ONE DAY TRIP (Kawasaki – Yokohama) หลังจากที่เราเที่ยว Tokyo กันบ่อยแล้ว ในทริปนี้เราจึงตั้งใจว่าจะออกไปเที่ยวรอบๆ โตเกียวดูบ้าง หวยจึงไปตกที่เมือง Kawasaki และเมือง Yokohama ในจังหวัด Kanagawa ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน Haneda
หลังจากที่เราเที่ยว Tokyo กันบ่อยแล้ว ในทริปนี้เราจึงตั้งใจว่าจะออกไปเที่ยวรอบๆ โตเกียวดูบ้าง หวยจึงไปตกที่เมือง Kawasaki และเมือง Yokohama ในจังหวัด Kanagawa ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน Haneda ที่สามารถเดินทางด้วยรถไฟ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเท่านั้น
จากสนามบินฮาเนดะ เราเปิดใช้งาน pocket wifi จาก 4WIFI ที่เช่ามาทันที ซึ่งก็รวดเร็วทันใจแถมแชร์ได้ถึง 5 คนพร้อมกัน และในส่วนของการเดินทาง เราเลือกซื้อบัตร IC Card ของ PASMO ที่ออกบัตรรุ่นใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ
บัตรนี้สามารถซื้อได้ที่บูธของ Keikyu ซึ่งสามารถเห็นได้ทันทีเมื่อออกจากด่านศุลกากร (ตัวบูธจะอยู่ทางด้านขวาตรงทางเข้าสถานีรถไฟ)
เรายังคงแนะนำให้นักท่องเที่ยวทุกคนซื้อ IC Card เพราะนอกจากจะง่ายในการเดินทางแล้ว ยังสามารถใช้ที่ตู้ vending machine รวมถึงร้านค้าต่างๆ อีกด้วย เรียกว่าสะดวกสบายกว่าการเที่ยวแบบตัวเปล่าเยอะ
ด้วยความที่เส้นทางเดินรถของ Keikyu ครอบคลุมในบริเวณคาวาซากิและโยโกฮาม่าเป็นอย่างดี เราจึงใช้บริการรถไฟสายนี้เป็นหลัก โรงแรมที่เราเข้าพักชื่อ Keikyu EX Inn Kawasaki ตั้งอยู่ที่สถานี Keikyu Kawasaki
เรียกว่าออกจากสถานีมาไม่กี่ก้าวก็ถึงทางเข้าโรงแรมแล้ว สะดวกสบายมากๆ ในราคาที่ไม่หนักกระเป๋าอย่างในโตเกียว
อย่างไรก็ตามเราสามารถนั่งรถไฟต่อเดียวจากโรงแรมไปถึงสถานีอากิฮาบาระ (Akihabara) ด้วยการนั่งรถไฟต่อเดียวเท่านั้น จึงถือว่าสะดวกสบาย ง่ายต่อการเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวทั้งในกรุงโตเกียวและพื้นที่ใกล้เคียง
จากล็อบบี้ของโรงแรม สามารถมองเห็นรางรถไฟสาย Keikyu ได้เลย
ข้อดีอีกอย่างของโรงแรมนี้ก็คือพื้นที่โดยรอยเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารชั้นนำ เรียกว่าคนไทยชอบซื้ออะไร ที่นี่รวมไว้ให้คุณหมดแล้ว ทั้ง Uniqlo, GU, ABC Mart, Village Vanguard, Don Quijote (Donki) หรือแม้แต่โรงภาพยนตร์อย่าง TOHO Cinema ก็อยู่ติดกับโรงแรม
ที่สำคัญคือคนไม่เยอะเหมือนในโตเกียว จึงใช้บริการได้อย่างสบายใจไม่ต้องเร่งรีบอย่างที่เคยเป็น สำหรับพวกเราแล้วถือว่าสร้างความผ่อนคลายในการเที่ยวได้มากจริงๆ
Picture : http://www.ycat.co.jp
หลังจากพักผ่อนและเดินเล่นรอบๆ โรงแรมเสร็จแล้ว เรามุ่งหน้าไปที่สถานีโยโกฮาม่า (Yokohama) เพื่อเตรียมล่องเรือ
แต่ทันทีที่เราลงมาจากสถานี เราก็ได้พบกับห้างสรรพสินค้า Porta (มาจากภาษาอิตาลี แปลว่า ‘ทางเข้า’) ตั้งอยู่ตรงหน้าทันที จากการสอบถามทำให้เรารู้ว่าเป็นห้างที่ไม่ค่อยมีชาวต่างชาติมาเที่ยว ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเด็กนักเรียนชาวญี่ปุ่นมากกว่า ที่มาเลือกซื้อของจุ๊กจิ๊ก หรือกินขนมน่ารักๆ ที่มีวางขายอยู่เต็มไปหมด
จุดเด่นของห้างนี้นอกจากร้านอาหารระดับคุณภาพ ก็คือร้านที่ทุกคนรู้จักกันดีอย่าง 3 COINS หรือร้าน 300 เยนในตำนานนั่นเอง
ที่นี่มีสินค้าทุกอย่างไล่มาตั้งแต่เครื่องประดับไปจนถึงอุปกรณ์ทำครัว อุปกรณ์แต่งบ้าน ฯลฯ แม้ร้าน 300 เยนจะมีแทบทุกสถานีใหญ่ แต่เรารู้สึกว่าการได้เห็นเด็กวัยรุ่นและครอบครัวมาเลือกซื้อในร้านอย่างจริงจัง ทำให้เราสนุกกับการช้อปปิ้งตามไปด้วย
ที่สำคัญ เรารู้สึกว่ามีสินค้ามากกว่าในโตเกียว (หรืออาจจะลงมาเท่ากัน แต่ยังมีสินค้าเหลือให้ช้อปปิ้งมากกว่า) และโดยไม่รู้ตัว เราก็มีของติดไม้ติดมือกันมาเยอะแยะเลยทีเดียว
หลังจากช้อปปิ้งเสร็จ ก็ได้เวลาของกิน !
เราเดินไปถามฝ่ายประชาสัมพันธ์ว่าร้านที่กำลังฮิตสุดๆ ในตอนนี้คืออะไร ? คำตอบที่ได้ก็คือวัยรุ่นโยโกฮาม่ากำลังฮิตชานมไข่มุกไต้หวันร้าน Chun Shui Tang
เราจึงมุ่งหน้าไปทันที และพบกับคิวที่ต่อกันยาว ทั้งแถวที่รอกินในร้าน และแถวที่รอซื้อกลับบ้าน เราใช้เวลารอรวมทั้งหมดประมาณ 20 นาที เพื่อสั่งเมนูยอดนิยม ‘ชานมไข่มุกไต้หวันเย็น’ ราคาตกแก้วละ 500 เยน และก็ไม่ผิดหวัง รสชาติหวานกำลังดี ไข่มุกอร่อยมาก
นี่คืออีกร้านหนึ่งที่เราไม่อยากให้ทุกคนพลาด หากมีโอกาสเดินทางมาโยโกฮาม่า
และในที่สุดก็ได้เวลาสำหรับไฮไลท์ นั่นคือการล่องเรือ Sea Bass ซึ่งเป็นเรือที่ทาง Keikyu ร่วมมืออยู่ด้วย
การเดินทางง่ายมาก จากสถานี Yokohama เราเดินทะลุห้าง Porta มาทางห้าง SOGO เมื่อเดินมาเรื่อยๆ เราจะเห็นห้าง Bay Quarter ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า (บรรยากาศจะคล้ายๆ ICON SIAM บ้านเรา ที่นี่..เป็นจุดปล่อยเรือ)
ให้เราเดินไปตามทางลงไปบริเวณริมน้ำ เราจะพบกับสำนักงานของบริการ SEA BASS เราเลือกไปลงที่สวนยามาชิตะ (Yamashita Station) จุดขึ้นเรือสำราญชื่อดังของโยโกฮาม่า การล่องเรือนี้ตกราคาคนละ 700 เยน
ทุกครั้งที่เราผ่านแลนด์มาร์กสำคัญ จะมีเสียงประกาศเป็นภาษาอังกฤษให้เราทราบว่าจุดนั้นๆ คืออะไร โดยสิ่งที่เราได้เห็นในทริปนี้ก็คือตลาดขายส่งโยโกฮาม่า (Yokohama City Central Wholesale market) รวมถึงเรือสำราญขนาดใหญ่อย่าง ASUKA II หนึ่งในเรือสำราญในฝันของใครหลายๆ คน
ภาพซ้าย : เรือ Keikyu Sea Bass ภาพขวา : เรือ Asuka II
ภาพเรือ Asuka II ตอนกลางวัน (https://www.cruisemapper.com/)
เรานั่งเรืออยู่ประมาณ 35 นาที ซึ่งเอาเข้าจริง รู้สึกว่าเวลาผ่านไปไวมาก โยโกฮาม่าในช่วงค่ำสวยงามจริงๆ
เราถ่ายรูปกันอยู่ดีๆ ก็มีประกาศเรียกให้ขึ้นฝั่งแล้ว โดยสถานีที่เราขึ้นไปอย่างสวนยามาชิตะนั้น มีวิวดีที่สุดของเมือง
เราจะได้พบกับเรือ Hikawa Maru จอดเทียบท่าอยู่ ซึ่งเรือนี้เคยเดินทางจากโยโกฮาม่าไปถึงสหรัฐอเมริกามาแล้ว นอกจากนี้ในบริเวณสวนยังมีรูปปั้นและน้ำพุสวยๆมากมาย รวมถึงจุดสำคัญที่ลืมไม่ได้เลยอย่าง โยโกฮาม่ามารีนทาวเวอร์ (Yokohama Marine Tower) หอคอยที่สูงกว่า 100 เมตรที่จะพาคุณชมวิวของโยโกฮาม่าแบบ 360 องศา
แน่นอนว่ามันไม่ได้พลุกพล่าน หวือหวาเหมือนการอยู่ในโตเกียว แต่การมาเที่ยวโยโกฮาม่าครั้งนี้ทำให้เราสงบ มีความสุข และรู้สึกว่าได้เห็นญี่ปุ่นในอีกบริบทหนึ่งที่น่าสนใจจริงๆ
จากสวนยามาชิตะ เราเดินทางไปอีกไม่ไกลเพื่อกินอาหารเย็นที่ร้าน Araiya ร้านสุกี้ยากี้สไตล์โยโกฮาม่าระดับตำนานที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1895 ร้านนี้ขึ้นชื่อในเรื่องเนื้อวัวและซาชิมิคุณภาพดี ซึ่งต้องบอกเลยว่าไม่ผิดหวัง เพราะนอกจากจะอร่อยสมคำร่ำลือแล้ว การตกแต่งและบริการในร้านก็ยอดเยี่ยม ทำให้มื้อเย็นมื้อนี้สมบูรณ์แบบจริงๆ สำหรับเราแล้ว ได้ลองกินเนื้อวัว A5 ที่เอามาทำสุกี้แบบแทบละลายในปาก ถือเป็นความฟินที่บรรยายได้ยาก เอาเป็นว่าใครที่มีโอกาสมาเยือนต้องสั่งเมนูนี้ให้ได้
ก่อนกลับเราแวะมาที่สถานี Hinodecho แหล่งพักผ่อนหย่อนใจยามค่ำคืนของชาวโยโกฮาม่า จุดนี้ถือว่าเป็นจุดที่มีชื่อเสียงที่สุด เพราะร้านจะเปิดจนดึก (โซนอื่นๆร้านจะปิดค่อนข้างไว) โดยร้านในบริเวณสถานีนี้มีหลากหลายมาก ทั้งบาร์ทั่วไป, แจ๊สบาร์, สปอร์ตบาร์, บาร์แบบยืนกิน รวมถึงบาร์ 18+ ที่จำกัดการเข้าอีกด้วย เราโชคดีที่ได้ไปในวันศุกร์เย็นซึ่งเป็นดั่งวันปลดปล่อยประจำสัปดาห์ เราจึงได้เห็นคนญี่ปุ่นเมากันเละ แต่ก็ถือเป็นภาพที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นดีจนทำให้เราอยากชวนทุกคนให้ลองมาดื่มที่นี่สักครั้ง
Picture : https://www.ana.co.jp
ถ้าใครเริ่มเบื่อแหล่งท่องเที่ยวในโตเกียว เราอยากให้ลองมาเที่ยวเมืองใกล้ๆดูบ้าง ญี่ปุ่นยังมีอะไรอีกมากมายรอให้คุณค้นหา และหากต้องการคำแนะนำดีๆ เมื่อไหร่ ก็สอบถามทีมงานมารุมุระได้เลย!
เรื่องแนะนำ :
– เที่ยว Hayama เมืองตากอากาศและกิจกรรมสุดชิค!
– สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น – อเมริกาที่โยโกสุกะ (Yokosuka)
– ฟินกับซากุระก่อนใครได้ทั้งวันที่สถานี Miurakaigan
– หนึ่งวันใน Miura สวรรค์ใกล้ๆ กรุงโตเกียว!
#Kawasaki #Yokohama #ONE DAY TRIP