เที่ยวคิวชูกันต่อจ้าาา ตอนนี้เราจะพาไปพบกับประวัติศาสตร์ ตำนานคามิคาเซะของเหล่านักรบแห่งเกาะสึชิมะ (Tsushima) และสัมผัสวิถีชีวิตพื้นเมืองด้วยการพักแบบโฮมสเตย์ โดยใช้เครื่องบินในประเทศไปลงที่เกาะกันเลย!
กลับมาพบกันอีกครั้งใน Ep. 2 นะคะ ครั้งนี้เราก็จะพาทุกๆ ท่านไปเที่ยวกันแบบสโลว์ไลฟ์ในภูมิภาคคิวชู (Kyushu )กันต่อ
ใน Ep. 2 เราจะพาไปพบกับประวัติศาสตร์ ตำนานคามิคาเซะของเหล่านักรบแห่งเกาะสึชิมะ (Tsushima) และสัมผัสวิถีชีวิตพื้นเมืองด้วยการพักแบบโฮมสเตย์บนเกาะกันเลย
การเดินทางของเราในทริปนี้ตลอดทั้ง 6 วัน จะเน้นความสะดวกสบาย เพราะอยากใช้เวลาดื่มด่ำแบบเต็มที่จึงเลือกใช้เครื่องบินสายในประเทศและรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ประกอบกับจุดที่เราจะไปนั้นค่อนข้างอันซีน (unseen) รถส่วนตัวจะสะดวกกว่ามากๆ
Ep. 2 นี้เริ่มต้นด้วยพุงโตๆ ของเช้าวันที่ 2 ของทริป ที่อิ่มแปล้ มาจากตลาดเช้าโยบุโกะ (Yobuko) ตลาดเก่าแก่กว่า 100 ปีของจังหวัดซากะ (Saga) ใครยังไม่ได้อ่าน Ep.1 ต้องตามไปอ่านกันน้าาาา 😉 ของอร่อยๆ ทั้งนั้นเลย *** ตะลุยเที่ยวที่ใหม่ๆ สโลว์ไลฟ์รอบเกาะคิวชู ตอนที่ 1 ***
และทริปสนุกๆ ครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนจาก Kyushu District Transport Bureau และ Kyushu Tourism Promotion Organization ที่ช่วยดูแลอย่างดีตลอดทริปค่ะ เอาล่ะ! เราไปเที่ยวพร้อมๆ กันเลย
ก่อนเดินทาง เรามาทำความรู้จักกับเกาะนี้กันนิดนึง ขอสารภาพตามตรงเลยว่า เคยได้ยินชื่อมานานแล้ว แต่แทบไม่รู้จักเกาะนี้เลย ขนาดถามเพื่อนๆ คนญี่ปุ่น ยังมีน้อยคนที่จะรู้จัก แต่ถ้าบอกว่าเป็นเกาะที่อยู่ในฉากเกมระดับ Exclusive “Ghost of Tsushima” แล้วล่ะก็เชื่อว่าหลายๆ คนต้องร้องอ๋อเหมือนเราแน่นอน
(อ่านเพิ่มเติม เที่ยวเกาะตามรอยเกมได้ที่นี่ >> เที่ยวเกาะ Tsushima ตามรอยเกม Ghost of Tsushima นักรบปีศาจแห่งสึชิมะ
เกาะสึชิมะ (Tsushima Island, 対馬) อยู่ในจังหวัดนางาซากิ (Nagasaki) ภูมิภาคคิวชู ตั้งอยู่ระหว่างช่องแคบสึชิมะ ประเทศญี่ปุ่น และช่องแคบปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ เป็นเกาะที่ใกล้กับเกาหลีใต้มากๆ สามารถมองเห็นกันได้เลย ใกล้กันเพียง 49.5 กิโลเมตรเท่านั้น
เนื่องจากใกล้กับเกาหลีมากๆ ตามจุดต่างๆ จึงมีป้ายภาษาเกาหลีเต็มไปหมด และนักท่องเที่ยวจากประเทศเกาหลีก็เยอะเช่นกัน
เกาะสึชิมะ เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะของจังหวัดนางาซากิ ลักษณะภาพรวมจะเป็นป่าไม้และภูเขา ที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 89% ของเกาะเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าต้องถูกใจสายธรรมาชาติกันมากเลยแหล่ะ
เห็นมีป่าเขาเยอะแบบนี้ บนเกาะแห่งนี้จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมเยอะไม่แพ้ที่ไหนเลยนะ อาทิ วัดบันโชอิน Banshouin Temple ที่เป็น 1 ในฉากของเกม Ghost of Tsushima ศาลเจ้า Watatsumi ตำนาน Ryugu วังใต้ท้องทะเลของเทพเจ้ามังกร หรือจะเป็นกิจกรรมพายเรือคายัคชมท้องทะเลใสๆ เล่น SUP ดำน้ำ ตกปลาในทะเล หรือปีนเขา ก็มีเช่นกัน และช่วงหลังๆ มานี้ ก็เหมือนจะมีคนที่มาเที่ยวตามรอยเกมหนาตาขึ้นเหมือนกัน ทั้งชาวญี่ปุ่นเองและชาวต่างชาติ
การเดินทางสู่เกาะสึชิมะ สามารถไปได้โดยเครื่องบินหรือเรือเฟอร์รี่ ถ้าผ่านทางฟุกุโอกะ น่าจะสะดวกที่สุด ทั้งเรือเฟอร์รี่แบบด่วนและแบบธรรมดาจากท่าเรือฮากาตะ (Hakata)
เกาะนี้เค้ามีสนามบินเป็นของตัวเองด้วยนะ ชื่อว่า Tsushima Airport เราสามารถนั่งเครื่องบินมาได้สบายๆ จากสนามบินฟุกุโอกะ เพียง 30 นาทีเท่านั้น
ส่วนครั้งนี้ แพลนการเดินทางของเราเลือกเดินทางจากสนามบินนางาซากิ ใช้เวลาประมาณ 35 นาทีค่ะ หรือถ้าใครเที่ยวโซนเกาหลี สามารถนั่งเรือข้ามฟากมาเที่ยวก็ยังได้เลย เพราะอยู่ใกล้กันมากๆ
(ดูข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม>> https://tsushima-gbt.com/access-en )
ถึงแล้ว Tsushima Airport เป็นสนามบินขนาดกระทัดลัดค่ะ ไม่หลงแน่นอน
นอกจากจะเป็นเกาะที่มีธรรมชาติงดงามมากๆ แล้วยังมีอาหารที่อร่อยขึ้นชื่ออีกด้วย มาถึงแล้วก็ขอเริ่มทริปบนเกาะนี้ด้วยอาหารอร่อยๆ กันก่อนเลยค่ะ ซะกานะยะ-เอน 「肴や えん」 ร้านอร่อยขึ้นชื่อในย่านนี้ แถมยังทำเลดี เดินทางจากสนามบินมาแค่ 10 นาทีเอง
ด้านในกว้างขวาง จัดพื้นที่เป็นสัดส่วน มีห้องส่วนตัวสำหรับกลุ่มเล็กๆให้ด้วยค่ะ
ลายเซ็นคนดังแปะเต็มร้าน การันตีความอร่อย
เมนูของร้านเยอะจริงๆ จนเลือกแทบไม่ถูกเลย ทั้งเนื้อ ทั้งปลา และไหนๆ ก็มาถึงแหล่งปลาแล้ว ขอเลือกเซ็ตปลาย่างก็แล้วกัน
เซ็ตปลาซาบะย่างเนื้อฟูๆ โรยเกลือมาแบบพอดี ย่างด้วยไฟอุณหภูมิที่พอเหมาะ จนหนังกรอบ….หอม… กินได้หมดไม่มีส่วนไหนให้ทิ้งเลย เครื่องเคียงที่เสิร์ฟมาคู่กันแต่ละอย่าง ก็อร่อยไม่แพ้กันเลย แถมข้าวสวยร้อนๆ พร้อมซุปมิโซะรสละมุน ยิ่งทำให้เจริญอาหารสุดๆ ไปเลยค่ะ
อีกเมนูที่ห้ามพลาดของร้านนี้คือ เทมปุระอานาโหงะ (ปลาไหลทะเล) เนื้อหนากรอบนอกนุ่มใน
โซสุเกะ เมนจิ คัตสึ เมนูที่มาจากโปรเจคดีๆ ของคนในท้องถิ่น ที่ต้องการจะรักษาความสมดุลของท้องทะเลในระแวกนี้
เมนจิ คัตสึ คือเมนูที่นำเนื้อสับส่วนมากจะเป็นหมู/วัว นำมาผสมกับผักหั่นละเอียดมาปรุงรส แล้วนำไปชุบไข่ เกล็ดขนมปัง แล้วทอด
ร้านนี้เค้าได้นำปลา Isuzumi イスズミ (Kyphosus vaigiensis) ที่มีเยอะในละแวกนี้แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยม นำมาใส่ไว้ในเมนูด้วยนะ อาจจะเป็นเพราะเจ้าปลาชนิดนี้มีกลิ่นที่ไม่ค่อยน่าพิศมัยเหมือนปลาอื่นๆ นัก แต่ถ้ารู้วิธีปรุงอย่างถูกต้องแล้ว มันคือปลาที่อร่อยสุดๆ เลยแหล่ะค่ะ
ที่เมืองไทยไม่แน่ใจว่าจะใช่ปลาสลิดหินแขกหรือไม่น๊า ถ้าใช่ นี่ถือว่าเป็นปลาเนื้อดีทีเดียว อยากกระซิบบอกคนญี่ปุ่นให้รู้จักวิธีทอดกรอบๆ และราดน้ำจิ้มแซ่บๆ จังเลย ^^
เจ้าปลา Isuzumi เนี่ย เค้าบอกว่าบางตัว โตกว่า 70 ซม. เลยก็มี แถมยังกินจุมากๆ อาหารโปรดของมันก็คือสาหร่าย พอไม่มีคนจับพวกมันมากิน มันก็แพร่พันธุ์มากเกินไป และทำให้สาหร่ายที่เป็นของโปรดของเจ้าปลาลดน้อยลงไปด้วย เพื่อรักษาความสมดุลของท้องทะเล จึงทำเกิดโปรเจค โซสุเกะ นี้ขึ้นมา
ส่วนรสชาติเป็นยังไง ตอบสั้นๆ เลยว่า “อร่อยค่ะ มากินเหอะ” เกล็ดขนมปังกรอบๆ ทอดร้อนๆ มากับเนื้อปลาเด้งๆ ด้านใน พอมาเจอกับซอสรสเข้มข้น มันเข้ากันดีจริงๆ!!
เมนูอื่นๆ ก็น่าอร่อยไม่แพ้กันค่ะ อร่อยทุกจานเลย
ท่องเที่ยวให้สนุกและมีวินัย ช่วงนี้เราต้องหมั่นรักษาความปลอดภัยกันนะคะ ในร้านมีแอลกอฮอล์ วางไว้หลายจุดเลยค่ะ
ซะกานะยะ-เอน 「肴や えん」
เว็บไซต์ : https://www.tsushima-net.org/food/en/
พิกัด : https://goo.gl/maps/xpnz97BWBa5eT8DVA
การเดินทาง : จาก Tsushima Airport ขับรถใช้เวลาประมาณ 10 นาที
อิ่มแล้ว เราก็เริ่มออกเดินทางกันค่ะ เกาะนี้ไม่ว่าจะมองไปมุมไหนๆ ก็มีแต่วิวสวยๆ ทั้งนั้นเลย
จุดต่อไปของเราคือ บ้านพักโฮมสเตย์ที่เราจะได้สัมผัสวิถีชีวิต และความอบอุ่นจากผู้คนในเกาะแบบแน่นแฟ้นกันเลยค่ะ
ไหนๆ ก็มีรถส่วนตัวเที่ยวกันแล้ว แถมวิวยังดีระหว่างทางขอแวะไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน
จุดชมวิว Tsutsuzaki (豆酘崎) ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะ มีรูปร่างที่ยื่นออกมาคล้ายมีด เป็นแหลมที่แบ่งระหว่างช่องแคบ Tsushima และช่องแคบ Chosen
จากจุดชมวิวเราสามารถมองเห็นประภาคารที่อยู่ในท้องทะเลได้ ขอบอกว่าวิวดีมากๆ เลยแหละค่ะ เพราะเห็นวิวทะเลได้แบบ 180 องศาเลย ยิ่งถ้ามาช่วงเย็นๆ เราจะได้เห็นพระอาทิตย์ตกบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกเชียวล่ะค่ะ
ที่นี่เค้ามีทางเดินเล่นเป็นคอร์สเดินป่าสั้นๆ เลียบทะเลด้วยนะคะ แนะนำให้ไปเดินซักนิดจะเห็นวิวสวยๆ และประภาคารที่เหมือนลอยอยู่ในท้องทะเลได้สวยมากๆ เลยค่ะ
มีเรือประมงด้วย
ถ่ายรูปกันจนพอใจก็ถึงเวลาเดินทางต่อ เพื่อไปที่พักของเรากันแล้วค่ะ รถมาจอดรอตรงทางขึ้นพอดีเลย สะดวกจริงๆ
ลืมบอกไปค่ะ ว่าทางเดินจะชันนิดๆ (นิดเดียวจริงๆ) และลมค่อนข้างแรง ควรสวมใส่เสื้อผ้าและรองเท้าให้เหมาะสมนะคะ
จุดชมวิว Tsutsuzaki (豆酘崎)
เว็บไซต์ : https://www.nagasaki-tabinet.com/islands/spot/790
พิกัด : https://goo.gl/maps/M9Zsu1rB4yqpo9kW7
การเดินทาง : จากท่าเรือ Gakuhara ขับรถใช้เวลาประมาณ 50 นาที
Tōri (nashi) no sato Tachibana kaju-en (桃李(梨)の里 橘果樹園)
จากจุดชมวิว Tsutsuzaki ขับรถมาเรื่อยๆ แค่10กว่านาที ก็ถึงที่พักของเราคืนนี้แล้ว เตรียมตัวแปลงร่างเป็นชาวเกาะ กับคุณพ่อคุณแม่แสนใจดีกันค่ะ
บนเกาะจะมีที่พักสไตล์โฮมสเตย์หลายที่นะคะ และบ้านแต่ละหลังก็จะมีกิจกรรมให้เลือกทำแตกต่างกันไป ตั้งแต่แบบเบสิค ร่วมทำอาหารพื้นบ้าน เก็บผักผลไม้ ปั่นจักรยานชิลๆในละแวกที่พัก หรือแอดเวนเจอร์ขึ้นมาอีกก็ขึ้นเรือประมงไปตกปลาในทะเลกับคุณพ่อเลยก็มีค่ะ
ครั้งนี้เราเลือกแบบเบสิค ทำอาหารพื้นบ้านกับคุณแม่กันที่บ้าน Tōri (nashi) no sato Tachibana kaju-en
※เกร็ดเล็กน้อย สำหรับบ้าน Tōri (nashi) no sato Tachibana kaju-en ทางเข้า รถใหญ่จะเข้าไม่ได้นะคะ ครั้งนี้เราใช้รถตู้ คนขับรถจอดให้เราลงตรงถนนใหญ่ แล้วยกกระเป๋าเข้าไปเอง กระเป๋าลากใบใหญ่ๆ อาจจะขนย้ายลำบากหน่อยนะคะ
คุณแม่และผู้ช่วยกำลังขะมักเขม้นเตรียมอาหารเย็นอยู่พอดี
ทักทายคุณพ่อคุณแม่เจ้าของบ้านแล้ว ก็เก็บข้าวของ นั่งพักซักนิด หลังจากนั้นเราก็เตรียมตัวทำอาหารพื้นบ้านกันค่ะ
ส่วนคุณพ่อก็นั่งให้กำลังใจ ^^
เราจะเข้าไปช่วย แต่ได้ความว่า คุณแม่ขอเตรียมพร๊อบ เอ้ย… วัตถุดิบเพิ่มอีกนิด แล้วเราค่อยไปช่วยทำ เลยขอตัวออกมาเดินเล่นรอบๆ บ้านกันก่อน
พอออกมาด้านนอก เพิ่งสังเกตว่า บ้านนี้อยู่ใกล้กับโรงเรียนประถมมากๆ เลย มิน่า ถึงได้ยินเสียงน่ารักๆ ของเด็กๆ ลอยตามลมมา
บรรยากาศรอบๆบ้าน
คุณพ่อเดินออกมาส่งด้วยน่ารักจัง ^^
เดินออกมานิดนึงจะมีท่าเรือประมง วิวดีมากกกก เดินเล่นถ่ายรูปกันจนเพลินเลยค่ะ
ถ่ายรูปกันจนฟ้าใกล้มืด ถึงเวลาไปทำอาหารแล้วค่ะ
คุณแม่เตรียมพร๊อบพร้อมแล้ว ลงมือได้ค่า…..
วันนี้คุณแม่จะสอนเราทำอาหารพื้นบ้านของเกาะสึชิมะ ที่มีชื่อว่า “คุโระเบะ” 「ろくべえ」คุโระเบะเป็นอาหารประเภทเส้นทำมาจากแป้งที่สกัดมาจากมันหวาน
เป็นการถนอมอาหารแบบนึงของชาวสึชิมะค่ะ ที่เห็นในรูปคือก้อนแป้งมันหวานที่จะใช้เป็นวัตุดิบในการทำอาหารของเราวันนี้ ตอนที่ยังเป็นแป้งอยู่จะเรียกว่า เซนดังโหงะ นะคะ
ขั้นตอนการทำไม่ยากเลยค่ะ เอาแป้งมาผสมน้ำอุ่นๆหน่อย คนๆให้เนื้อละลายเข้ากัน พอปั้นๆได้ หลังจากนั้นก็นำไปใส่ในเครื่องกดเส้นมีลักษณะเป็นแผ่นไม้ที่มีแผ่นเหล็กเจาะรู พอเราเอาแป้งลดไปกดลงในหม้อที่ใส่น้ำต้มไปด้วยก็จะออกมาเป็นเส้นๆค่ะ (แอบคล้ายๆเส้นลอดช่องเลย) ^^
คนแป้งวนไปค่ะ
คุณแม่สอนวิธีกดแป้ง
เสร็จแล้วจะออกมาเป็นเส้นๆแบบนี้ค่ะ นุ่ม ตึ๋งๆอร่อยมากๆเลย
ตอนเสิร์ฟก็เอาเส้นคุโระเบะ ใส่ถ้วยแล้วราดด้วยน้ำซุปที่ปรุงจากเนื้อไก่ อาจใส่ผักอื่นๆเพิ่มได้นะคะ อันนี้แล้วแต่ความชอบของแต่ละบ้านเลย
โรยต้นหอมซอยหน่อย เป็นอันเสร็จค่ะ
ทาด้า～～ เป็นยังไงบ้างคะ ผลงานการทำอาหารของเรา น่ากินมั้ยเอ่ย ขอบอกว่าอร่อยมากๆเลยค่ะ เส้นหนุบๆ เด้งสู้ลิ้นมาก น้ำซุปไก่ก็กลมกล่อมจริงๆ
สำหรับใครที่มาแล้วไม่มีเวลาทำเองอยากลองรับประทานดูสามารถหาได้ตามร้านอาหารท้องถิ่นบนเกาะค่ะ หรือจะซื้อแบบกึ่งสำเร็จรูปตามซุปเปอร์มาเกตไปลองทำที่บ้านก็ได้นะคะ แนะนำว่าถ้ามาแล้วให้ลองค่ะ อร่อยจริงๆ
มัวแต่ชิมคุโระเบะ หันมาอีกที คุณแม่เตรียมกับข้าวอย่างอื่นแล้ว แต่ละอย่างอลังมากจ้า～
ปลาชิ้นโตๆ เต็มกะละมัง คุณแม่เอามาต้มซุปอาระนิ (คล้ายๆต้มจับฉ่ายเลย แต่น่าจะไม่ใช่ค่ะ แหะๆ ) เกาะนี้อาหารอุดมสมบูรณ์จริงๆ…
และนี่ก็คืออาหารมื้อค่ำของเรา…….. คือ … อลังจัง…. ได้แต่หันไปสบตาเพื่อนข้างๆว่าเราจะกินกันหมดมั้ย…..
อิ่มหนำกันจนแทบจะลุกไม่ขึ้นแล้ว ก้ได้เวลาขอตัวไปพักผ่อนบนฟูกนอนนุ่มๆ เตรียมแรงไว้เที่ยววันรุ่งขึ้นค่ะ
บ้านพักแบบโฮมสเตย์ Tōri (nashi) no sato Tachibana kaju-en (桃李(梨)の里 橘果樹園)
เว็บไซต์บ้านพัก : https://tsushima-gbt.com/posts/house/393
ราคาที่พักต่อคน : 1 คืนและอาหาร 2 มื้อ 7,800 เยน (ไม่รวมภาษี) / 1 มื้ออาหารเช้า ที่พัก 1 คืน 5,800 เยน (ไม่รวมภาษี) / ห้องพักไม่รวมอาหาร 1 คืน 5,000 เยน (ไม่รวมภาษี)
*การเข้าพักเป็นกลุ่มต้องที่จำนวนไม่เกิน 6 คน
กิจกรรมที่สามารถเลือกทำได้ : https://tsushima-gbt.com/program-about
*ค่าทำกิจกรรมจะต่างกันขึ้นอยู่กับกิจกรรมนั้น ลองเลือกกิจกรรมที่อยากทำแล้วค่อยดูว่ามีบ้านไหนรองรับได้ค่อยจองก็เป็นอีกทางเลือกค่ะ
Day 3… เข้าสู่วันที่ 3 ของทริปนี้กันแล้วค่ะ ตื่นเช้ามาในวันอากาศสดใส รับประทานอาหารเช้ากันจนจุก (อีกแล้ว) ก็ลาคุณพ่อคุณแม่ ออกเดินทางเที่ยวกันต่อค่ะ
วันนี้เราจะไปสัมผัสธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ตำนานคามิคาเซะของเหล่านักรบแห่งเกาะสึชิมะกัน
จากที่พัก ขับรถมาประมาณ 60 นาที ก็มาถึงแล้วค่ะ จุดทำกิจกรรมที่แรกของเรา “Sea kayaking experience”
ครั้งนี้เราจองแบบคอร์สครึ่งวัน ไกด์จะพาเราพายเรือไปชมงามงดงามของท้องทะเลบนเกาะนี้และมีช่วงเบรก Tea Time ให้ได้ดื่มด่ำบรรยากาศอีกด้วยค่ะ
Tsushima Sea kayaking
เว็บไซต์ : https://www.tsushima-kayaks.com/tourism#a01
ทำกิจกรรมกันแล้ว ท้องเริ่มร้อง (นี่ขนาดกินข้าวเช้ามาจนจุกแล้วนะ…. )
เราไปแวะร้านโซบะขึ้นชื่อกันค่ะ จากจุดพายเรือคายัค ขับรถแค่20นาทีเอง ชื่อร้าน Soba doujo สาขา Mitsushima
ในร้านกว้างขวางค่ะ ลานจอดรถก็กว้างจอดสบายเลย และเมนูเยอะมากกกก จนเลือกไม่ถูกเลย ตั้งแต่เมนูอาหารพื้นเมือง เซ็ตข้างหมูย่างราดซอสหอมๆ หรือจะเป็นอุด้งราดซุปร้อนๆพร้อมท็อปปิ้งโกโบหั่นฝอยทอดก็มี เราขอเลือกเซ็ตสองสหาย โซบะ+เส้นคุโระเบะ ก็แล้วกันเพราะยังติดใจความหนุบหนับจากที่กินมื้อค่ำวานไม่หาย (มันอร่อยจริงๆนะ)
โซบะร้านนี้ ถือว่าเด็ดมากกกก ใครชอบโซบะ อย่าพลาดร้านนี้เลยนะคะ เพราะที่นี่เค้าใช้แป้งบัควีทแบบจัดเต็ม100เปอร์เซ็น ไม่ผสมแป้งอื่นๆในการทำเส้นโซบะเลย
(ส่วนมากจะเป็นแป้งบัควีท 60-80 เปอร์เซน และที่เหลือคือข้าวสาลี ตามเปอร์เซนให้ครบ100 ) ทั้งรส ทั้งกลิ่น จัดเต็มจริงๆค่ะ
ไหนๆก็กินโซบะอร่อยๆแล้ว ของหวานก็ขอเป็นไอศกรีมโซบะด้วยเลยละกัน อันนี้ซื้อมากินต่อในรถค่ะ อร่อยมากกก อยากกลับไปกินอีกหลายๆถ้วยเลย
Soba Doujo そば道場美津島店
เว็บไซต์ : http://sakusyoku.com/mitsushima/
ช่วงบ่าย ได้เวลาออกไปสัมผัสประวัติศาสตร์กันแล้ว ขับรถมาจากร้านโซบะประมาณ 40 นาที จุดแรกของเราคือ ศาลเจ้า Watatsumi (和多都美神社)
ถ้าดูจากแผนที่ ศาลเจ้าจะตั้งอยู่ใจกลางเกาะสึชิมะ เป็น1ในฉากของ เกม Ghost of Tsushimaเช่นกันค่ะ ศาลเจ้านี้มีตำนานเกี่ยวข้องกับอาณาจักรมังกรตามความเชื่อเก่าแก่ของเกาะนี้ มีจุดเด่นอยู่ที่เสาโทริอิทั้ง 5 เสาที่ตั้งเรียงตัวจากพื้นดินลงสู่มหาสมุทร โดยจะมี 2 เสาที่อยู่ในน้ำ
คนในพื้นที่เล่าให้เราฟังว่า ในช่วงก่อนที่จะมีการตัดถนนเหมือนปัจจุบันชาวบ้านใช้วิธีพายเรือเพื่อมาสักการะเทพเจ้ากันด้วยนะ
ศาลเจ้า Watatsumi เป็นศาลเจ้าชินโตเก่าแก่ที่สร้างเพื่ออุทิศให้กับเทพธิดาแห่งท้องทะเล โทโยะทะมะ ฮิเมะ และเจ้าชายแห่งขุนเขา ฮิโคะโฮโฮเดมิ โนะ มิโคโตะ
ในเกาะคิวชูว่ากันว่า มีศาลเจ้าทั้งหมด 107แห่ง บนเกาะสึชิมะมี 29แห่ง ถือว่ามากที่สุดในเกาะคิวชูเลยทีเดียว
ชมเสาโทริอิกันแล้ว เราเข้าไปไหว้ด้านในกันเถอะ วิธีไหว้ของที่ศาลเจ้าแต่ละที่จะไม่เหมือนกันนะ ของที่ศาลเจ้านี้จะเป็นแบบ ニ拝二拍手一拝 คือ
คำนับ 2 ครั้ง ตบมือ 2 ครั้งคำนับ 1 ครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นแบบเบสิค อย่างที่ศาลเจ้าในส่วนมากใช้เป็นวิธีทำความเคารพกันค่ะ
เดินอ้อมมาทางอาคารศาลเจ้าหลัก เราจะพบกับต้นไม้ใหญ่ ที่มีรากยาวแลดูน่ายำเกรง ราวกับเป็นตัวมังกรที่ทอดตัวมุ่งลงสู่มหาสมุทร
ต้นไม้ต้นนี้ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จุดพาวเวอร์สปอตอีกจุดของศาลเจ้านี้ด้วยค่ะ
เดินต่อไปด้านในอีกนิด เราจะพาทุกๆท่านไปพบกับจุดพาวเวอร์สปอตที่เป็นที่สุดของที่สุดแห่งศาลเจ้านี้กัน …..
แค่เดินเข้ามาก็รู้สึกได้ถึงพลังและความน่าเกรงขามอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ ….
มาถึงแล้ว ซุปเปอร์Power Spot ของศาลเจ้า Watatsumi จุดนี้เชื่อว่าเป็นสุสานของเทพธิดาแห่งท้องทะเล โทโยะทะมะ ฮิเมะ ฝั่งภูเขาด้านทิศตะวันตกเชื่อว่าเป็นสุสานของเจ้าชายแห่งขุนเขา ฮิโคะโฮโฮเดมิ โนะ มิโคโตะ
ยืนตรงนี้ซักพักเริ่มรู้สึกเย็นๆ ขอออกมาถ่ายรูปกับวิวสวยๆบ้างก็แล้วกัน ร่มไม้ต้นใหญ่สีเขียวตัดกับพื้นหินสีขาว สวยจับใจจริงๆค่ะ
ศาลเจ้า Watatsumi (和多都美神社)
เว็บไซต์ : https://www.nagasaki-tabinet.com/islands/spot/839
สามารถขับรถมาจาก Tsushima Airportได้ ใช้เวลา 40 นาที
จุดชมวิว EboshidakeObservatory อีกจุดที่ห้ามพลาดค่ะ จากศาลเจ้าขับรถมาไม่ไกลประมาณ15นาทีก็ถึงแล้วค่ะ
ชมวิวมุมสูงของอ่าวอาโสะ บนทิวทัศน์รอบตัวแบบ 360 องศากันเลย จากตรงนี้จะมองเห็นช่องแคบสึชิมะทางทิศตะวันออก และช่องแคบเกาหลีทางทิศตะวันตกด้วยค่ะ
จากลานจอดรถเดินขึ้นบันไดไปชมวิวจากมุมสูงกันค่ะ จุดนี้ เรียกเหงื่อไปนิดๆเหมือนกันนะคะ ถือว่าเป็นการออกกำลังกายกัน…
วิวด้านบน ถือว่าคุ้มเหนื่อยค่ะ เหมือนฉากในเกมเลย
ฝั่งนี้จะมองเห็นปูซานด้วย โอ้โฮ ใกล้จริงๆ….. อัน-นยอง-ฮา-เซ-โย
มีศาลเจ้าสีแดงๆตัดกับทิวเขาด้วย น่าจะเป็นฝั่งญี่ปุ่นสินะ …
จุดชมวิว EboshidakeObservatory 烏帽子岳展望台
เว็บไซต์ : https://www.nagasaki-tabinet.com/islands/spot/847
จุดต่อไป วัด Banshouin (万松院) เป็นอีกสถานที่ ที่อยากมามากๆในทริปนี้ค่ะ ฉากในเกมทำออกมาได้สวยมากๆ พอได้มาเจอสถานที่จริง บอกได้คำเดียวว่า ได้แต่ยืนนิ่งๆ เงียบๆ จ้องมองอยู่นานเลยค่ะ ( ไม่เขียนเยอะนะ เดี๋ยวจะสปอยมากเกินไป)
วัดบันโชอิน Banshouin Temple ตั้งอยู่ในโซนเมือง Izuhara เกาะสึชิมะ วัดพุทธเก่าแก่ นิกายเทนได ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1615 ได้รับยกย่องให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติญี่ปุ่น สร้างโดยตระกูลโซว ผู้ปกครองเมืองสึชิมะ มาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 ได้รับ ช่วง ค.ศ. 1274 ที่กองทัพจักรวรรดิมองโกลเข้าโจมตีประเทศญี่ปุ่น ไดเมียว โซว สุเกะคุนิ เป็นหนึ่งในผู้นำเข้าสู้รบเพื่อป้องกันเกาะ และเสียชีวิตในระหว่างการต่อสู้ในศึกครั้งนั้น ตระกูลนี้เคยได้รับภารกิจให้ทำการค้ากับทางเกาหลีใต้ในช่วงยุคโซชอนอีกด้วย
บันไดหิน 132 ขั้น ที่จะพาเราไปสู่ด้านบนซึ่งเป็นที่ตั้งของหนึ่งในสามสุสานสำคัญของญี่ปุ่น
1 ในไฮไลท์ของวัดนี้ค่ะ แค่ทางขึ้นก็ตื่นเต้นแล้ว
ต้นสนซีดาร์ สูงใหญ่ตั้งอายุราว 1,000 ปี อยู่ด้านหน้าสุสานด้านบนสุด จุดนี้ถือได้ว่าเป็น ซุปเปอร์พาวเวอร์สปอต จุดรับพลังอีกแห่งของเกาะนี้ด้วยนะคะ
ไหนๆก็มาแล้ว ทีมงานก็ขอไปโอบเพื่อรับพลังดีๆกลับมาบ้าง…..
ก่อนกลับแวะเข้าห้องน้ำหรือซื้อของฝากติดไม้ติดมือที่ร้านตรงทางเข้าวัดได้นะคะ มีขนมอร่อยๆ ของพื้นเมืองขายด้วย
อันนี้อร่อยมาก คล้ายๆขนมเซมเบ้แต่จะหอมรสไข่แบบเข้มข้นเลยค่ะ
น้องเหมียวหน้าวัด … อันนี้จะเรียกว่าแมววัดได้มั้ยนะ….
วัดบันโชอิน Banshouin Temple (万松院)
เว็บไซต์ : https://www.nagasaki-tabinet.com/islands/spot/801
ก่อนจากลาเกาะสึชิมะ ขอแวะกินของอร่อยๆขึ้นชื่ออีกซักนิด มื้อนี้เราแวะกินข้าวกันที่ TSUSHIMA GLAND HOTEL ค่ะ อยู่ไม่ไกลจากTsushima Airportเลยแค่10นาทีก็ถึงแล้ว เหมาะที่จะแวะก่อนขึ้นเครื่องมากๆ
นอกจากจะทำเลดีแล้ว วิวก็ดีมากๆเลยค่ะ ถ้าใครอยากพักต่อเก็บโรงแรมนี้ไว้ในลิสก็เป็นอีกทางเลือกค่ะ
“นางาซากิ จัมป้ง” มาถึงถิ่นแล้วไม่กินก็ถือว่าพลาดใช่มั้ยล่ะคะ เรื่องกินขอให้ไว้ใจเราค่ะ ….
จัมป้ง เป็นอาหารเส้นชื่อดังของจังหวัดนางาซากิค่ะ จะดูคล้ายๆกับราเมงแต่เส้นจะมีขนาดใหญ่และเหนียวนุ่มกว่า น้ำซุปเข้มข้น และท็อปปิ้งเยอะมากๆทั้งผักนานาชนิดกุ้ง หอย คามาโปโกะหั่นเส้น (คล้ายๆลูกชิ้นปลา) บางร้านก็จะใส่เนื้อหมูลงไปผัดรวมด้วย ถือว่าเป็นชามที่ให้คุณค่าทางโภชนาการมากๆอีกเมนูเลยแหละ
เมนูอื่นๆก็มีให้เลือกเยอะเลย
แวะดูของฝากซักหน่อย มีของที่เกี่ยวกับ “เสือดาวแมวสึชิมะ” (Tsushima Leopard Cat) เยอะเลย
แมวป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในเกาะสึชิมะ
ตามที่ได้เกริ่นไว้ในช่วงแรกๆค่ะ เกาะสึชิมะ เรียกได้ว่าเป็นดั่งสวรรค์ของคนรักธรรมชาติเลยพื้นที่เกาะกว่า 89% นั้นเป็นป่าเขา เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม
อุดมสมบูรณ์และมีสัตว์ป่าหายากใกล้สูญพันธุ์อย่าง “เสือดาวแมวสึชิมะ”แมวป่าแสนน่ารักอาศัยอยู่ด้วย ถ้าใครสนใจอยากเจอน้องตัวเป็นๆสามารถไปเยี่ยมน้องได้ที่ ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าสึชิมะค่ะ
TSUSHIMA GLAND HOTEL
เว็บไซต์ : http://tsushima-grandhotel.com/
ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าสึชิมะ 対馬野生生物保護センター
เว็บไซต์ : http://kyushu.env.go.jp/twcc/report/pam/leaflet/index.html
ที่พักของเรา คืนวันที่3และ4 จะเป็นที่ตัวเมืองฮากะตะ จังหวัดฟุกุโอกะนะคะ เราจะพักกันที่นี่2คืน ทำเลดีมากๆค่ะ อยู่หน้าสถานีรถไฟ ฮากาตะ เลย
Mars Garden Hotel Hakata จากทางออกฝั่งตะวันออกสถานีรถไฟ ฮากาตะแค่1นาที ห้องพักขนาดพอดี มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน
ไปไหนมาไหนสะดวกมากๆค่ะ ทางโรงแรมมีมาตราการป้องกัน และลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19)ที่ถือว่าดีค่ะ
มีการตรวจวัดอุณหภูมิและฆ่าเชื้อคีย์การ์ดก่อนให้ลูกค้าทุกครั้ง
ปิดท้ายทริป ใน Ep2 ของเรา ด้วย อิลลูมิเนชั่นสวยๆ ฮากาตะ เมืองแห่งแสง (Hikari no Machi HAKATA)
ที่จะจัดทุกๆปีช่วง Christmas ค่ะ สำหรับปี2020 จัดขึ้นในช่วงระหว่าง 5 พฤศจิกายน 2020 – 6 มกราคม 2021 นอกจากงานประดับไฟแล้ว ยังมีโซน Christmas Market ที่มีร้านอาหารและร้านค้าปลีกร่วมในงานอย่างมากมาย ถ้าใครมีโอกาสไปช่วงปลายปี อย่าลืมแวะไปเที่ยวชมกันนะคะ
Mars Garden Hotel Hakata
เว็บไซต์ : https://www.mars-gardenhotel.jp/
งานประดับไฟ ฮากาตะ เมืองแห่งแสง (Hikari no Machi HAKATA)
เว็บไซต์ : https://www.jrhakatacity.com/2020_illumination/
+++++++++++++
ใน Ep.3 เราจะพาไปเที่ยวจังหวัดคุมาโมโต้ (Kumamoto) บ้านของน้องคุมะมงกัน จะมีอะไรสนุกๆ อย่าลืมติดตามกันในตอนต่อไปด้วยนะคะ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคิวชูได้ที่
องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวคิวชู (Kyushu Tourism Promotion Organization)
– https://th.welcomekyushu.com/journey-through-kyushu/
– https://www.facebook.com/onsenislandkyushuth/
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– ตะลุยเที่ยวที่ใหม่ๆ สโลว์ไลฟ์รอบเกาะคิวชู ตอนที่ 4
– ตะลุยเที่ยวที่ใหม่ๆ สโลว์ไลฟ์รอบเกาะคิวชู ตอนที่ 3
– ตะลุยเที่ยวที่ใหม่ๆ สโลว์ไลฟ์รอบเกาะคิวชู ตอนที่ 1
– “เที่ยวคิวชู” มือใหม่ก็ไปได้ ตอนที่ 4
– “เที่ยวคิวชู” มือใหม่ก็ไปได้ ตอนที่ 3
#ตะลุยเที่ยวที่ใหม่ๆ สโลว์ไลฟ์รอบเกาะคิวชู ตอนที่ 2
