สำหรับรีวิวขับรถเที่ยวตอนใต้ของเกาะคิวชูในครั้งนี้ ก็เดินทางมาถึง Ep. สุดท้ายกันแล้ว ซึ่งเราจะไปเที่ยวกันที่จังหวัดคะโงะชิมะ (Kagoshima) กัน จังหวัดนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจ น่าไปขับรถเที่ยวกันบ้าง ตามมาเลย
จากใน Ep.1 เราได้พาทุกๆ คนไปเที่ยวที่จังหวัด คุมะโมโตะกันแล้ว (ใครที่ยังไม่ได้อ่าน ตามไปที่นี่ได้ค่ะ South Kyushu Road Trip: ขับรถเที่ยวเกาะคิวชูตอนใต้ 5 คืน 6 วัน Ep.1)
Ep.2 จะเป็นรีวิวในช่วง Day 3 และ Day 4 เราจะเที่ยวกันต่อที่ จังหวัด มิยะซะกิ South Kyushu Road Trip: ขับรถเที่ยวเกาะคิวชูตอนใต้ 5 คืน 6 วัน Ep.2
Ep.3 นี้ จะเป็นเรื่องราวในช่วง Day 4 นิดหน่อย Day 5 และ Day 6 ซึ่งเราก็จะใช้รถยนต์เดินทางในช่วงแรกแล้ว บวกกับการนั่งเครื่องบินในประเทศต่อไปยังเกาะยาคุชิมะ (Yakushima)
การเดินทางภายในเกาะ ก็จะใช้รถยนต์ คณะของเราเหมารถตู้ 1 คัน ใช้ตลอดระยะเวลาที่อยู่บนเกาะเลย เดินทางสะดวกมาก จะขึ้นเขาหรือพาไปทะเล ขอแค่บอก คุณลุงคนขับพาไปได้หมดค่ะ55 น่ารักมากๆ ชวนคุยตลอด คุณลุงเล่าเรื่องต่างๆ บนเกาะให้ฟังเยอะเลย เป็นความประทับใจดีๆ อีกอย่างบนเกาะค่ะ
เอาล่ะค่ะ ถ้าพร้อมแล้วเตรียมออกเที่ยวกับพวกเราต่อกันเลย….
Day 4
Kurozu Factory Shop & Restaurant ‘Tsubobatake’
จากจังหวัดมิยะซะกิ (Miyazaki) มุ่งหน้าสู่ จังหวัด คะโงะชิมะ (Kagoshima) จุดแรกที่มาเที่ยวคือ
โรงงานน้ำส้มสายชูดำ ของดีจังหวัดคาโกชิม่า ที่ ‘Tsubobatake’
Kurozu Factory Shop & Restaurant ‘Tsubobatake’ หรือ สึโบบาตาเกะ โรงงานผลิตน้ำส้มสายชูดำ ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของเมืองฟุกุยามะ
จังหวัดคะโงะชิมะ เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ชั้นดีเลยทีเดียว ที่นี่เราจะได้เห็นน้ำส้มสายชูดำหมักอยู่ในซึโบะ (ไห) เรียงรายไปตลอดทางกว่า 20,000 ไห ที่มีวิวอ่าวคิงโควัง (Kinkowan 錦江湾) ภูเขาไฟซากุระจิมะ (桜島, Sakurajima) เป็นแบคกราวน์สุดอลังฯ
อยากบอกว่าช่วงตอนใกล้พระอาทิตย์ตกดินเป็นภาพที่งดงามสุดๆ เลยแหล่ะ แสงอาทิตย์ที่กระทบกับน้ำเบื้องหน้าส่องประกายระยิบระยับ ยืนมองอยู่จนแทบจะลืมเวลากันเลย
มีโซนนิทรรศการเล่าประวัติของโรงงาน การผลิต และความเป็นมาของน้ำส้มสายชูดำ ด้านในมีการจัดวางรูปภาพพร้อมคำอธิบายให้เราได้ศึกษา
และมีบริเวณที่จัดวางสินค้าผลิตภัณฑ์ของโรงงานจำหน่าย เราสามารถลองชิมรสน้ำส้มสายชูดำได้ด้วยนะ ชอบรสแบบไหนก็เลือกซื้อได้เลย
มีให้ชิม 3 รส จากซ้าย แบบผสมองุ่นแดง กลาง รสผสมแอปเปิ้ลนำไปเทผสมกับนมสด (อร่อยมากก!) ขวา รสแอปเปิ้ล เพรียวๆ
ลองดื่มแล้วสดชื่นมากค่ะ รสผสมแอปเปิ้ลที่นำไปเทผสมกับนมสดอันนี้เหมือนดื่มโยเกิร์ตเลย
แน่นอน! ไม่พลาดที่จะสอยกลับบ้าน….
ร้านอาหาร ก็เป็นอีกจุดที่อยากแนะนำนะคะ ครั้งนี้เราสั่งเซ็ตติ่มซำที่เป็นซิกเนเจอร์ของโรงงานมาชิมกัน
อร่อยมากกก ย้ำอีกที อร่อยมากกก โดยเฉพาะบะหมี่ รสเผ็ดเปรี้ยวสะใจมาก เซ็ตของหวานก็มีเช่นกัน แต่ในพุงของเราตอนนี้เต็มไปด้วยติ่มซำซะแล้ว เลยต้องยอมอดไว้ก่อน 55
Kurozu Factory Shop & Restaurant ‘Tsubobatake’ (坂元のくろず「壺畑」情報館&レストラン)
พิกัด: https://goo.gl/maps/eUdjEDj6NmenJAhf7
ที่อยู่: 3075 Fukuyamacho Fukuyama, Kirishima, Kagoshima 899-4501, Japan
เวลาทำการ: 09.00 – 17.00 น.
เว็บไซต์: http://www.tsubobatake.jp/
Kagoshima Kuko Hotel かごしま空港ホテル
ที่พักของเราในคืนนี้ค่ะ Kagoshima Kuko Hotel อยู่หน้าสนามบิน Kagoshima เลย แถมยังบริการ รับส่งระหว่างโรงแรม – สนามบินด้วย สะดวกสบายมากๆ
ใกล้ๆ มีร้านสะดวกซื้อให้เดินไปได้ในระยะ 7 นาที ห้องพักขนาดกะทัดรัด มีห้องอาบน้ำ ห้องสุขาในตัว
อาหารเช้าอร่อยมากๆ ค่ะ เน้นอาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อ และนี่เลย ใครมาคะโงะชิมะ อย่าพลาดที่จะชิม เคฮังนะ เคฮังจะคล้ายๆ ข้าวต้มค่ะ แต่ไม่ได้เอาข้าวไปต้มนะ
เค้าเอาข้าวสวยร้อนๆใส่ชาม แล้วใส่ท็อปปิ้งที่จะมีไก้ต้มฉีกเป็นเส้นๆ แล้วก็เครื่องเคียงอื่นๆ เช่น ผัดดอง ไข่เจียวหั่นฝอยลงไปแล้วราดด้วยซุปไก่ร้อนๆ
จัดมา 10 ชามก็ซดหมดจ้า 55 อร่อยมากๆ ค่ะเมนูนี้
Kagoshima Kuko Hotel かごしま空港ホテル
ที่อยู่: Mizobecho Fumoto 616-1, 899-6404 Kirishima
เว็บไซต์: https://k-kukohotel.co.jp/
Day 5
Yakushima
เอาล่ะค่ะ ได้เวลาออกเดินทางกันต่อแล้ว เราจะไปเที่ยวเกาะยาคุชิมะ (Yakushima) นะ
การเดินทางมาที่เกาะยาคุชิมะ สามารถเดินทางได้ทั้งเครื่องบินภายในประเทศจากสนามบิน Osaka International Airport / Fukuoka Airport / Kagoshima Airport มาลงที่ Yakushima Airport และการนั่งเรือเฟอร์รี่หรือเรือด่วนจากท่าเรือคาโกชิมะ (Kagoshima)
ครั้งนี้เรา เดินทางจาก Kagoshima Airport มาลงที่ Yakushima Airport ใช้เวลาประมาณ 35 นาทีค่ะ
วิวระหว่างทาง
นั่งชมวิวเพลินๆ รู้ตัวอีกที มาถึงแล้วววจ้าาา…. สนามบินยาคุชิมะ (Yakushima Airport) เป็นสนามบินเล็กๆ คือเล็กมากกก สัมภาระต่างๆ จะถูกขนย้ายด้วยมือแบบนี้เลย
พอรับของเสร็จเดินออกมาก็ข้างนอกแล้วจ้า มีแค่นี้เลย แต่ในสนามบินก็มีสิ่งอำนวยสะดวกที่ถือว่าโอเคนะคะ
ร้านของฝากก็มี ร้านอาหารเล็กๆ ให้ฝากท้องก็มีเช่นกัน …
และนี่คือรถที่จะอยู่กับเราตลอดระยะเวลาที่เที่ยวกันบนเกาะค่ะ คนขับน่ารักมาก ดูแลดีตลอดทริปเลย
Shitoko Gajumaru Banyan Park
ไปเที่ยวกันเลยที่ สวนป่าต้นกาจุมารุ ガジュマル ( Microcarpa) ซึ่งเป็นต้นไม้มงคลและแสนลึกลับบนเกาะยาคุชิมะ
เกาะยาคุชิมะ (Yakushima) เป็นเกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศมากๆ จุดแรกที่เรามาเที่ยวก็เป็น 1 ในสถานที่ยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวมากัน
เข้ามาแล้วก็จ่ายค่าเข้าชมกันก่อน ผู้ใหญ่คนละ 240 เยน / เด็ก 120 เยนค่ะ มีของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ ขายด้วย
Shitoko Gajumaru Banyan Park เป็นสวนสาธารณะ ที่มีต้นกาจุมารุ ガジュマル ( Microcarpa) สูงใหญ่ 15 เมตร อายุกว่า 300 ปี แผ่กิ่งก้านราวกับเป็นโดมเขาวงกตขนาดใหญ่ แลดูน่าเกรงขามมากๆ
ต้นกาจุมารุ คนท้องถิ่นเค้านับถือเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เเละเชื่อว่าเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าเคมมูน ケンムン หนึ่งในภูติโยไก (妖怪) ที่มีเรื่องราวลี้ลับมากมาย
ภายในสวน จัดเป็นทางเดินให้วนดูได้รอบๆ ประมาณ 10 นาทีก็วนครบค่ะ แต่ละจุดก็จะมีแมกไม้เมืองร้อนหลายชนิดให้ชม
บางจุดมียุงเยอะหน่อยนะคะ ควรทายากันยุงและใส่เสื้อผ้ามิดชิดมาค่ะ
หากใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและศึกษาเรื่องพืชไม้ต่างๆ จะต้องชอบแน่ๆ
Yakushima Gagumaru Banyan Park
เวลาทำการ: 08.30 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่คนละ 240 เยน / เด็ก 120 เยน
เว็บไซต์: https://www.town.yakushima.kagoshima.jp/en/sightseeing-spots/sightseeing-village-areas/shitoko-gajumaru-banyan-park/
Kunseiya Keisuisan くんせい屋 けい水産
โรงแปรรูปปลาจากท้องทะเลยะคุชิมะ ของคุณทานากะ 田中啓介さん ที่นี่เค้ามีสตอรี่ด้วยนะ ได้ไปเยือนแล้วรู้สึกประทับใจมากๆ รู้สึกได้ถึงความตั้งใจของเค้าเลย ถ้าใครมาเที่ยวที่เกาะนี้อยากให้มาอุดหนุนสินค้ากันนะคะ…
คุณทานากะ ย้ายมาอยู่ที่เกาะนี้เมื่อ 20 ปีก่อน แต่เดิมเป็นนักเดินทาง Backpacker (แบ็คแพ็คเกอร์) ที่ได้เดินทางไปหลายประเทศทั่วโลก แต่เพิ่งมารู้ตัวตอนระหว่างเดินทางอยู่ต่างประเทศว่า ตนเองนั้นไม่รู้จักอะไรที่เกี่ยวกับญี่ปุ่นที่เป็นประเทศของตนเลย จึงเดินทางกลับมา แล้วศึกษาเรื่องของญี่ปุ่น
และในระหว่างเดินทางก็ได้มาเจอกับเกาะยาคุชิมะนี้ จากที่คิดว่าลองอยู่ๆ ไปก่อน แต่ติดใจเกาะซะงั้น… เลยอยู่ยาวเลย
ช่วงแรกๆ ที่มาอาศัยอยู่เกาะทำอาชีพชาวประมงเหมือนคนส่วนมาก แต่อาชีพนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ รายได้ค่อนข้างแปรปรวนและปลาที่อุตส่าห์จับมาได้
บางครั้งก็ขายไม่ได้เพราะมีรอยถลอกนิดหน่อย ทำให้รู้สึกเสียดายและไม่อยากทำให้ปลาที่เป็นสิ่งมีชีวิตเช่นกันได้เสียเปล่ามาตลอด
และหลังจากย้ายมาอาศัยที่เกาะนี้ช่วงปีที่ 8 จึงได้เริ่มก่อสร้างโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารทะเลรมควันแห่งนี้ขึ้นมา
โรงงานสีขาวหลังเล็กๆ ท่ามกลางป่าสีเขียวตัดกับท้องฟ้าสดใสของเกาะยาคุชิมะ ส่งกลิ่นหอมกรุ่นต้อนรับเราตั้งแต่ลงรถกันเลย
คุณทานากะ พาเราเดินดูรอบๆ บ้าน และพูดคุยอย่างเป็นกันเอง และโชว์ไม้ชนิดต่างๆ ที่เอาไว้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับรมควัน
และนี่เป็นตู้อบที่รีโนเวทมาจากชั้นวางของที่ใช้ในครัว คุณทานากะชี้ให้ดูอย่างภูมิใจพร้อมรอยยิ้มว่า
เค้าใช้ของทุกอย่างได้อย่างคุ้มค่าสุดๆ
ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่รังสรรค์มาจากความตั้งใจของคุณทานากะ มีวางจำหน่ายตามจุดขายของฝากทั่วเกาะเลยนะ จะสั่งจากเว็ปไซต์โดยตรงก็ได้เช่นกัน
คุณทานากะเชื้อเชิญให้เราลองชิมปลาชนิดต่างๆ ตัดมาพอดีคำ แต่ละชนิดอร่อยไม่มีชิ้นไหนยอมกันเลย
ซิกเนเจอร์ของคุณทานากะจะเป็นปลาโทบิอุโอะ (ปลาบิน) ที่เป็นปลาขึ้นชื่อของเกาะนี้อีกด้วย ส่วนตัวแอบติดใจปลาหมึกรมควันมากกว่า 55 เนื้อหนาๆ หนึบๆ กรอบๆ เคี้ยวเพลิน จนอยากได้เครื่องดื่มซ่าๆ ฟองเยอะๆ ซักแก้วเลยทีเดียว….
ทั้งปลาชนิดต่างๆ รมควัน โชยุ ดาชิที่ทำจากปลาบินล้วนเป็นเครื่องปรุงที่เหล่าแม่บ้านญี่ปุ่นชอบใช้เป็นเครื่องปรุงเพิ่มกลิ่นและความกลมกล่อมในอาหารทั้งนั้นเลย แค่ใส่เพิ่มนิดหน่อยก็ได้รสเข้มข้นราวกับเคี่ยวซุบข้ามวันกับมือ…
ตัวอย่างเมนู
โรงแปรรูปปลาจากท้องทะเลยะคุชิมะ Kunseiya Keisuisan くんせい屋 けい水産
พิกัด: https://goo.gl/maps/x56T2nJ6GVpwfAY66
เว็บไซต์: https://keisuisan.com/
Restaurant katagiri-san (定食・ぱすた かたぎりさん)
ไปร้านปลารมควันมาแล้วเริ่มหิว หาอะไรกินกันก่อนออกเที่ยวต่อค่ะ ไหนๆ ก็ไปดูปลาโทบิอุโอะ (ปลาบิน) มาแล้ว เราก็ไปหาร้านที่มีเมนูปลาโทบิอุโอะกินกันจ้า
จากที่ถามคนในพื้นที่เค้าแนะนำร้านนี้มา แถมอยู่ไม่ไกล จากสนามบินยะคุชิมะ แค่ 10 นาทีโดยรถยนต์เอง
ที่นี่มีเมนูหลากหลายตั้งแต่เซ็ตอาหารญี่ปุ่นทั่วไป พาสต้าเป็นต้น เมนูแนะนำของร้านคือ flying fish Hitsumabushi แน่นอนเราสั่งเซ็ตนี้ค่ะ
ข้าวร้อนๆ ท็อปปิ้งมาด้วยปลาบินย่างหอมๆ กลิ่นยั่วยวนมาก วิธีกินให้คุ้มจะต้องกินแบบ 3 สเต๊ปนะ
ก่อนอื่นกินแบบปรกติ จกกินคำโตๆ เลยจ้า หลังจากนั้นตักใส่ภาชนะที่เค้าเตรียมมาให้ทีละนิด ใส่เครื่องเคียง พวกวาซาบิ สาหร่าย ลงไป แล้วตามด้วยซุปดาชิร้อนๆ แล้วซดโลดดดด ขอบอกว่าแซ่บโล่งคอมากกกก….
Restaurant katagiri-san (定食・ぱすた かたぎりさん)
พิกัด: https://goo.gl/maps/zy1mCStCVLWjGTum8
เวลาทำการ: 11.00 – 15.00 น. (L.O.14.30 น.) / 17.30 – 21.00 น. (L.O. 20.30 น.)
เว็บไซต์: https://katagirisan.com/
ลงเรือชาวประมง ตกปลาในทะเล
ช่วงบ่ายเราจะไปตกปลากันค่ะ ครั้งนี้จองกิจกรรมของบ้านที่ชื่อว่า ฟุคุโนะคิ 漁師の暮らし体験宿ふくの木
เป็นบ้านของชาวประมงตัวจริงเสียงจริงเลย
กิจกรรมนี้ เราจะได้ที่พัก 1 คืน ซึ่งเป็นบ้านไม้แบบดิบๆ เหมือนนอนในบ้านชาวประมงเลยแหละ และได้ไปตกปลา แล้วฝึกวิชาแล่ปลา แบบจับมือสอนเลย รับรองกลับมาแล้ว แล่ปลาขั้นเทพเเน่นอน 55
แต่ครั้งนี้ไม่ได้นอนที่บ้านนี้นะ กินข้าวเย็นเสร็จแล้วก็กลับเลยเพราะแพลนตารางเที่ยวจนวินาทีสุดท้าย จึงเลือกที่พักใกล้ๆ สนามบิน ขากลับจากเกาะ จะได้เดินทางสะดวกค่ะ
เอาล่ะ ไปดูกิจกรรมของเรากันต่อค่ะ
หลังจากที่จองล่วงหน้า ก็ได้พิกัดจุดนัดลงเรือ คุณลุงคนขับรถก็พาเรามาส่งที่ท่าเรือค่ะ เรือของเราชื่อว่า มารุสุบิเอะ ตื่นเต้นจังเป็นครั้งแรกที่จะได้ขึ้นเรือประมงออกทะเลของจริงอ่า
เรือประมงของเรามีขนาดกะทัดรัด มีห้องน้ำอยู่ตรงด้านหลังเรือ แต่คงไม่กล้านั่ง เพราะคลื่นแรงค่ะ 55
ขึ้นเรือแล้วก็ใส่เสื้อชูชีพให้เรียบร้อยและนั่งนิ่งกันก่อน
ใกล้ๆ ท่าเรือมีเหล่าคุณลุงมานั่งตกปลากันเยอะเลย
เรือค่อยๆ ลอยลำออกจากท่า คลื่นเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนจะซัดเข้ามาในเรือ แถมคลื่นแถวนี้ยังเป็นคลื่นสีดำที่เรียกว่า Kuroshio Current 黒潮 จนรู้สึกกลัว จนไม่กล้าลุกเลย แต่พอซักพักก็เริ่มชินค่ะ มองไกลๆ พอเห็นคลื่นกำลังจะเข้ามาก็ร้องกรี๊ดๆ แถมยังแอบยกก้นเหมือนจะกระโดด 55 สนุกเหมือนนั่งเครื่องเล่นในสวนสนุกเลย ฮ่า ฮ่า …
เรือพาลอยลำมาเรื่อยๆ จนถึงจุดที่เหมาะสม เจ้าของเรือก็ชะลอเรือเพื่อตกปลากัน
นี่คือเหยื่อที่จะใช้ตกปลาวันนี้ค่ะ
เจ้าของเรือจัดแจงสอนวิธีใส่เหยื่อและวิธีใช้คันเบ็ดให้อย่างละเอียด และคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ ตลอด อุ่นใจได้ค่ะ แต่ก็ต้องระวังนะ เพราะคลื่นจะซัดมาเรื่อยๆ เรือมันจะโยกเยกค่ะ
แทเด๊นนนน และนี่คือผลงานของเราในวันนี้ ได้มาทั้งหมด 3 ตัวจ้า เจ้าตัวสีแดงตัวใหญ่นี้ชื่อปลา takibera タキベラ เป็นปลาในวงศ์เดียวกับ ปลานกขุนทองค่ะ ฟันปลาค่อนข้างใหญ่และแหลมคมมากๆ ค่ะ ชาวประมงจะใช้คีมแบบในรูป คีบปลาออกจากเบ็ดเพื่อความปลอดภัย
ตัวนี้คือปลา โอจิซัง แปลไทยตรงๆ ก็ ปลาลุง ^^; น้องมีหนวดยาวๆ เอ๊ะหรือจะเรียกเคราดี ก็เลยถูกเรียกว่าลุงซะงั้น
ใช้เวลาตกปลากันประมาณเกือบๆ 2 ชั่วโมง เรือก็พากลับเข้าฝั่งค่ะ หลังจากนั้นก็ไปที่บ้านชาวประมงกันเพื่อเตรียมทำข้าวเย็น
และนี่ก็คือบ้าน ฟุคุโนะคิ จ้า ดิบพอมั้ยล่า~ มีอ่างอาบน้ำแบบก่อไฟเหมือนในหนังญี่ปุ่นสมัยก่อนที่เคยดูตอนเด็กๆ เลย
ระหว่างที่รอเจ้าของบ้านจัดเตรียมครัวให้เราไปร่วมทำกับข้าวขอไปเดินเล่นรอบๆ บ้านนิดนึงนะ…
บรรยากาศรอบๆ บ้านดีมากค่ะ ปลูกผักผลไม้เต็มพื้นที่เลย มีกล้วย มีฝรั่งด้วยอ่า เจ้าของบ้านใจดี บอกให้เก็บกินตามสบาย
เดินเล่นรอบๆ บ้านได้ซักพัก รู้สึกว่ามีสิ่งมีชีวิตจ้องมา…….
แพะ ….. ใช่ แพะ …………. เธอคือแพะ………… 555 โอ้ยยยย ชิวเกิ้นนนน
และนี่คือด้านในบ้านค่ะ บ้านไม้ 2 ชั้น นอนได้น่าจะประมาณ 5-6 คน ค่ะ
ตอนนี้ในครัวเริ่มจะพร้อมแล้ว ชาวประมงเจ้าของบ้านจึงเรียกไปเตรียมตัวช่วยกันทำข้าวเย็นค่ะ เจ้าของบ้านสอนตั้งแต่วิธีจับปลามาทำความสะอาด วิธีแล่ปลาและจัดลงจานให้ดูสวยงาม
ส่วนเมนูอื่นๆ ภรรยาเค้ามาช่วยทำอีกแรง แป๊บเดียวอาหารเต็มโต๊ะแล้วค่ะ ถือเป็นมื้อค่ำของวันที่อุดมไปด้วย ปลาสดๆ เค้ากินทุกส่วนของปลา ไม่เหลือเลยค่ะ หนังปลา สามารถเอาไปรมควัน หรือทอดกรอบๆ รับประทานเล่นได้ ก้างปลาก็เอาไปต้มทำน้ำซุปมิโซะ สำหรับมื้อเช้าได้อีกค่ะ
มาที่นี่ได้ทั้งความรู้ และรู้จักกับวิธีชีวิตของชาวประมงอย่างใกล้ชิดมากๆ เลย
ใครที่สนใจ สามารถจองกิจกรรม บ้านฟุคุโนะคิ ได้จากเว็ปไซต์เลย แต่อาจจะตอบช้าหน่อยนะคะ เพราะออกเรือทุกวัน ใจร่มๆ รอเค้าตอบนิดนึงน้า
ทางไปจอง>>> https://www.yakushima-fukunoki.com/reservation
Jomon no Yado Manten 縄文の宿まんてん
ที่พักของเราคืนนี้ค่ะ อยู่ฝั่งตรงข้ามกับสนามบินเลย สะดวกมากก เป็นโรงแรมใหญ่มีห้องพักเยอะที่สำคัญห้องออนเซ็นเค้าดีมากกกก มีหลายบ่อทั้งบ่อในร่มและกลางแจ้ง และมีซาวน่าด้วยค่ะ อาหารการกินก็ดีงาม บุฟเฟ่ตอนเช้ามีทั้งขนมปังอบใหม่ๆ และสไตล์ญี่ปุ่นให้เลือกค่ะ
ห้องพักของเราเป็นแบบมีเตียงนะ และก็มีห้องสไตล์ญี่ปุ่นที่เป็นเสื่อทาตามิ มีโต๊ะเตี้ยๆให้นั่งจิบชา แบบญี่ปุ้น ญี่ปุ่น เก็บของเสร็จแล้วไปแช่ออนเซ็นกันค่ะ
โซนร้านของฝากในโรงแรมมีของขายเยอะมาก แทบไม่ต้องออกไปหาซื้อที่ไหนเลย ใครมาพักที่นี่ กำเงินมาแน่นๆ นะคะ ซื้อเสร็จแล้วแพ็คลงกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่องได้เลย สะดวกสุดๆ ค่ะ
Jomon no Yado Manten 縄文の宿まんてん
ที่อยู่: 812-33 Koseda, Yakushima-Cho, Kumage-Gun, Kagoshima 891-4207, Japan
เว็บไซต์: https://www.arm-manten.co.jp/
Day 6
Hiking in Yakushima
เอ่กอิเอ๊กเอ๊กกกกกกกก เช้าแล้วจ้า วันนี้ตื่นแต่เช้าเตรียมตัวไปเดิน Hiking อาบความสดชื่นของป่าดึกดำบรรพ์ที่ปกคลุมไปด้วยมอสกันค่ะ
ป่านี้ยังเป็นป่าที่เป็นแรงบันดาลใจ ให้กับอนิเมชั่นเรื่อง Princess Mononoke ของ Studio Ghibli อีกด้วยนะ…
ก่อนไป ก็มาทำความรู้จักป่านี้กันอีกซักนิดนะ
ป่าที่เราพูดถึงนี้อยู่ในเกาะยาคุชิมะ (Yakushima) จ.คาโกชิมะ ทางใต้สุดของภูมิภาคคิวชู ตัวเกาะมีเส้นรอบวงความยาวประมาณ 130 กิโลเมตร พื้นที่ 90% เป็นป่าและภูเขา มีประชากรอยู่เพียงประมาณ 13,000 กว่าคน
ในปี ค.ศ.1993 เกาะยาคุชิมะได้รับการคัดเลือกจากยูเนสโก้ (Unesco)ให้เป็นเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเกาะนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่ชื่นชอบกิจกรรมเดินป่าเป็นอย่างมาก ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาอย่างไม่ขาดสายกันเลยค่ะ
วิวระหว่างทางสวยมากกก
วันนี้เราออกเดินทางพร้อมไกด์ท้องถิ่น ซึ่งถ้าจองล่วงหน้าไว้เค้าจะมารับถึงที่พักเลย
พร้อมออกเดินทางแล้วค่า
เส้นทางเดินป่าบนเกาะก็มีหลากหลายให้เลือก ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงนักเดินป่าระดับสูง เส้นทางที่เราไปกันวันนี้ ชื่อว่า “เส้นทางหุบเขาชิราทานิ-อุนซุยเคียว” (Shiratani Unsui-kyo Gorge Trail)
ไกด์เชี่ยวชาญเส้นทางมากๆ คอยแนะนำและดูแลอย่างดีตลอดทาง ประทับใจมากๆ เลย สำหรับผู้เขียน เส้นทางนี้เดินได้ค่อนข้างง่ายค่ะ ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง แต่จริงๆ แล้ว ถ้าจะเดินเข้าไปถึงด้านในๆ ของเส้นทางนี้ก็จะใช้เวลาเกือบ 5 ชั่วโมงค่ะ
ทางเดินจะเป็นทางลัดเลาะไปตามหุบเขาที่มีลักษณะเป็นป่าดิบชื้น ปกคลุมไปด้วยมอสสีเขียวราวกับเป็นผืนทะเลมอสสีเขียว ให้ความรู้สึกสดชื่น และดูลึกลับน่าค้นหามากๆ สมกับที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้สร้างอนิเมชั่นเรื่อง Princess Mononoke จริงๆ ค่ะ นักเดินทางสายธรรมชาติ อย่าลืมหาโอกาสมาเยือนเกาะแห่งนี้กันดูนะคะ
จองไกด์ท้องถิ่น: http://www.yakushima-guide.com/
ร้านอาหารท้องถิ่น Shiosai お食事処 潮騒
ใช้พลัง Hiking เดินป่ากันแล้ว มาเติมพลังด้วยอาหารท้องถิ่นแสนอร่อยก่อนกลับกันค่ะ
ร้านอาหารท้องถิ่น Shiosai ร้านนี้คนในพื้นที่บอกว่าถ้าไม่ไปชิมถือว่าพลาดมากกก และเมนูที่ต้องลองก็คือ คุบิโอเระซาบะ 首折れサバ หรือถ้าแปลตรงๆ คือ ปลาซาบะคอหัก นั่นเอง แต่เสียดายวันที่ไปไม่มีปลานี้เข้ามาจากท่าเรือ เลยอดกินค่ะ เมนูนี้ต้องวัดดวงกันหน่อยนะคะ เพราะเค้าใช้แต่ของสดใหม่ ถ้าวันไหนไม่มีขึ้นจากเรือก็อดกินค่ะ….
อดกินปลาก็สั่งกุ้งละกัน พอทางร้านยกมาเสิร์ฟตกใจร้องเสียงหลงกันทุกคน 55 กุ้งตัวใหญ่มากกกก
มาแบบล้นจาน เนื้อแน่นๆ แป้งกรอบๆ กินสะใจสุดๆ เลยค่ะ
เมนูอื่นๆ ที่แนะนำก็จะเป็นพวกเซ็ตซาชิมิ เซ็ตปลาย่างนะคะ อย่างที่บอกเค้าใช้ของสดใหม่ทุกวัน มาร้านนี้ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
********************
เที่ยวกันจุใจ ก็ถึงเวลาที่ต้องกลับกันแล้วค่ะ ขอบคุณทุกๆ ท่านที่อ่านมาถึงตอนสุดท้ายของทริปขับรถเที่ยวเกาะคิวชูตอนใต้นะคะ
ทีมงาน marumura ยังมีที่เที่ยวน่าสนใจอีกมากมายมาแนะนำกันเรื่อยๆ ขอฝากบทความของพวกเราไว้ด้วยค่ะ แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้าน้า บ้ายบาย….
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– South Kyushu Road Trip: ขับรถเที่ยวเกาะคิวชูตอนใต้ 5 คืน 6 วัน Ep.2
– South Kyushu Road Trip: ขับรถเที่ยวเกาะคิวชูตอนใต้ 5 คืน 6 วัน Ep.1
– ทริปขับรถเที่ยวเกาะคิวชู 4 จังหวัด Ep.4 จังหวัดโออิตะ (Oita)
– ทริปขับรถเที่ยวเกาะคิวชู 4 จังหวัด Ep.3 จังหวัดคุมาโมโตะ (Kumamoto)
– ทริปขับรถเที่ยวเกาะคิวชู 4 จังหวัด Ep.2 จังหวัดนางาซากิ (Nagasaki)
– ทริปขับรถเที่ยวเกาะคิวชู 4 จังหวัด Ep.1 จังหวัดซากะ (Saga)
#South Kyushu Road Trip: ขับรถเที่ยวเกาะคิวชูตอนใต้ 5 คืน 6 วัน Ep.2 #Miyazaki #South Kyushu #เที่ยวคิวชูตอนใต้