เที่ยวละไมในนีงาตะ และมุราคามิ หมู่บ้านแห่งสายน้ำ… ถ้าใครยังไม่รู้จักนีงาตะ หรือเคยไปแล้วแต่ไม่ได้ไปเมืองมุราคามิ หรือใครเคยไปแล้วและคิดถึงนีงาตะ ก็ตามมาเที่ยวไปด้วยกันเลยคะ
นีงาตะ (新潟) เป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้โตเกียว แต่สามารถที่จะสัมผัสความแตกต่างของญี่ปุ่นที่ไม่เหมือนใคร เราสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายด้วยการโดยสารรถไฟชินคันเซนเพียงชั่วโมง สองชั่วโมงก็สามารถ เดินทางมายังเมืองสวยๆ ที่มีความผสมผสานความเก่า และใหม่เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
เอาหล่ะ ถ้าใครยังไม่รู้จักนีงาตะ หรือเคยไปแล้วแต่ไม่ได้ไปเมืองมุราคามิ หรือใครเคยไปแล้วและคิดถึงนีงาตะ ก็ตามมาเที่ยวไปด้วยกันเลยคะ
วันเดินทางจากโตเกียวเราเดินทางด้วยการโดยสารรถไฟชินคันเซนจากสถานีโตเกียว ซึ่งปลายทางเราจะไปลงที่สถานี นีงาตะ (Niigata) จึงเลือกเที่ยวชินคันเซนที่ไม่จอดเยอะ และถึงนีงาตะได้เลยแบบสบายๆ ด้วยรถไฟ Toki 311 เวลา 09.12 น. เราจะเดินทางไปถึงนีงาตะได้โดยใช้เวลาไม่ถึง 2 ชม.
เมื่อเดินทางมาถึงสถานีนีงาตะแล้วก็รู้สึกว่าหิวเลยคิดว่าภารกิจหนึ่งที่ต้องทำแน่ๆ คือการเดินทางไปทานซูชิ และเดินเล่นตลาดปลา และของจากทะเลที่ ตลาดเพียบันได (Pier Bandai) ก่อนค่ะ บอกไว้ก่อนเลยร้านนี้เคยมาทานแล้วติดใจมากๆ จากคำบอกเล่าของคนท้องที่ เลยถ้ามาอีกต้องแวะให้ได้ค่ะ ที่นี่ถือว่าเป็นตลาดที่มีแต่ของถูก ผลไม้ อาหารทะเลสดๆ หรือปรุงแล้ว เต็มไปหมด
เว็บไซต์ตลาด คลิก >> https://www.bandai-nigiwai.jp
พิกัด >> https://goo.gl/maps/6C6fZcZtno8EJRN38
ตลาดนี้ตื่นตาตื่นใจกับของทะเลราคาไม่แพง และเค้ามีจุดให้นั่งทานได้ถ้าเราซื้อของที่เป็นแพ็คๆ มาจากตัวตลาด เราก็สามารถนำมานั่งทานเก๋ๆ ได้ที่นี่เลย ชมวิวอ่าวไป ทานไป
และที่นี่ก็ยังมีร้านเค้ก คาเฟ่เก๋ๆ กาแฟอร่อยๆ ที่มาจากประเทศต่างๆ ให้ทานค่ะ ส่วนขนมขอนไม้ บามคุเฮง ก็มีที่นี่นะคะ มาแบบขายเป็นต้นเลยค่ะ ในช่วงวันหยุด แต่เรามาวันธรรมดา ก็ซื้อแค่เป็นท่อนๆ ไปก่อนนะคะ ทานเป็นต้น คงไม่หมด 555
เอาหล่ะ ไปเช็คอินร้าน Benkei กันค่ะ ร้านนี้เป็นร้านที่สามารถรับประทานซูชิที่ใช้วัตถุดิบจากทะเลสด ๆ ของเกาะซาโดะ จังหวัดนีงาตะ (Sado Niigata)
ตามมาเลยค่ะ จุดเด่นร้านนี้คือมีทั้งซูชิ และของทอด หรือจะเป็นอาบุริ ลนไฟ ใส่ชีส ของหวานมีหมดค่ะ
เมนูแนะนำคือปู ไข่ปลาอิคุระ แซลมอนต่างๆ ปลาบุริ จานสีฟ้าก็แค่สองร้อยเยนเท่านั้น ปลาสดมาก ไม่คาวเลยค่ะ
ถ้าใครชอบทานปลา จะฟินขั้นสุด เพราะนอกจากไม่แพงแล้วยังจะอร่อยอีกด้วยโดยเฉพาะจังหวัดนี้มีปลา Kanburi (寒ブリと) ของเกาะซาโดะ Sado และกุ้ง Nanbanebi (南蛮エビ Amaebi) ของซาโดะมาให้เราทานกันถึงในเมืองเช่นกันค่ะ
พวกเราแค่กินเบาๆ ค่ะ เป็นผู้หญิง ทานได้นิดหน่อยเอง
และจังหวัดนีงาตะ เป็นจังหวัดที่มีข้าวอร่อยที่สุดในญี่ปุ่น หรือเรียกว่าอร่อยที่สุดในโลกก็ว่าได้ นี่ไม่ได้พูดเองนะคะ คนท้องถิ่นเค้าภาคภูมิใจกันมากๆ และบอกว่าเป็นข้าวที่อร่อยสุดในโลกจริงๆ ทำให้ซูชิที่นี่ฟินไปได้ขั้นสุด ที่มีปลาดี ข้าวนุ่ม คนรักซูชิจานเวียนต้องมาแล้วค่ะ
หัวปลาบุริ ที่นี่ต้องยอมรับปลาบุริเค้าอร่อยมากๆ จริงๆ ค่ะ
หลังจากที่เราอิ่มกันไปแล้ว ก็ต้องไปออกกำลังหน้าเตา วาดรูปกันสักนิด วันนี้เราจะแว๊บๆ เข้าไปยังโรงงานขนมเซมเบ้กันหน่อยค่ะ ไปทำเซมเบ้กันที่ Niigata Rice Cracker Museum (Senbei Oukoku)
สิ่งที่หวังมันจะเป็นดังภาพตัวอย่าง
เว็บไซต์ของโรงงานเซมเบ้ คลิก >> http://senbei-oukoku.jp/
พิกัด >> https://goo.gl/maps/PubMnWtpJfcdYAbFA
ย่างๆ ปิ้งๆ สนุกสนานกันไป เด็กๆ น่าจะชอบเลย ฝีมือการวาดของเราแพ้เด็ก แต่ก็สนุกค่ะ
แต่สิ่งที่ได้มันมักจะไม่เป็นไปแบบที่คิดก็ได้
ได้สัมผัสประสบการณ์ทำเซมเบ้ แถมมาซื้อเซมเบ้ที่โรงงานโดยตรงนี่คือถูกมาก ขายยกลงกันหลักร้อยเยน เห็นแล้วตกใจ เอารถมาเหมาให้หมดค่ะ
เอาหล่ะ ได้ยืนอุ่นๆ หน้าเตาแล้วเราจะไปชมวิวของจังหวัดนีงาตะกันสักหน่อยค่ะ แต่ละจุดก็เดินทางไปไม่ไกลกันมาค่ะ
ถ้าเจอป้ายนีงาตะ ต้องถ่ายค่ะ เพราะหากใครเคยอ่านการ์ตูนไมเคิลแมวจอมกวนจะรู้จักคาแรคเตอร์เหมียวจอมกวนตัวนี้ค่ะ ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานจากนักเขียนในจังหวัดนี้ ลืมบอกไปค่ะ จังหวัดนี้เป็นเมืองอาร์ต และเมืองแห่งอานิเม มังงะ นะคะ เนื่องจากมีนักเขียน และศิลปินหลายคนที่เป็นคนจังหวัดนี้
เราจะขึ้นไปชมวิวที่ Befco Bakauke Observation Deck ซึ่งชมวิวนี้อยู่ด้านบนของอาคารโรงแรมนิกโก้
เว็บไซต์ คลิกที่นี่ >> https://www.hotelnikkoniigata.jp/observatory/
พิกัด >> https://g.page/tenbou31?share
ที่นี่นอกจะจะชมวิวสวยๆ รอบเมืองนีงาตะได้แล้ว ยังจะมีของให้ช้อปปิ้งมากมาย ล้วนแล้วแต่เป็นของพื้นเมืองทั้งนั้นเลยค่ะ เช่นน้ำพริกคางิโนะทาเนะ ขนมประจำเมืองใส่ลงไปในน้ำพริก แซ่บมากๆ แนะนำให้ซื้อทานกันนะคะ
ที่นี่ตุ๊กตาดารุมะเค้ามีรูปทรงไม่กลมแบบที่เราเห็นเป็นเอกลักษณ์ของเมืองเลยค่ะ และของเกี่ยวกับนกโทคิ นกอนุรักษณ์ประจำจังหวัดนีงาตะหรือโกะซาโดะก็มีขายที่นี่ค่ะ
วันนี้เรามีทานมื้อค่ำ เป็นเมนูปลานะคะ ที่ร้านอิซาคายะ ที่คนเมืองนี้แนะนำมาว่าเด็ดมาก มีเมนูดีๆ มากมาย แล้วก็มาแล้วไม่มีผิดหวังจริงๆ อร่อยมากๆ ค่ะ
มื้อค่ำนี้ ที่ Ikano-sumi ในเมืองนีงาตะ ถือว่าอาหารมื้อนี้เป็นมื้อที่อร่อยมาก
เว็บไซต์ >> https://www.yonekura-group.jp/shop/ikanosumi/index.html
พิกัดร้าน >> https://goo.gl/maps/BJWwdbgDYFJbYXxVA
เมนูแนะนำให้ต้องทานคือซาชิมิ เต้าหู้ทอด และปลาบุริย่าง ส่วนเมนูอื่นๆ ก็อร่อยค่ะ แต่สามอย่างนี้เผื่อใครมากันจำนวนน้อยคนจะได้เลือกทานของขึ้นชื่อเค้าก่อนเลย
เราควรที่จะพักที่นีงาตะ 1 คืนนะคะ และวันถัดไปค่อยเดินทางไปเที่ยวที่เมืองอื่นๆ สำหรับคอร์สนี้แนะนำให้ไปทานวากิว และแซลมอนที่เมืองมุราคามิ (村上)ค่ะ การเดินทางเราสามารถเดินทางได้ทั้งด้วยรถไฟ และหากใครเดินทางหน้าหนาวแล้วมีความเคยชินกับการขับรถบนหิมะแล้วละก็สามารถจะเช่ารถได้นะคะ ถ้าเป็นคนที่ไม่ชอบเดินเท่าไหร่ก็มีวิธีง่ายๆ ด้วยการเดินทางด้วยรถไฟลงที่สถานีมุราคามิ และโดยสารแท็กซี่จะใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีค่ะ แต่ถ้าเดินเล่นไปเรื่อยๆ กับเพื่อนๆ สักสิบห้าหรือยี่สิบนาทีแล้วแต่ความเร็วของแต่ละคนก็ไม่ได้แย่อะไรนะคะ
เมืองนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมืองที่มีการจับแซลมอนกันมาร่วม 1,000 ปี ตั้งแต่ยุคเฮอัน
โดยเฉพาะที่ร้าน Mishou Kikkawa เป็นร้านที่เก่าแก่มากๆ ตั้งแต่ยุคเฮอัน เป็นแซลมอนเซมมงเตงเลยค่ะ อายุหลายร้อยปีทำมาแล้วหลายรุ่นมากๆ
ที่ร้าน Mishou Kikkawa ไม่ใช่มีแต่ผลิตภัณฑ์แนะนำจากปลาแซลมอนอย่างเดียวค่ะ นามะสาเกะก็อร่อยมากๆ
เว็บไซต์ คลิก >> https://www.murakamisake.com/
พิกัด >> https://goo.gl/maps/e54z9qTK1z3UaGWy5
อามะสาเกะ ไม่มีแอลกอฮอล์นะคะ เป็นเครื่องดื่มที่ทำให้ผิวสวย และสร้างบาลานซ์ให้กับร่างกายค่ะ วันนี้มาทานกันแบบอุ่นๆ ฟินมากๆ
กลับเข้ามาที่เรื่องของแซลม่อนกันก่อน ที่นี่มีแนวคิดที่ดีมากๆ เนื่องจากสิ่งที่ร้านมีกิจการ มาจากสิ่งที่เกิดจากธรรมชาติ เค้าจึงมีการให้เกียรติปลา และมีการบูชาเทพเจ้าต่างๆ อย่างต่อกันมาถึงรุ่นปัจจุบัน
การแขวนแซลมอนซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนั้นมีวิธีการแชวนที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านนี้อย่างมีสตอรี่นะคะ ไม่ได้แขวนแบบไม่มีแนวคิด การเอาหัวไว้ข้างล่างเพื่อให้ดูไม่เหมือนฆ่าตัวตาย ซึ่งความต่างของร้านนี้กับร้านอื่นๆ คือวิธีตัดตัดที่ไม่เหมือนใครคือตัด 2 ที่ไม่ผ่ายาวทั้งหมด เพราะที่นี่เคยมีปราสาทมีซามุไร เชื่อกันว่าการ กรีดท้องไปรอบเดียว ไม่ผ่าสองที่แบบที่ทำอยู่ มันจะไปเหมือนการทำเซปปุคุ คล้ายกับเวลาที่ซามุไรทำฮาราคีรี เลยทำสองที่เพื่อเป็นการให้เกียรติกับปลา
โหพอฟังเจ้าของร้านเล่าแล้วทึ่งมากๆ เลยค่ะ ทุกอย่งมีขั้นตอนมากๆ เลย
วิธีการทำคือเริ่มต้นคือเก็บแซลมอน แช่เกลือ 1 อาทิตย์ ล้างเกลือ แล้วเก็บ 1 เดือน ไปทำเป็นปลาย่าง แบบตากเดือนเดียว
วิธีนี้จะเป็นวิธีของที่นี่ที่เดียวในเมืองเลย เรียกว่าเป็น know how ที่ไม่มีเหมือนใคร
ถ้าแขวนไว้ 1 ปี ก็จะมีการตัดแล้วทานดิบเลย ซึ่งจะเป็นสูตรพิเศษอีกค่ะ ถ้าเก็บไว้เลย 1 ปีเค้าก็บอกว่าไม่ดีเพราะรสจะเปลี่ยน
ตอนตากไว้มีควบคุมอุณหภูมิ หน้าหนาว ก็จะได้มีรสตามที่เป็นมาตรฐานของเค้าปีที่ไม่หนาวจะอร่อยลดลง
อร่อยสุด คือสูงไม่เกิน 10 องศาจะมีความนั่นคือความเข้มข้นของรสมาตรฐานที่ทางร้านรับได้
เราสามารถแวะเข้ามาถ่ายรูปในส่วนนี้ได้เลยนะคะ ไม่ใช่มาซื้อของได้อย่างเดียว
ที่นี่มีสินค้า 50 ชนิดที่เป็นเเซลมอน ร้านนี้มีอายุ 396 ปีแล้ว ถือเป็นกิจการที่เก่าที่สุดอันดับ 7 ในนีงาตะ รวมถึงอาคารนี้ก็เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นซึ่งสร้างมาตั้งแต่สมัยเมจิ 120 ปี มีอีกอาคาร 230 ปี ตั้งแต่เอโดะ มีบางอาคารไฟไหม้ไปเลยไม่เหลือถึงปัจจุบันอาคารร้อยปียังเป็นที่ๆ เจ้าของร้านอาศัยอยู่จริงด้านหน้าเป็นร้าน ด้านหลังจะเป็นที่พัก
ใกล้ๆ กับร้านปลาแซลมอนก็จะมีถนน Kurobei เป็นเมืองเก่า ที่มีอาคารเก่าๆ หลงเหลือให้เราได้ถ่ายรูปเล่นด้วยนะคะ
และก็มีมุมมหาชนไว้ให้ถ่ายรูปด้วยนะคะ หิมะตก ถือว่าสวยมากๆ เลยทีเดียว
เมืองนี้นับว่าเป็นเมืองที่มีอาคารสวยหลายจุดให้เราได้ถ่ายรูปเล่นกันค่ะ
ทานกลางวันกันที่ Yururi วันนี้เราจะลองชิมเนื้อวากิวประจำเมืองมุราคามิกันค่ะ
ผู้หญิงหวานๆ คนข้างหลังเค้าทานไม่จุค่ะ เลือกเซตแบบสองจานในถาดเดียว
ของขึ้นชื่อของเค้าก็จะเป็นชุดอาหารข้าวหน้าเนื้อพันธุ์ Murakami ย่างแบบมีเดียมแลร์ และชุดข้าวหน้าไข่+ปลาแซลมอน (Murakami Gyuu Aburi Don และ Sake Oyako Don) ทั้ง 2 ชุดนี้ใช้วัตถุดิบเฉพาะของ Murakami เลยนะคะ
เว็บไซต์ คลิก >> https://www.nagatoku.jp/store/yururi.html
พิกัด >> https://goo.gl/maps/2LBSK8b9exPXJ3oEA
พิพิธภัณฑ์แซลมอน Iyoboya Kaikan คุณจะรักแซลมอน และไม่ทานน้องเหลืออีกต่อไปจากนี้
เมื่อมาที่นี่แล้ว เราจะรักแซลมอนมากขึ้นเลยค่ะ เพราะถ้าจะว่าไปแล้วแซลมอนก็เก่ง กลับบ้านเองได้ แล้วก็ทำเพื่อหน้าที่ตัวเองคือการผสมพันธุ์ แล้วก็จะลาจากโลกไป แค่นั้นจริงๆ
ปลาแซลมอนถ้าเราเอาเค้าไปปล่อยที่ไหน สามสี่ปีกลับมาผสมพันธุ์ที่เดิมแล้วก็จะตาย ในหนึ่งพันตัวจะกลับมาแค่สามตัว แต่ทว่า จริงๆ เค้าว่ายไปที่ต่างๆ เช่นอลาสก้าอย่างงี้ ก็อาจจะโดนจับไปตั้งแต่ที่นั่นแล้วก็ได้เลยกลับมาถึงนีงาตะไม่ได้น่ะ
แซลมอนเมื่อว่ายน้ำจากทะเลมาถึงแม่น้ำมันจะตั้งใจผสมพันธ์อย่างเดียวจนไม่ยอมกินไรเลย เป็นปลาที่ขยัน มีความจำดี จำถิ่นกำเนิดตัวได้ มีความตั้งใจจริงๆ แฮะ เห็นน้องแล้วเป็นแรงผลักดันไปอีก!
ซึ่งปัจจุบันการกลับมาของน้องช่างน้อยลงไปทุกๆ ที จึงมีการช่วยน้องผสมพันธุ์เพิ่มค่ะ ซึ่งการผสมพันธุ์ทำมา 130 ปีแล้ว และได้เอารูปแบบมาจากอเมริกา ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ ว่าการคิดแบบนี้จะมีมาตั้งแต่อดีตเลย ซึ่งก็ถือเป็นการช่วยให้ไม่สูญพันธุ์ด้วยค่ะ และเด็กๆ แถวนี้ก็มีความสุขในการเข้าร่วมกิจกรรมกันทุกๆ คน
เว็บไซต์ คลิก >> https://www.sake3.com/spot/163
พิกัด >> https://goo.gl/maps/64pn5sCijdozrLSx8
ก่อนจะย้ายเมือง เราต้องไปเจิมของฝากกันทีสถานีนีงาตะ (Niigata) ค่ะ ที่นี่เนื่องจากเป็นเมืองแห่งข้าว ของฝากหลักๆ จะเป็นเซมเบ้ ขนมคางิโนะทาเนะ สาเก ข้าว โอนิกิริ และขนมที่ทำจากสาลี่ ของขึ้นชื่อเยอะมากๆ เลยค่ะ แต่ที่ซื้อกลับมาด้วยแบบไม่คาดคิด เป็นเครื่องครัวของเมืองเหล็ก ซึบาเมะซังโจ ยังตลกตัวเองไม่หายมาทีไรซื้อกลับไปทุกรอบเลยค่ะ ผลิตภัณฑ์เค้าดีจริงๆ
มีของแปลกๆ ขายที่นี่หลากหลายอย่างเลยค่ะ เมื่อมาแล้วก็สนุกมากๆ ถ้าใครมาแล้วก็อย่าลืมแวะร้านของฝากที่นี่นะคะ
ที่พักแนะนำ Hotel Okura Niigata
ที่นี่นอกจากจะสะดวกสบายในการเดินทาง จากสถานีนีงาตะ และยังมีห้องนอนหลากหลายสไตล์รวมถึงห้องคอนเนคติ้งรูมให้เพื่อนๆ ได้เลือกนอนในแบบที่ชอบ ถ้ามาเป็นครอบครัวเค้าก็มีห้องใหญ่ให้ด้วยค่ะ
เว็บไซต์ คลิกที่นี่ >> https://www.okura-niigata.co.jp/
พิกัด >> https://goo.gl/maps/AxCoJwv7EYwLS46j8
ตื่นเช้ามาเจอบรรยากาศดีๆ ของโรงแรม ทานมื้อเช้าอร่อยๆ ของวัตถุดิบพื้นเมือง ฟินเลยค่ะ
เป็นยังไงบ้างคะ ถ้าเมืองเค้าน่ารักขนาดนี้ต้องมาแล้วใช่มั๊ยคะการเดินทางก็สะดวกสบาย เดินทางมาด้วยรถไฟ แล้วจะเช่ารถต่อที่สถานีนีงาตะก็ได้ หรือหากเดินทางด้วยรถไฟโลคอลมายังเมืองมุราคามิ ก็ยังสามาถที่จะโดยสารแท็กซี่มาเดินเล่นในเมืองได้ ถ้ากระเป๋าไม่หนักเดินจากสถานีรถไฟชมวิวไปเรื่อยๆ ก็ยังได้นะคะ
*เพื่อนๆ สามารถเดินทางไปเที่ยวนีงาตะด้วยพาสของเจอาร์อีส ได้ในราคา 20,000 เยนเป็นเวลา 5 วันที่สามารถใช้พาสได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> https://sonoko.life/2022/02/08/jr-east-pass-5-days/
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– Niigata แดนแห่งสายน้ำ
– สัมผัสประสบการณ์แช่น้ำแร่ ชมหิมะ กับห้องพักสุดหรูที่ Ryugon จังหวัดนีงาตะ
– ปล่อยใจปล่อยกาย พักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศรื่นรมย์ที่ Fuga no Yado Chouseikan
– เที่ยวนีงาตะ
– เที่ยวภูมิภาคโทโฮขุ ตอน ธรรมชาติแสนงามกับเทศกาลฤดูร้อน
#เที่ยวละไมในนีงาตะ และมุราคามิ หมู่บ้านแห่งสายน้ำ #Niigata #Murakami City