นิทรรศการรวมปกหนังสือ
โดยนักออกแบบ 100 คนที่อุเมะดะ โอซาก้า
คนจะอ่านปกหนังสือแบบไหนเขาก็อ่าน 555 เห็นข่าวงานนี้แล้วแบบว่า คนบ้าคลั่งและพ่ายแพ้ต่อกระดาษลายสวยๆ นี่ ไปงานนี้ตายคาที่แน่ๆ แม้ตัวนิทรรศการจะจบลงไปแล้ว แต่สิ่งที่พวกเราเจแปนโบรชัวร์สนใจมันไม่ได้จบลงไปด้วยนี่สิ เพราะการที่คนญี่ปุ่น ทั้งในส่วนคนที่ชอบอ่านหนังสือ และเหล่านักออกแบบ มารวมตัวกันในงานนิทรรศการรวมปกหนังสือกระดาษลวดลายต่างๆ แบบนี้ มันก็ทำให้เรานึกตั้งคำถามขึ้นมาทันทีเลยล่ะ
คือคนไทยอย่างเเรา เคยชินกับการห่อปกพลาสติกใสๆ กันมาตลอดใช่ไหมคะ แต่จริงๆ แล้ววัฒนธรรมการห่อปกหนังสือด้วยกระดาษนี้อยู่คู่กับคนญี่ปุ่นมานานแล้ว อาจเพราะวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน และการที่คนญี่ปุ่นห่อปกกระดาษแบบนี้ก็มีเหตุผลซ่อนอยู่แหละ
หลักๆ เลย คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ เขาอยากให้หนังสือยังดูใหม่ สวยสะอาดสภาพดีอยู่เสมอ และอีกเหตุผลคือไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่ากำลังอ่านหนังสืออะไรอยู่นั่นเองค่ะ
เมื่อนึกย้อนกลับไปเวลาเราเดินทางท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น เรามักจะเห็นคนบนรถไฟ ตามสวนสาธารณะ ในร้านหนังสือต่างตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือในมืออย่างจริงจังมาก แต่น้อยครั้งจริงๆ ที่จะเห็นว่าหนอนหนังสือเหล่านั้น กำลังอ่านหนังสืออะไรกันอยู่ จวบจนได้มีโอกาสมีประสบการณ์การซื้อหนังสือในร้านหนังสือที่ญี่ปุ่น แล้วก็ได้เห็นว่าพนักงานร้านจัดแจงห่อปกกระดาษที่มีโลโก้ หรือสัญลักษณ์ของร้านหนังสือนั้นๆ ยื่นกลับมาให้เราหลังชำระเงินเรียบร้อยแล้วด้วย
จะว่าไปก็น่ารักดี แล้วก็ได้ฟีลการสัมผัสที่แตกต่างจากการซื้อการอ่านหนังสือปกพลาสติกที่เคยชินในบ้านเราอยู่พอตัว (ถึงแม้ปัจจุบันร้านหนังสือหลายร้านจะเลิกแถมปกพลาสติกไปแล้วก็ตาม)
https://twitter.com/FOLKbookstore
ส่วนปกกระดาษที่นำมาจัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้ เป็นการออกแบบโดยนักออกแบบชาวญี่ปุ่น และไต้หวันกว่า 100 คน หลากหลายลวดลาย และสไตล์การวาด รวมทั้งมีสีสันทึบทึมและสดใส พิมพ์ด้วยกระดาษที่มีคุณภาพดี ราคาจำหน่ายปกกระดาษภายในงานคือ 5 แผ่น 500 เยน
พอได้เห็นบรรยากาศงานที่จัดแล้วก็เลือกไม่ถูกเลยจริงๆ แหละ นึกภาพไม่ออกเลยว่าถ้าไปยืนอยู่ตรงนั้นจะสูญเสียไปเท่าไหร่กันนะ ไปดูผลงานบางส่วนของศิลปินที่มาแสดงภายในงานนี้กัน
https://twitter.com/FOLKbookstore
ความน่าสนใจมากไปกว่าการจำหน่ายปกกระดาษเหล่านี้ คือการได้ติดตามผลงานศฺลปินที่เราชอบ ได้นำผลงานการออกแบบนั้นกลับมาใช้ซ้ำอีก และเพิ่มช่องทางให้เหล่าศิลปิน นักออกแบบ นักวาดได้มีอีกพื้นที่ในการแสดงผลงานของตนเองด้วย
เราลองไปตามแฮชแท็ก #約100人のブックカバー展 มีผู้ร่วมงานชาวญี่ปุ่น โอดครวญในทวิตเตอร์ว่า
“เขาไม่สามารถซื้อปกกระดาษลายไหนได้เลย เพราะทุกคนที่มาร่วมงานนิทรรศการในครั้งนี้เป็นศิลปินที่เขาชื่นชอบ ซึ่งถ้าซื้อหมดทุกลายเขาคงเป็นคนที่รวยมากแน่ๆ”
ส่วนอีกคนก็บอกว่า “หลังจากที่ฉันไปซื้อปกกระดาษที่งานแล้ว ฉันเอามาห่อหนังสือเล่มโปรดของฉัน มันดูสดใสขึ้นมาเลย”
“แม้ว่าฉันจะคัดสรรทุกปกมาอย่างดีแล้ว มันก็ยังมีจำนวนที่เยอะมาก … แต่ฉันก็ตื่นเต้นมากที่ได้เห็นมัน”
“นิทรรศการปกหนังสือที่ร้าน LOFT สาขา Umeda น่าสนใจมาก ทั้งคุณภาพของกระดาษและสีสันในการพิมพ์ ล้วนมีความแตกต่างกัน ซึ่งเป็นภาพประกอบที่น่ารักแทบทั้งหมดเลย! สามารถซื้อปกหนังสือเล่มโปรดได้ในราคา 500 เยน 5 แผ่น ตอนนั้นฉันตัดสินใจไม่ได้เลยว่าจะซื้อ 5 , 10 หรือ 15 แผ่นดี”
“เป็นนิทรรศการสำหรับคนรักหนังสือ กระดาษ และงานพิมพ์ ฉันคิดว่าฉันควรจะซื้อมากกว่านี้ ฉันต้องการปกหนังสือ เอาไว้อ่านขณะเดินทาง”
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนของเหล่าผู้ร่วมงาน ที่พร้อมใจกันติดแฮชแท็ก #約100人のブックカバー展 ในทวิตเตอร์ค่ะ
จะว่าไปแล้วนิสัยรักการอ่านของคนญี่ปุ่นนั้นไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ เฉลี่ยต่อปีคนญี่ปุ่นยังอ่านหนังสือมากกว่า 40 เล่มต่อคนเลยทีเดียว และต่อให้เทคโนโลยีจะพัฒนาไปอย่างไร คนญี่ปุ่นก็ยังหลงใหลการอ่าน และการสัมผัสหนังสือเป็นเล่มๆ อยู่เสมอ สังเกตได้จากร้านหนังสือที่มีอยู่ในทุกหัวมุมถนน ตามห้างสรรพสินค้า แหล่งช้อปปิ้ง ในซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านขายหนังสือมือสองเอง ก็มีหลากหลายแนวหนังสือให้เลือกอ่าน และแน่นอนว่ายังคงสภาพดีอยู่ด้วยนะ
ความรู้รอบ “Brochure”
หนังสือที่ห่อปกกระดาษสะท้อนความเป็นคนญี่ปุ่น
ซึ่งการห่อปกหนังสือด้วยกระดาษของคนญี่ปุ่นนี้ ล้วนส่งผลจากนิสัยรักความเป็นส่วนตัวสุดๆ ของคนญี่ปุ่น ที่มักแทรกอยู่ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าคุณจะอยู่บนรถไฟ ในห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่ตามสวนสาธารณะ ก็ต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของคนอื่นอยู่เสมอ ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จักก็ตาม
สังเกตง่ายๆ จากช่องทางในโลกโซเชียลอย่างเฟสบุ๊ค การที่ต้องใช้ชื่อ-นามสกุลจริงตอนลงทะเบียนก็ส่งผลให้คนญี่ปุ่นไม่ค่อยให้ความนิยม หรือในบางคนก็ไม่ค่อยถ่ายรูปตัวเอง จะเน้นเป็นรูปสัตว์เลี้ยง เมนูอาหารอย่างเบนโตะ รูปวิวทิวทัศน์ หรืองานฝีมือ เป็นต้น
ความรักความเป็นส่วนตัวของคนญี่ปุ่นบางคนสูงมาก ก็ถึงขนาดว่าไม่เปิดเผยเรื่องส่วนตัวให้แฟน หรือคู่รักฟัง รวมทั้งไม่ค่อยคุยกับคนแปลกหน้า หรือไม่รู้จัก สาเหตุหลักก็เพราะความที่เป็นชาตินิยมสูงด้วยนั่นแหละ ดังนั้นสำหรับคนที่อยากทำความเข้าใจคนญี่ปุ่นอย่างถ่องแท้ ควรศึกษาหาความรู้ ความเข้าใจเรื่องสังคม วัฒนธรรม นิสัยของคนญี่ปุ่นไปพร้อมๆ กันด้วยนะ
ทักทายพูดคุยกับทีมงานเจแปนโบรชัวร์ได้ที่ www.facebook.com/JapanBrochure/
เรื่องแนะนำ :
– Silver Spoon ความหมายของช้อนเงิน การส่งต่อความหวัง และพลังในการมีชีวิตอยู่ต่อไป
– Apple Field Railway นั่งรถไฟท้องถิ่นชมสวนแอปเปิ้ลวิวภูเขาอิวากิ
– 10th Anniversary of A Traveling Greengrocer ฉลองครบรอบการเดินทาง 10 ปี เพื่อไล่ตามฝันของสองเพื่อนซี้ ที่อยากจะเป็นพ่อค้าขายผัก
– Showa no kamishibai เรื่องเล่าภาพนิทานบนจักรยาน ในสมัยโชวะ
– Art Sento + Cafe Miyanoyu เปลี่ยนโรงอาบน้ำสาธารณะให้เป็นคาเฟ่แสดงงานศิลปะที่โตเกียว
#นิทรรศการรวมปกหนังสือ โดยนักออกแบบ 100 คนที่อุเมะดะ โอซาก้า