คู่เพื่อนสาวหนีร้อนไปพึ่งหนาว เที่ยวฮิโรชิม่าและยามากุจิกันจ้า EP3
มาเที่ยวปิดทริปเอาแต่ใจ เที่ยวฮิโรชิม่าหน้าหนาวกับจังหวัดยามากุจิกันจ้า ซึ่งเมื่อตอนที่แล้ว เราใช้บัตรรถไฟ JR-WEST All Kansai Area Pass แบบหัวหกก้นขวิด เที่ยววันเดียวสองจังหวัด ทั้งย่านเมืองเก่า Fukuyama (จ. Hiroshima) แล้วก็ไปสะพานไม้สุดดัง Kintaikyo (จ. Yamaguchi) ปิดท้ายด้วยการลองเรียนรู้ศิลปะการยิงธนูสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ (Kyudo) โค้งสุดท้ายของทริป เราจึงจะเดินเที่ยวชมไฮไลท์ในตัวเมืองฮิโรชิม่าก่อน
หลังจากที่เราเรียนยิงธนูในย่านช้อปปิ้งถนนคนเดิน “Hondori” พวกเราสองสาวผู้ที่ปกติแล้วจะมีสไตล์การเดินทางท่องเที่ยวที่เน้น “เที่ยว” ไม่เน้น “ช้อป” … สุดท้ายก็ต้องเดินช้อปกันสักหน่อย เพราะหลงมาอยู่ในย่านช้อปปิ้งแล้วนี่นะ เราก็เลยเดินช้อปดูของที่ชอบไปเรื่อยๆ ซึ่งพวกเราไปสิงกันอยู่ที่ร้านร้อยเยน (Cando และ Daiso) รวมทั้งร้านสามร้อยเยน (3COINS) กันอยู่ซะนาน จนใกล้หมดเวลาช้อป (โดยปกติแล้ว ห้างร้านในญี่ปุ่น ที่ไม่ใช่เมืองหลัก เช่น โตเกียว เกียวโต โอซาก้า จะเริ่มปิดในเวลาประมาณ 20.00 น.) เราจึงรีบนั่งรถรางไฟฟ้าจากสถานี Hondori กลับสู่สถานี Hiroshima กัน เพราะโซนจำหน่ายของฝากที่สถานีฮิโรชิม่า ก็ปิดให้บริการตอน 20.00 น. เหมือนร้านรวงอื่นๆ
เนื่องจากเป็นคืนสุดท้ายแล้วที่เราจะอยู่กันในฮิโรชิม่า จึงเป็นเวลาที่จะต้องซื้อสินค้าจำพวกของฝากให้เรียบร้อย เพื่อจะได้แพ็คลงกระเป๋าเดินทางให้เรียบร้อยนั่นเอง
ทริปนี้เรามี บัตร Have Fun in Hiroshima มาด้วย ก็ช่วงนี้เขาจำหน่าย พร้อมบัตรรถไฟของ JR-WEST บางตัวน่ะ ถูกเหมือนได้เปล่า (^^) บัตรนี้สามารถใช้แลกสินค้าและบริการแบบฟรีๆ ได้หลายรายการ และยังใช้เป็นคูปองส่วนลดก็ได้ด้วย ซึ่งตอนที่เราได้บัตรนี้มา (ได้มาเป็น E-ticket มี QR Code คล้ายๆ กับตอนที่ซื้อบัตร JR-WEST นั่นแหล่ะ แต่ไม่ต้องไปแลกเป็นบัตรจริง เวลาจะใช้ก็แค่โชว์ QR Code) เราวางแผนว่าจะเอาไปใช้แลกสิทธิ์เช่าจักรยานไฟฟ้าปั่นชมตัวเมืองฮิโรชิม่า รวมทั้งจะแทนคูปองส่วนลดค่าขึ้นตึกชมวิวสวนสันติภาพและ Atomic Bomb Dome ที่ Orizuru Tower หรือไม่ก็ใช้เป็นคูปองส่วนลดสำหรับนั่งเรือเร็วไปเที่ยว Miyajima จะได้ไม่ต้องนั่งเรือเฟอรี่ หรืออาจจะได้แลกเป็น Cake Set ที่คาเฟ่ของโรงแรม Granvia Hiroshima ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับโรงแรมที่เราพัก โดยเราสามารถเลือกใช้ได้ 3 อย่าง …
ถ้ามีเวลาเที่ยวต่ออีกสักสองวัน พวกเราคงจะจัดเต็มให้คุ้มค่ากับการได้ถือบัตร Have Fun in Hiroshima แต่ด้วยความเอาแต่ใจของพวกเรา จึงเปลี่ยนแผนการเที่ยวกันทุกวัน จนสุดท้ายก็แทบไม่ค่อยได้ใช้ อย่างไรซะ เราก็ยังได้ใช้ 1 รายการ นั่นก็คือแลกเป็น Voucher ส่วนลด 1,500 เยน สำหรับช้อปในห้าง ‘ekie’ ที่อยู่ในสถานีรถไฟ Hiroshima นั่นเอง (ไปแลกเป็น Voucher ที่เคาน์เตอร์ Information ชั้น 2 ก่อนนะ) ซึ่งเราเอาไปซื้อขนมในโซนของฝาก ซื้อเหล้าบ๊วยที่ร้านเหล้าชั้นล่างของห้าง และซื้อวัตถุดิบปรุงอาหารญี่ปุ่นจากซุปเปอร์ฯ ถือเป็น Voucher มูลค่า 1,500 ที่คุ้มค่าสุดๆ สำหรับเราเลยล่ะ ฮ่าๆ
เกี่ยวกับบัตร Have Fun in Hiroshima >> https://www.tripellet.com/hfhiroshima/en
พอกลับถึงโรงแรมเราก็เตรียมแพ็คกระเป๋าไว้ก่อนเลย เพราะในตอนเช้า พอกินมื้อเช้าเสร็จ เราจะเช็คเอ้าท์และฝากกระเป๋าไว้ที่ Front ก่อนที่จะไป Walk Rally เดินเที่ยวชมเมืองฮิโรชิม่ากันสัก 2-3 ชั่วโมง หลังเที่ยงนิดหน่อยค่อยกลับมาเอากระเป๋าแล้วนั่งรถไฟตรงไปสนามบินคันไซเพื่อกลับไทยกัน
ช่วงสายวันสุดท้ายในฮิโรชิม่าของพวกเรา เราจึงเริ่มออกเดินจากสถานีฮิโรชิม่า โดยออกทาง South Exit (โรงแรมที่เราพักอยู่ทาง North Exit) ซึ่งถ้าใครจะใช้บัตร Have Fun in Hiroshima ไปแลกสิทธิ์การเช่าจักรยานปั่นชมเมืองก็ได้นะ พอออก South Exit แล้วข้ามแม่น้ำ Enko ก็จะเจอศูนย์รถจักรยาน Peacecle อยู่บนถนน Hijiyama ริมแม่น้ำเลย ส่วนพวกเราเลือกเดิน เพราะขากลับเราจะนั่งรถรางไฟฟ้ากลับมาที่สถานีฮิโรชิม่าเลย มีเวลาไม่มากพอที่จะจัดการกับการคืนจักรยาน กลัวตกรถไฟชิงกันเซนที่จองที่นั่งไว้น่ะนะ
พอออก South Exit ไป เราก็เดินเลาะแม่น้ำ Kyobashi ไปนิดหน่อย ก็จะเจอป้ายสวน Shukkeien ใช่จ้ะ! เราจะไปเดินชมสวนญี่ปุ่นกัน!! พอเจอป้าย เราก็ข้ามแม่น้ำ Kyobashi ไปเลยจ้า เดินไปแยกนึง ก็เลี้ยวขวาตาม Google Map ไปแป๊บเดียวก็ถึงทางเข้าสวนแล้ว ซึ่งเรามาช่วงปลายหนาว ต้นไม้ใบหญ้าก็อาจจะไม่เขียวชอุ่มดูงามตาในสไตล์สวนญี่ปุ่นนัก แต่ว่า… ที่นี่มีสวนบ๊วยจ้า คนที่มาสวนนี้ในช่วงฤดูนี้ ก็คือมาชมดอกบ๊วยเหมือนพวกเรานี่แหล่ะ (^^)
พอใจกับดอกบ๊วยในสวน Shukkeien แล้ว เราก็เดินต่อไปถนนเส้นเดิม ตรงไปแค่ 3 แยก ก็จะเจอกับทางเข้าปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle) เลยจ้า ไม่ทันเหนื่อย ไม่ทันเมื่อย ประมาณว่าเดินย่อยอาหารเช้า แป๊บๆ ก็ถึงแล้ว
เราออกจากปราสาทฮิโรชิม่า มาทางประตูแถวๆ ถนน Jonan แล้วเลาะเลียบมาบนทางเดินแบบที่เรียกว่า “เลี่ยงเมือง” ซึ่งเป็นเส้นทางที่ชาวเมืองฮิโรชิม่าใช้สัญจรกันซะมากกว่าที่จะเป็นนักท่องเที่ยวล่ะนะ เราเดินผ่านศูนย์กีฬาประจำจังหวัดฮิโรชิม่าและ Hiroshima Youth Center ด้วย ได้เห็นบรรยากาศผู้ปกครองมาเชียร์ลูกๆ หลายๆ แข่งว่ายน้ำผ่านกำแพงกระจกกันด้วยล่ะ คึกคักน่าดู (น่าจะเป็นการแข่งขันของน้องๆ ม.ปลาย เพราะรูปร่างกำยำล่ำสันกันสุดๆ ซึ่งเราจะไม่ก้าวล่วงด้วยการถ่ายรูป ใช้ตา “ส่อง” อย่างเดียว ฮะๆ) … เส้นทางเดินเท้าในช่วงนี้ ถือได้ว่าเป็นการเดินชมเมือง ชมบรรยากาศของชาวบ้าน ชาวเมืองฮิโรชิม่าที่แท้จริง
เดินต่ออีก 2-3 นาที เราก็มาถึงสถานีรถรางไฟฟ้า “Genbaku Dome-Mae” แค่ข้ามถนน เราก็จะพบกับ Atomic Bomb Dome แล้ว พอข้ามแม่น้ำ Motoyasu ก็จะเป็นส่วนของสวนสันติภาพฮิโรชิม่าแล้ว
เดินเล่นถ่ายรูปจนฉ่ำใจแล้ว เราก็ข้ามสะพาน Motoyasu กลับมา เดินข้ามแยกตรงไปก็คือย่านช้อปปิ้ง Hondori ซึ่งเราก็มีเวลาเดินชมสินค้ากรุบกริบๆ จนได้มื้อกลางวันมาจากร้านข้าวปั้นสามเหลี่ยม (Nigiri) เตรียมไว้ว่าจะเอาไปกินบนรถไฟชิงกันเซนจ้า
3 ชั่วโมงแห่งการเดินเล่นชมเมืองฮิโรชิม่ายามเช้าของพวกเราก็จบลงตามแผน โดยที่เรานั่งรถรางไฟฟ้าจากสถานี Hondori กลับไปรับกระเป๋าที่ Front ของโรงแรมเชอราตัน และไปรอขึ้นรถไฟชิงกันเซนขบวนสุดด่วน (Nozomi) ที่ห้อง Waiting Room ในสถานีแบบสวยๆ ชิลๆ (อากาศหนาว ก็ไม่ต้องรีบไปรอบนชานชาลานะ รอดูป้ายประกาศในห้อง Waiting Room ได้)
เพราะเรานั่ง Nozomi จึงใช้เวลาเดินทางจากสถานี Hiroshima ไปยังสถานี Shin-Osaka ในเวลาแค่ไม่ถึง 1 ชม. ครึ่ง แล้วต่อรถไฟ Limited Express ขบวน Haruka มุ่งหน้าสู่สนามบินคันไฟอีกไม่ถึง 1 ชม. รวมเวลาเดินทางแค่ราวๆ 2 ชม. ครึ่ง ทำให้เราไม่ต้องเร่งรีบในสนามบินเลย แม้จะต้องต่อรถ Shuttle Bus ไปที่ Terminal 2 ก็ตาม (เราบินด้วย Peach Aviation น่ะ)
และก็จบไปแล้วจ้า สำหรับทริปเที่ยวเอาแต่ใจ ไปฮิโรชิม่าหน้าหนาวกับจังหวัดยามากุจิ ซึ่งพวกยังอยากจะไปเที่ยวละแวกนั้นอีกหลายทีเลย ถ้ามีโอกาสก็คิดว่าจะวางแผนมาเที่ยวภูมิภาคชูโกกุนี่ต่ออีกหลายๆ รอบ ทั้ง Yamaguchi, Shimane, Tottori จังหวัดเหล่านี้มีอะไรน่าสนใจอยู่เยอะเหมือนกันนะ
บอกเลยว่าทริปนี้สนุกมาก เพราะความที่มีบัตร JR-WEST All Kansai Area Pass + บัตร Have Fun in Hiroshima เพราะถึงเวลาที่จะใช้งาน ก็เอามาเล่นเพื่อให้คุ้มค่าเงินกับย่นระยะเวลาในหลายๆ ที่ได้ดีเชียวล่ะ ทำให้ทริปของเราไม่เหนื่อยมากนัก รู้สึกได้ว่าการมาเที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่เร่งไม่รีบนี่แหล่ะ คือการได้ใช้เวลาวันหยุดที่แท้จริง เราตั้งใจมารีแลกซ์ ถ้าต้องวิ่งๆๆๆ ตลอดทั้งทริปก็… ไม่ใช่ทาง)
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามกันมาจนถึงตอนสุดท้ายของทริปนี้นะจ้ะ ครั้งหน้าเราจะไปเที่ยวที่ไหนในญี่ปุ่นกันต่อ… มาติดตามกันน๊าาาาา
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนการเดินทาง: Japan National Tourism Organization
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– คู่เพื่อนสาวหนีร้อนไปพึ่งหนาว เที่ยวฮิโรชิม่าและยามากุจิกันจ้า EP2
– อมยิ้มขำขันไปกับกวางนารา
– มือใหม่…ไปญี่ปุ่น…อยู่ HOMESTAY
– เที่ยวเกียวโตฉบับลึกลับ : ตอนที่ 1
– รีวิวเที่ยวโทโฮขุ ชิบะ ตอนที่ 4 : เที่ยวเมือง Yonezawa
#คู่เพื่อนสาวหนีร้อนไปพึ่งหนาว เที่ยวฮิโรชิม่าและยามากุจิกันจ้า EP3