องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan National Tourism Organization) หรือที่เรียกย่อๆ ว่า “JNTO” นั้น เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยว ส่วนใครที่กำลังวางแผนจะเดินทางไปเยือนญี่ปุ่น ก็ควรทำความรู้จักกันเอาไว้ บ้างก็เรียกองค์กรนี้ว่า “อสท. ญี่ปุ่น” แต่สรุปแบบสั้นๆ เข้าใจง่ายๆ ว่าเป็น “การท่องเที่ยวญี่ปุ่น” นั่นเอง
เหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ผ่านมาแล้วกว่า 3 เดือน นักท่องเที่ยวชาวไทยยังคงมีความต้องการที่จะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นกันอยู่ แต่หลายคนก็ยังขาดความมั่นใจ เนื่องมาจากข่าวคราวเกี่ยวกับโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ฟุกุชิม่า
และด้วยความกรุณาเป็นอย่างยิ่ง องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่นให้โอกาสเราได้ไปพูดคุยซักถามข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงความปลอดภัยในการท่องเที่ยวด้วย
องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan National Tourism Organization) หรือที่เรียกย่อๆ ว่า “JNTO” นั้น เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยว ส่วนใครที่กำลังวางแผนจะเดินทางไปเยือนญี่ปุ่น ก็ควรทำความรู้จักกันเอาไว้ บ้างก็เรียกองค์กรนี้ว่า “อสท. ญี่ปุ่น” แต่สรุปแบบสั้นๆ เข้าใจง่ายๆ ว่าเป็น “การท่องเที่ยวญี่ปุ่น” นั่นเอง
JNTO เป็นองค์กรจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์และสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวเป็นหลัก ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507 มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงโตเกียว และอีก 13 สำนักงานในเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก รวมทั้งกรุงเทพฯ เมื่อ 30 – 40 ปีก่อนนั้น มีคนไทยจำนวนไม่มากนักที่ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น แต่ตอนนี้ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศในฝันของใครหลายๆ คนที่อยากจะไปเยือนสักครั้งในชีวิต ซึ่งก็เป็นผลมาจากสื่อต่างๆ ทั้งการ์ตูน รายการทีวี ซีรี่ส์ และภาพยนตร์ญี่ปุ่น รวมทั้งความนิยมในอาหารญี่ปุ่นที่เพิ่มมากขึ้นด้วย แต่แล้วจู่ๆ แผนการเดินทางสู่ประเทศญี่ปุ่นของนักท่องเที่ยวหลายคนก็ต้องหยุดชะงัก อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
จากการพูดคุยกับทางการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ก็ได้รู้ว่า…นอกจากบริเวณรัศมีโดยรอบโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิม่าที่รัฐบาลญี่ปุ่นยังคงจำกัดวงล้อมเอาไว้ เมืองอื่นๆ ในญี่ปุ่นก็ยังสามารถเดินทางท่องเที่ยวกันได้ รวมถึงเมืองเซนได เมืองท่องเที่ยวในแถบโทโฮขุ (ภาคอีสาน) ด้วย
แม้ว่าบริเวณชายฝั่งของเซนไดจะได้รับความเสียหายจากคลื่นสึนามิ แต่ใจกลางเมืองนั้นปลอดภัยและผู้คนก็ใช้ชีวิตกันตามปกติ ตัวอย่างเช่น รถไฟชิงกันเซนที่วิ่งในภูมิภาคนี้ ก็เปิดให้บริการ ถึงจะไม่ได้ทำความเร็วเต็มที่เหมือนเดิมก็ตาม และงาน Sendai Tanabata Matsuri เทศกาลที่กำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้ (6 – 8 สิงหาคม) ก็ยังคงมีการจัดงานตามปกติ ไม่ได้ยกเลิกกันไป เพราะถึอว่าเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมาเร็วขึ้น เป็นการช่วยฟื้นฟูอีกทางหนึ่งด้วย
ด้านสาธารณูปโภคที่นักท่องเที่ยวเป็นกังวล อย่างเรื่องไฟฟ้านั้น การท่องเที่ยวญี่ปุ่นเชื่อว่ามีเพียงพอต่อความต้องการอย่าง และตอนนี้ก็กำลังเข้าสู่ฤดูร้อน โรงแรมทั่วไปก็เปิดเครื่องปรับอากาศก็ได้ได้ตามปกติ (แม้ว่าเครื่องปรับอากาศในญี่ปุ่นส่วนใหญ่ จะตั้งอุณหภูมิไว้ได้ไม่เย็นฉ่ำสุดๆ เหมือนบ้านเราก็ตาม)
ในเรื่องอาหารการกิน…คนญี่ปุ่นเขาเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะดูแลคัดกรองเรื่องวัตถุดิบต่างๆ ทั้งผักสด เนื้อสัตว์ หรืออาหารทะเลเป็นอย่างดี เพราะพวกเขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้กันมาก แต่ถ้านักท่องเที่ยวต้องการจะเพิ่มความมั่นใจในการกินอาหาร ก็ควรเลือกใช้บริการร้านอาหารที่ดูแล้วได้มาตรฐาน ส่วนเรื่องน้ำดื่มนั้น น้ำประปาสามารถดื่มได้ตามปกติ ยกเว้นในแถบฟุกุชิม่า ซึ่งยังไม่แนะนำ จึงควรซื้อน้ำสำหรับดื่มเพื่อความปลอดภัย…
และแม้ว่าในญี่ปุ่นจะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง หนักบ้าง เบาบ้าง จนชาวญี่ปุ่นค่อนข้างคุ้นชิน แต่หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อเดือนมีนาคม ยังมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นบ้างเป็นครั้งคราว สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่เคยเจอกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว ควรเตรียมความพร้อมไว้บ้าง ประการแรกหากเกิดเหตุขึ้นก็อย่าตื่นตระหนก เมื่อเกิดแผ่นดินไหวถ้าอยู่ภายในอาคารก็ให้รีบหาที่หลบอย่างเช่นโต๊ะ เพื่อป้องกันสิ่งของหล่นใส่ตัวและทำให้บาดเจ็บได้ แล้วรอดูสถานการณ์สักพัก ยังไม่ต้องรีบวิ่งออกจากอาคาร เพราะอาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้มากกว่า แต่ถ้าอยู่ภายนอกอาคารขณะเกิดเหตุ ก็ค่อนข้างจะปลอดภัย เพียงแต่ให้อยู่ห่างจากตัวอาคาร
และสิ่งสำคัญที่นักท่องเที่ยวควรปฏิบัติกันจนเป็นนิสัยก็คือ สำรวจที่พักและทางหนีไฟ รวมทั้งของใช้จำเป็นยามฉุกเฉิน (เช่น ไฟฉาย) ให้เรียบร้อยทันทีที่เช็คอินเข้าพักในโรงแรม
ถึงแม้สถานการณ์โดยรวมจะปลอดภัยเพียงพอในการเดินทางท่องเที่ยว แต่การท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็แนะนำให้ผู้เดินทางตรวจสอบระดับกัมมันตภาพรังสีในพื้นที่ที่ต้องการจะเดินทางไปท่องเที่ยวก่อนการเดินทางด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจ เพราะสถานการณ์อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งก็สามารถตรวจสอบได้จากหน้าเวปไซต์หลักของการท่องเที่ยวญี่ปุ่น หรือลิงก์ตรงไปได้เลยที่ http://www.jnto.go.jp/eq/eng/
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การท่องเที่ยวญี่ปุ่นสนับสนุนให้บริษัทนำเที่ยวและสื่อในไทย ได้เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของญี่ปุ่น เพื่อยืนยันว่ายังคงมีนักท่องเที่ยว และปลอดภัยเพียงพอที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวกันได้ตามปกติ
ในอีกแง่มุมนึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ตั๋วเครื่องบินและโรงแรมที่พักต่างๆ ออกราคาพิเศษมาให้เลือกมากมาย เป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่ต้องการไปเที่ยวญี่ปุ่นแต่มีงบประมาณที่จำกัด และบริษัทนำเที่ยวต่างก็หวังว่าสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวนี้จะฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป เพราะจะเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นมีความโดดเด่นมาก
และการท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็จะร่วมกับการท่องเที่ยวภูมิภาคต่างๆ ของญี่ปุ่นมาออกบู๊ทในงานท่องเที่ยวTTAA ซึ่งจะจัดขึ้นราวเดือนสิงหาคมปีนี้อีกด้วย
ซึ่งการท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็อยากจะฝากไว้ว่า การติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องนั้นเป็นสิ่งจำเป็น แต่..คนญี่ปุ่นก็ยังดำเนินชีวิตกันตามปกติ แม่บ้านยังคงออกมาเดินช้อปปิ้ง วัยรุ่นก็ยังแต่งตัวออกมาอวดกันที่ย่านฮาราจูกุในช่วงวันหยุดเหมือนเดิม น้ำประปาก็ดื่มได้ อาหารเขาก็มั่นใจที่จะกิน ส่วนกัมมันภาพรังสีโดยรวมก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ
วันนี้คนญี่ปุ่นพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยว และเขาอยากจะให้มีนักท่องเที่ยวไปกันเยอะๆ เพราะก็ถือว่าเป็นการช่วยพวกเขาด้วย หากการท่องเที่ยวหายไป คนที่อยู่ในระบบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งมีอยู่มาก ก็จะยิ่งเดือดร้อนและส่งผลกระทบไปถึงครอบครัวของพวกเขา นอกจากการบริจาคช่วยเหลือแล้ว การที่มีนักท่องเที่ยวกลับเข้าไปในประเทศก็เป็นการช่วยพวกเขาได้อีกทางหนึ่งด้วยด้วย
องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และคอยให้ความรู้ อัพเดตข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งให้คำแนะนำกับนักท่องเที่ยวด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามที่เราต้องการความมั่นใจอย่างนี้ จึงถือว่าเป็นที่พึ่งที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียวหากต้องการจะไปเยือนประเทศญี่ปุ่น
ปัจจุบันองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่ ถ. พระราม 4 อาคารรามาแลนด์ ชั้น 19 (ใกล้ ถ. สุรวงศ์) สามารถติดต่อได้ที่โทร. 0-2233-5108 หรือเข้าสู่เวปไซต์ทาง http://www.yokosojapan.org/ (ภาษาไทย)
และตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2554 เป็นต้นไป องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น(JNTO) จะย้ายที่ทำการไปที่อาคารเสริมมิตร (อโศก) ซึ่งทางเราก็จะนำข้อมูลมาแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– ช้อปปิ้งฮาราจูกุ บนถนน Takeshita Street
– เที่ยวฮอกไกโด : ลาเวนเดอร์ฮอกไกโด
– Fuji Five Lakes: ทะเลสาบทั้ง 5 ของภูเขาไฟฟูจิ
– เที่ยวโอซาก้า : ปราสาทโอซาก้า
– เที่ยวโตเกียว : Tokyo Tower [東京タワー]
ขอบคุณข้อมูลจาก:
คุณสมบัติ เจียรสีดำรงค์กูล (Marketing & PR Officer, Bangkok Office), JNTO
http://www.jnto.go.jp/eng/
http://www.yokosojapan.org/
#JNTO