้งองุ่น แอปเปิ้ล แล้วก็พรุน) กินได้ไม่อั้น ขอเพียงอย่างเดียว ห้ามนำออกมานอกพื้นที่…
Ano Kanko Fruit Farm นั้นอยู่ใน Kudamonomura หรือ Sobetsu Fruit Village ซึ่งเป็นการรวมตัวของฟาร์มผลไม้ต่างๆ ถึง 23 แห่งในเมือง Sobetsu (ทางใต้ของทะเลสาบโทยะ) โดยกลุ่มนี้ก็ตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1987 เพื่อให้กลายเป็น Tourism Farm Village
คุ้มค่าแน่นอน ไปลองกันดูนะ
Ano Kanko Fruit Farm
ที่ตั้ง : 442 Takinomachi, Sobetsu-cho, Usu-gun, Hokkaido 052-0101
ค่าเก็บผลไม้ : ผู้ใหญ่ 880 เยน เด็กนักเรียน 680 เยน
ฤดูกาลเก็บผลไม้ (Kudamonomura) : ตั้งแต่ต้นมิ.ย. – ปลายต.ค. (แต่ละฤดูก็จะมีผลไม้ต่างกันไป ทั้งสตรอเบอรี่ เชอรี่ พรุน แอปเปิ้ล องุ่น และลูกแพร์)
การเดินทาง : จากสถานี JR Nagawa นั่งแท็กซี่มาได้ ประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์ : http://www.kudamonomura.com (ภาษาญี่ปุ่น)
มาถึงถิ่นของชาวไอนุ (Ainu) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองดั้งเดิมของเกาะฮอกไกโด จะไม่ลองปลอมตัวเป็นชาวไอนุดูสักหน่อยได้อย่างไร 😉
ไปต่อกันเลยที่ Koropokkuru Activity Center แห่งเมือง Shiraoi ซึ่งที่จริงแล้ว ถ้าลองสังเกตดีๆ เราสามารถสัมผัสวัฒนธรรมของชาวไอนุได้ผ่านหลายสิ่งหลายอย่างรอบตัวเมื่อเรามาเยือนเกาะฮอกไกโดอย่างใกล้ชิดอย่างในช่วงหลายๆ วันที่ผ่านมา แต่ไหนๆ ก็จะกลับเมืองไทยกันอยู่แล้ว ขอลองแต่งตัวเท่ๆ สไตล์ชาวไอนุดูกันสักหน่อยแล้วกัน
มาแบบไทยๆ แต่แอ๊บแต่งกายเป็นชาวไอนุกันดู ก็จะได้ประมาณนี้แหล่ะจ้าาาาา
จากนั้นเราก็กลับเข้าเมืองซัปโปโร พักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางเมืองใหญ่กันสักคืน ก่อนขึ้นเครื่องบินแต่เช้ามุ่งหน้ากลับสู่กรุงเทพมหานครของเรา
ทริปนี้เราได้จุดถ่ายรูปคูลๆ หลายจุดเลยที่เกาะฮอกไกโด ลองไปเที่ยวชมกันดูได้นะ ส่วนทริปหน้าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหนในญี่ปุ่นกันอีก รอติดตามกันด้วยน๊าาาาาา
แล้วพบกันใหม่ สวัสดีจ๊า!
เรื่องแนะนำ :
– เที่ยวฮอกไกโด : เช็คอินจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดป๊อบแห่งเกาะฮอกไกโด ตอนที่ 2
– เที่ยวฮอกไกโด : เช็คอินจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดป๊อบแห่งเกาะฮอกไกโด ตอนที่ 1
– ลุยกิจกรรมท้าหนาว ฝ่าปุยหิมะที่ฮอกไกโดตะวันออก (1)
– เจแปน จุด จุด จุด : Hokkaido Sweet Road ตะลุยกินในฮอกไกโด ตอนที่ 1
– เที่ยว North Hokkaido เหนือสุดดินแดนอาทิตย์อุทัย : Asahikawa
#Hokkaido #เที่ยวฮอกไกโด #จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี