ครั้งนี้เราไปเที่ยวกันที่เกาะคิวชูตอนเหนือ EP. นี้ เราจะอยู่กันที่เมืองฮิตะ (Hita) ของจังหวัดโออิตะ ซึ่งเมื่อมาเยือนเมืองนี้… อะไรๆ ก็ “Attack on Titan” ไปซะหมด ก็ที่นี่เป็นบ้านเกิดของนักเขียนมังงะดังเรื่องนี้นั่นเอง แต่เรื่องศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นอันงดงาม ที่เมืองนี้ก็ไม่น้อยหน้าใครนะ มาติดตามกันเลย…
ญี่ปุ่นกลับมาเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเอง (FIT) อีกครั้ง ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีนี้ (2565) ทำให้เราสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นอย่างเพลิดเพลินกันได้อีกครั้งโดยที่ไม่ต้องใช้วีซ่า ซึ่งก็เหมือนกับในช่วงก่อนเกิดโควิด
และครั้งนี้เราไปเที่ยวกันที่เกาะคิวชูทางตอนใต้ของญี่ปุ่น โดยไปเที่ยวที่เมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka City) เมืองซาเซโบะ (Sasebo City) เมืองฮิตะ (Hita City) และเมืองคิตะคิวชู (Kitakyushu City) ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะคิวชู ทั้ง 4 เมืองนี้ สามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยระบบขนส่งสาธารณะ อย่างเช่น รถไฟ มีของกินอร่อยราคาไม่แพง และยังมีจุดถ่ายรูปมากมายที่ไม่ควรพลาดอีกด้วย
ชมคลิปตะลุยเที่ยว 4 เมืองน่าสนใจบนเกาะคิวชูตอนเหนือทั้ง 4 EP กันก่อน
อ่านต่อทุก EP >>
ตะลุยเที่ยว 4 เมืองน่าสนใจบนเกาะคิวชูตอนเหนือ EP.1 “Sasebo”
ตะลุยเที่ยว 4 เมืองน่าสนใจบนเกาะคิวชูตอนเหนือ EP.2 “Hita”
ตะลุยเที่ยว 4 เมืองน่าสนใจบนเกาะคิวชูตอนเหนือ EP.3 “Kitakyushu”
ตะลุยเที่ยว 4 เมืองน่าสนใจบนเกาะคิวชูตอนเหนือ EP.4 “Fukuoka”
เที่ยวคิวชูหลังสถานการณ์โควิด-19 ใน EP. นี้ เราจะอยู่กันที่เมืองฮิตะ หรือก็คือ อำเภอฮิตะ (Hita) ของจังหวัดโออิตะ ซึ่งเมื่อมาเยือนเมืองนี้… อะไรๆ ก็ “Attack on Titan” ไปซะหมด ก็ที่นี่เป็นบ้านเกิดของนักเขียนมังงะดังที่ถูกนำไปทำเป็นอนิเมชั่นมากมายหลายตอนเรื่องนี้ นามว่าคุณ Isayama Hajime นั่นเอง
เมืองฮิตะ
หมายเหตุ – สีส้ม (อาหาร) / สีฟ้า (สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม) / สีเขียวอ่อน (สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ) / สีม่วง (ธีมพาร์ค) / สีแดง (ช้อปปิ้ง) / สีบานเย็น (Photo Spot) / สีเทา (ที่พัก)
เมืองนี้… ถึงกับมีเว็บไซต์ของมังงะเรื่องนี้ที่เกี่ยวพันกับการเที่ยวเมืองฮิตะอยู่ด้วย มีการบอกจุดน่าเช็คอินเอาไว้เพียบ อาทิเช่น Attack on Hita Café, Forest Adventure OKUHITA, Plaza หน้าสถานี Hita, Oyama Dam, แล้วก็ Attack on Titan in HITA Museum เป็นต้น สามารถเข้าไปเช็คข้อมูลและตามเที่ยวกันได้ >> https://shingeki-hita.com/
แต่ก่อนอื่น… เราไปเดินเล่นชมบรรยากาศย่านอนุรักษ์สำคัญของเมืองนี้กัน ไปหาของกินอร่อยๆ ที่ย่าน Mamedamachi กันเลย!
สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม
Mamedamachi
มาเมะดะมาจิ (Mamedamachi) เป็นเมืองเก่าสมัยเอโดะยุคซามูไรที่ยังคงมีการอนุรักษ์บางส่วนเอาไว้ ทั้งสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือน ศิลปหัตถกรรมและสินค้าท้องถิ่นต่างๆ ซึ่งปัจจุบันก็กลายมาเป็นย่านช้อปปิ้งที่แอบย้อนยุคเบาๆ
เดินชมเมืองวนไป
โรงสาเก
จุดข้ามถนน (หยุดมองซ้าย มองขวา ก่อนนะจ้ะ)
แวะชิมเค้กโรลร้านนี้ Suiroll เฮ้ย! โรลอร่อยเลิศ เนื้อเบาๆ กินง่าย และปรากฏว่าขนมอย่างอื่นๆ ก็อร่อยกว่าขึ้นไปอีก
ที่นี่ยังมีจุดที่อยากให้แวะเมื่อมา Mamedamachi นั่นก็คือพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาฮินะ (Hita Shoyu Hina-goten) มีเยอะมากจริงๆ ทั้งแบบโบราณ แล้วก็แบบที่ทันสมัยขึ้นมาหน่อย ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชม ค่าเข้าชมก็เพียง 300 เยนเท่านั้น…
แล้วก็มีพิพิธภัณฑ์เกตะ หรือเกี๊ยะ (Tenryo Hita Hakimono Museum Getaya) อยู่ด้วย… Hita ถือเป็นแหล่งผลิตเกตะที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากเกตะยักษ์และเกตะอีกหลากรูปแบบ ด้านบนยังมีการจัดแสดงนิทรรศการตุ๊กตาที่ทำจากกระดาษญี่ปุ่น ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของท่าน Hirose Tanso ผู้ที่ก่อตั้งโรงเรียนเอกชนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ชื่อว่า “Kangien” อยู่ด้วย เป็นแบบจำลองที่ใช้ตุ๊กตาเล่าเรื่องได้เนียนตามาก ที่นี่จึงควรแวะมาเยี่ยมชมเหมือนกัน
นอกจากเกตะ ยังมีฉากตุ๊กตากระดาษจำลองบรรยากาศย้อนยุคเพียบเลย
และนี่คือโชคชะตาละมั้ง เพราะมาที่ Mamedamachi ทีไร เราต้องมาในวันหลังจากที่ไต้ฝุ่นเข้าทุกทีสิน่า (ครั้งนั้น… แม่น้ำเป็นสีขุ่นเกือบล้นฝั่ง มีเศษต้นไม้หักโค่นลอยมากับน้ำเยอะเลย)
ครั้งนี้ก็เช่นกัน เป็นการเดินชมเมืองที่อาจจะเหงาๆ อยู่สักนิด เพราะร้านรวงต่างๆ ยังเปิดไม่เต็มที่ หลังจากไต้ฝุ่นเพิ่งพัดผ่านไป นักท่องเที่ยวก็ยังมาเดินเที่ยวกันไม่มากนัก แต่กลับทำให้รู้สึกว่าเดินสบาย แบบว่า… เมืองนี้เป็นของเรา ชิลไปเลยจ้า
Mamadamachi เว็บไซต์: www.hita-mameda.jp
พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาฮินะ เว็บไซต์: https://shop.hitasyouyu.com/html/page1.html#hinagoten
พิพิธภัณฑ์เกตะ เว็บไซต์: https://getamuseum.com
Hita Kusu (ประสบการณ์ลองทำรองเท้าเกี๊ยะด้วยตัวเอง)
เกตะ (Geta) หรือที่เราคนไทย เรียกกันว่า “เกี๊ยะ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดประจำชาติญี่ปุ่น นิยมใส่คู่กับกิโมโน (รวมถึงยูกาตะด้วย) ซึ่งมีทั้งแบบผู้ชาย และแบบผู้หญิง และที่เมืองฮิตะ ของจังหวัดโออิตะ ก็ขึ้นชื่อเรื่องการทำรองเท้าเกตะ จึงไม่ยาก หากจะหาสถานที่สอนทำเกตะสำหรับนักท่องเที่ยว
กว่าจะได้ออกมาแบบนี้… เหงื่อตกเบาๆ \(><)/
อย่างเช่น ทริปนี้ เราจองกิจกรรมนี้ไว้กับทาง Hita Kusu Regional Industrial (ที่เป็นกิจกรรมที่ต้องจองล่วงหน้านะ) ค่าใช้จ่ายคนละ 2,800 เยน ใช้เวลาทำไม่นานแล้วก็ทำไม่ยาก แต่มีเทคนิคเยอะหน่อย ต้องคอยดูเซนเซให้ดีๆ ประมาณว่าผูกเงื่อนผิด ชีวิตเปลี่ยน… แก้กันยาวเลย แต่พอทำเสร็จแล้ว ก็นำกลับบ้านมาเป็นของที่ระลึกที่ทำจากฝีมือตัวเองได้เลย (ใช้จริงได้ด้วย)
องค์ประกอบมาแล้ว… เลือกสี เลือกไซส์กันก่อนเลย
แค่ผูกเงื่อน… งง & งม อยู่พักใหญ่ แฮ่!
ประกอบร่าง!
เว็บไซต์: https://hitakusu.com
Photo Spot
Oyama Dam (ตามรอยการ์ตูน “Attack on Titan”
อย่างที่เกริ่นไปแล้วตั้งแต่แรกว่า Hita เป็นเมืองบ้านเกิดของผู้เขียนมังงะ Attack on Titan (Shingeki No Kyojin) หรือผ่าพิภพไททัน เมืองฮิตะจึงนำธีมเกี่ยวกับมังงะ (และอนิเมชั่น) เรื่องนี้มาเล่น สร้างให้เกินสถานที่ท่องเที่ยวหลายจุด ใครที่เป็นแฟนมังงะเรื่องนี้ น่าจะมาเก็บ R.C. ทำเป็นแรลลี่ไปให้ครบทั่วทั้งเมืองกันไปเลย
แต่ด้วยความที่มีหลายจุดให้เที่ยว ทริปนี้เราจึงไปเก็บมาแค่นิดหน่อย ซึ่งจุดแรกก็คือเขื่อนโอยามะ (Oyama Dam) เป็นฉากของเหล่าตัวเอก (Eren, Mikasa, และ Armin) กำลังยืนมองไททันที่โผล่หน้าขึ้นมาจากนอกกำแพงเมือง โดยที่ใช้เขื่อนโอยามะเป็นฉากกำแพง แล้วเหล่าตัวเอกก็เป็นรูปปั้นขนาดเท่าคนจริงๆ คล้ายกับฉากในอนิเมะมากๆ
แล้วถ้าเป็นมือถือญี่ปุ่นก็สามารถยังโหลดแอปฯ ถ่ายรูปเสมือนหลุดออกมาจากฉากของอนิเมะเรื่องนี้ได้อีกด้วยนะ มองผ่านแอปฯ แล้วยิ่งเหมือนจริงมากๆ แถมแอปฯ นี้ยังใช้ทำกิจกรรม หรือเก็บแสตมป์ตามเส้นทางแรลลี่สไตล์ Attack on Titan ที่กำหนดไว้ในเมือง Hita ได้อีกด้วยนะ เจ๋งดี!
เว็บไซต์: https://shingeki-hita.com/spot/001.html
“Attack on Titan” in Hita Museum
อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Attack on Titan ควรไป ก็คือที่ “Attack on Titan” in Hita Museum หรือพิพิธภัณฑ์ Attack on Titan นั่นเอง
จำลองโต๊ะทำงานของอาจารย์ Isayama Hajime
มีป้ายเก๋ๆ ให้โพสต์ถ่ายเล่นด้วยนะ
ภายในอาจจะไม่ได้ใหญ่โตอะไรนัก แต่มีบรรยากาศของห้องทำงาน รวมถึงการเขียนงานของนักเขียนท่านนี้ (อาจารย์ Isayama Hajime) นอกจากนี้มียังมีการจัดแสดงลายเส้น การสเก็ตภาพต่างๆ ของมังงะเรื่องนี้ด้วย แฟนมังงะเห็นจะต้องชอบมากๆ อย่างแน่นอน
ตัวพิพิธภัณฑ์ฯ อยู่ด้านหลัง จุดนี้เลย!
*ทั้งจุด Oyama Dam และ “Attack on Titan” in Hita Museum เดินทางด้วยรถยนต์สะดวกกว่า (ขับรถจากสถานี Hita มาประมาณ 20 นาที)
เว็บไซต์: https://shingeki-hita.com/spot/017.html
อาหาร
Unagi No Kurodaya
เมืองนี้มีเมนูดัง ไปกิน “ข้าวหน้าปลาไหล” กัน!
ร้าน Unagi No Kurodaya เป็นร้านข้าวหน้าปลาไหลย่างสไตล์ญี่ปุ่นชื่อดังแห่งหนึ่งในย่าน Mamedamachi เหมาะอย่างยิ่งกับการเป็นมื้อกลางวัน เรากินกันแบบเซ็ท ดูเหมือนจะไม่เยอะ แต่จุกแทบไม่ไหว ข้าวเยอะปลาไหลแยะ ซุปปลาไหลก็ดีงาม รสสัมผัสของปลาไหลย่างคือดีมาก นุ่ม แต่ก็แอบหนึบ เคี้ยวเพลินสุดๆ น้ำซอสที่ซึมลึกเข้าไปในเนื้อปลา (ซึมเข้าไปในข้าวด้วย) ยังชูให้รสชาติของปลาไหลย่างยกระดับขึ้นไปอีก ควรค่ากับการมากินนะ สำหรับเมนูปลาไหลของร้านนี้
เป็นหนึ่งเซ็ตที่ใหญ่มาก แถมยังอัดแน่น น้ำซอสชุ่มฉ่ำไปทั่วทุกอณูของข้าวสวยด้านล่าง
ซุปใสเครื่องในปลาไหล ละมุนมาก…
ก้างปลาไหลกรุบกรอบ ของทานเล่นระหว่างรอข้าวหน้าปลาไหลร้อนๆ จ้า
ความน่ารักเก๋ไก๋ของร้านนี้ก็คือ มีออเดิร์ฟเป็นก้างปลาไหลกรอบมาให้เราเคี้ยวเล่นระหว่างรออาหารด้วย (แอบทำหกไปซะเกือบหมด เสียดาย…) เป็นแนวคิดแบบ zero waste สินะ
ร้าน Unagi No Kurodaya
เว็บไซต์: https://oidehita.com/archives/647
Toyoken (ร้านยากิโทริ)
ร้านอาหารค่ำของเราในเมืองฮิตะ ชื่อว่า Toyoken อยู่ไม่ไกลจากสถานี Hita เท่าไรนัก เดินแป๊บเดียวก็ถึง (แต่เราเดินมาจากโรงแรม Caffel Hina no Sato ซึ่งอยู่ติดแม่น้ำ Mikuma ก็เลยต้องเดินไกลหน่อย แต่ก็เดินได้ 12 – 15 นาที ประมาณนั้น
เมนูง่ายๆ ที่ทำให้อร่อยไม่ง่าย… จัดรวมๆ มาเลยจ้า
เห็ดหอมย่าง… ธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา
ร้านนี้เป็นร้านสไตล์ Izakaya ที่เน้นเมนู Yakitori หรือของเสียบไม้ย่างนั่นเอง ซึ่งเราเป็นนักท่องเที่ยวไทยสายกิน ไม่เน้นดื่ม ก็เลยสั่งของปิ้งๆ ย่างๆ วนไป เนื้อสัมผัสดีเกือบทุกจาน ที่สำคัญหอมกลิ่นการย่างที่พนักงานประคบประหงมย่างแต่ละไม้จริงๆ แต่ละจานที่ทำออกมาจึงดูน่ากินไปหมด
เจ้าพวกนี้ สั่งย้ำๆ ซ้ำๆ ไปเลยจ้า… เท่าไรก็ไม่เบื่อ เท่าไรก็ไม่พอ
ที่จริงร้านนี้มีหลากหลายเมนูให้สั่งนะ พวกหม้อไฟก็มี แต่สำหรับเราแค่พวก Yakitori ก็ชิมแทบไม่ไหวแล้ว (โดยเฉพาะหมูส่วน “บาระ” นี่ ย่างออกมาได้อร่อยจริง) บางอย่างก็สั่งซ้ำด้วย เพราะมันอร่อย ส่วนพวกเมนูเครื่องเคียงที่เป็นผักต่างๆ ก็ดีงาม สดกรอบ อยากจะสั่งกินซ้ำไปเรื่อยๆ แต่ว่าอิ่มซะก่อน
ร้าน Toyoken
เว็บไซต์: https://tabelog.com/oita/A4404/A440403/44001976/
Umeshu Gura OYAMA (ประสบการณ์ทำเหล้าบ๊วยญี่ปุ่น “Umeshu” ด้วยตัวเอง)
แถบโอยามะ ของเมืองฮิตะ เป็นแหล่งผลิตบ๊วย ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นของที่นี่ จึงเป็นเหล้าบ๊วย (Umeshu) ที่เรียกได้ว่าเป็นเครื่องดื่มคู่บ้านของชาวญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เป็นเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อยก็ได้ หรือจะเป็นเครื่องดื่มแบบจัดหนักก็ได้เหมือนกัน เป็นเครื่องดื่มที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นมาช้านาน…
Umeshu Gura OYAMA ตั้งอยู่ในแหล่งน้ำพุร้อน Okuhira Onsen ของแถบโอยามะนั่นเอง ที่นี่มีร้านขายของฝากขนาดใหญ่ แถมยังเป็นสถานที่เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเหล้าบ๊วยอีกด้วย นักท่องเที่ยวอย่างพวกเราก็สามารถมาทดลองเรียนรู้การปรุงเหล้าบ๊วยตามวิถีของชาวญี่ปุ่นกันที่นี่ได้เช่นกัน
บ๊วยที่ถูกเก็บรักษาไว้โดยการแช่แข็ง นำไปล้าง แล้วซับให้แห้ง
ใส่ผลบ๊วยที่สะเด็ดน้ำแล้ว
เติมน้ำตาล น้ำตาลกรวด ผงทองคำเปลว
พร้อมสำหรับการเติมแอลกอฮอล์ที่เราเลือกแล้ว (รอบนี้เราเลือกวิสกี้แทนเหล้าญี่ปุ่น)
สำหรับราคา… ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกปรุงเหล้าบ๊วยขนาดไหน ไซส์ M (420 ml) ราคา 1,650 เยน ส่วนไซส์ L (800 ml) ราคา 2,420 เยน ทำเสร็จแล้วก็สามารถนำกลับบ้านไปได้เลย เพราะมันต้องใช้เวลาหมักบ่ม กว่าจะได้ที่ ก็ใช้เวลาราวๆ 6 เดือน จึงต้องนำกลับไปบ้านสิจ้ะ
Umeshu Gura OYAMA
เว็บไซต์: https://www.discover-oita.com/en/destinations/hita-nakatsu-and-kusu/umeshu-gura-oyama/
Ohara Chaya (เมนูลับ… ในป่าไผ่ลึก…)
ร้านอาหารร้านนี้น่าสนใจมาก… ร้าน Ohara Chaya เป็นร้านบรรยากาศดี ตั้งอยู่ในป่าไผ่ มีเสียงธรรมชาติกับบรรยากาศสบายๆ แบบญี่ปุ่นดั้งเดิม เสริมสร้างอรรถรสในการกินอาหารได้อย่างดีเยี่ยม
สำหรับอาหารนั้น เป็นเซ็ตกลางวันแบบญี่ปุ่นจ๋า (Washoku) เสิร์ฟมาในตะกร้า ดูเก๋ดี แต่ละถ้วย แต่ละคำ ที่จัดเตรียมมาในตระกร้านั้น ล้วนแล้วแต่คิดมาอย่างดี เริ่มตั้งแต่ตัววัตถุดิบเลยก็กว่าได้ เนื่องจากที่นี่ เน้นการเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่น ผักป่า ผักภูเขา จึงมาเต็ม! (ส่วนตัวแล้วชอบอาหารสไตล์นี้อยู่แล้ว จึงแฮปปี้แบบสุดๆ)
บรรยากาศหน้าร้าน
ร้าน Ohara Chaya… ต้องตั้งใจมองหาซุ้มประตูร้านกันดีๆ เพราะในมุมของการมองทั่วไป เราจะถูกทิวแถวต้นไม้ลวงตา จนมองไม่เห็นซุ้มประตูนี้ ลึกลับจริง!
ความสนุกของการกินเซ็ตนี้ก็คือ… การเดาล้วนๆ คำนี้จะมีรสชาติแบบไหนนะ คำนี้จะให้รสสัมผัสอย่างไร อันนี้ของคาวหรือของหวานกันแน่หว่า เป็นมื้อกลางวันที่เพลิดเพลินอยู่นะ อยากแนะนำให้มาลองกันมากๆ เลย
*จุดนี้เหมาะสำหรับการขับรถมาเองนะจ้ะ
เว็บไซต์: http://www.o-haracyaya.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่พัก
Caffel Hina no Sato
สำหรับที่พักใน Hita ที่เราใช้บริการกันในทริปนี้ เป็นสไตล์เรียวกังที่แอบตกแต่งเก๋ไก๋สไตล์ร่วมสมัย อยู่ในเมืองน้ำพุร้อนฮิตะ (Hita Onsen) ชื่อว่า Caffel Hinano Sato และเราอยากจะแนะนำมากๆๆๆๆ เลย ให้มาลองพักกัน
จุดเด่นของโรงแรมนี้ ก็คือที่ตั้งซึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Mikuma เราสามารถมาเดินเล่นชมบรรยากาศแบบชิลๆ หรือมองดูวิถีชีวิตของผู้คนแถบนี้ที่มาเดินเล่น หรือวิ่งออกกำลังกายกัน ดูเรียบง่าย สงบสุขเป็นอย่างยิ่ง บางห้องมีออนเซ็นส่วนตัว จากระเบียงห้องพักก็มีวิวของแม่น้ำสวยงามให้ชมกันได้อย่างเพลิดเพลินทั้งช่วงพลบค่ำและยามเช้าตรู่
เดินเล่นชมวิวแม่น้ำมิคุมะด้านหลังโรงแรม
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีบริการล่องเรือชมวิวพระอาทิตย์ดิน หรือในบางฤดูกาล ก็จะได้ชมประเพณีการจับปลาด้วยนกกาน้ำ (กลางคืน) ด้วย ถือเป็นบริการที่เด็ดมากอย่างหนึ่ง ถ้ามีโอกาสก็แนะนำให้ลองกัน
เรือ (เรือแพ) ที่ใช้สำหรับล่องแม่น้ำมิคุมะชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน ถ้าได้นั่งนะ แจ่มเลย!
ภายในห้องพัก มีทั้งห้องแบบญี่ปุ่น และห้องแบบลูกครึ่งผสมตะวันตกให้เลือกใช้บริการ มีหลายแบบหลายราคาสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม
ห้องพักบางห้อง นอกจากจะเป็นสไตล์ญี่ปุ่นแล้ว ยังมีอ่างแช่ออนเซ็นเป็นของตัวเองด้วย แช่ไป… ชมวิวแม่น้ำมิคุมะได้… อย่างชิล!
โซนพักผ่อนบริเวณชั้นสอง ทั้งลึกลับ ทั้งเป็นส่วนตัว พื้นที่โดยรวมกว้างสุดๆ
ส่วนตัวแล้ว… ชอบโซนพักผ่อนที่บริเวณชั้น 2 มาก เพราะเป็นไอเดียการจัดโซนพักผ่อนให้กับแขกที่มาพักให้สามารถมาใช้พื้นที่ส่วนกลางในการพักผ่อนเพิ่มเติมได้ แต่ก็ยังคงความเป็นส่วนตัวไว้ด้วย คือเลือกมุมกันได้ตามชอบ ไม่ว่าจะนั่งเก้าอี้นวด นอนอ่านมังงะ หรือนั่งดูการ์ตูน ฯลฯ ชิลสุดๆ
ส่วนหนึ่งของล็อบบี้… เลือกนั่งได้ตามสบาย
ในส่วนของล็อบบี้ ก็ยังมีการเตรียมของว่าง รวมถึงเครื่องดื่มไว้ให้บริการฟรีอีกด้วยนะ และที่อยากจะกระซิบดังๆ ก็คือ อาหารรสชาติดี มีการเลือกสรรวัตถุดิบ ใส่ใจสุขภาพผู้บริโภค แต่ยังทำหน้าตาของอาหารและรสชาติออกมาได้อย่างดี น่ายกนิ้วโป้งให้สองนิ้วเลย
อาหารเช้าสด… เบา… ดีต่อสุขภาพ
โซนห้องอาหาร (ชั้น 2) ก็ตกแต่งได้น่ารักเชียว
เว็บไซต์: https://www.sanyokan.com/en/index.html
จองโรงแรม: Caffel Hinano Sato
Yufuin No Mori (JR Kyushu Sightseeing Train)
“Yufuin No Mori” เป็นหนึ่งในรถไฟท่องเที่ยวขบวนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของ JR Kyushu โดยมีเส้นทางการวิ่งระหว่างสถานี Hakata (จังหวัดฟุกุโอกะ) กับสถานี Beppu (จังหวัดโออิตะ) ซึ่งในทริปนี้เราจะใช้ขบวน Yufuin No Mori นี้แหล่ะ เดินทางจาก Hita กลับเข้าเมือง แล้วไปเที่ยวต่อที่เมืองอื่นๆ กันบ้าง…
ตู้คาเฟ่ ที่เราสามารถมาหาอะไรอร่อยๆ กินกันได้ (^^)
คุณพนักงานมาเดินแจกลูกอมของ Yufuin No Mori มีกลิ่นยูซุเบาๆ ดีนะ (ตอนแรกนึกว่ารสชาเขียว)
ก่อนจะขึ้นรถไฟกันที่สถานี Hita สายอินสตาฯ ก็ควรจะต้องไปถ่ายรูปเช็คอินด้านหน้าสถานีกันนิดนึง เพราะนอกจากจะมีป้ายเมืองให้ถ่ายรูปหรือถ่ายคลิปเก๋ๆ แล้ว ยังมีรูปปั้น Levi หนึ่งในตัวเอกจากเรื่อง “Attack on Titan” ตั้งอยู่ด้วยจ้า
สถานี Hita (ฮิตะ)
จุดนี้ถ้าเปิดแอปฯ ก็จะได้ฉากแบบนี้ล่ะ!
จุดถ่ายรูปเช็คอินหน้าสถานี Hita เราต้องไปมีส่วนร่วม เป็น “I” นิดนึง 😉
ท่าน Levi อย่างเท่
ที่ชานชาลาก็มีแบบนี้…
เว็บไซต์: https://www.jrkyushu.co.jp/english/train/yufuin_no_mori.html
การเที่ยวเมืองฮิตะ ในช่วงที่ยังมีสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่นั้น เราจะเห็นสิ่งจำเป็นต่อมาตรการการป้องการการแพร่เชื้อหลายอย่างอยู่ทั่วไปเป็นปกติ อาทิ เจลแอลกอฮอล์ จุดตรวจวัดอุณหภูมิ แผ่นอะคริลิคกั้นพื้นที่ รวมถึงป้ายเตือนการสวมหน้ากากอนามัย และชาวญี่ปุ่นแทบทุกคนยังคงใส่หน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา สร้างความเชื่อมั่นในการมาเที่ยวได้อย่างดีทีเดียว
สแกนวัดอุณหภูมิกัน
(“Attack on Titan” in HIta Museum)
ได้เวลาเดินทางออกจากเมืองฮิตะ จังหวัดโออิตะแล้ว และในตอนต่อไป เราจะไปเที่ยวกันต่อที่เมืองคิตะคิวชู ของจังหวัดฟุกุโอกะ เมืองทางตอนบนของเกาะคิวชู ที่สามารถเชื่อมต่อกับเกาะใหญ่ฮอนชูได้ ฝากติดตามกันด้วยน๊าาาาา
เรื่องแนะนำ :
– ตะลุยเที่ยว 4 เมืองน่าสนใจบนเกาะคิวชูตอนเหนือ EP.4 “Fukuoka”
– ตะลุยเที่ยว 4 เมืองน่าสนใจบนเกาะคิวชูตอนเหนือ EP.3 “Kitakyushu”
– ตะลุยเที่ยว 4 เมืองน่าสนใจบนเกาะคิวชูตอนเหนือ EP.1 “Sasebo”
– 10 สถานที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวจังหวัดไอจิ (Aichi)
– แนะนำกิจกรรมน่าสนใจของจังหวัดไอจิในช่วงสิ้นปี-ปีใหม่
#ตะลุยเที่ยว 4 เมืองน่าสนใจบนเกาะคิวชูตอนเหนือ EP.2 “Hita” #Hita #Kyushu