ครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวเกาะคิวชูกัน 4 จังหวัด นั่นก็คือจังหวัด ซากะ นางาซากิ คุมาโมโตะ และโออิตะ แต่เราจะไปแบบขับรถเที่ยว ทำให้สะดวกสบายทั้งทริปเลยล่ะ….
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu ) เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น ประกอบไปด้วยจังหวัดฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ โออิตะ มิยาซากิ คุมาโมโตะ และคาโกชิม่า มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบไม่แพ้ภูมิภาดใดๆในญี่ปุ่นเลย
ครั้งนี้ทีมงาน marumura จะพาทุกคนไปเที่ยวเกาะคิวชูกัน 4 จังหวัด นั่นก็คือจังหวัด ซากะ นางาซากิ คุมาโมโตะ และโออิตะ
ขอบอกเลยว่า การขับรถเที่ยวทำให้เราสามารถไปเที่ยวตามที่ ที่รถสาธารณะเข้าถึงยากได้อย่างง่ายดาย สัมภาระต่างๆ ก็ไม่ต้องขนขึ้นลงบ่อยๆ สะดวกสบายทั้งทริปเลยค่ะ….
เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้ว ออกเที่ยวกับพวกเรากันได้เลย …
・Hizen Nao Washi ประสบการณ์ทำพัดกระดาษ
・อะริตะเซระ (Arita Será) ศูนย์รวมร้านของผู้เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องเคลือบดินเผาแบรนด์ “อะริตะ-ยากิ (Arita-yaki)”
・Let’s Treasure Hunting! บุกโกดัง เครื่องเคลือบดินเผาอะริตะ-ยากิ & เวิร์คช้อปลอกลายเครื่องเคลือบดินเผา
・“tea space” ดื่มด่ำสู่ห้วงของใบชา ผ่านการสัมผัสด้วยโสตประสาททั้ง 5
・อุเรชิโนะ ออนเซ็น 1 ในเมืองบ่อน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคิวชูตะวันตก
・ศาลเจ้ายูโทคุ อินาริ (Yutoku Inari Shrine) ที่ประทับของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ผู้ประทานพรความอุดมสมบูรณ์
ทริปนี้เราเริ่มต้นเดินทาง จากสนามบินฟุคุโอะกะ (福岡空港, Fukuoka Airport) แล้วรับรถที่ติดต่อเช่าไว้ล่วงหน้า จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่จังหวัดซากะ ค่ะ …
เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดซากะหลายๆ ท่านอาจเคยได้ยินชื่อมาบ้างแล้วจากภาพยนตร์และซีรีส์อื่นๆ เช่น STAY ซากะ..ฉันจะคิดถึงเธอ เป็นต้นหรือถ้าสายอนิเมะ ก็คงไม่พ้น Yuri On Ice!! ซากะเป็นจังหวัดเล็กๆ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะคิวชู คั่นกลางระหว่างจังหวัดใหญ่อย่าง ฟุกุโอะกะ และ นะงาซากิ เต็มไปความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่สวยงาม ศิลปะวัฒนธรรมเครื่องปั้นดินเผา Arita-yaki อันโด่งดัง และมีสภาพอากาศที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวไม่แพ้จังหวัดใด ๆ เลย
Hizen Nao Washi ประสบการณ์ทำพัดกระดาษ
“Hizen Nao Washi” 肥前名尾和紙 คือ ภูมิปัญญาการทำกระดาษนาโอวาชิ (Nao Washi) ซึ่งมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 300 ปี ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ที่สำคัญของจังหวัดซากะ
ในสมัยก่อนกิจการนี้รุ่งเรืองอย่างมากมีการทำกระดาษนี้กันทั้งหมู่บ้าน แต่ในปัจจุบันเหลือแค่สถานที่นี้แห่งเดียวที่ยังคงสานต่อกิจการและวัฒนธรรม
ตัวสถานที่จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือโรงเรือนที่ผลิตกระดาษแบบแฮนด์เมด ที่เราสามารถเข้าชมวิธีการทำกระดาษได้อย่างใกล้ชิด
กระดาษนาโอวาชิถูกนำไปใช้ประโยชน์มากมายไม่ว่าจะเป็น Shoji Screen ประตูบานเลื่อนไม้กรุกระดาษของญี่ปุ่น ร่มกระดาษห่อของขวัญ ทำโปสการ์ด ใบประกาศนียบัตร เป็นต้น และที่ว้าวมากไปกว่านั้น มิโกะซัง ศาลเจ้ายูโทคุอินาริ ก็ใช้กระดาษของที่นี่ไปมัดผมด้วยค่ะ…
ส่วนอาคารข้างๆ กันจะเป็น สตูดิโอและมีโซนจัดแสดงผลงานให้เราได้ชมหรือซื้อกลับบ้านได้ นอกจากนี้ยังมีเวิร์คช็อปให้มาสัมผัสกับเสน่ห์ของกระดาษสาญี่ปุ่นแบบทำมือ โดยมีช่างฝีมือที่เรียนรู้เทคนิคการทำกระดาษแบบดั้งเดิมคอยให้คำแนะนำแก่เราได้ประดิษฐ์สร้างสรรค์สิ่งของชิ้นเล็กๆ เช่น พัดที่ทำด้วยกระดาษวาชิ (กระดาษสาญี่ปุ่น)
กิจกรรมการทำพัดด้วยกระดาษนาโอวาชิ (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที)
ประดิษฐ์พัดกระดาษวาชิที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกโดยการตัด ฉีก และแปะกระดาษวาชิชนิดต่างๆ สร้างลวดลายลงบนพัดได้อย่างอิสระ ราคา 1,500 เยน ไม่ต้องจองล่วงหน้า
ก่อนอื่นเราเลือกสีกระดาษ จากนั้นนำมาฉีกๆ แล้วแปะลงบนพัดตามรูปแบบที่เราชอบได้เลยค่ะ
Hizen Nao Washi
ที่อยู่: 4756 Yamatocho Oaza Nao, Saga, 840-0205
การเดินทาง: จากสถานี Saga ของรถไฟสาย Nagasaki Line โดยสารรถแท็กซี่ 30 นาที
เวลาทำการ: เวิร์คช้อป 10.30 – 16.00 น.
วันหยุด: เวิร์คช้อปปิดทำการในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ
ค่าใช้จ่าย: เวิร์คช้อปทำพัดกระดาษ 1,500 เยน
เว็บไซต์: https://naowashi.com/
Arita Será
arita huis เพลิดเพลินการทานอาหารแสนอร่อย ที่ใช้ภาชนะที่ทำจากเครื่องเคลือบดินเผาอะริตะ-ยากิ
ทำกระดาษวาชิกันแล้วท้องก็เริ่มส่งสัญญานว่า หิวแล้วนะ….
งั้นเราก็ไปหาของอร่อยๆ กินกันดีกว่าค่ะ.. มื้อนี้เราจะไปกันที่ อะริตะ เฮาส์ (arita huis) โรงแรมและร้านอาหาร ตั้งอยู่ในโครงการ อะริตะเซระ (Arita Será)
อะริตะเซระ เป็นเหมือนศูนย์รวมสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ด้านในมีร้านค้า 22 แห่งที่เชี่ยวชาญ เรื่องเครื่องเคลือบดินเผาแบรนด์ “อะริตะ-ยากิ (Arita-yaki)”
ที่นี่เปิดทำการเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2018 ซึ่งในส่วนของโรงแรมประกอบด้วยห้องพัก 11 ห้องและร้านอาหารขนาด 48 ที่นั่ง เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่นสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้อย่างหลากหลาย
สามารถมาเพลิดเพลินการทานอาหารที่ใช้ภาชนะที่ทำจากเครื่องเคลือบดินเผาอะริตะ-ยากิแบบดั้งเดิม
ที่มีลวดลายละเอียดปราณีตสวยงาม เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารสไตล์โมเดิร์น ตลอดจนงานศิลปะและงานฝีมือต่างๆ ให้คุณได้ใช้ช่วงเวลาอันพิเศษในโรงแรมที่มีสไตล์ที่รายล้อมไปด้วยเครื่องเคลือบดินเผาอะริตะ-ยากิ
เมนูอาหารก็มีหลากหลายให้เลือกค่ะ ทั้งเซ็ตขนมปังแสนอร่อย หรือจะเป็นสลัดจานโต ที่อัดแน่นไปด้วยความสดของผัก นำมารังสรรค์ปรุงแต่งให้เป็นมากกว่าผักในจาน ไม่ว่าจะเป็นการนำไปอบให้มีกลิ่นหอมถ่านนิดๆให้เราได้สัมผัสรสด้วยจมูกหรือรสชาติจากน้ำสลัดที่เข้มข้น แต่ไม่ทำให้รู้สึกเลี่ยนแม้แต่น้อย
สายกินแบบจัดหนักจัดเต็มก็ไม่ต้องห่วงนะ เพราะเค้ามีอีกหลายเมนู เช่น พาสต้า ข้าวราดเคอร์รี่รสเด็ดๆให้เลือกเช่นกันค่ะ…
กินข้าวกันอิ่มแล้ว ออกไปเดินเล่นดูเครื่องเคลือบดิเผากันอีกซักหน่อย ในโครงการนี้มีแต่ร้านเก๋ๆ ที่เรียกว่าคัดมาให้แล้วแบบจุใจจริงๆ ค่ะ
ถ้าใครเดินชมสินค้าแล้วมองหาที่นั่งพักชิวๆ เราอยากแนะนำ ร้าน ” 2016/ “ ร้านกาแฟ ที่มีให้มากกว่าการนั่งดื่มกาแฟ
เราสามารถเลือกแก้วดีไซน์ที่ชอบเองได้ และในร้านมีเครื่องปั้นดินเผาอาริตะดีไซน์เก๋ๆ ทันสมัย จากศิลปินดังๆ ที่ได้รวบรวมมาให้เลือกคนที่ชอบงานดีไซน์และเครื่องจานชาม เรามั่นใจว่าจะต้องแฮปปี้กับร้านนี้แน่นอน…
Arita Será
ที่อยู่: 2351-169 Akasaka, Arita-cho, Nishimatsuura-gun, Saga
(ภายในโครงการ Arita Será)
การเดินทาง: จากสถานี JR Saga ขึ้นรถไฟด่วน ลงที่สถานี Arita ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
จากสถานี Arita โดยสารรถแท็กซี่ ใช้เวลา 5 นาที
เวลาทำการ: ร้านอาหาร
กลางวัน: 11.30 – 14.00 น. (รับออร์เดอร์สุดท้าย 13.30 น.)
มื้อค่ำ: 18.00-22.00 น.(รับออร์เดอร์สุดท้าย 21.00 น.)
วันหยุด: ไม่มีวันหยุด
ค่าใช้จ่าย: แล้วแต่เมนูอาหาร
เว็บไซต์: https://aritahuis.com/
Let’s Treasure Hunting!
Let’s Treasure Hunting! บุกโกดัง เครื่องเคลือบดินเผาอะริตะ-ยากิ & เวิร์คช้อปลอกลายเครื่องเคลือบดินเผา ที่ Kouraku Kiln
มาถึงแหล่ง เครื่องเคลือบดินเผาอะริตะ-ยากิ ทั้งทีจะไม่ช้อปปิ้งนี่ก็กระไรอยู่ แต่ครั้งนี้เราไม่ช้อปกันแบบธรรมดาเพราะ เราจะไปบุกโกดังกัน
หลายคนต้องรู้จักหรือเคยได้ยินมาบ้างแหละ ว่าเครื่องเคลือบดินเผาอะริตะ-ยากิ (有田焼, Arita-Yaki )
ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม มีคุณภาพสูงเป็นอันดับต้นๆในในประเทศญี่ปุ่น และมีราคาที่ค่อนข้างสูงนิดนึง….
แต่วันนี้เราจะมาชี้พิกัดแหล่งขุมทรัพย์ให้แฟนเพจของเราได้มีโอกาสไปช็อปกันให้จุใจที่ “โคระคุ คลิน” (幸楽窯 Kouraku Kiln)
“โคระคุ คลิน” เป็นโรงงานเซรามิก เก่าแก่ชื่อดังกว่า 150 ปี ในเมืองอาริตะ จังหวัดซากะ ประเทศญี่ปุ่น ที่นี่เราสามารถร่วมทำจัดเวิร์คช็อปในทุกขั้นตอนของการทำเครื่องเคลือบดินเผา “อะริตะ-ยากิ (Aritayaki)”
กติกาง่ายนิดเดียว เลือกคอร์สที่มีให้ 2 แบบ ว่าจะเอาแบบเบสิค หรือ หรือเลือกได้ไม่อั้น รับตระกร้า
และถุงมือแล้วก็ลุยขุมทรัพย์กันได้เลย โอ๊ะๆๆ จำกัดเวลาที่ 90 นาทีนะจ้ะ….
แบบเบสิคเหมาจ่ายที่ 5,500เยน เลือกถ้วยชามได้ไม่อั้นในโซนเครื่องเครือบสีขาว-น้ำเงินที่เป็นลวดลายเบสิคแบบไม่อั้น 11,000 เยน เลือกได้ทุกลวดลายที่อยู่ในโกดัง แค่นี้แหละง่ายๆ แต่มีข้อตกลงกันนะ ว่าใส่ให้พองาม อาจมีพูนๆ งอกๆ ท่วมๆ ได้นะ แต่อย่าให้ล้นจนหล่นแตก เพราะแต่ละชิ้นงานเป็นงานฝีมือที่ศิลปินตั้งใจทำกันเนอะ…
งานนี้ต้องใช้วิชาความตาดีตาไวเฉพาะตัวกันแล้วแหละ บอกเลยว่า 90 นาทีผ่านไปไวมากกกก สนุกสุดๆ เลยแหละค่ะ อย่าลืมตามไปตำนะคะ….
นอกจากโซน Treasure Hunting! แล้วก้จะมีโซน เอาท์เลตให้เลือกซื้อกันได้ในราคาย่อมเยา ลายสวยๆ ทั้งนั้น ระวังจะซื้อจนลืมตัว แบกกลับไม่ไหวกันนะ… ดังนั้น ถ้าจะมาที่นี่ ขับรถเที่ยวแบบเราน่าจะดีที่สุดค่ะ
ซื้อได้ไม่อั้น แน่นอน ….
ประสบการณ์ลอกลายลงบนเครื่องเคลือบดินเผา
ที่โคระคุ คลิน (Kouraku Kiln) มีการจัดเวิร์คช็อปในทุกขั้นตอนของการทำเเครื่องเคลือบดินเผา “อะริตะ-ยากิ (Aritayaki)” เช่น การขึ้นรูปด้วยแท่นหมุน การวาดลวดลาย การลอกลาย และการเผา เป็นต้น
นอกจากนี้ ที่นี่ยังผลิตแม่พิมพ์เองด้วย จึงสามารถสอบถามพูดคุยกับคนทำต้นแบบแม่พิมพ์ได้โดยตรง
นี่ไม่ใช่การทำเวิร์คช้อปเพื่อการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่เป็นโอกาสที่จะได้เห็นขั้นตอนการทำงานจริง หรือแม้แต่เป็นผู้ช่วยช่างฝีมือ
สำหรับทัวร์ชมโรงงานใช้เวลาประมาณ 30 นาที (จองล่วงหน้า)
ขั้นตอนการเผาจะทำในวันธรรมดา หากเข้าพักที่เกสต์เฮาส์ในช่วงเวลากลางวันของวันถัดไปก็สามารถนำเครื่องเคลือบดินเผาที่ผ่านการเผาเสร็จแล้วกลับบ้านได้เลย
กิจกรรมการลอกลาย
การวาดลวดลายลงบนเครื่องเคลือบดินเผาด้วยการแปะรูปลอกลงไป โดยมีรูปลอกสีสันต่างๆ ให้เลือกมากมายนับพันแบบ ให้คุณสร้างสรรค์ลวดลายเครื่องเคลือบดินเผาได้ด้วยตัวคุณเอง ราคาเริ่มต้น 2,000 เยน
Kouraku Kiln
ที่อยู่: 2512 Maruo Hei, Arita Town, Nishimatsuura District, Saga
การเดินทาง: จากสถานี Arita โดยสารรถประจำทาง ใช้เวลา 5 นาที ลงที่ป้าย Maruo Jutaku-mae จากนั้นเดิน 3 นาที
จากสถานี Arita โดยสารรถแท็กซี่ ใช้เวลา 5 นาที
เวลาทำการ: 08.00 – 17.00 น.
วันหยุด: วันสิ้นปีและวันขึ้นปีใหม่
ค่าใช้จ่าย: กิจกรรมลอกลาย เริ่มต้น 2,000 เยน
เว็บไซต์: https://kouraku.jp.net/en/
ดื่มด่ำกับเครื่องเคลือบดินเผาอะริตะ-ยากิ (有田焼, Arita-Yaki ) กันแล้วไปเที่ยวกันต่อค่ะ เมืองแถวนี้เค้าขึ้นชื่อเรื่องเครื่องเคลือบจรองๆ แหละ ขนาดสะพานระหว่างทางยังมีเครื่องเคลือบประดับเลย
ชิมชาที่เมืองอุเรชิโนะผ่านโปรแกรมท่องเที่ยว “Tea tourism”
เมืองอุเรชิโนะ (Ureshino) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัดซากะ (Saga) มี 3 ประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรมและประเพณีอันล้ำค่าผสมผสาน ซึ่งยังคงปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาถึงทุกวันนี้นั่นก็คือ 1. แหล่งออนเซ็น อุเรชิโนะ 2.เครื่องเคลือบดินเผาฮิเซ็นโยชิดะ (Hizen Yoshidayaki) และ 3. ชาอุเรชิโนะ ที่เราจะไปสัมผัสกันครั้งนี้ (^^)
ชาอุเรชิโนะนั้น มีประวัติมานานกว่า 400 ปี เป็นที่รู้กันดีว่าเมืองนี้เป็นแหล่งปลูกชาที่มีคุณภาพดีมากๆ อีกแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
วันนี้เรามีโอกาสได้ลิ้มลองชาที่ให้ความรู้สึกแสนพิเศษผ่าน 1 ในโปรแกรมท่องเที่ยวที่มีชื่อว่า “Tea tourism”
Tea tourism คือโปรเจคที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อให้ผู้คนได้ท่องเที่ยว ดื่มด่ำผ่านหลากหลายเรื่องราวของชามีทั้งการปั่นจักรยานชมเมืองไปเรื่อยๆ พร้อมขวดชาคู่ใจ พร้อมเรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ของชาอุเรชิโนะ ตั้งแต่วิธีการผลิตใบชา การชงชา และอื่นๆ
ครั้งนี้เราเลือกคอร์สที่มีชื่อว่า “tea space”
“tea space” คือการบริการน้ำชาโดย Tea Master ผู้เชี่ยวชาญเรื่องชา ที่เป็นทั้งคนปลูกชา ดูแล เก็บเกี่ยวครบทุกกระบวนการ
สถานที่จัดพิธีชงชา “tea space” มีทั้งหมด 3 จุด จุดที่เรามาชื่อว่า Chatou หรือหอชา มีลักษณะเป็นระเบียงสีขาวที่ยกพื้นสูง ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางบรรยากาศไร่ชาเขียวขจีอันกว้างใหญ่ไกลสุดลูกหูลูกตา Tea Master จะค่อย ๆ บรรจงชงชาให้เราได้ดื่ม 3 แบบ พร้อมขนมหวานแสนอร่อย
ชาแต่ละแก้ว ขอบอกเลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ ค่ะ รับชามาแล้วหลับตาช้าๆ พร้อมจิบชา ให้ความรู้สึกเหมือนสรรพสิ่งรอบกายเคลื่อนช้าลง ความเร่งรีบและเร่งร้อนภายนอกหายไปราวกับหลุดอีกโลกหนึ่ง…
โปรแกรม Tea tourism
รับจองตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป (กรณีมาคนเดียว คิดค่าน้ำชา 20,000 เยน)
<ค่าบริการ>
・11,000 เยนต่อคน (รวมภาษี) ※รวมค่าน้ำชาและขนมแล้ว
・ชำระด้วยเงินสด (วันจริง)
หากใครที่สนใจอยากมาลองสัมผัสประสบการณ์ดีๆ แบบเรา
สามารถติดต่อจองล่วงหน้าได้ที่ https://tea-tourism.com/en/
Tea tourism
ที่อยู่: Chatou ไร่ชา Ikeda Noen
2189 Oaza Iwaya Kawauchi Oaza, Ureshino Town, Ureshino City, Saga
การเดินทาง: จากตัวเมืองอุเรชิโนะ เดินทางโดยรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
เวลาทำการ: ไร่ชา Ikeda Noen 10.00 – 18.00 น.
วันหยุด: ปิดให้บริการช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายน เพราะเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยว
ค่าใช้จ่าย: พิธีชงชา “tea space” 11,000 เยนต่อคน (รวมภาษี) ※รวมค่าน้ำชาและขนมแล้ว
รับจองตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป (กรณีมาคนเดียว คิดค่าน้ำชา 20,000 เยน)
เว็บไซต์: https://tea-tourism.com/en/
อุเรชิโนะ ออนเซ็น วาระคุเอ็น 嬉野温泉和楽園
เที่ยวกันแบบจัดเต็มมาทั้งวัน ได้เวลาเข้าที่พักแล้ว ค่ำคืนนี้เราเลือกพักที่โรงแรม “อุเรชิโนะ ออนเซ็น วาระคุเอ็น ( 嬉野温泉和楽園 )” โรงแรมขนาดใหญ่ ห้องพักกว้างขวาง อาหารจัดเต็มทุกมื้อ และที่เด็ดสุดๆ คือ ออนเซ็นค่ะ!!
อุเรชิโนะออนเซ็น ขึ้นชื่อเรื่องน้ำแร่ที่ประกอบไปด้วยโซเดียมและไฮโดรเจนคาร์บอเนต ที่ว่ากันว่ามีประสิทธิภาพในการช่วยให้ผิวสวย กำจัดเคราตินบนผิวหนัง ช่วยให้ผิวเรียบเนียน และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ที่บ่อออนเซ็นกลางแจ้งของวาระคุเอ็น (Warakuen) มีการใส่ “ชาอุเรชิโนะ” ลงไปในบ่อแห่งแรกในญี่ปุ่น น้ำร้อนที่เต็มไปด้วยสารสกัดจากชา จะถูกเทลงจากกาน้ำชาหินขนาดใหญ่ลงในบ่อน้ำ
ใครที่เป็น Green tea lover รับรองว่าจะฟินสุดๆ เพราะเค้ามีถุงชาไว้ให้หยิบลงไปแช่เพิ่มได้ในบ่อ
จะเอามาวางบนบ่า หรือถือไว้ให้ชื่นใจ ก็ดีงามเลยแหละค่ะ
แช่ออนเซ็นกันเสร็จแล้วก็ถึงเวลาอาหารค่ำที่รอคอย มื้อนี้เราเลือกเป็นคอร์สเทปปันยากิ เชฟจะค่อยๆ บรรจงจัดอาหารมาให้เราทีละจาน ซึ่งแต่ละจานนั้น แน่นอนอร่อยจนต้องร้องสุโค่ยยยยย ไม่หยุดกันเลยทีเดียว
น้องจากเนื้อเกรดดี ที่เชฟบรรจงย่างให้แล้ว ยังมีอีกเมนูที่เด็ดไม่แพ้กันก็คือ ข้าวต้มใบชา….
ข้าวชั้นดีที่ปลูกในท้องถิ่น นำมาค่อยๆ ต้มในหม้อดินกับใบชาอุเรชิโนะ จนสุกพอดี หอมกลิ่นชาอ่อนๆ โรยเกลือนิดๆ ก่อนรับประทานซักนิดนะคะ เป็นรสชาติที่รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เกินคำบรรยายจริงๆ อยากให้ได้มาลองชิมกันค่ะ….
อุเรชิโนะ ออนเซ็น วาระคุเอ็น
ที่อยู่: 33 Oaza Shimono Ko, Ureshino Town, Ureshino City, Saga
การเดินทาง: -จากทางออกทางด่วน Ureshino เดินทางโดยรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
-จาก สถานี Takeo Onsen ทางออกทิศใต้ ขึ้นรถบัสมุ่งหน้าไปยังอุเรชิโนะออนเซ็น ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ลงที่ป้ายอุเรชิโนะออนเซ็น จากนั้นเดินประมาณ 10 นาที
เวลาทำการ: แช่ออนเซ็นแบบวันเดียวไปกลับ 11.30 – 14.00 น.
พักค้างคืน เช็คอิน 15.00 น./ เช็คเอ้าท์ 10.00 น.
วันหยุด: แช่ออนเซ็นแบบวันเดียวไปกลับ ปิดทุกวันอังคาร
ค่าใช้จ่าย: แช่ออนเซ็นแบบวันเดียวไปกลับ ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็ก 500 เยน
บ่อไพรเวท แช่ได้สูงสุด 3 คน 50 นาที 3,500 เยน
พักค้างคืน เริ่มต้นคนละ 21,230 เยนขึ้นไป
เว็บไซต์: https://www.warakuen.co.jp/en/
อุเรชิโนะ ออนเซ็น 嬉野温泉
รับประทานมื้อค่ำกันแล้ว ออกไปเดินเล่นย่อยอาหารกันซักนิด ที่โรงแรมนี้เค้ามีชุดยูกะตะ สีสันสดใส ให้เราได้เลือกใส่กันด้วยนะ
จากโรงแรมเดินออกมานิดเดียวก็จะมีจุดไฮไลท์ของเมือง นั่นก็คือย่านออนเซ็นอุเรชิโนะ นักท่องเที่ยวที่มาเมืองนี้มักจะออกมาเดินเล่นกัน
เมืองอุเรชิโนะตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดซากะ เกิดจากการควบรวมของเมืองอุเรชิโนะเก่าและเมืองชิโอตะ ในปีค.ศ 2006
อุเรชิโนะ ออนเซ็นในเมืองอุเรชิโนะ เป็น 1 ในเมืองบ่อน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคิวชูตะวันตก และยังเป็น 1 ใน 3 บ่อน้ำพุร้อน ที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวพรรณที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย
มีตำนานเล่าขานถึงสรรพคุณของบ่อน้ำพุร้อนอุเรชิโนะอยู่ว่า ครั้งหนึ่งเมื่อจักรพรรดินี จินกูได้แวะเวียนผ่านมาที่นี่ระหว่างทางกลับจากการสู้รบ พระองค์ได้สังเกตเห็นนกกระเรียนสีขาวแช่ปีกที่อ่อนล้าของมันลงในแม่น้ำและบินจากไปด้วยความกระปี้กระเป่า จึงได้พาทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบลงไปอาบน้ำ ในน้ำพุร้อนก็กำลังเดือด แล้วบาดแผลของทหารก็หายเป็นปกติในทันที
ว่ากันว่าจักรพรรดินีปลื้มใจมากจึงกล่าวว่า “โอ้ ข้าพเจ้ามีความสุขเหลือเกิน” และได้กลายมาเป็นที่มาของชื่ออุเรชิโนะ (คำว่า 嬉しい อุเรชี่ ในภาษาญี่ปุ่น แปลว่า ดีใจ, มีความสุข)
บ่อน้ำพุร้อนสาธารณะ Siebold’s Bath
ตื่นเช้ามาด้วยความกระปี้กระเป่า เพราะได้แช่น้ำพุร้อน ขององค์จักรพรรดินี จินกู (รึเปล่านะ.. ( *´艸`) )
ก่อนข้ามเมือง เราแวะไปถ่ายรูปที่อาคารโรงอาบน้ำ Siebold’s Bath แลนด์มาคของเมืองกันอีกครั้ง เพราะอยากได้รูปสวยๆ ช่วงตอนเช้าบ้าง
Siebold’s Bath เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สไตล์ไทโชโรมัน โครงสร้างอาคารทำจากไม้ มี 2 ชั้น เนื้อทีประมาณ 75 ตารางเมตร
เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2010 Siebold’s Bath ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามสวนอุเรชิโนะออนเซ็นโดยมีแม่น้ำชิโอตะคั่นกลาง
อาคารหลังนี้ได้รับการบูรณะให้มีรูปลักษณ์ที่เป็นสีส้มแบบดั้งเดิม ตกแต่งในสไตล์ที่ให้ความรู้สึกถึงประวัติศาสตร์ของอุเรชิโนะ
ภายในอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ห้องอาบน้ำรวมขนาดใหญ่ ห้องอาบน้ำส่วนตัว และแกลเลอรีของชาวเมือง เป็นพื้นที่เพื่อการพักผ่อนที่เปิดให้ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเมืองได้เข้ามาใช้ประโยชน์ร่วมกัน
นอกจากนี้ ภายในอาคารได้รับการออกแบบด้วยหลักยูนิเวอร์แซลดีไซน์ เช่น ห้องน้ำอาบน้ำเอนกประสงค์ที่มีบันไดไม่กี่ขั้น และห้องน้ำที่เก้าอี้รถเข็นเข้าได้ เป็นต้น เพื่อให้ทุกคนสามารถได้อย่างสะดวกสบาย
ไม่ไกลกัน จะมีสปาเท้า Siebold’s Bath ถ้าใครไม่มีเวลาแช่ทั้งตัว หรือเดินเที่ยวจนเมื่อยล้า จะแวะมาแช่เท้าที่นี่ก็ได้นะคะ อย่าลืมพกผ้ามาไว้เช็ดเท้าเองนะคะ
โรงอาบน้ำ Siebold’s Bath
ที่อยู่: 818-2 Otsu, Ureshino Town, Ureshino City, Saga
เวลาทำการ: 06.00 – 22.00 น.
วันหยุด: วันพุธในสัปดาห์ที่ 3 ของแต่ละเดือน (กรณีวันพุธเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์จะเลื่อนไปหยุดวันถัดไป)
ค่าใช้จ่าย: ผู้ใหญ่ 420 เยน เด็ก 210 เยน
ห้องอาบน้ำส่วนตัว 50 นาที 2,100 เยน *ผู้ใหญ่ไม่เกิน 5 คน (เกิน 5 คนคิดเพิ่มคนละ 50 เยน)
เว็บไซต์: https://www.warakuen.co.jp/en/
ศาลเจ้ายูโทคุ อินาริ (Yutoku Inari Shrine)
ศาลเจ้ายูโทคุ อินาริสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1687 เป็น 1 ใน 3 ศาลเจ้าอินาริอันเป็นที่สิงสถิตย์ของ “เทพอินาริ” เทพแห่งพืชพันธุ์ธัญญาหารที่สำคัญในญี่ปุ่น ร่วมกับศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ (Fushimi Inari) ในจังหวัดเกียวโต และคาซามะ อินาริ (Kasama Inari) ในจังหวัดอิบารากิ
ในแต่ละปีมีผู้คนประมาณ 3 ล้านคนเดินทางมาสักการะ ขอให้กิจการรุ่งเรือง ครอบครัวมีโชค จับปลาได้มาก ความปลอดภัยด้านการจราจร และเรื่องอื่นๆ
สิ่งที่น่าสนใจภายในศาลเจ้าประกอบด้วยวิหารหลัก (Gohonden), โอคะกุระเดน (Okaguraden), ประตู และอาคารที่สวยงามอื่นๆ ซึ่งได้รับการเคลือบแลคเกอร์และลงสีอย่างงดงาม จนได้รับการขนานนามว่าเป็นศาลเจ้านิกโก้โทโชกูแห่งคิวชู
นอกจากนี้ ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ยังสามารถหาซื้อเครื่องรางหรือโอมิกุจิ ที่ได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ 6 ภาษา ซึ่งหนึ่งในนั้นมีภาษาไทยด้วย
บริเวณประตูหน้าศาลเจ้ามีร้านขายชาชื่อว่า อิจิโนะเสะ-ชะโฮ (Ichinose-chaho) จำหน่ายชาประเภทต่างๆ โดยเฉพาะชาอุเรชิโนะ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขอชิมชารสชาติต่างๆ ได้
Yutoku Inari Shrine
ที่อยู่: Furueda, Kashima, Saga
การเดินทาง: -จากสถานี JR Saga ขึ้นรถบัส Yutoku bus ลงที่ป้ายศาลเจ้า Yutoku Inari ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
-จากสถานี Hizen Kashima (รถไฟสาย JR Nagasaki Main Line) โดยสารรถแท็กซี่ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
เวลาทำการ: ศาลเจ้า เปิด 24 ชั่วโมง
สวน 09.00 – 16.30 น.
พิพิธภัณฑ์ 09.00 – 16.30 น.
วันหยุด: ไม่มีวันหยุด
ค่าใช้จ่าย: ศาลเจ้า เข้าชมฟรี
สวน 200 เยน
พิพิธภัณฑ์ 300 เยน
เว็บไซต์: https://www.yutokusan.jp/en/
โบกมือลาจังหวัดซากะ สำหรับทริปนี้ ขับรถมุ่งหน้าต่อไปเที่ยวกันต่อที่จังหวัดนางาซากิ ระหว่างทางเจอของแปลกๆ เยอะเลย
เพื่อนๆ ในทริป ยกกล้องกดชัตเตอร์กันตลอดทาง 55…. นี่ก็คงเป็นอีกข้อดีของการขับรถเที่ยวแหละเนอะ
เอาล่ะค่ะ อย่าลืมตามเราปเที่ยวกันต่อใน ทริปขับรถเที่ยวเกาะคิวชู 4 จังหวัด Ep.2 จังหวัดนางาซากิ (Nagasaki) กันน้า…..
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– ทริปขับรถเที่ยวเกาะคิวชู 4 จังหวัด Ep.4 จังหวัดโออิตะ (Oita)
– ทริปขับรถเที่ยวเกาะคิวชู 4 จังหวัด Ep.3 จังหวัดคุมาโมโตะ (Kumamoto)
– ทริปขับรถเที่ยวเกาะคิวชู 4 จังหวัด Ep.2 จังหวัดนางาซากิ (Nagasaki)
– Road Trip เที่ยวญี่ปุ่นแบบสวยๆ ไม่เร่งรีบ กินดีนอนหรู ที่โทโฮคุตอนใต้ 3 จังหวัด Ep.2
– เที่ยว 3 เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ แห่งภูมิภาค Tohoku ตอนใต้
#ทริปขับรถเที่ยวเกาะคิวชู 4 จังหวัด Ep.1 จังหวัดซากะ (Saga) #Kyushu #เที่ยวคิวชู