ในฤดูใบไม้ผลิ ปราสาทนาโงย่าก็เป็นสถานที่ชมดอกซากุระยอดนิยม ที่นี่มีต้นซากุระกว่า 1,600 ต้น ตอนกลางคืนก็มีการประดับไฟสร้างบรรยากาศการชมซากุระยามค่ำคืนให้น่าสนใจเพิ่มขึ้น น่าไปชมมากๆ
ปราสาทญี่ปุ่นซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์เป็นของตนเองนั้น สมัยก่อนถูกสร้างขึ้นมากมาย ปัจจุบันเราจึงเห็นว่ามีปราสาทเก่าแก่แสดงความเจริญรุ่งเรืองในอดีตของญี่ปุ่นอยู่ทั่วไป เกือบจะทุกจังหวัด ที่จะกล่าวถึงในครั้งนี้ก็คือ ปราสาทนาโงย่า ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองนาโงย่า จังหวัดไอจิ ทางตอนกลาง (Central Japan) ของเกาะฮอนชู เกาะใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น
ปราสาทแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นในสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603 – 1867) โดยตระกูล Tokugawa สมัยโชกุน Tokugawa Ieyasu ให้เป็นที่พำนักของ Owari Tokugawa
เริ่มสร้างตั้งแต่ค.ศ. 1610 สร้างเสร็จสิ้นในค.ศ. 1612 เป็นปราสาท 7 ชั้น ไม่รวมชั้นฐาน ซึ่งปัจจุบันตัวปราสาทถูกจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ความรู้เกี่ยวกับปราสาทเกือบทั้งหมด สามารถเข้าชมได้ตั้งแต่ชั้น B, 1F, 2F, 3F, 4F, 5F และ 7F (ชั้นของฝากและจุดชมวิว) แต่ไม่สามารถเข้าชมที่ชั้น 6F ได้นะ บางโซนห้ามถ่ายรูป บางโซนห้ามใช้แฟรซเวลาถ่ายรูป ต้องคอยสังเกตกันให้ดีๆ
ลักษณะเด่นของปราสาทนาโงย่าก็คือที่บริเวณป้อมปราการของปราสาทมีปลาคาร์ฟทองคำ ซึ่งมีหัวเป็นสิงโตประดับอยู่ ถือว่าเป็นปลาคาร์ฟทองคำประดับปราสาทซึ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยทีเดียว โดยหากวัดที่ความสูงแล้ว แต่ละตัวสูงถึง 2.7 เมตร ชุบทองคำ 18K มากถึงประมาณ 90 กิโลกรัม!!
เจ้าปลาคาร์ฟหัวสิงห์ที่ทำด้วยทองคำนี้ เรียกว่า “kinshachi” ซึ่งก็หมายถึง “shachihoko” สัตว์ในตำนานญี่ปุ่นชนิดหนึ่งที่ทำด้วยทองคำนั่นเอง โดย shachihoko นั้นมีตัวเป็นปลาคาร์ฟ มีหัวเป็นสิงห์ ตามความเชื่อโบราณ shachihoko มีอำนาจเรียกฝนได้
สถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมจึงนิยมประดับ shachihoko ไว้ตามหน้าจั่ว เพื่อช่วยคุ้มครองยามเกิดไฟไหม้ นัยว่าจะช่วยดับไฟได้ (มั้ง)
สำหรับที่ปราสาทนาโงย่าจะมี shachihoko หรือ kinshachi (shachi ทองคำ) 2 ตัว (1 คู่) ซึ่งแสดงถึงความมีอำนาจแล้วก็ความมั่งคั่งของตระกูล Tokugawa ในสมัยก่อนได้อย่างชัดเจนทีเดียว
โดยเจ้า shachi ตัวทางทิศใต้เป็นตัวเมีย ส่วน shachi ตัวทางทิศเหนือเป็นตัวผู้ ใครไปเที่ยวก็หาทิศกันเอาเองนะจ้ะ ^^
*kin แปลว่า ทองคำ
ถ้าใครได้มีโอกาสไปเยือนปราสาทแห่งนี้ จะได้เห็นว่าภายในมีพื้นที่จัดแสดง (พิพิธภัณฑ์) ให้ความรู้เกี่ยวกับปลาคาร์ฟทองคำ หัวสิงโตนี้ด้วย
เจ้านี่ถูกจัดเป็นสมบัติทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองนาโงย่า ซึ่งบางส่วนของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็สามารถถ่ายรูปได้ด้วยนะ … ดีชะมัดเลย
นอกจากนี้ในฤดูใบไม้ผลิ ปราสาทนาโงย่าก็ยังเป็นสถานที่ชมดอกซากุระยอดนิยมอีกด้วย ที่นี่มีต้นซากุระกว่า 1,600 ต้น ตอนกลางคืนก็มีการประดับไฟสร้างบรรยากาศการชมซากุระยามค่ำคืนให้น่าสนใจเพิ่มขึ้น น่าไปชมมากๆ
ตอนนี้ที่ปราสาทนาโงย่าก็มีการบูรณะส่วนที่เรียกว่า “Hommaru Palace” ที่นี่ถูกจัดเป็นสมบัติของชาติ ที่ถูกทำลายเพราะเพลิงไหม้ไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง (พฤษภาคม 1945) โดยการบูรณะนี้จะใช้สถาปัตยกรรมและวัสดุในการก่อสร้างให้เหมือนของเดิมให้มากที่สุด ทุ่มทุนสร้างกันอย่างเต็มที่ ซึ่งคาดว่าน่าจะบูรณะเสร็จสิ้นในราวปี 2018
ปราสาทนาโงย่า (Nagoya Castle, Nagoya-jo) นั้นอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองนาโงย่าเลย จะเดินทางไปด้วยรถบัส (Me-guru) หรือ Subway ก็สะดวกทั้งนั้น
ปราสาทนาโงย่าถือเป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ติดอันดับปราสาทที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก เพื่อนๆ ที่มีโอกาสไปท่องเที่ยวในแถบภาคกลางของญี่ปุ่น ก็แวะไปเที่ยวชมกันได้นะจ้ะ
ปราสาทนาโงย่า
ที่ตั้ง | : 1-1 Hommaru, Naka-ku, Nagoya City, Aichi Prefecture |
เปิดบริการ | : ทุกวัน (29 ธันวาคม – 1 มกราคม) |
เวลาทำการ | : 09.00 – 16.30 น. |
ค่าเข้าชม | : 500 เยน (ผู้ใหญ่) |
โปรชัวร์ | : http://www.nagoyajo.city.nagoya.jp/13_english/pdf/eigo.pdf |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– รีวิวเที่ยวโทโฮขุ ชิบะ ตอนที่ 3 : เที่ยวยามากาตะ ทักทายปีศาจหิมะแห่ง Zao
– รีวิวเที่ยวโทโฮขุ ชิบะ ตอนที่ 2 : เที่ยวเซนไดด้วย Loople Sendai
– รีวิวเที่ยวโทโฮขุ ชิบะ ตอนที่ 1 : เที่ยวโทโฮขุกับ JR East Pass
– เที่ยวเซนได รอบปฐมฤกษ์ : ตอนที่ 4 Starlight wink in Sendai ค่ำคืนสุดท้ายของดวงดาว
– ทัวร์เก็บผลไม้ที่ญี่ปุ่น
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://www.nagoyajo.city.nagoya.jp
http://www.nagoyajo.jp
http://goingtodig2012.wordpress.com/category/uncategorized/
http://viptravelsgroups.com/tours.asp?country=Japan