ตอนบนสุดของเกียวโตเป็นพื้นที่ติดทะเลญี่ปุ่น ประกอบด้วยหมู่บ้านอิเนะ เมืองมิยาซุ และเมืองอื่นๆ จากตัวเมืองขับรถประมาณ 90 นาที ก็จะเข้าสู๋โซนทะเลที่เต็มไปด้วยวิวทิวทัศน์ชายฝั่งอันอุดมสมบูรณ์ อย่าง "หินทาเตะอิวะ (Tateiwa Rock)" เสาหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนหนึ่งของอุทยานธรณีซันอินไคกัง ที่รับรองโดย UNESCO (UNESCO San’in Kaigan Global Geopark) หาดทรายขาวน้ำทะเลใสก็มีหลายหาดให้พักผ่อน เช่น หาดโคโตฮิกิฮามะ (Kotohikihama Beach) ที่เม็ดทรายส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดทุกก้าวเดิน จนได้ชื่อว่า "ทรายร้องเพลง" และยังมี "หาดทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ" ที่พาดผ่านทะเล เป็นวิวทิวทัศน์สวยที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น นอกจากชมวิวทะเลท้องฟ้าสีครามตัดกับภูเขา การมาเยือนตอนบนของเกียวโตยังสามารถสัมผัสวิถีชีวิตของหมู่บ้านประมงโบราณที่ "โยชิวาระ" และ "อิเนะ" พร้อมอิ่มหนำกับอาหารทะเลที่เพิ่งขึ้นจากทะเลสดๆ โดยเฉพาะอาหารทะเลขึ้นชื่ออย่าง "ทังโกะบาระซูชิ (ข้าวหน้าปลาซาบะสไตล์เมืองทังโกะ)" "ปูหิมะไทซะ" และ "หอยนางรมอิวากากิ"
หมู่บ้านชาวประมงอิเนะ
หมู่บ้านริมทะเลเงียบสงบ เหมาะกับคนที่อยากสัมผัสชีวิตสโลว์ไลฟ์ หมู่บ้านแห่งนี้ยังคงความดั้งเดิมไว้ ให้บรรยากาศคลาสสิกและผ่อนคลาย พร้อมวิวงดงามของบ้านชาวประมงนับร้อยที่เรียงรายรอบอ่าว สะท้อนบนผืนน้ำทะเลสีฟ้าเขียว บ้านของชาวประมงที่นี่ มีชื่อเรียกว่า ฟุนายะ (Funaya) เป็นบ้านไม้สองชั้น ซึ่งในอดีตใช้สำหรับจอดเรือประมง ชั้น 1 เป็นโรงจอดเรือและมีชั้น 2 เป็นห้องพักสำรอง แต่ในปัจจุบันหลายหลังได้เปลี่ยนเป็นบ้านสำหรับอยู่อาศัย สามารถเดินเล่นชมวิวรอบหมู่บ้าน ปั่นจักรยาน หรือล่องเรือให้อาหารนกก็สนุกดี ถ้าจะให้คุ้มก็พักสักคืน นอนฟังเสียงคลื่น ชมพระอาทิตย์ขึ้น และกินอาหารทะเลให้หนำใจ

อามาโนะฮาชิดาเตะ
หาดทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ 1 ใน 3 วิวทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดของญี่ปุ่น หาดทรายขาวยาวกว่า 3.6 กิโลเมตร ที่เรียงรายไปด้วยต้นสนกว่า 8,000 ต้น ทอดยาวพาดผ่านกลางทะเล เกิดเป็นวิวธรรมชาติที่งดงามจนได้ชื่อว่า "สะพานสู่สรวงสวรรค์" มีตำนานเล่าขานว่าเทพเจ้าได้สร้างบันไดลงมาจากสวรรค์ แต่บันไดนั้นพังทลายกลายเป็นหาดทรายทอดยาวอย่างที่เห็น สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์งดงามได้หลายวิธี ไม่ว่าจะขึ้นไปที่จุดชมวิว เล่นเครื่องเล่นอย่างชิงช้าสวรรค์หรือขี่จักรยานลอยฟ้า นั่งเคเบิลคาร์ เดินเล่นขี่จักรยานบนหาดทราย นั่งเรือชมวิว ไหว้พระวัดศักดิ์สิทธิ์ ขอพรศาลเจ้าต่างๆ และชมสะพานไคเซ็นเคียว (Kaisenkyo Bridge) สะพานข้ามทะเลที่หมุนได้ 90 องศา เพื่อเปิดทางให้เรือผ่าน

ปราสาทฟุคุจิยามะ
ปราสาทฟุคุจิยามะมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 440 ปี ก่อสร้างขึ้นในปี 1579 โดย อะเคจิ มิตสึฮิเดะ ซามูไรคนสำคัญของ โอดะ โนบุนางะ ภายในปราสาทประกอบด้วยวังใหญ่โตมโหฬาร และหอคอยปราสาทล้อมวัง 3 ชั้น ซึ่งก่อสร้างด้วยเทคนิคที่ล้ำสมัยที่สุดในเวลานั้น แต่ปราสาทต้องถูกทำลายลง หลังจากมีการยกเลิกการปกครองระบอบศักดินา เหลือเพียงซากกำแพงตรงฐานปราสาท บ่อน้ำ และป้อมปราการ จนต่อมามีการสร้างตัวปราสาทขึ้นใหม่จากกำแพงหินเดิม และสร้างเสร็จในปี 1986 เป็นปราสาทที่ตั้งตระหง่านมาจนปัจจุบัน ภายในมีพิพิธภัณฑ์ให้เยี่ยมชม และบริเวณสวนยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่จัดแสดงภาพวาดของ ซาโต ไทเซ ศิลปินเอกด้านจิตรกรรมญี่ปุ่น
ปูไทซะ
ปูไทซะ คือ ปูมัตสึบะ หรือปูหิมะเพศผู้ที่โตเต็มที่ คาบสมุทรทังโกะที่อยู่ทางตอนเหนือของเกียวโตมี "ท่าเรือไทซะ" ปูมัตสึบะที่จับได้ที่นี่ถูกตั้งชื่อว่า "ปูไทซะ" ซึ่งเป็นปูที่ขึ้นชื่อทั้งเรื่องคุณภาพและรสชาติ ที่ท่าเรือไทซะ ชาวประมงออกเรือไปจับปูและกลับเข้าฝั่งในวันเดียวกัน ทำให้ปูไทซะสดใหม่กว่าปูจากแหล่งอื่น ปริมาณที่จับได้ค่อนข้างน้อย จึงเรียกได้ว่าเป็นปูที่หาทานได้ยาก ช่วงฤดูหนาว ปูไทซะสดใหม่ ตัวโต เนื้อแน่น หวานอร่อย ถูกเสิร์ฟตามร้านอาหารและที่พักในเกียวโต ให้ลิ้มรสแบบสดๆ แบบย่าง แบบหม้อไฟ และหลากหลายเมนูสไตล์เกียวโต