ทริปเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุตอนใต้ 3 จังหวัด ใน Ep.2 นี้ marumura จะพาทุก ๆ คนไปเที่ยวต่อกันที่จังหวัดมิยากิ (Miyagi) รวมถึงจังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima)ที่นี่ก็มีจุดน่าสนใจไม่แพ้ที่อื่นเลย จะไปที่ไหนกันบ้างนั้น ตามเรามากันเลยค่ะ (^^)/
ทริปขับรถเที่ยวรอบโทโฮคุใต้ 3 จังหวัด มาถึง Ep.2 แล้วนะคะ ใครยังไม่ได้อ่าน Ep.1 ตามไปได้ที่นี่นะคะ >> Road Trip เที่ยวญี่ปุ่นแบบสวยๆ ไม่เร่งรีบ กินดีนอนหรู ที่โทโฮคุตอนใต้ 3 จังหวัด Ep.1
ใน Ep.2 นี้ marumura จะพาทุก ๆ คนไปเที่ยวต่อกันที่จังหวัดมิยากิ (Miyagi) รวมถึงจังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) ที่นี่ก็มีจุดน่าสนใจไม่แพ้ที่อื่นเลย จะไปที่ไหนกันบ้างตามเรามากันเลยค่ะ….
• พายซับบอร์ด (SUP Board) ชมวิวอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima)
• ภัตตาคารทะริทสึอัน (Taritsuan)
• ชมวิวที่สะพานธรรมชาติอุมะโนะเสะ (Matsushima Umanose)
• ฟาร์มสเตย์ เซโฮ-เอ็น (Farmhouse Seihou-en)
• ดริฟท์รถสุดมันส์ที่เอบิสึ เซอร์กิต (Ebisu Circuit)
• กินคานิพิราฟุ (Kani Pirafu) ท่ามกลางนกฟลามิงโกตัวเป็น ๆ
• ชมใบไม้แดงที่สวนดอกโบตั๋นสุคะกาวะ (Sukagawa Peony Garden)
• เข้าพักที่อุระบันได เลค รีสอร์ต (Urabandai Lake Resort)
พายซับบอร์ด (SUP Board) ชมวิวอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima)
เช้านี้คณะของเราเช็คเอ้าท์จากที่พักด้วยความอ้อยอิ่ง เที่ยวชิวไปเรื่อย ๆ (ก็ทริปเราเน้นชิว เน้นสบายไง) ^^ v
เมื่อรถที่จองไว้มารับก็เริ่มออกเดินทางสู่เมืองมัตสึชิมะ (Matsushima) ในจังหวัดมิยากิ (Miyagi) กันค่ะ…
เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งต้นสน และทะเลสวย มีกิจกรรมมากมายถูกใจนักเที่ยวสายธรรมชาติ (ว้าวว เข้าทางเราเลย)
อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima) ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 3 สถานที่ที่มีทัศนียภาพที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่นร่วมกับ “อะมะโนะฮะชิดะเตะ (Amanohashidate)” ที่เกียวโต (Kyoto) และ “มิยะจิมะ (Miyajima)” ที่ฮิโรชิม่า (Hiroshima) ประกอบไปด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่จำนวนกว่า 260 เกาะ ดังนั้นใครมาที่จังหวัดมิยากิ (Miyagi) อย่าพลาดที่จะมาเยือนเมืองนี้ดูนะคะ
ด้วยความงดงามของวิวซึ่งประกอบไปด้วยเกาะแก่งมากมาย นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจึงนิยมมาล่องเรือชมอ่าว แล้วก็มาชิมหอยนางรมสด ๆ ปลาไหลทะเลอะนาโงะ (Anago) กัน นี่ถือเป็นกิจกรรมที่ “ต้อง” ทำที่มาเยือนมัตสึชิมะ (Matsushima) กันเลยทีเดียว 😉
นอกจากที่แนะนำด้านบนแล้ว ตอนนี้ยังมีกิจกรรมที่กำลังมาแรงในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima) อีกอย่างหนึ่งก็คือ การเล่น SUP Board (Stand Up Paddle Board) ซึ่งเหมาะกับนักท่องเที่ยวสาย activity ที่ชื่นชอบการทำกิจกรรมกลางแจ้งมาก ๆ
ไหน ๆ ก็มาถึงแล้วอย่าให้เสียเที่ยว ไปลองพายซับบอร์ด (SUP Board) ชมวิวอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima) ให้จุใจกันค่ะ…
ครั้งนี้เราจองกิจกรรมกับโรงเรียน “Yayu Sup” ไกด์ใจดี น่ารักมาก ๆ ค่ะ ให้คำแนะนำอย่างละเอียด ตั้งแต่ทั้งวิธีใส่ชุด Wetsuit ไปจนถึงวิธีพายเรือเลยแหละจ้า 😉
ฟังวิธีพายเรือที่ปลอดภัย และข้อควรระวังต่าง ๆ กันแล้วก็ลุยกันเลย ….
พายซับบอร์ดของ Yayu Sup มีให้เลือกหลายเส้นทาง และเนื่องจากเป็นการพายเรือบนท้องทะเล ตอนจองควรปรึกษาไกด์ล่วงหน้าว่าไปเส้นทางไหนได้บ้าง แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้น ๆ ด้วยนะคะ…
ระหว่างพายเรือเราจะได้สัมผัสกับท้องทะเลอย่างใกล้ชิด เห็นวิวของอ่าวแบบจุใจ ที่ไม่สามารถเห็นจากด้านบนได้ สายลมที่พัดมาเอื่อย ๆ พร้อมกลิ่นอายของทะเล เมื่อปะทะกับหน้าแล้วให้ความรู้สึกที่ดีมาก ๆ ค่ะ
ระหว่างทางมีผู้คนที่มาเดินเที่ยว เดินข้ามสะพานโบกไม้โบกมือทักทายกันน่ารักเชียวค่ะ จากมุมที่เราพายเรือก็จะมองเห็นอุโบสถโกะไดโด (Godaido) ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญอีกจุดของคนที่มาเที่ยวในจุดนี้กัน และเราสามารถพายเรือเข้าไปถ่ายรูปใกล้ ๆ ได้ด้วยค่ะ (แต่ควรระมัดระวัง ไม่เข้าใกล้มากเกินไป และต้องอยู่ในคำแนะนำของไกด์ตลอดเวลานะคะ)
ถ่ายรูปกับไกด์คนเก่งของเราก่อนกลับเป็นที่ระลึกสักหน่อย…..
ได้สัมผัสกับท้องทะเล และแสงแดดชมเกาะแก่งต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ออกแรงให้อะดรีนาลีนพลุ่งพล่านกันจุใจแล้ว ท้องก็เริ่มร้อง ดังนั้นเราไปหาของอร่อย ๆ รับประทานกันค่ะ…
พายซับบอร์ด (SUP Board) ชมวิวอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima)
การเดินทาง: จากสถานี Sendai ขึ้นรถไฟสาย Senseki Line ลงที่สถานี Matsushimakaigan ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
เว็บไซต์: https://www.yayusup.org/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ภัตตาคารทะริทสึอัน (Taritsuan)
ร้านอาหารเก่าแก่ริมอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima) เปิดทำการเมื่อปีค.ศ. 1937 เน้นเสิร์ฟเมนูอาหารทะเลสดใหม่ที่เลือกใช้วัตถุดิบจากในท้องถิ่นเป็นหลักกับบรรยากาศที่นั่งที่สามารถมองเห็นวิวของอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima) ได้อย่างสวยงามเลยค่ะ
เมนูขึ้นชื่อของร้านคือข้าวหน้าปลาไหลทะเล “อะนาโงะ ฮิสึมะบุชิ” (Anago Hitsumabushi) ปลาไหลทะเล หรืออะนาโงะ (Anago) ที่เชฟคัดสรรมาอย่างดี ย่างจนหอมกรุ่น ราดด้วยซอสหวานสูตรลับเฉพาะที่เลือกใช้โชยุที่ผลิตจากถั่วเหลืองจากจังหวัดมิยากิ (Miyagi) จนชุ่มฉ่ำ เมนูที่ทีมงานเลือกวันนี้จะเป็นแบบจิราชิ (Jirashi) ค่ะ ตกแต่งมาสวยมากกก
นอกจากนี้ยังมี เมนูหอยนางรมทอดกรอบ ที่เราอยากแนะนำค่ะ ทางร้านเลือกใช้หอยนางรมจากจังหวัดมิยากิ (Miyagi) ชุบแป้งแล้วนำไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ ที่ควบคุมอุณหภูมิเป็นอย่างดีถึง 2 ครั้ง เพื่อความกรอบอร่อย ทานคู่กับซอสสูตรพิเศษ แต่จะมีเฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น ใครมาช่วงฤดูหนาวอย่าลืมลองสั่งมาชิมนะคะ…
ภัตตาคารทะริทสึอัน (Taritsuan)
พิกัด: https://g.page/taritsuan?share
การเดินทาง: จากสถานี Sendai ขึ้นรถไฟสาย JR Senseki Line ลงที่สถานี Rikuzen-Hamada จากนั้น เดินประมาณ 12 นาที
เวลาทำการ: 11.00 – 15.00 น. (ออร์เดอร์สุดท้าย 14.00 น.)
เว็บไซต์: https://gurunavi.com/en/t044203/rst/ (ภาษาอังกฤษ)
https://www.ichinobo.com/taritsuan/ (มีปุ่มเลือกเป็นภาษาอังกฤษ)
ชมวิวที่สะพานธรรมชาติอุมะโนะเสะ (Matsushima Umanose)
ขับรถเที่ยวไปเรื่อย ๆ บนถนนหลวงหมายเลข 45 มุ่งหน้าไปยังที่พักของเราในคืนนี้ ระหว่างทางเราก็แวะถ่ายรูปชมความสวยงามของอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima) ไปเรื่อย ๆ ค่ะ คนขับรถแนะนำมาว่า มีสะพานธรรมชาติน่าสนใจอยู่ที่นึง ชื่อว่าอุมะโนะเสะ (Matsushima Umanose) ไหน ๆ ก็ผ่านอยู่แล้ว เเวะไปดูกันสักนึดนึงค่ะ…
มาถึงแล้ว ที่จอดรถจอดได้ประมาณ 3 – 4 คัน นะคะ และทางลงจะค่อนข้างชันเดินระมัดระวังกันหน่อยน้าาา … เดินมาสักนิดก็จะเจอกับป้ายนี้ แสดงว่ามาถูกทางแล้วจ้า ไม่หลงแน่ ๆ เดินไปสักพักก็จะเจอกับวิวที่ชวนให้ร้องว้าวไม่หยุดเลยค่ะ ….
ถ้าใครที่ไม่แวะรับประทานข้าวในร้านอาหาร จะซื้อข้าวกล่องมานั่งชิว ๆ ตรงจุดนี้ก็ได้นะคะ วันที่อากาศดี ๆ นั่งกินข้าวกันตรงนี้ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ อีกอย่างในการท่องเที่ยวเลยแหละ ภัตตาคารทะริทสึอัน (Taritsuan) ที่เราไปมากันเมื่อครู่นี้ก็มีบริการข้าวกล่องเช่นกันค่ะ หน้าตาแบบนี้เลย ข้าวกล่องหอยนางรม อัดแน่นมากกก (รูปนี้ขอยืมข้าวกล่องเพื่อนในคณะอีกท่านมาถ่ายค่ะ55)
สะพานธรรมชาติอุมะโนะเสะ (Matsushima Umanose)
พิกัด: https://goo.gl/maps/WtzkJtHLAPYxGQUBA
เว็บไซต์: https://www.town.rifu.miyagi.jp/gyosei/chosei/koho_kocho/3/3041.html (ภาษาญี่ปุ่น)
ฟาร์มสเตย์ เซโฮ-เอ็น (Farmhouse Seihou-en)
เอาล่ะค่ะ มาถึงไฮไลท์ของวันนี้กันแล้ว ไปแปลงร่างเป็นสาวชาวสวนที่บ้านฟาร์มสเตย์กันค่ะ…
การมาพักที่บ้านฟาร์มสเตย์เป็นอีกกิจกรรมที่ผู้เขียนตื่นเต้นมาก ๆ ในทริปนี้ จะมีอะไรให้สนุกบ้าง ตามมากันเลยค่ะ…
จากจังหวัดมิยากิ (Miyagi) มุ่งหน้าสู่จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) เข้าที่พักของเราในค่ำคืนนี้ค่ะ ฟาร์มสเตย์ เซโฮ-เอ็น (Farmhouse Seihou-en) ตั้งอยู่ที่เมืองนิฮมมัตสึ (Nihommatsu) จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) เป็นบ้านของชาวไร่ชาวสวนที่มีอายุเก่าแก่กว่า 130 ปี ปัจจุบันได้ดัดแปลงมาเป็นฟาร์มสเตย์ที่เน้นการท่องเที่ยวแบบกรีนทัวร์ริซี่ม
ส่วนของโถงกลาง เพดานสูงโปร่ง มีเตาผิงไฟแบบโบราณ มีร้านขายผักที่เก็บมาสด ๆ จากสวนของตัวเอง เช่น ผักโขม ยอดทาระ และสวนของชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง เจ้าของบ้านสามี-ภรรยาที่พร้อมต้อนรับทุกคนด้วยความอบอุ่นแบบ “โอโมเตะนาชิ”
การมาพักที่บ้านชาวสวนก็เป็นประสบการณ์ที่อยากให้ทุก ๆ คนได้มาลองกันสักครั้งนะคะ อบอุ่น และสนุกจนยากจะลืมเลยแหละ…
เสน่ห์อีกอย่างของการพักฟาร์มสเตย์ก็คือ เขาจะมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้เราได้ร่วมทำกัน แต่ละที่ก็จะแตกต่างกันไป บ้านที่เรามาพักมีกิจกรรมเยอะเลยค่ะ ในแต่ละฤดูกาลก็จะผลัดเปลี่ยนไป เช่น เก็บผักตามฤดูกาล / ตำโมจิ / ทำโอะโคะวะ (ข้าวอบ) / ทำมิโสะ (เฉพาะฤดูหนาว) / ลูกบอลมอสส์ (コケ玉) / ปลูกดอกไม้ตามฤดูกาล / พิธีชงชา เป็นต้น
มาถึงบ้านคุณพ่อ คุณแม่ (ขออนุญาตใช้แทนคำว่าเจ้าของบ้านนะคะ เพราะเจ้าของบ้านก็ให้เราเรียกแบบนี้เช่นกัน) จัดการเก็บสัมภาระแล้ว ก็ถึงเวลากิจกรรมเราแล้วค่ะ
อย่างแรกคือ ช่วยคุณพ่อไปเก็บผักโขมมาทำอาหารเย็นวันนี้ จากบ้านเดินไปแค่นิดเดียวก็ถึงโรงเรือนแล้วค่ะ แปลงผักเขียวชอุ่ม ใบใหญ่งามมาก ๆ เลย คุณพ่อสอนวิธีเก็บว่าจะต้องเลือกกอผักแบบไหนถึงจะอร่อย เหมาะกับเมนูที่จะเอาไปปรุง ส่วนเมนูของเราค่ำนี้คือชาบูชาบูค่ะ
ใช่แล้ว!! ชาบูชาบู ที่มีผักโขมเป็นวัตถุดิบหลัก ไม่ใช่เนื้อ!! โอววว แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว รสชาติจะเป็นยังไงนะ…
เก็บมาได้เยอะเลยค่ะ กลับบ้านกันเถอะ ….
มาถึงบ้าน คุณแม่ก็เรียกไปที่ห้องเสื่อทาตามิด้านใน ว้าววว …. ชุดกิโมโนที่เย็บเองกับมือหลากสี ลวดลายวางเรียงเต็มเลยค่ะ ไหน ๆ ก็มาแล้ว จัดเต็มสิคะรออะไร แต่เอ๊ะ…. คุณแม่ขาาาาาาา~ ทำไมใส่ชุดแล้วคอหนูหายคะ ….. ตันเป็นตุ่มน้ำเลยค่ะคุณแม่~ 5555
อ่ะ ไม่เป็นไร หันข้างนิด ๆ ยืด ๆ คอหน่อย บิดซ้าย บิดขวาอีกนิด นั่นไง… ผอมแล้วเห็นมั้ยล่า~ 55
เปลี่ยนชุดแล้วไปสนุกกันต่อค่ะ กิจกรรมต่อไปคือ ทำดังโงะ (Dango) คุณแม่ค่อย ๆ สอนวิธีทำซอสสำหรับราดดังโงะ วิธีทำก็จะเริ่มจากการค่อย ๆ เอาเมล็ดงาไปบดในครกสไตล์ญี่ปุ่น จากนั้นก็ผสมเต้าเจี้ยวมิโสะ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จสรรพ
ฟังดูเหมือนง่ายใช่มั้ย ไม่เลย555 กว่าจะบดให้งาละเอียดเป็นเนื้อครีมได้เล่นเอาเหงื่อตกไปเหมือนกันนะ แต่สนุกมากค่ะ คุณแม่สอนไปหยอดมุกไป เฮฮากันสุด ๆ ค่ะ….
จากนั้นก็เป็นการทำแป้งดังโงะค่ะ นวดแป้งให้เข้ากันแล้วปั้นเป็นก้อน ๆ จากนั้นนำไปต้มค่ะ แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนนึงไว้ราดซอสงารับประทานเป็นของกินเล่น อีกส่วนนึงไปใส่ซุปอาหารมื้อค่ำของเราค่ะ
ทาด้า ~ เป็นไง น่าอร่อยมั้ยคะ ซอสงารสเข้มข้น ฝีมือเราเอง~
มีโซบะสึยุ (น้ำที่ใช้ต้มเส้นโซบะ) ด้วยค่ะ ดื่มได้เฉพาะเวลาเรานวดแป้งเองแล้วเอาไปต้มนะคะ ในน้ำต้มนี้มีสารอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกายมาก ๆ รสละมุนดื่มแล้วรู้สึกสบายท้องดีค่ะ เวลาใครไปกินโซบะตามร้านที่เค้านวดแป้งเองลองขอดูนะคะ (แต่ส่วนมากทางร้านจะยกมาให้เลย)
อิ่มหนำกันจนพุงแทบจะแตกดังเปรี๊ยะ ๆ แล้วก็ได้เวลาพักผ่อนกันค่ะ ห้องนอนของเราในคืนนี้เป็นห้องเสื่อทาตามิ มีฟูกนอนนุ่ม ๆ อุ่น ๆ แค่เอาตัวเข้าไปซุกก็ไม่อยากตื่นแล้วจ้า
เช้านี้ตื่นมาพร้อมกับแสงแดดสดใส ออกไปเดินเล่นรอบ ๆ บ้าน ดูแปลงผักกันอีกที อากาศเย็น ๆ มีแม่คะนิ้งลงด้วยค่ะ จากนั้นก็กลับไปกินข้าวเช้ากัน พร้อมออกเดินทางไปเที่ยวกันต่อแล้ว เช้านี้เราจะเปลี่ยนธีมจากสาวชาวสวนเป็นสาวเฟี้ยวเฉี่ยวสุด ๆ ด้วยการไปดริฟท์รถกันค่ะ!!
ฟาร์มสเตย์ เซโฮ-เอ็น (Farmhouse Seihou-en)
พิกัด: https://goo.gl/maps/JZX2aFFcZ3qqGpHn9
ราคาที่พัก:
ห้อง 10 เสื่อ (1-5 คน)
พักอย่างเดียว 4,400 เยน / คน
พัก 1 คืน อาหาร 2 มื้อ 7,700 เยน / คน
เวลาทำการ: เช็คอิน 16.00 – 20.00 น. / เช็คเอ้าท์ ก่อน 09.00
การเดินทาง: จากทางออก Nihonmatsu IC ทางด่วน Tohoku Expressway เดินทางโดยรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที หรือจากสถานี Nihonmatsu เดินทางโดยรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
เว็บไซต์: https://seihouen.site/experience/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ดริฟท์รถสุดมันส์ที่เอบิสึ เซอร์กิต (Ebisu Circuit)
ที่จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) มีที่ให้บริการดริฟท์รถที่ชื่อว่าเอบิสึ เซอร์กิต (Ebisu Circuit) โดยจะนำรถแท็กซี่ที่ดัดแปลงเป็นรถสำหรับใช้ในการดริฟท์โดยเฉพาะมาให้บริการ ให้เราได้สัมผัสประสบการณ์การนั่งรถดริฟท์ขึ้นลงเขาอันสุดหวาดเสียว และระทึกใจไปพร้อมกัน
ด้านในรถจะมีที่นั่งบัคเก็ทซีท (bucket seat) แบบที่เราเห็นนักแข่งรถนั่งกัน โดยติดตั้งไว้ทั้ง 4 ที่นั่ง สามารถสนุกไปพร้อมกันได้พร้อมกันถึง 3 คน (นั่งข้างคนขับ 1 ข้างหลัง 2 คน) ไม่ต้องกังวลนะคะ คนขับเป็นนักดริฟท์รถมือโปรที่ลงแข่งตัวจริงเสียงจริงเลยแหละค่ะ คอร์สมีหลายแบบให้เลือกนะคะ ทั้งกรี๊ดดดดดดแบบพอดีพองาม กับกรี๊ดดดดแบบ ลืมสวยกันทีเดียวก็มีค่ะ55
ใครที่ชอบกิจกรรมโลดโผน ประสบการณ์เที่ยวที่แปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร ลองไปดูสักครั้งนะคะ สนุกสุดเหวี่ยงเลยแหละ นั่งรถเท่ ๆ ท่ามกลางวิวเทือกเขาสวย ๆ แล้วกรี๊ดให้ลั่น ปลดปล่อยพลังให้สุด ๆ กันไปเลยค่ะ…
อ่ะ มาเล่าถึงความรู้สึกตอนอยู่ในรถกันสักนิดนะคะ มันอาจเป็นความรู้สึกที่อธิบายยากนิดนึง ทันทีที่เหยียบสนามหัวใจเต้นรัว ๆ ตื่นเต้นมาก ๆ ค่ะ และพอยินเสียงสตาร์ทรถ บอกตรง ๆ ว่าขนลุกเลย ลมเย็น ๆ พัดกลิ่นละอองน้ำมันเครื่องสัมผัสที่ปลายจมูกเบา ๆ มันเป็นอะไรที่กู้ดดดดดดดดดด กู้ดดดดดสุด ๆ อะดรีนาลีนพลุ่งพล่านตั้งแต่ยังไม่ขึ้นรถเลยค่ะ55
เมื่อรับหมวกกันน็อกจากคนขับแล้วก็ขึ้นรถกันค่ะ คนขับจะแนะนำว่าควรนั่งยังไง ร่างกายจะได้ไม่กระเทือน และอธิบายในเรื่องความปลอดภัยอื่น ๆ เช่น เวลาขึ้นลงรถด้วยค่ะ
รอบแรกจะค่อย ๆ ขับพาไปดูว่าสนามเป็นลักษณะยังไง จะเร่งสปีดตรงจุดไหน และลองดริฟท์เบา ๆ ให้เราได้พอทราบชะตา555 ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ ๆๆ
จากนั้นก็วนมาจุดเริ่มแล้วพุ่งตัวดริฟท์ ๆๆๆ และ ดริฟท์ ๆๆๆๆๆ เสียงนี่กระหึ่ม รถสะบัดแต่ละทีลุ้นสุด ๆ ค่ะ ดุดัน ร้อนแรงสุด ๆ โค้งแรก ๆ แอบตกใจ และคิดว่า ชั้นมาทำอะไรตรงนี้5555 คิดดีแล้วใช่มั้ย55 แต่พอเข้าโค้งต่อ ๆ ไปความสนุกเร้าใจ แบบที่หายไปจากใจหลายปี (ตั้งแต่ริ้วรอยบนหางตายังไม่ขึ้น55) มันพุ่งกลับมาแบบจุก ๆ
โอ้ยยยยย คือมันดีมากกกกก คนขับมีความชำนาญสุด ๆ ค่ะ ราวกับสั่งได้ว่าต้องหักเลี้ยวเมื่อไหร่ หมุนกี่ตลบ
พอเห็นเราหัวเราะชอบใจ แหม่ หันมาหัวเราะกับเราอีก คุณพี่~มองข้างหน้าค่ะ~ ไม่ต้องหันมายิ้มมมม ใจสั่นไม่ไหวล้าวววว แอบกลัวเด้ออออ 555
พอลงรถมาเพิ่งรู้ตัวว่ากลิ่นไหม้ของยางรถแรงมาก ไอแค๊ก ๆ เลยค่ะ55 จากตอนแรกที่แอบหวั่น ๆ ตอนนี้กลายเป็นติดใจหนักขึ้นไปอีก ขอขึ้นอีกรอบเปลี่ยนไปวนอีกสนาม
โอ้โห~ คราวนี้คุณพี่คนขับ สะบัดแบบไม่เกรงใจเลยจ้า ควันฟุ้งงงง กลิ่นตลบเลยค่ะ สนุก และเร้าใจแบบสุดเหวี่ยงสมที่รอคอยจริง ๆ ไม่อยากให้จบเลยค่ะ 555
ถ้ามีโอกาส อยากให้ทุกคนได้ลองมานั่งดูนะคะ
อ่ะ ที่อธิบายมาอาจไม่พอ ดูหน้าคนฟินเฟ่อร์ ยิ้มแก้มตุ่ยลงจากรถเป็นหลักฐานได้เลย55
เอบิสึ เซอร์กิต (Ebisu Circuit)
ราคา: 30,000 เยน (รถ 1 คัน รับผู้โดยสารได้ 3 คน) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ค่าประกันภัย: 500 เยนต่อคน
พิกัด: https://goo.gl/maps/spEFCPLfKx82FSgg8
เว็บไซต์: http://www.ebisu-circuit.com/2019top/english3.pdf (ภาษาอังกฤษ)
กินคานิ พิราฟุ (Kanipirafu) ท่ามกลางนกฟลามิงโกตัวเป็น ๆ
หลังจากเที่ยวกันแบบสุดเหวี่ยงให้อะดรีนาลีนพลุ่งพล่านกันแต่เช้าอีกวันแล้ว ไปหาของอร่อย ๆ กันต่อเถอะค่ะ มื้อกลางวันนี้จะพาไปกินข้าวผัดปูในร้านอาหารที่แปลก แหวกแนวกันจ้าาาา 🦀🌾
ซีฟู้ด เรสเทอรองท์ เม็กซิโก (Seafoods Restaurant MEXICO) สาขาโคริยามะ (Koriyama) เป็นร้านอาหารที่เน้นเมนูปูเป็นหลัก ภายใต้แนวคิด “คำนึงถึงเรื่องสุขภาพผ่านอาหารการกิน” มีอาคารฟลามิงโก ที่มีนกฟลามิงโกตัวเป็น ๆ ให้ดูด้วย บรรยากาศแปลกใหม่มากสำหรับการทานอาหารที่เหมือนพาเราหลุดไปอีกโลกหนึ่งเลยค่ะ…
“คานิ พิราฟุ (Kanipirafu)” หรือ ข้าวผัดเนยใส่ปู เป็นเมนูขึ้นชื่อร้านซีฟู้ด เรสเทอรองท์ เม็กซิโก (Seafoods Restaurant MEXICO) ที่ขายดีมาช้านาน ใครมาแล้วต้องสั่ง เนื้อปูที่ใส่มาล้น ๆ ไม่หวงของ และราคาที่สมเหตุสมผล ร้านนี้จึงกลายเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าในละแวกนี้กันมาก ๆ ค่ะ วันที่เราไปก็มีคนญี่ปุ่นที่อยู่ในย่านใกล้เคียงมารับประทานกันเกือบเต็มทุกโต๊ะเลย
อีกเมนูที่อยากแนะนำคือ ข้าวผัดสเต็กเนื้อค่ะ ตอนพนักงานยกมาเสิร์ฟ หอมกลิ่นเนย และกระเทียมมาแต่ไกลเลย รสกลมกล่อมมาก ๆ แนะนำให้ลองค่ะ นอกจากนี้ยังมีเมนูพาสต้า และอื่น ๆ ให้เลือกหลายอย่างเลยค่ะ
ซีฟู้ด เรสเทอรองท์ เม็กซิโก (Seafoods Restaurant MEXICO)
เวลาทำการ: 11.00 – 22.00 น. (รับออเดอร์ถึง 21.00 น.)
พิกัด: https://goo.gl/maps/WPz4BKzv4tfhYaBg6
การเดินทาง: จากทางด่วน Tohoku Expressway ทางออก Koriyama IC เดินทางโดยรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 1 นาที
เว็บไซต์: http://www.mehico.com/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ชมใบไม้แดง ที่สวนดอกโบตั๋นสุคะกาวะ (Sukagawa Peony Garden) สวนดังแห่งจังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima)
อิ่มอร่อยกับข้าวผัดปูจานโต และชมความน่ารักของเหล่านกฟลามิงโกกันแล้วเราไปเดินย่อยชมใบไม้แดงสวย ๆ กันต่อค่ะ
จุดที่เรามาเป็นสวนดอกโบตั๋นเก่าแก่ ขนาดใหญ่เป็น 3 เท่าของ Tokyo Dome เลยทีเดียว ช่วงที่ไปไม่ใช่ฤดูที่ดอกโบตั๋นบาน แต่จะมีใบไม้แดงสวย ๆ ให้ได้ไปชม และเก็บรูปสวย ๆ กันค่ะ
สวนดอกโบตั๋นสุคะกาวะ (Sukagawa Peony Garden) มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 250 ปี ในปี ค.ศ. 1766 อิโต ยูริน (Itou Yurin) ซึ่งเป็นพ่อค้าขายยารักษาโรคในขณะนั้นได้นำต้นกล้าจากเมืองทาคาระซึกะ (Takarazuka) จังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) มาเพาะปลูกเพื่อนำมาใช้เป็นยา ต่อมาในปี ค.ศ. 1932 ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นจุดชมวิวระดับชาติ ซึ่งนับเป็นสวนโบตั๋นเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียน
ภายในสวนมีขนาดใหญ่ กว้าง 10 เฮกเตอร์ ปลูกดอกโบตั๋นไว้ทั้งหมด 290 สายพันธุ์ เมื่อถึงช่วงฤดูกาลออกดอก (ช่วงพีค คือปลายเดือนเม.ย. – ต้นเดือนพ.ค.) ดอกโบตั๋นขนาดใหญ่จำนวน 7,000 ดอก จะแข่งกันออกดอกบานสะพรั่งไปทั่วทั้งสวนค่ะ
นอกจากนี้ยังมีสายพันธุ์พิเศษหายาก ที่สามารถพบเห็นได้เฉพาะที่สวนแห่งนี้เท่านั้น เช่น สายพันธุ์โชวะโนะยูเมะ (Showa no yume), สายพันธุ์สุคะกาวะ โนะ โฮะโฮะเอมิ (Sukagawa no hohoemi), สายพันธุ์โทเรียะคุ (Toryoku) ที่ทางเมืองลั่วหยาง จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ส่งมาเชื่อมสายสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และต้นโบตั๋นเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักต้นไม้ และดอกไม้เลยทีเดียว ดังนั้นต้องไม่พลาดที่จะหาโอกาสไปเที่ยวชมกันนะคะ(^^)/
สวนดอกโบตั๋นสุคะกาวะ (Sukagawa Peony Garden)
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 500 เยน / เด็กนร.ประถม-มัธยมต้น 200 เยน (ช่วงฤดูกาลชมดอกโบตั๋น : ต้น – กลางเดือน พ.ค.จะมีการเก็บค่าเข้าชม)
เวลาทำการ: 08.30 – 17.00 น.
การเดินทาง: จากสถานี JR Sukagawa ของรถสาย Tohoku Main Line เดินทางโดยรถแท็กซี่ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที หรือจากสถานี JR Kawahigashi ของรถไฟสาย Suigun Line) เดินทางโดยรถแท็กซี่ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
พิกัด: https://goo.gl/maps/pQZKvNYnBtudqRdE6
เว็บไซต์: https://fukushima.travel/destination/sukagawa-botan-en-peony-garden/154 (ภาษาอังกฤษ)
อุระบันได เลค รีสอร์ต (Urabandai Lake Resort)
โรงแรมขนาดใหญ่ริมทะเลสาบฮิบะระ (Hibara) ของที่ราบสูงบันได (Mt. Bandai) เราพักกันที่ตึก Geihinkan Nekoma Rikyu เป็นตึกที่แยกออกมาจากอาคารหลักของอุระบันได เลค รีสอร์ต (Urabandai Lake Resort) อีกทีค่ะ โดยจะเน้นความหรูหราโอ่อ่า ทันสมัย ให้ความเป็นส่วนตัวแตกต่างกันออกไปค่ะ ที่สำคัญโรงแรมนี้อยู่ไม่ไกลจากจุดท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่ง เช่น บึงห้าสีโกะชิคินุมะ (Goshikinuma) และลานสกีที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาอย่างล้นหลามในช่วงฤดูหนาวค่ะ
ห้องโถงที่ออกแบบให้มีลักษณะที่โปร่ง มีหลังคาสูงโทนสีขาว ประดับด้วยโคมไฟระย้าหรูหราสวยงาม มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นผสานกับ ความหรูหราคลาสสิคในสไตล์ยุโรป หากใครที่มองหาที่พักดี ๆ ระหว่างทริปแล้วล่ะก็ ที่นี่ตอบโจทย์แน่นอนค่ะ…
ห้องพักกว้างมาก ๆ เตียงใหญ่นุ่ม หลับสบายสุด ๆ ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แยกสัดส่วนชัดเจน รับรองว่าจะได้ความสะดวกสบาย และผ่อนคลายได้อย่างเต็มค่ะ นอกจากนี้ยังมีห้องอนเซ็นสำหรับผู้ที่พักตึก Geihinkan Nekoma Rikyu โดยเฉพาะด้วย ถึงแม้ขนาดบ่อจะไม่อลังการเหมือนฝั่งตึก Urabandai Lake Resort แต่คุณภาพของน้ำแร่อนเซ็นไม่ต่างกันเลย และยังมีความเป็นส่วนตัว และดูแพงมาก ๆ ค่ะ
แช่อนเซ็นกันแล้ว ถึงเวลาอาหารค่ำของเราแล้วค่ะ ค่ำนี้แปลงร่างมาเป็นคุณนายนั่งรับประทานอาหารฝรั่งเศสกันที่ Main Dining Room MAPLE ห้องอาหารขนาดกำลังพอดีเห็นวิวทะเลสาบจากผ่านกระจกบานใหญ่ ในแต่ละวันรับจองแค่ไม่กี่โต๊ะนะคะ ใครที่ดูรีวิวนี้แล้วสนใจแนะนำให้รีบจองแต่เนิ่น ๆ ค่ะ
เมนูของเราในคืนนี้เป็นอาหารสไตล์ฝรั่งเศสที่เน้นใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นมารังสรรค์ปรุง และบรรจงตกแต่งลงในแต่ละจาน นอกจากอาหารที่แสนอร่อยแล้ว ยังมีซอมเมอลิเยร์ (Sommelier) คอยช่วยแนะนำเครื่องดื่มที่เหมาะกับอาหารแต่ละจานให้เราด้วยค่ะ …
ส่วนอันนี้เป็นเมนูอาหารเช้าของวันรุ่งขึ้นที่ได้รับประทานมาค่ะ อร่อยทุกเมนูจริง ๆ ขนมปังหลายแบบอบใหม่กรอบ มาพร้อมกับ ไข่ Scrambled eggs นุ่ม ๆ และสลัดผักสดลงตัวกันอย่างที่สุดค่ะ
หลังอาหารค่ำเดินไปดูในโซนตึก Urabandai Lake Resort กันค่ะ มีสิ่งอำนวยความสะดวก และนันทนาการต่าง ๆ มากมายไว้คอยบริการ ไม่ว่าจะเป็น จุดทำเวิร์กช็อป Art Gallery เลานจ์ ไนต์คลับ ห้องคาราโอเกะ ห้องจัดเลี้ยง ห้องประชุม ห้องอาบน้ำรวมขนาดใหญ่ ซาวน่า ห้องอนเซ็นกลางแจ้ง ร้านค้า ตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติ โต๊ะสนุกเกอร์ และโซนเกมส์ เป็นต้น
อุระบันได เลค รีสอร์ต (Urabandai Lake Resort)
พิกัด: https://goo.gl/maps/Ve2DgDK5Q1oni1Zw7
เว็บไซต์: https://www.lakeresort.jp/niji/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ความสนุกของ Road Trip เที่ยวญี่ปุ่น ที่โทโฮคุตอนใต้ 3 จังหวัดของเรายังไม่จบนะคะ ใน Ep. ต่อไปเราจะพาไปเที่ยวกันต่อที่จังหวัดยามากาตะ (Yamagata) อีกหนึ่งจังหวัดที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และอาหารแสนอร่อยมากมาย อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ…
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– Road Trip เที่ยวญี่ปุ่นแบบสวยๆ ไม่เร่งรีบ กินดีนอนหรู ที่โทโฮคุตอนใต้ 3 จังหวัด Ep.3
– Road Trip เที่ยวญี่ปุ่นแบบสวยๆ ไม่เร่งรีบ กินดีนอนหรู ที่โทโฮคุตอนใต้ 3 จังหวัด Ep.1
– โทโฮขุ (Tohoku) อีสานแห่งญี่ปุ่น
– เที่ยว 3 เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ แห่งภูมิภาค Tohoku ตอนใต้
– เที่ยวภูมิภาคโทโฮขุ ตอน สัมผัสมนต์เสน่ห์ฤดูหนาว
– เที่ยวภูมิภาคโทโฮขุ ตอน ธรรมชาติแสนงามกับเทศกาลฤดูร้อน
#Road Trip เที่ยวญี่ปุ่นแบบสวย ๆ ไม่เร่งรีบ กินดีนอนหรู ที่โทโฮคุตอนใต้ 3 จังหวัด Ep.2 #South Tohoku